🙃🙃🙃 ขอวิธีมูฟออนคนวัยใกล้ 30 หน่อยค่ะ 🙃🙃🙃 อย่าลืมใช้ชีวิตกันอย่างมีสตินะคะ
* โปรดอย่าด่ากันแรง และใช้วิจารณญาณในการอ่าน *
สวัสดีค่ะ เราเป็นผญ อายุ 28 ทำงานของรัฐ(ไม่ใช่ขรก.) รายได้ประมาณ 40,000 มีเงินเก็บประมาณ 2 แสน จึงตัดสินใจซื้อบ้าน ผ่อนอยู่เดือนละ 30,000 ตั้งใจซื้อให้พ่อแม่กับเรา และครอบครัวในอนาคต ทั้งๆที่ยังไม่มีแฟน แต่คิดว่าคงอยู่คนเดียวได้เหมือนกัน แค่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง รายได้หักค่าใช้จ่ายจิปาถะ เหลือเก็บประมาณเดือนละ 5,000 ก็ใช้ชีวิตมาปกติ จนเมื่อ 3 เดือนก่อน เรารู้จักผู้ชายคนนึงผ่านแอพ ทุกอย่างเหมือนจะลงตัว คอลไลน์กันทุกวัน ตกลงเป็นแฟนกันโดยที่ยังไม่เคยเจอตัว ผู้ชายอายุ32 เขาบอกอยากได้สถานะที่ชัดเจน และเขาก็วางแผนอนาคตไว้เหมือนกัน อาชีพพนักงานบริษัท รายได้หลัก 33k เขาบอกมีทำงานเสริมหารายได้ออนไลน์ และทำสวนที่บ้าน ก็คิดว่าเขาค่อนข้างชัดเจน ขยันทำงานเพราะมีรายได้หลายทาง บทสนทนาก็มีได้เรื่อยๆไม่หนักข้าง การคบกันดูเป็นไปได้สวย ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด แต่ด้วยความที่เราอยู่กันคนละจังหวัด เขาซื้อตั๋วเครื่องบินจะมาเจอกันแล้วด้วย ตัวเราเองก็แอบคิดว่านี่อาจจะเป็นรักสุดท้ายในชีวิตเรารึเปล่า เราตั้งใจรักเขามากๆ คาดหวังเยอะพอสมควร จนวันนึง หลังคบกันได้ไม่ถึงเดือน เขาชวนเราทำงานเสริม เปิดบัญชีคู่ เราก็อยากช่วยเขา หาค่า commissions… และใช่ค่ะ สุดท้ายเราเพิ่งมารู้ตัวว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ ตอนที่เสียเงินไปแล้วแสนเจ็ด ตอนนั้นช็อคมาก ทำอะไรไม่ถูก พยายามตั้งสติ และกลับไปเตือนแฟน ว่านี่ไม่ใช่การหารายได้ธรรมดาแล้วรึเปล่า เราอยากให้เขาเลิกทำ จึงเริ่มทะเลาะกัน จนสุดท้าย เราตัดสินใจเดินออกมาเองค่ะ เพราะหลังจากเหตุการณ์บัญชีคู่ ฝ่ายชายเองก็เสียไปเกือบ 2แสน โดยใช้เงินเก็บบวกกับยืมเงินเพื่อน และเขาบอกเอารถไปจำนอง(นอกระบบ) ไว้ด้วย ตัวเขาเองก็มีหนี้ ธกส เดิม รายได้ติดลบกันหมด แน่นอนว่าเป็นปัญหาที่หนักอึ้งทั้ง2 ฝ่าย ความสัมพันธ์มันจึงแย่ลงเรื่อยๆ. 🍃
จนถึงตอนนี้ เรายังมีคำถามอยู่ตลอด ว่าเราผิดรึเปล่า เราเห็นแก่ตัวเกินไปรึเปล่า ที่เลือกเดินออกมาและทิ้งเขาไว้กับปัญหาคนเดียว ทำไมไม่จับมือกันไว้ ถ้าให้พูดตรงๆก็คือความเชื่อใจเราหายไปเกือบหมด เราไม่รู้ว่าเขาเข้ามาทำไม ไปจนถึงความรู้สึกที่มีให้กัน มันมีอยู่จริงรึเปล่า เลยยิ่งทำให้เรารู้สึกผิดว่าทำไมเราไม่ไว้ใจเขาเลย แต่เราก็ไม่กล้าถามตรงๆ เพราะความสัมพันธ์ก็คงยิ่งแย่ลง สุดท้ายเราเลยเลือกที่จะเชื่อว่าเขาเป็นผู้เสียหายด้วยกัน เลยอยากช่วยเตือนสติ แต่เราเองก็ต้องผ่อนบ้าน เงินเหลือกินเหลือใช้บางวันติดบัญชีแค่ 20 คิดมากสุดคือแค่ซื้อมาม่ารสอะไรดี 5555 เงินเก็บมาทั้งชีวิตหายไปเลย เหมือนล้มละลาย เราเองก็ไม่สามารถ support การเงินให้เขาได้เหมือนกัน หลังมีปัญหาการเงิน เราทะเลาะกันแทบทุกวัน คุยกันน้อยลง กลางคืนเราต้องนอนร้องไห้ บางคืนไม่ร้องไห้แต่ก็นอนไม่หลับ กังวลว่าเขาจะเป็นยังไง มีคำถามมากมายที่อยากถามเพื่อให้แน่ใจ แต่ก็ไม่กล้าถามเขา ลึกๆคือเป็นห่วงเขามาก ไม่อยากให้เขาวนเวียนอยู่ในแชร์ลูกโซ่นั้น และไม่อยากให้กู้เงินนอกระบบเพิ่ม แต่ทุกครั้งที่คุยกันเรื่องเงิน จะทะเลาะกัน ไม่มีทางออกที่ลงตัว จึงจำเป็นต้องเลือกที่จะไม่คุย และเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย.
ปล.1 ไม่เคยเจอกันตัวจริงเลย มีแต่ส่งรูปกับวิดีโอ และเขาเองไม่เคยเรียกร้องเงินจากเรา แต่ก็ไม่มีเวลาให้เราเช่นกัน ระยะทางที่ห่าง เวลาที่เคยก็ตรงกัน ก็ไม่ตรงกัน บทสนทนาที่น้อยลงเรื่อยๆ เราเลยเลือกรักษาความรู้สึกตัวเอง
ไม่รู้ว่าเราทำถูกไหม ถึงแม้เลือกเดินออกมาแล้ว ยังรู้สึกผิดอยู่ตลอด แต่ถ้าเราอยู่เราคงเรียกร้องความสนใจ เรียกร้องเวลาจากเขามากไปอีก กลายเป็นภาระ หรือทำให้เขาอึดอัด เราเองก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ แต่มันก็คงไม่ใช่สิทธิ/หน้าที่อะไรของเราที่จะทักไปถามเขาแล้วเหมือนกัน
เพียงแต่ตอนนี้เรายังมูฟออนจากความรู้สึกผิดนี้ไม่ได้ เราปรึกษาทั้งเพื่อนเพศหญิง เพศชาย ที่ทำงานเดียวกัน คนละที่ทำงาน จิตแพทย์ ไปยันตำรวจ 555 ล่าสุดอยากโทรไปปรึกษาน้าเน็ก แต่ยังโทรไม่ติด 55555555 เรายังคิดไม่ตกกับความรู้สึกผิด ทั้งการที่เราไม่สามารถเชื่อใจเขา และไม่สามารถ support ตอนเขามีปัญหา ใครมีแนวคิด/ข้อเสนอแนะมาแชร์กันได้นะคะ
และเราก็ภาวนาให้เขาแก้ปัญหาได้โดยเร็ว ถ้ากู้ธนาคารก็ขอให้ผ่านโดยง่าย ได้อัพขั้นเงินเดือน ได้โบนัส ได้รถคืน ปิดหนี้ได้เร็ว ถ้าบังเอิญซื้อสลากก็ขอให้ถูกรางวัล 🍀🍀🍀
หากใครอ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ ขออภัยด้วยค่ะ ด่าได้ แต่อย่าแรงนะคะ ใจยังบางอยู่ ยังประกอบไม่เป็นชิ้นเลย 😢
ขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาอ่านจนจบ ขอให้ทุกคนมีวันที่ดีนะคะ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ 🙂
ปล.2 พรุ่งนี้วันเลือกตั้งแล้ว อย่าลืมไปใช้สิทธิ์กันนะคะ
ปล.สุดท้ายเงินเก็บฉุกเฉินสำรองสำคัญมากจริงๆค่ะ เรื่องไม่คาดคิดเกิดได้ทุกวัน ยิ่งในยุคที่ธุรกรรมออนไลน์สะดวก รวดเร็ว เงินหลักแสนก็หายได้ในหลักชั่วโมง ถึงแม้เราจะเก็บมาเป็นปีๆ มิจฉาชีพเดี๋ยวนี้ก็มีหลายรูปแบบ เคยได้ยินคำว่าแชร์ลูกโซ่มานาน ไม่เคยเข้าใจ จนได้มาเจอกับตัวเอง
Edit 20 พค 2566
*** สุดท้ายนี้ เรามูฟออนได้แล้วค่ะ ที่จริงเรื่องเกิดมาสักพักแล้ว แต่อยากหาคนรับฟัง หลังโพสไปมีทั้งกำลังใจและคนตำหนิ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ ขอบคุณจากใจจริง เราคงไม่ลบโพสนี้ แต่อยากฝากให้คนที่ได้อ่านและกำลังเจอเหตุการณ์คล้ายๆกัน ว่าคุณไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ถึงความรักและเงินคุณจะพังไปก็ตาม เรายังมีชีวิตอยู่ ทำงานหาเงินและรักตัวเองให้มากๆนะคะ ฝากไปเตือนเพื่อน เตือนคนรู้จัก หากกำลังตกอยู่ในวงการ scammer ด้วยนะคะ ***
🙃🙃🙃 ขอวิธีมูฟออนคนวัยใกล้ 30 หน่อยค่ะ 🙃🙃🙃 อย่าลืมใช้ชีวิตกันอย่างมีสตินะคะ
สวัสดีค่ะ เราเป็นผญ อายุ 28 ทำงานของรัฐ(ไม่ใช่ขรก.) รายได้ประมาณ 40,000 มีเงินเก็บประมาณ 2 แสน จึงตัดสินใจซื้อบ้าน ผ่อนอยู่เดือนละ 30,000 ตั้งใจซื้อให้พ่อแม่กับเรา และครอบครัวในอนาคต ทั้งๆที่ยังไม่มีแฟน แต่คิดว่าคงอยู่คนเดียวได้เหมือนกัน แค่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง รายได้หักค่าใช้จ่ายจิปาถะ เหลือเก็บประมาณเดือนละ 5,000 ก็ใช้ชีวิตมาปกติ จนเมื่อ 3 เดือนก่อน เรารู้จักผู้ชายคนนึงผ่านแอพ ทุกอย่างเหมือนจะลงตัว คอลไลน์กันทุกวัน ตกลงเป็นแฟนกันโดยที่ยังไม่เคยเจอตัว ผู้ชายอายุ32 เขาบอกอยากได้สถานะที่ชัดเจน และเขาก็วางแผนอนาคตไว้เหมือนกัน อาชีพพนักงานบริษัท รายได้หลัก 33k เขาบอกมีทำงานเสริมหารายได้ออนไลน์ และทำสวนที่บ้าน ก็คิดว่าเขาค่อนข้างชัดเจน ขยันทำงานเพราะมีรายได้หลายทาง บทสนทนาก็มีได้เรื่อยๆไม่หนักข้าง การคบกันดูเป็นไปได้สวย ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด แต่ด้วยความที่เราอยู่กันคนละจังหวัด เขาซื้อตั๋วเครื่องบินจะมาเจอกันแล้วด้วย ตัวเราเองก็แอบคิดว่านี่อาจจะเป็นรักสุดท้ายในชีวิตเรารึเปล่า เราตั้งใจรักเขามากๆ คาดหวังเยอะพอสมควร จนวันนึง หลังคบกันได้ไม่ถึงเดือน เขาชวนเราทำงานเสริม เปิดบัญชีคู่ เราก็อยากช่วยเขา หาค่า commissions… และใช่ค่ะ สุดท้ายเราเพิ่งมารู้ตัวว่ามันคือแชร์ลูกโซ่ ตอนที่เสียเงินไปแล้วแสนเจ็ด ตอนนั้นช็อคมาก ทำอะไรไม่ถูก พยายามตั้งสติ และกลับไปเตือนแฟน ว่านี่ไม่ใช่การหารายได้ธรรมดาแล้วรึเปล่า เราอยากให้เขาเลิกทำ จึงเริ่มทะเลาะกัน จนสุดท้าย เราตัดสินใจเดินออกมาเองค่ะ เพราะหลังจากเหตุการณ์บัญชีคู่ ฝ่ายชายเองก็เสียไปเกือบ 2แสน โดยใช้เงินเก็บบวกกับยืมเงินเพื่อน และเขาบอกเอารถไปจำนอง(นอกระบบ) ไว้ด้วย ตัวเขาเองก็มีหนี้ ธกส เดิม รายได้ติดลบกันหมด แน่นอนว่าเป็นปัญหาที่หนักอึ้งทั้ง2 ฝ่าย ความสัมพันธ์มันจึงแย่ลงเรื่อยๆ. 🍃
จนถึงตอนนี้ เรายังมีคำถามอยู่ตลอด ว่าเราผิดรึเปล่า เราเห็นแก่ตัวเกินไปรึเปล่า ที่เลือกเดินออกมาและทิ้งเขาไว้กับปัญหาคนเดียว ทำไมไม่จับมือกันไว้ ถ้าให้พูดตรงๆก็คือความเชื่อใจเราหายไปเกือบหมด เราไม่รู้ว่าเขาเข้ามาทำไม ไปจนถึงความรู้สึกที่มีให้กัน มันมีอยู่จริงรึเปล่า เลยยิ่งทำให้เรารู้สึกผิดว่าทำไมเราไม่ไว้ใจเขาเลย แต่เราก็ไม่กล้าถามตรงๆ เพราะความสัมพันธ์ก็คงยิ่งแย่ลง สุดท้ายเราเลยเลือกที่จะเชื่อว่าเขาเป็นผู้เสียหายด้วยกัน เลยอยากช่วยเตือนสติ แต่เราเองก็ต้องผ่อนบ้าน เงินเหลือกินเหลือใช้บางวันติดบัญชีแค่ 20 คิดมากสุดคือแค่ซื้อมาม่ารสอะไรดี 5555 เงินเก็บมาทั้งชีวิตหายไปเลย เหมือนล้มละลาย เราเองก็ไม่สามารถ support การเงินให้เขาได้เหมือนกัน หลังมีปัญหาการเงิน เราทะเลาะกันแทบทุกวัน คุยกันน้อยลง กลางคืนเราต้องนอนร้องไห้ บางคืนไม่ร้องไห้แต่ก็นอนไม่หลับ กังวลว่าเขาจะเป็นยังไง มีคำถามมากมายที่อยากถามเพื่อให้แน่ใจ แต่ก็ไม่กล้าถามเขา ลึกๆคือเป็นห่วงเขามาก ไม่อยากให้เขาวนเวียนอยู่ในแชร์ลูกโซ่นั้น และไม่อยากให้กู้เงินนอกระบบเพิ่ม แต่ทุกครั้งที่คุยกันเรื่องเงิน จะทะเลาะกัน ไม่มีทางออกที่ลงตัว จึงจำเป็นต้องเลือกที่จะไม่คุย และเราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย.
ปล.1 ไม่เคยเจอกันตัวจริงเลย มีแต่ส่งรูปกับวิดีโอ และเขาเองไม่เคยเรียกร้องเงินจากเรา แต่ก็ไม่มีเวลาให้เราเช่นกัน ระยะทางที่ห่าง เวลาที่เคยก็ตรงกัน ก็ไม่ตรงกัน บทสนทนาที่น้อยลงเรื่อยๆ เราเลยเลือกรักษาความรู้สึกตัวเอง
ไม่รู้ว่าเราทำถูกไหม ถึงแม้เลือกเดินออกมาแล้ว ยังรู้สึกผิดอยู่ตลอด แต่ถ้าเราอยู่เราคงเรียกร้องความสนใจ เรียกร้องเวลาจากเขามากไปอีก กลายเป็นภาระ หรือทำให้เขาอึดอัด เราเองก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ แต่มันก็คงไม่ใช่สิทธิ/หน้าที่อะไรของเราที่จะทักไปถามเขาแล้วเหมือนกัน
เพียงแต่ตอนนี้เรายังมูฟออนจากความรู้สึกผิดนี้ไม่ได้ เราปรึกษาทั้งเพื่อนเพศหญิง เพศชาย ที่ทำงานเดียวกัน คนละที่ทำงาน จิตแพทย์ ไปยันตำรวจ 555 ล่าสุดอยากโทรไปปรึกษาน้าเน็ก แต่ยังโทรไม่ติด 55555555 เรายังคิดไม่ตกกับความรู้สึกผิด ทั้งการที่เราไม่สามารถเชื่อใจเขา และไม่สามารถ support ตอนเขามีปัญหา ใครมีแนวคิด/ข้อเสนอแนะมาแชร์กันได้นะคะ
และเราก็ภาวนาให้เขาแก้ปัญหาได้โดยเร็ว ถ้ากู้ธนาคารก็ขอให้ผ่านโดยง่าย ได้อัพขั้นเงินเดือน ได้โบนัส ได้รถคืน ปิดหนี้ได้เร็ว ถ้าบังเอิญซื้อสลากก็ขอให้ถูกรางวัล 🍀🍀🍀
หากใครอ่านแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ ขออภัยด้วยค่ะ ด่าได้ แต่อย่าแรงนะคะ ใจยังบางอยู่ ยังประกอบไม่เป็นชิ้นเลย 😢
ขอบคุณทุกคนที่ผ่านมาอ่านจนจบ ขอให้ทุกคนมีวันที่ดีนะคะ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ 🙂
ปล.2 พรุ่งนี้วันเลือกตั้งแล้ว อย่าลืมไปใช้สิทธิ์กันนะคะ
ปล.สุดท้ายเงินเก็บฉุกเฉินสำรองสำคัญมากจริงๆค่ะ เรื่องไม่คาดคิดเกิดได้ทุกวัน ยิ่งในยุคที่ธุรกรรมออนไลน์สะดวก รวดเร็ว เงินหลักแสนก็หายได้ในหลักชั่วโมง ถึงแม้เราจะเก็บมาเป็นปีๆ มิจฉาชีพเดี๋ยวนี้ก็มีหลายรูปแบบ เคยได้ยินคำว่าแชร์ลูกโซ่มานาน ไม่เคยเข้าใจ จนได้มาเจอกับตัวเอง
Edit 20 พค 2566
*** สุดท้ายนี้ เรามูฟออนได้แล้วค่ะ ที่จริงเรื่องเกิดมาสักพักแล้ว แต่อยากหาคนรับฟัง หลังโพสไปมีทั้งกำลังใจและคนตำหนิ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจนะคะ ขอบคุณจากใจจริง เราคงไม่ลบโพสนี้ แต่อยากฝากให้คนที่ได้อ่านและกำลังเจอเหตุการณ์คล้ายๆกัน ว่าคุณไม่ได้อยู่เพียงลำพัง ถึงความรักและเงินคุณจะพังไปก็ตาม เรายังมีชีวิตอยู่ ทำงานหาเงินและรักตัวเองให้มากๆนะคะ ฝากไปเตือนเพื่อน เตือนคนรู้จัก หากกำลังตกอยู่ในวงการ scammer ด้วยนะคะ ***