[SR] รีวิว NISSAN ALMERA VL SPORTECH ตกแต่งออฟชันลงตัวขึ้น น่าเล่นกว่าเดิม !

กระทู้รีวิว


NISSAN ALMERA แน่นอนว่าเป็นรถ ECOCAR ในยุคแรกๆที่หลายๆคนรู้จักกันดีในเรื่องของความคุ้มค่าตัวรถ และ ขนาดตัวรถพื้นที่ใหญ่กว้างขวางที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาคู่แข่งยุคนั้นๆ จนมาถึงเจนล่าสุดในตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างทั้งหมด ทั้งคุณภาพตัวรถ ขนาด งานออกแบบทั้งหลายรวมถึงการขับขี่ที่พัฒนาขึ้นชัดเจนเช่นกัน และทำให้ในเรื่องความคุ้มค่าในตอนนี้มันก็กลายเป็นรถที่เทียบกับราคาและคุณภาพ การขับขี่ที่ได้ออกมาได้น่าสนใจมากขึ้น และในตอนนี้มีการออกรุ่นใหม่ๆมาหลากหลายรุ่นทั้งชุดแต่งและล่าสุดนี้คือตัว SPORTECH





NISSAN ALMERA VL SPORTECH ในรุ่นนี้จะเป็นรุ่น VL ท็อปสุดนั้นเองจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ เบนซิน 3 สูบ  ขนาด 1.0 ลิตร  พ่วง Turbocharger กำลังสูงสุด 100 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 152 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT พร้อม D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้า และแน่นอนว่า ALMERA ตัวนี้จะเน้นไปทางชุดตกแต่ง และ ปรับออพชันบางส่วนให้ลงตัวขึ้น สเปกเครื่องยนต์อะไรเลยไม่ได้หนีกันจากเดิม รวมถึงงานออกแบบหลักแต่เราจะได้ สีตัวถังใหม่ Two-tone ขาวหลังคาดำ และ เทาหลังคาดำ (สำหรับ V, VL และ VL SPORTECH) สปอยเลอร์หลังสีดำเงา เข้ามาพร้อมกับ  กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ และทางด้าน ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว ปัดเงารมดำ ลายใหม่ รวมถึง ภายในตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ Piano Black ตัดสีเทา Dark Grey  และ ตกแต่ง มือจับแผงประตู สีโครเมียม สีเงิน และลาย Carbon Fibre เสริมด้วย กระจกมองหลังแบบไร้ขอบ และใช้งาน วิทยุ AM/FM พร้อมจอ Touchscreen 8 นิ้ว เชื่อมระบบ Nissan Connect + เบาะนั่ง หุ้มด้วยหนัง Quole Modure ลดการอมความร้อน ขณะจอดตากแดด ระบบเปิด – ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ อีกทั้งงานออกแบบ พวงมาลัยหุ้มหนัง D-Shape และหัวเกียร์หุ้มหนังแบบ Soft Touch มีการย้าย ตำแหน่ง Push Start ใหม่ ย้ายไปไว้ที่ฐานคันเกียร์ ตกแต่งด้วย Trim Piano Black และ สี Silver นั้นเองในภาพรวมหลายๆส่วนซึ่งมีผลกับทั้งรุ่นเริ่มต้นและตัวท็อปหลายๆตัวใน MY2022 แบบนี้ แต่ถ้าในภาพรุ่น VL จะได้ครบจัดเต็มทั้งชุดแต่ง Sportech เสริมเข้ามารอบคันทั้งหมด และรวมถึงภายใน แผงประตูหน้า-หลัง ใช้หนังสังเคราะห์ เดินตะเข็บด้ายสีเทาเข้ม ตามเบาะต่างๆ และ คอนโซลรถก็เน้นไปทางสีดำ เทามากกว่าสีส้มในรุ่นก่อนๆ

NISSAN ALMERA VL SPORTECH :  669,000 บาท



EXTERIOR

งานออกแบบภายนอกแน่นอนว่าในรุ่น VL SPORTECH ถือว่ามีจุดแตกต่างกันเยอะพอสมควรถ้ามองเทียบกับรุ่นธรรมดาการใช้โทนสี Two-Tone ต่างๆเสริมให้ตัวรถดูสปอร์ตขึ้นมาก และเล่นสีกระจกมองข้างๆได้ดูดุดันขึ้นรวมถึงภาพรวมตัวล้อ กันชนรอบคัน และ สปอยเลอร์หลัง แม้ว่าตัวรถเองนั้นอาจจะไม่ได้เตี้ย หรือ ล้อใหญ่มากเพราะด้วยความเป็นรถบ้านต้องเน้นไปในการใช้งานเป็นหลักที่ นั่งสบาย ขับสบายไว้ก่อน ตัวรถนั้นมาพร้อมกับขนาด ความยาว 4.4 เมตร และ มีความกว้าง 1.7 เมตร ความสูง 1.4 เมตร และ ระยะฐานล้อ 2.6 เมตร ถือว่าเป็น B-Segment ที่น่าสนใจคันนึงและพื้นที่ภายในเองก็มีความเด่นเช่นเดิม แต่ภายนอกสวย ทันสมัย และ สปอร์ตขึ้นมาชัดเจนมากๆ







ถ้ามองความเป็นรถเก๋ง ALMERA ทำสัดส่วนรถได้ลงตัวกว่าเจนก่อนๆมากรวมถึงถ้ามองเทียบคู่แข่งด้วยกันเองบอกเลยว่าทำได้สวย ตัวรถดูไม่อ้วน หรือ สั้นเกินไปสัดส่วนความโค้งส่วนหน้าหลังกำลังลงตัวรวมถึงการที่ได้ดีไซน์ด้านหน้ายุคใหม่ของNISSAN เช่นกันทำให้รถดูสวยขึ้นเสริมด้วยสีดำรอบๆคันและกันชนหน้าหลังที่เสริมสีเงินด้านเข้ามาใน SPORTECH แบบนี้ทำให้รถดูไม่เรียบเกินไปด้วยนะส่วนตัวรู้สึกว่าหลังคาสีดำเสริมตัวรถได้ดีแต่ถ้าได้ล้อดำหรือแต่งโหลดเตี้ยช่วยหน่อยน่าจะลงตัวขึ้นแต่เมื่อมองจากด้านท้าย หรือ ว่าด้านข้างการที่รถได้หลังคาดำเสริมเข้ามาแบบนี้ทำให้ดูบางเพรียวมากขึ้นชัดเจนครับ รวมถึงเมื่อมองในด้านท้ายที่ได้ชุดกันชนหลังแบบใหม่และเสริมด้วยสปอยเลอร์หลังดูลงตัวขึ้นทันที เป็นชุดแต่งจากโรงงานที่เสริมตัวรถได้ดี และ ไม่รก ไม่เยอะเกินไปสไตล์คล้าย AUTECH เลย









เมื่อดูดีเทลหลายๆส่วนตัวรถที่เส้นสายยังคงมีความเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวชอบด้านท้าย เพราะว่าความเป็นซีดานและท้ายทำออกมาสัดส่วนน่าจะสวนอันดับต้นๆเลยรวมถึงการที่เราได้กันชนหลังแบบใหม่ทั้งหมดเสริมเข้ามาทำให้ดูสปอร์ตขึ้นเช่นกัน และ ตัวรถเสริมด้วยสีเงินเข้ามาในส่วนล่างสุดของกันชนทำให้ตัดกับสีดำ และ สีเทารอบตัวรถได้ซึ่งเรามักจะเห็นการตกแต่งแบบนี้ในหลายๆรุ่นของ NISSAN เช่นกันครับ ส่วนในด้านหน้าเส้นสายที่คุ้นเคยพร้อมกับโลโก้ กระจังหน้าที่เน้นสีรมดำเข้ามาทำให้ดูดุดันขึ้น แต่ก็ยังแอบหรูหราด้วยเส้นสายโครเมียมตัว v ด้านหน้า แต่น่าเสียดายว่าในส่วนหน้ารถไม่มี Sensor รอบๆคันมา แต่ก็สามารถชดเชยด้วยกล้องรอบคันมีมาให้อยู่ในสเปกเดิมๆ









แน่นอนว่ามาพร้อมไฟหน้า LED พร้อม LED Signature Light และในรุ่นนี้จะได้ เปิด ปิด ออโต้เสริมเข้ามาแต่จะไม่มี สูงต่ำ ออโต้แบบ Kicks นะครับ ซึ่งก็น่าเสียดายรวมถึงไฟ DRL ก็ไม่มีมาให้แม้จะสามารถทำได้ก็ตามครับ แต่ตามสเปกโรงงานนั้นปิดไฟ DRL เอาไว้ไม่งั้นจะสวยกว่านี้เยอะเลยในส่วนหน้ารถเวลาขับ ส่วนไฟเลี้ยวเป็นหลอดไส้ปกติ ส่วนในด้านหลังเองนั้นไฟสวยเช่นเดิมพร้อมกับ LED แนวยาว เสริมด้วยไฟเลี้ยว และ ไฟถอย และในรุ่น Sportech นั้นเราจะเห็นว่าได้กระจกมองข้างสีดำเท่ๆตามสมัยนิยมเสริมเข้ามาพร้อมกับไฟเลี้ยวในตัว และ กล้องรอบคัน ซึ่งค่ายนี้ให้มาแน่นๆทั้ง พับออโต้เวลาล็อก และ Blindspot เตือนต่างๆให้มาครบ กล้องรอบคันครบมากซึ่ง NISSAN เองนั้นให้มาแน่นๆมากกวาคู่แข่งเสมอ และ ทางด้านล้อลายใหม่ 15 นิ้ว 2 โทนสวยและลงตัวพอสมควร







ซึ่งเราจะเห็นเลยว่าการที่ตัวรถพยายามเสริมชุดแต่งรอบๆคันเข้ามาจากหลังคา สปอยเลอร์หลัง และ กระจังหน้าที่เป็นโครเมียมดำเงาๆแตกต่างกับรุ่นปกติทำให้รถดู สปอร์ตแต่ก็ยังมีความหรูหราเพิ่มเติมเข้ามาส่วนตัวมองว่าเป็นรถที่ชุดแต่งโรงงานที่เรียบแต่ก็ดูผู้ดี ไม่ซิ่งเยอะเกินไปเหมาะกับตัวรถได้ดีมากๆ และ ถ้ามองเทียบกับราคาประมาณนี้ที่เสริมเข้ามาก็ลงตัวเช่นกันเราจะเห็นว่าตรงโลโก้ NISSAN เป็นกระจกเงาๆเพราะส่วนนั้นจะเป็น Radar ในเรื่องระบบความปลอดภัยที่ทำงานป้องกันต่างๆ ก็เลยอาจจะทำให้มองเห็นโลโก้ได้ยากนิดนึงและน่าเสียดายยังเป็นโลโก้เก่าอยู่



INTERIOR

งานออกแบบภายในทางด้าน VL Sportech เราจะได้ธีมสีเข้มๆทั้งคันและเดินด้านสีเทาที่เสริมเข้ามารวมถึงการปรับกระจกมองหลังแบบไร้กรอบก็ได้ในเจนใหม่หลายๆรุ่นย่อยเช่นกันครับ ดูเท่ขึ้นเยอะซึ่งส่วนตัวเราอาจจะคุ้นเคยกับการออกแบบแบบนี้ทางค่ายนี้มาเยอะเช่นกันปรับตัวไม่ยาก ดีไซน์ไม่หวือหวามากนัก เรียบๆแต่จะไม่มีแสงสีไฟอะไรในส่วนคอนโซลรถเลยแม้แต่น้อย แต่วัสดุต่างๆก็ทำได้ดีสมราคากับตัวรถมีการหุ้มหนังอะไรเสริมหน้าคอนโซลมากกว่าเดิมรวมถึงการที่เราจะได้จอ รองรับ Apple Carplay , Android Auto เข้ามาด้วยเช่นกันครับถือว่าภายในเรียบๆเน้นใช้งานง่าย ส่วนทางด้านมุมมองการขับขี่นั้นไม่มีปัญหาตัวรถขับง่าย และ โปร่งพอสมควรไม่เจอมุมบอดอะไรเท่าไรนัก





พวงมาลัยมาพร้อมกับรูปทรง D Shape ปาดขอบ และแน่นอนว่าใช้งานวัสดุหนังดูดีพอสมควรแม้จะเป็นทรงที่เห็นกันได้ในหลายๆรุ่นก็ตามแต่ความสวยงามก็ถือว่าโอเคเลยแม้ว่าจะเสียดายปุ่มด้านขวาที่โล่งๆไปแต่ก็พอเข้าใจได้กับเรตราคาแบบนี้ครับ ซึ่งถ้ามองภาพรวมปุ่มสั่งงานทุกอย่างให้มาครบๆแล้วนั้นเอง ส่วนทางด้านแอร์นั้นให้มาแบบ 1 Zone แต่ได้ แอร์จอดิจิทัลพร้อมกับ ออโต้ครบทั้งหมดดีไซน์ต่างๆคล้ายกับที่อยู่ใน Kicks เช่นกัน ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องวางมือถือ และมี USB-A สำหรับการเสียบใช้งาน Apple Carplay / Android Auto ยังไม่มี USB-C ใส่เข้ามา





ซึ่งในตัว Sportech เองนั้นจะได้พรมลวดลายเฉพาะเสริมเข้ามาในตัวรถ ทั้ง 4 ที่นั่งส่วนทางด้านหลังเองนั้น Legroom กว้างขวางสบาย ไม่มีแอร์หลังเป็นปกติ แต่ก็ยังใจดีให้ USB-A สำหรับการเสียบชาร์จมือถือเสริมมาให้





ทางด้านเรือนไมล์เอง NISSAN เป็นไม่กี่เจ้าในช่วงแรกๆที่ใส่แบบ ดิจิทัลเสริมเข้ามาผสมกับเข็มซึ่งบอกเลยว่าทำให้การใช้งานดูมีอะไรมากกว่าเดิม เปลี่ยนหน้าตาได้หลากหลายแบบ ตั้งค่าได้ ดูสถานะต่างๆ และ ดูเพลงได้ในยุคแรกๆ ค่ายอื่นมีแต่แบบเข็มล้วนๆเลยครับจนตอนนี้ก็มีบางค่ายไม่มีจอดิจิทัลอยู่นะ แต่คันนี้ให้มาครบดีไซน์เรียบๆเน้นใช้งานเป็นหลัก ส่วนหน้าจอกลาง 8 นิ้วสัมผัสได้ไว และ สู้แสงได้ดี มีปุ่มปกติมาให้ใช้งานกันอยู่บ้างครับ เท่าที่ลองไม่มีปัญหาอะไรทั้ง ความไว และ การเชื่อมต่อ รวมถึงการลดแสงเพิ่มแสงทำได้ง่ายและหรี่แสงได้ไม่แยงตากลางคืน

ชื่อสินค้า:   NISSAN ALMERA VL SPORTECH
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่