ก่อนอื่นเราขอเล่าเรื่องที่เราเจอมาก่อนเลยนะคะ
เราอายุ17ปีค่ะปีนี้เข้า18 เราเป็นคนนึงที่มีปัญหาครอบครัวเรื่องใช้ความรุนแรงในบ้านแต่ทนเอาเพราะเราเคยปรึกษาครูที่ปรึกษา2คนค่ะ แล้วสุดท้ายครูก็ช่วยอะไรไม่ได้ครูป็นคนพูดเองเลยนะคะว่า"ครูคงช่วยอะไรไม่ได้เลยครูคงทำได้แค่เป็นคนรับฟังหนูระบาย"เหตุผลคือครูไม่สามารถไปคุยกับพ่อแม่หนูได้ให้พวกเขาเข้าใจได้เพราะถ้าพวกเขารู้ว่าหนูเอาเรื่องไปพูดหนูจะโดนหนักกว่าเดิม แล้วถ้าไม่ไม่คุยกับพ่อแม่ก็ไม่มีทางอื่นแล้วเพราะทางอื่นมันจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องใหญ่แล้วไม่รู้กฎหมายจะเข้มแค่ไหนถ้าไม่กันหนูออกจากพ่อแม่ก่อนหนูก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะแบบนั้นหนูเลยทนต่อไปคิดเอาว่าพอขึ้นมหาลัยจะไปเรียนต่างจังหวัดแล้วหางานทำที่นั่นไปเลย
จนถึงวันนี้ วันนี้เราไปฝึกงานที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดหนึ่ง ที่แผนกจิตเวช
ตอนนั้นเราไปสอนคนไข้ใช้เครื่องวัดความดันเราเห็นหมอ(จิตแพทย์)เดินเร็วๆออกมาจากห้องตรวจ แล้วเขาก็มายืนอยู่ด้านหลังเรา ซึ่งด้านหลังเราเป็นเคาเตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่แผนกจิตเวชอยู่เต็มไปหมด
แล้วเราก็ได้ยินเขาก็บ่นกับเจ้าหน้าที่ เขาพูดว่า"นี่ไงที่ไม่อยากรับเด็ก"เขาพูดแบบนี้หลายรอบมาก แล้วก็พูดว่า"มีปัญหาครอบครัว ร้องไห้ไม่อยากกลับบ้านกลัวว่าแม่จะเอาเรื่องหนักกว่าเดิม นี่ไงที่ไม่อยากรับเด็ก"
เราก็เคยไปหาจิตแพทย์นะ สุดท้ายก็เขาทำตัวแบบนี้ไม่สนใจปัญหาของเราเอาแต่บอกว่าทำแบบนี้สิทำแบบนั้นสิซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้วว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เราอยู่ที่ครอบครัวแต่เขาแค่เมินเฉยกับปัญหาเพราะประเทศไทยไม่ได้สนใจปัญหาครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราเลยเลิกไปหาจิตแพทย์ตั้งแต่ตอนนั้น
หลังจากรู้ว่าจิตแพทย์ไม่ได้ช่วยอะไรเราก็เตรียมใจแล้วแหละ แต่วันนี้พอได้ยินแบบนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากๆเลยก็คือต้องทนใช่มั้ย เด็กที่โดนพ่อแม่ทำร้ายเด็กที่ไม่มีที่หึ่ง ครอบครัวที่ควรจะเป็นคนที่ปลอดภัยที่สุดกลายเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดต้องทนใช่มั้ยถ้าทนไม่ไหวก็แค่ตายไปใช่มั้ย
คนนั้นร้องไห้ไม่อยากกลับบ้านขนาดนั้นแถมยังบอกว่ากลัวแม่จะเอาเรื่องหนักกว่าเดิม แต่ยังจะส่งเขากลับบ้านแบบไม่รู้สึกอะไรเลย
แล้วข้อห้ามหลักของจิตแพทย์เลยก็คือห้ามข้อมูลของคนไข้จะเป็นความลับแม้แต่ผู้ปกครองของคนไข้ แต่นี่เอามาพูดจนเราที่เป็นคนไม่รู้จักยังรับรู้เรื่องด้วยเลย
เราไม่รู้ว่าจิตแพทย์เป็นแบบนี้ทั้งประเทศมั้ยหรือเป็นแค่ที่จังหวัดเราแต่บอกเลยว่าสิ้นหวังมาก
หน่วยงานแบบนี้ควรจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายไม่ใช่หรอ งั้นก็ไม่เหลืออะไรให้พึ่งแล้วเพราะแบบนี้ถึงมีแต่เด็กฆ่าตัวตายเต็มไปหมด
***เราเลยอยากชวนทุกคนมาพูดคุยกันเรื่องนี้ว่าประเทศไทยเป็นแบบนี้จริงๆหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่จิตแพทย์แต่เป็นหน่วยงานคุ้มครองเด็กเขาจะเต็มที่กับการช่วยเหลือไหม เพราะเรารู้สึกว่าเห็นมาหลายเคสมากๆที่หนีออกจากบ้านแล้วพอตำรวจเจอก็ส่งกลับบ้าน***
กฎหมายประเทศไทยคุ้มครองเด็กจริงๆหรอ?
เราอายุ17ปีค่ะปีนี้เข้า18 เราเป็นคนนึงที่มีปัญหาครอบครัวเรื่องใช้ความรุนแรงในบ้านแต่ทนเอาเพราะเราเคยปรึกษาครูที่ปรึกษา2คนค่ะ แล้วสุดท้ายครูก็ช่วยอะไรไม่ได้ครูป็นคนพูดเองเลยนะคะว่า"ครูคงช่วยอะไรไม่ได้เลยครูคงทำได้แค่เป็นคนรับฟังหนูระบาย"เหตุผลคือครูไม่สามารถไปคุยกับพ่อแม่หนูได้ให้พวกเขาเข้าใจได้เพราะถ้าพวกเขารู้ว่าหนูเอาเรื่องไปพูดหนูจะโดนหนักกว่าเดิม แล้วถ้าไม่ไม่คุยกับพ่อแม่ก็ไม่มีทางอื่นแล้วเพราะทางอื่นมันจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องใหญ่แล้วไม่รู้กฎหมายจะเข้มแค่ไหนถ้าไม่กันหนูออกจากพ่อแม่ก่อนหนูก็พูดอะไรไม่ได้ เพราะแบบนั้นหนูเลยทนต่อไปคิดเอาว่าพอขึ้นมหาลัยจะไปเรียนต่างจังหวัดแล้วหางานทำที่นั่นไปเลย
จนถึงวันนี้ วันนี้เราไปฝึกงานที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดหนึ่ง ที่แผนกจิตเวช
ตอนนั้นเราไปสอนคนไข้ใช้เครื่องวัดความดันเราเห็นหมอ(จิตแพทย์)เดินเร็วๆออกมาจากห้องตรวจ แล้วเขาก็มายืนอยู่ด้านหลังเรา ซึ่งด้านหลังเราเป็นเคาเตอร์ที่มีเจ้าหน้าที่แผนกจิตเวชอยู่เต็มไปหมด
แล้วเราก็ได้ยินเขาก็บ่นกับเจ้าหน้าที่ เขาพูดว่า"นี่ไงที่ไม่อยากรับเด็ก"เขาพูดแบบนี้หลายรอบมาก แล้วก็พูดว่า"มีปัญหาครอบครัว ร้องไห้ไม่อยากกลับบ้านกลัวว่าแม่จะเอาเรื่องหนักกว่าเดิม นี่ไงที่ไม่อยากรับเด็ก"
เราก็เคยไปหาจิตแพทย์นะ สุดท้ายก็เขาทำตัวแบบนี้ไม่สนใจปัญหาของเราเอาแต่บอกว่าทำแบบนี้สิทำแบบนั้นสิซึ่งเขาก็รู้อยู่แล้วว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เราอยู่ที่ครอบครัวแต่เขาแค่เมินเฉยกับปัญหาเพราะประเทศไทยไม่ได้สนใจปัญหาครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เราเลยเลิกไปหาจิตแพทย์ตั้งแต่ตอนนั้น
หลังจากรู้ว่าจิตแพทย์ไม่ได้ช่วยอะไรเราก็เตรียมใจแล้วแหละ แต่วันนี้พอได้ยินแบบนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากๆเลยก็คือต้องทนใช่มั้ย เด็กที่โดนพ่อแม่ทำร้ายเด็กที่ไม่มีที่หึ่ง ครอบครัวที่ควรจะเป็นคนที่ปลอดภัยที่สุดกลายเป็นคนที่น่ากลัวที่สุดต้องทนใช่มั้ยถ้าทนไม่ไหวก็แค่ตายไปใช่มั้ย
คนนั้นร้องไห้ไม่อยากกลับบ้านขนาดนั้นแถมยังบอกว่ากลัวแม่จะเอาเรื่องหนักกว่าเดิม แต่ยังจะส่งเขากลับบ้านแบบไม่รู้สึกอะไรเลย
แล้วข้อห้ามหลักของจิตแพทย์เลยก็คือห้ามข้อมูลของคนไข้จะเป็นความลับแม้แต่ผู้ปกครองของคนไข้ แต่นี่เอามาพูดจนเราที่เป็นคนไม่รู้จักยังรับรู้เรื่องด้วยเลย
เราไม่รู้ว่าจิตแพทย์เป็นแบบนี้ทั้งประเทศมั้ยหรือเป็นแค่ที่จังหวัดเราแต่บอกเลยว่าสิ้นหวังมาก
หน่วยงานแบบนี้ควรจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายไม่ใช่หรอ งั้นก็ไม่เหลืออะไรให้พึ่งแล้วเพราะแบบนี้ถึงมีแต่เด็กฆ่าตัวตายเต็มไปหมด
***เราเลยอยากชวนทุกคนมาพูดคุยกันเรื่องนี้ว่าประเทศไทยเป็นแบบนี้จริงๆหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่จิตแพทย์แต่เป็นหน่วยงานคุ้มครองเด็กเขาจะเต็มที่กับการช่วยเหลือไหม เพราะเรารู้สึกว่าเห็นมาหลายเคสมากๆที่หนีออกจากบ้านแล้วพอตำรวจเจอก็ส่งกลับบ้าน***