ประสบการณ์เดียวกันกับผมครับ ผมก็ได้ Phantom TA200 มาเมื่อสัก ตุลาคม 2565 ครับ มือสอง ผมได้ตัวลายไฟ ที่เค้าว่ากันว่ามันคือตัวปีสุดท้ายใหม่สุดแล้ว (ของผมลายไฟเทา) ได้มาที่ราคา 43,000 บาทครับ ได้สภาพ(ภายนอก)มาดูดีมากครับ แต่มันคือเค้าสาดสีทำมา พูดง่ายๆ ว่า รถอายุเกือบ 15 ปี สภาพดีๆ คงแทบไม่มี ที่ขายๆ กันส่วนมากจะ build รถกันมาขายครับ ภายนอกทำให้ดูดีโดยการชุบโครเมี่ยม หรือ จะสาดสีมีทั้งนั่น ไมล์ที่ผมได้มาคือ 4 หมื่นกว่าโล กรอหรือไม่ อย่าไปสนใจครับ รถอายุขนาดนี้บอกมันวิ่งถึงแสน ผมก็เชื่อ

ได้มาด้วยความที่จ่ายแพง เพราะอยากได้ตัวที่สมบูรณ์หน่อยจะได้ขี่ยาวๆ แต่เปล่าเลย มาถึงที่ผมจำได้ สิ่งที่ต้องเปลี่ยนมีเยอะมาก
- โซ่และสเตอใหม่ แท้เบิกศูนย์ (ของเดิมหย่อนจนปรับไม่ได้แล้ว)
- ตัวดันโซ่ราวลิ้น แท้เบิกศูนย์ (ราวๆ 900 บาท เค้าว่าแพงกว่ารถรุ่นอื่นที่ราคาราวๆ 350-400 บาทเอง)
- โซ่ราวลิ้น แท้เบิกศูนย์
- ยางรองโซ่ราวลิ้น มีทั้งบนและล่าง ร้านที่ไปทำไม่มีแท้เบิกศูนย์ ใช้ของเทียบ
- ดิสก์เบรคหน้า แท้เบิกศูนย์ ของเก่าคด
- กระปุกน้ำมันเบรคหน้า แท้เบิกศูนย์ ไม่ได้เป็นอะไรแต่ตาแมวมันเก่ามองไม่เห็นระดับน้ำมันเบรก
- โช้คหลัง YSS
- โช้คหน้า เปลี่ยนซีลแกนโช้คใหม่ ขี่ไปแปบเดี๋ยว น้ำมันโช้ครั่ว ไหลกระเด็นออกมาเพียบ
- ลูกสูบใหม่ ช่างบอกสูบติดเลยเสียงดัง คว้านใหม่
- ซีลแกนเกียร์ กับ ซีลอะไรสักอย่างอีกตัว จำชื่อไม่ได้มันจะมี 2 ตัว

ผมจำได้ผมซ่อมวนเวียนไอ้พวกนี้ไปราวๆ 2 หมื่นกว่าบาท หลังจากนั่นมันขี่ได้จะว่าขี่ยาวก็ว่าได้
เพราะผมขี่ระยะไกลมากไปเที่ยวกับแฟนไปเกาะช้าง เอาขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามไป 3 รอบ ระยะทางไปกลับ 1 ทริป 800km ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
ผมหาข้อมูลตาม internet และในกลุ่ม facebook นี่แหละครับ ผมลองบิดหมดปลอกลากยาวๆ แบบที่มีพี่รุ่นเก่าๆ เคยบอกว่าบิดหมดปลอกจาก กรุงเทพไปหาดใหญ่อะไรนั่น ผมทำตามบิดหมดปลอก มันก็ไม่พังจริงๆ ครับ (ถ้าเครื่องสมบูรร์) เครื่องสั่นเป็นจ้าวเข้าตั้งแต่ ไมล์ขึ้น 100km/hr
รถผมวิ่งได้ 135km/hr ตามไมล์รถ แต่ GPS มันขึ้นแค่ 113-115km/hr เท่านั่นครับ พูดง่ายๆ ไมล์อ่อน เพี้ยนอย่างเยอะ

- ผมใช้มันมาเดือนที่ 5 มีปัญหาครับ เครื่องมันเสียงดัง แกร๊กๆๆๆ ก็ไปหาช่าง ช่างบอกสูบติดเหมือนเดิมครับ บอกว่าผมไม่ยอมถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเครื่องแห้ง ล่อผมไป 6500 บาท เพราะเวลาเปลี่ยนฝาสูบ จะต้องคว้านแล้วใส่ลูกสูบใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมลงไป
- ใช้มาหลังจากนั่น 1 เดือน เหมือนเดิมครับ  เครื่องมันเสียงดัง แกร๊กๆๆๆ ก็ไปหาช่าง ช่างบอกสูบติดเหมือนเดิมครับ คราวนี้ต้องตีปลอกเสื้อสูบใหม่ครับ เพราะเคยคว้านไปรอบนึงแล้ว ถ้าจะคว้านให้ใหญ่ขึ้นอีก ลูกสูบศูนย์มันจะไม่มีใหญ่กว่านั่นครับ รอบนี้โดนไป 7900 บาท จำได้แม่น
- อาทิตย์ก่อนเป็นอีกครับ คราวนี้ผมไม่ไปร้านเดิมครับ เพราะร้านเดิมมันค่อนข้างสะเพร่า ขนาดน๊อตบางตัวมันยังลืมขัน ขี่ๆ ไปหลุดออกมาหลายรอบล่ะ ผมไปร้านใหม่ที่เพิ่งเจอ เค้าบอกว่า ระบบปั้มให้น้ำมันเครื่องขึ้นไปหล่อเลี้ยงเครื่องไม่ดี เช็คกรองน้ำมันเครื่อง เป็นสาเหตุให้เครื่องร้อนจนสูบติดครับ คราวนี้ซ่อมไปราว 5000 บาท

- สรุปคือเท่าที่ผมเจอของคันผมคือเรื่องระบบน้ำมันเครื่องภายในเครื่อง ถ้าสมบูรณ์ปั้มน้ำมันขึ้นไปหล่อเลี้ยงปรกติ มันก็ไม่พังอะไรเลยครับ เรื่องนี้ทำผมหมดเงินไปราว 3-4 หมื่นเลยก็ว่าได้ถ้านับรวมๆ ผมขี่ 6 เดือน วิ่งไป 13,000km

- อาการยอดฮิตที่เค้าว่ากันมา คือ โซ่ราวลิ้นกับตัวดันโซ่หย่อน ต้องเปลี่ยน และควรเปลี่ยนคู่กัน (ผมไม่เจอเรื่องนี้ แต่เปลี่ยนบ่อย เพราะนึกว่าสาเหตุนี้)
- น้ำมันเครื่องพร่องไว เพราะซีลแกนเกียร์เสื่อม อันนี้ผมเจอ แต่เปลี่ยนตั้งแต่ได้รถมาเลย อันละราวๆ 80-90 บาท
- กระเดื่องวาล์วเสียงดัง ผมไม่เจอ แต่ถ้าดัง มันจะมาจากวนเวียนเรื่องโซ่ราวลิ้น ตัวดันโซ่ เรื่องน้ำมันเครื่องขาด วนเวียนอยู่แต่เรื่องพวกนี้แหละ
- หาช่างที่เช็คทีเดียวให้ครบทั้งระบบได้ยิ่งดีครับ เพราะอย่างผมลูกสูบติดไป 3 รอบ ถ้าแก้ปัญหาน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงเครื่องไม่ดีเกิดจากอะไร คงไม่ต้องเสียเงินมากมายขนาดนั่น สำคัญที่ช่างที่เราจะเจอครับ เพราะช่างบางคนก็แก้แค่ตามอาการที่เจอ ไม่ได้เช็คทั้งระบบ

ป.ล. ถ้าย้อนเวลาได้จะซื้อคันนี้ไหม ตอบว่าซื้อครับ เพราะเราไม่มีทางรู้ครับว่า มือสองที่เราได้มามันจะพังไหม เพราะผมก็ซื้อมือสองคันก่อนๆ มา มันไม่พังอะไรเลยก็มีครับ เราก็ต้องหาทางซ่อมๆ กันไปแล้วแต่โชคชะตา แต่สิ่งที่ทำให้เราซ่อมมัน เพราะมันตอบโจทย์การเดินทาง หรือ เพราะเราชอบทรงมันนั่นแหละ เลือกในรถที่เรารักครับ ยังไงผมาแชร์ประสบการณืเผื่อจะได้ไม่เจอหรือเสียเงินซ่อมหลายรอบแบบผมครับ