What if other dimensions really exist but they’re beyond human understanding ?

Have you thought that there are other bigger universes or other dimensions outside ours that are beyond human understanding and intelligence ? other bigger creatures in other universe who are looking at our universe as some kind of their atom, What if our universe is like something very minuscule to them and it’s too complicated for human brain to enlighten it because we humans aren’t born to understand it
Not because we are yet to understand it but universe made us to have the limited capacity of understanding, Every time when I look at ant nest on the tree I always think of our universe and we’re just like those ants in their nest
They don’t know what is outside their nest
They don’t know there are cars, plane, TV, iPhone, Internet, AI and so on there are many things bigger and more intelligent than an ant can imagine because ant brain can’t understand those stuff
like humans have the limited capacity to fathom the universe and other dimensions
There always are other dimensions that’s beyond human understanding..

How amazing

What you guys think about this ?
It is just my assumption without any scientific sources or study
And It would be really appreciated to hear everyone’s opinion scientists along with sci-fi movie fans 😄

I’m Thai, I can read both Thai and English
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าสนใจเรื่อง Super Dimensiones Space กับ Multiverse

ผมแนะนำให้อ่านหนังสือ “Sometimes Deeply Hidden: Quantum worlds and the emergence spacetime”

สรุปสาระสำคัญของหนังสือจะประมาณนี้นะครับ

-  ปรากฎการทางธรรมชาติทางดาราศาสตร์ที่พวกเราสังเกตุเห็น มันเป็นเรื่องที่น่าพิศวง ยิ่งกว่า นิทานปรัมปรา เรื่องภูตผีปีสาจที่คนสมัยโบราณเค้าเล่าหรอกเด็กกันอีกนะครับ ทั้งเรื่อง จุดเริ่มต้นของจักรวาล การที่แสงถูกบิดโค้ง ดาวฤกษ์ดวงเดียว แต่ทำไมเรามองไปบนฟ้าด้วยตาถึงเห็นเป็น 3 ดวง , ความคิดของมนุษย์ (คลื่นสมอง) ทำไมถึงไวกว่าแสง จังวาล คู่ขนาน. เดจาวู บลาๆๆ ... ทุกอย่างอธิบายได้ด้วย Quantum Mechanic

- ความน่าจะเป็นที่จะมีหลายจักวาล (Multiverse) มีมากกว่า ความน่าจะเป็นที่จะมีเพียงแค่จักวาลเดียว ( Universe) quantum physics สมัยใหม่เริ่มไปขุดคุ้ยงานวิจัยตั้งแต่เมื่อ 100 ปีก่อนที่เกี่ยวกับ พฤติกรรมของ quantum particle ตัวเดียวกันแต่อยู่ได้หลายตำแหน่งในเวลาเดียวกัน (พิมพ์ไม่ผิดหรอกครับ) และแสดงพฤติกรรมของคลื่นในเวลาเดียวกัน หรือใช้ศัพท์อธิบายว่า “ Superposition-Wave field functions ... ในเมื่อ ขณะเวลาหนึ่ง election อยู่ได้หลายที่ในเวลาเดียวกัน แล้วทำไม ตัวเราที่ประกอบด้วย election แสนล้านล้านล้าน อนุภาค จะมีมากกว่า 1 คนในเวลาเดียวกันไม่ได้ ...... แต่ด้วย Quantum Computer technology มีพัฒนาการมากขึ้น จึงมีการอ้างถึง paper เกี่ยวกับ quantum entanglement (อนุภาคเชื่อมสัมพันธ์กันเร็วกว่าแสง) มากขึ้นเลยต้องไปอัญเชิญความรู้เก่าๆจาก paper เหล่านี้ มาอ้างอิงเพื่อต่อยอดมากขึ้น

- Atom Diagram ของ Nil Bor ในแบบเรียนม.ต้น ม.ปลาย ที่มี Nucleus (proton + nutron) และมี election หลายๆชั้น วนรอบ นั้น เป็น diagram ที่ผิด ... จริงๆ diagram ที่ถูกต้องเป็น proton neutron มี  Higgs boson เชื่อมกันอยู่  ส่วน election ที่เห็นเป็นทรงกลมตัวๆจะมองไม่เห็น จะเห็นแต่เป็นลูกโป่งมาครอบ nucleus โดยมี แผ่น Anyons บางๆเชื่อมกับ election ตลอดเวลา

-atom ทั้งจักรวาลไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลขนาดไหน มันติดต่อสื่อสารตลอดเวลาทันทีทันใดตลอดเวลา ไวกว่าแสง หรือใช้คำว่า Entangle .... เวลาจะไม่มีความหมายใน ระดับ quantum scale ... ทุกอย่างเป็น อมตะนิรันดร์.  เวลาจะมีความหมายเฉพาะเวลาเราสังเกต หรือแบ่ง scale time frame ในการวัดแค่นั้น และทุกครั้งที่ Quantum particle เปลี่ยนสถานะ (spin - หมุนขึ้น หมุนลง หมุนบนซ้าย หมุนบนขวา หมุนล่างซ้าย หมุนล่างขวา) มันมีความน่าจะเป็นเท่าๆ กัน เหมือนกับ electionอยู่ หลายๆที่เวลาเดียวกัน  สิ่งที่เราเห็นเป็นแค่ผลของ election หมุนไปทางใดทางหนึ่งแค่นั้น มันยังมีจักรวาลอื่นๆ ที่จะเห็น election หมุนไปทางอื่นในเวลาเดียวกัน.   และทุกๆ จักวาลก็สามารถ cliam ได้ว่า ตัวฉันนี่แหละ คือตัวจริงในแต่ละ time scale ที่แบ่งเพื่อสังเกต มีการคำนวนออกมาด้วยว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีทั้งหมดกี่จักวาล ... ตามไปอ่านได้ในหนังสือครับ

- จักรวาลไม่ได้เวิ้งว้างว่างเปล่า (Vaccum stage) อย่างที่เราคิด แต่เต็มไปด้วยความปั่นป่วน โกลาหล ถึงแม้ว่าเราออกไปนอกจักรวาลไกลๆ ไม่มีดาวฤกษ์ อุณหภูมิใกล้ 0 Kelvin ณ จุดนั้นยังมีการเปลี่ยนแปลง entropy อยู่ มีการ entangled กันของ Dark matter แต่ที่เราไม่เห็นเพราะอนุภาคพวกนี้ ไม่ interact กับ แสง หรือ photon ทั้ง particle และ information ทุกอย่าง สุดท้ายแล้วจะถูกดูดเข้าไปใน หลุมดำ ของทุกอย่างที่อยู่ในนั้น จะ Entagle กัน เป็น Singularity จากนั้นจะปล่อย information ออกมา โดยการ entangled กันกับ particle อันไกลโพ้นที่อยู่นอกหลุมดำ ถ้า information ถูกปล่อยออกมาจนหมด หลุมดำก็จะหายไป นักฟิสิกส์ ยุคใหม่เชื่อว่า หลุมดำมีความเป็น Supper Hardisk สำหรับเก็บข้อมูลมากกว่า หีบสมบัติสำหรับเก็บของ

- ความน่าจะเป็นที่จะมีโลกของ ภูตผี ปีสาจ (Ghost world) มากกว่าไม่มี Ghost world ในทาง Quantum Mechanics อธิบายด้วย parallel universe เกิดจาก quantum particle spin (หมุน) คนละ direction กับจักรวาลที่เราอยู่ โลกภูตผีปีศาจใช้กฏทางฟิสิกส์แตกต่างจากเรา  มองไม่เห็น เพราะ carrier particle ไม่ interact กับ photon แต่ information Entagle กันไปมาได้ ภาษาบ้านๆ เรียกว่า “เดจาวู”

- สมองมีการทำงานเชิง quantum โดย atom ของธาตุ ที่อยู่ในโมเลกุล ของสารเคมีต่างๆในสมองมีการ spin และ Entagle กันตลอดเวลา มีนักฟิสิกบางกลุ่มกำลังศึกษาและ พิสูจน์ว่า ประสบการณ์ทาง quantum ที่เกิดจากการสังเกต เป็นเพียง ผลจากการที่สมอง simulate ภาพออกมาหลังจากระบบประสาทรับข้อมูลจากภายนอกเท่านั้น ..., เหมือนโลกของ Neo จากหนังเรื่อง Matrix

- จักรวาลมีรูปทรงเป็นยังไง? นักฟิสิกยุคใหม่เชื่อว่า จักวาล 4 มิติ ( x y z t universe) ที่เราอาศัยอยู่ ไม่จำเป็นต้องมี จุดเริ่มต้น ( Big Bang) และ จุดสิ้นสุด( Big Crunch) เพราะเราส่อง ลึกๆลงไปในจักรวาล ย้อนไป เกือบ 15,000 ล้านปีแสง(แสงแรกที่เรามองเห็น หรือ Cosmic Microwave Background) เราไม่เจออะไรหลังมองลึกไปกว่าจุดนั้น มันเหมือน กับเราล่องเรือไป ใต้สุดของขั้วโลกใต้และ ถามว่า “ จะมีอะไรอยู่ใต้ ขั้วโลกใต้อีกมั้ย? “ ( จักรวาลมีพื้นที่จำกัด แต่ไม่มีขอบเขต Finite- Unbound Universe)  อ่านถึงตรงนี้แล้ว peak มากกก. แอบคิดถึงคำว่า “ วัฏฏะ” ของศาสนาพุทธ ...

-เวลาที่ส่องไปยังอดีตของจักรวาลตอนที่ยังไม่มีดาวฤกษ์ จักรวาลจะเป็น gas ร้อนๆ และขยายตัวเร็วมากใกล้ความเร็วแสง ตาม สมการ Entropy ของ Boltzmann เวลาที่ อนุภาคเปลี่ยนสถานะและ เคลื่อนไหวมากขึ้นเร็วขึ้น  Entropy ของระบบ จะต้องเพิ่มขึ้น .... แต่ quantum sensor ที่เราใช้ตรวจจับปรากฎการนี้ กลับเจอ Entropy ของจักรวาล กลับลดลง ในช่วง 300,000 ปีแรกที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ... ซึ่งนักฟิสิกส์ เชื่อว่า quantum particle มัน Entagle ไปที่จักวาลอื่น อันนี้มีคนคิดวิธีพิสูจน์สมมุติฐานได้แล้ว รอเราสร้างเครื่องมืออุปกรณ์ทดสอบ และรู้ผลภายใน 10 ปี

-Particle หรือ อนุภาคอาจไม่มีอยู่จริงในจักรวาล 4 มิติ. และ  พวกเราทั้งหมดอาจเป็น แค่ information ที่มีพฤติกรรมเป็น superposition - wave field function และ เป็นภาพฉาย (Holographic Principal ) อยู่บนขอบหลุมดำ อันนี้ฟังแล้วคงหัวเราะกันทุกคน.  แต่ทางนักคณิตศาสตร์สมัยใหม่ คำนวณออกมาว่า ถ้าทุกอย่าง เป็น แค่ information   จะทำให้ Quantum Gravity เชื่อมโยงกับ String Theory และอธิบายปรากฏการณ์การทั้งหมดที่เราสังเกตเหตุเห็น ทั้งระดับ quantum scale และ universe scale ได้เลย  field ใหม่ที่ว่านี้คือ “ Information Quantum Gravitational & String Theory “ และพวกเราอาจไม่ได้เป็น กระดาษ หรือ ปากกา (matter)แต่เราเป็น แค่ตัวหนังสือ (information)ที่โดน ปากกา มาเขียนบนกระดาษ”

-ข้อถกเถียง ระหว่าง คุณพ่อที่เป็น นักฟิสิกส์ กับ คุณลูกสาวที่เป็นนักปรัชญา.   การอธิบายธรรมชาติของจักรวาล ไม่สามารถใช้ ฟิสิกส์อธิบายได้ทั้งหมด และทางปรัชญา ก็ไม่ใช้คำว่า Multiversus อธิบายความจริงที่ปรากฏอยู่  มันเป็นอีกคำนึงที่เรายังไมรู้จัก ที่จะมาอธิบายปรากฏการณ์พวกนี้จริงๆแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทดสอบสมมติฐานต่างๆ จะต้องหาเครื่องมือวัดที่ระเอียดมากพอมาวัด ซึ่งนักปรัชญาเชื่อว่า เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันไม่ระเอียดพอที่จะวัด ปรากฎการที่เราสังเกตเห็นได้

ถ้าเจ้าของกระทู้ ภาษาดีด้วย ผมแนะนำให้ follow YouTube Chanel 5 ช่องนี้ด้วยครับ เพราะจะมีนักวิทยาศาสตร์ แถวหน้าของโลก มาบรรยายเรื่อง วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ เทคโนโลยี ที่ เจ้าของกระทู้กำลังสนใจ ครับ

- Lex Fridman Podcast
- The Royal Instiution (RI)
- World Science Festival
- Harvard Science Book Talk
- The Institutions of Are and Idea (iai)

และนำให้ฟัง Lex Fridman EP ที่ Sr. Roger Penrose  กับ Professor Leonard Suskind มาออกรายการด้วยครับ  เค้าพูดทุกอย่างครอบคลุมเรื่องที่ จขกท ถามมาครับ


https://youtu.be/orMtwOz6Db0





https://youtu.be/s78hvV3QLUE




https://youtube.com/@lexfridman





https://youtube.com/@TheRoyalInstitution



https://youtube.com/@WorldScienceFestival



https://youtube.com/@harvardsciencebooktalksand4527



https://youtube.com/@TheInstituteOfArtAndIdeas




แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่