ซัมเมอร์ที่จีน กับ Summer Jeen (เล่าละเอียด)


สวัสดีครับ ผมบิ๊กนะครับ

ขอมาเขียนเล่าประสบการณ์การไปเรียนภาษาจีนที่harbinนะครับ ผมไปกับSummer Jeen
เดินทางตั้งแต่ 1เมษายน -30เมษายน 2566
[ขอเท้าความก่อนนะครับ]
ก่อนไปประมาณเดือนสองเดือน เราสนใจที่อยากจะไปเรียนsummerที่จีน  เนื่องจากแม่เอาทริปไปเรียนsummerที่จีนของsummer Jeenมาให้ดู ผมสนใจที่อยากจะไปเรียนมากครับ แต่ในใจก็กลัว<โดนโกง>  แต่เนื่องจากความอยากไปและกลัวว่าเดี๋ยวคนจะเต็มเลยสมัครไปก่อน (ก็ยังกลัวแหละ)พอวันที่ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน พ่อกับแม่เลยชวนกันไปที่สำนักงานของsummer Jeen เพื่อไปจ่ายเงิน พอไปถึงก็เริ่มสบายใจมากขึ้นครับ เพราะไปคุยกับพี่โจอี้เรื่องที่จะไป
หลังจากนั้นวันปฐมนิเทศ เราไปกับพ่อแม่ เพื่อไปฟังเรื่องกิจกรรมต่างๆ การเรียน และสิ่งของที่ต้องเตรียม ไปเจอ พี่ก้อย กับพี่โจอี้ (ตอนแรกไม่รู้ด้วยว่าพี่โจอี้เป็นผู้หญิง)  เท้าความมานานใจความสำคัญก็คือว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องการโดนโกงนะครับ ถึงแม้หน้าเว็บจะดูไม่น่าไว้วางใจ555
:
ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ
วันเดินทางจากไทยไปจีน แบ่งเป็นสองกลุ่มครับ ผมเป็นกลุ่มแรกที่ได้ไป เดินทางวันที่1เมษา (เช้ามืด) ไปกับพี่ก้อย
ใช้เวลาเดินทางนานประมาณหนึ่งเลยครับ ที่ตลกคือตอนนั่งสายการบินที่จีน พอเค้ามาเสิร์ฟอาหาร เค้าจะปลุกเราขึ้นมากินตลอด พอหลับๆไปเค้าก็จะปลุกให้เลือกน้ำอีก  ไม่ได้หลับสักที
ปล.ตอนพักเครื่อง พี่ก้อยจะหายตัวได้ และจะแว่บกลับมาตอนใกล้ๆขึ้นเครื่อง(วิชาหายตัว) ไม่รู้พี่เค้าไปไหน55

ตอนมาถึงที่harbin  อากาศหนาวมากครับ จำไม่ได้ว่ากี่องศานะ แต่หนาวเลยลมพัดแรงด้วย จากสนามบินมาที่มหาวิทยาลัยใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมงมั้งครับ
ไปถึงมหาวิทยาลัย HARBIN ENGINEERING UNIVERSITY  ก็เริ่มเย็นแล้ว  พี่ก้อยพาเข้าหอพักไปเก็บของก่อน

หอพักที่พักเป็นหอพักของนักศึกษาต่างชาตินะครับ เราพักห้องละ2คน ครั้งที่ผมไปเป็นเตียงแยก2เตียง มีตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน และห้องที่กลิ่นอาจตุ๊ๆนิดหน่อย ต้องล้างห้องก่อนใช้นะครับ ค่อนข้างสกปรกนิดหน่อย พอเราวางของเสร็จพี่เค้าก็พาไปกินข้าวซื้อของที่ซุปเปอร์มหาวิทยาลัย และกลับเค้าหอพัก คืนแรกวันนั้นไม่รู้จะกินอะไรดี เพราะไปถึงที่โรงอาหารประมาณทุ่มกว่า ร้านก็เริ่มปิดแล้ว อีกอย่างผมเป็นอิสลามนะครับ วันแรกๆที่ไปอาจจะอยู่ยากหน่อย แต่เราใช้สกิลการถามได้ คืนนั้นสรุปแล้ว ผมได้กิน หมั่นโถวกับไข่ต้ม 555 


ต่อจากนี้จะขอพูดเป็นทีละเรื่องนะครับ


1)หอพัก
ทั้ง40คนพักอยู่ในหอเดียวกับหมดนะครับ เราจะนอนกับรูมเมตคนหนึ่ง (ขอให้คุณโชคดีกับรูมเมตของคุณนะครับ)
สำหรับห้องเราต้องทำความสะอาด กวาดพื้น ล้างห้องน้ำ หน่อยนะครับ มันสกปรก
แต่ละห้องจะมีกุญแจอยู่สองดอก คนละดอก อย่าทำหายนะครับ
ป.ล.อย่าเสียงดังด้วยเวลาอยู่ในหอ

2)อาหาร (ผมเป็นมุสลิมนะครับ อาจพูดเรื่องอาหารได้ไม่เยอะ)
สำหรับอาหารที่นั้นอร่อยหลายอย่างนะครับ สำหรับคนอิสลาม ที่มหาวิทยาลัยมี ร้านอาหารอิสลามอยู่1ร้านครับ

อาหารที่นั้นถ้าเราสั่งกินปริมาณจะค่อนข้างเยอะเลยครับ

牛肉饺子「สำหรับ1คน」เยอะมาก

อันนี้คนอื่นกินกันเพื่อนผมส่วนใหญ่กินอาหารตักกันครับ มีทั้งที่ตักอาหารแล้วชั่ง และก็ตักมาให้ร้านปรุงให้
ปกติถ้าในมหาวิทยาลัย ผมก็จะกิน 牛肉拉面, 饺子 , ข้าวหน้าเนื้อผัดหัวหอม,เบอร์เกอร์ไก่
รสชาติอาหารที่นั้นอาจไม่ถูกปากบ้าง แต่อยู่ๆไปก็ชินเอง
*
นอกจากอาหารในมหาลัยแล้ว พี่ก้อยกับพี่โจอี้ก็จะพาไปกินอาหารข้างนอกด้วยใกล้ๆมหาลัย


****ของแนะนำ บะหมี่ไก่ฉีก  พี่ก้อย พี่โจอี้ พาไปกินครั้งหนึ่งหลังจากนั้น เราไปกินกับเพื่อนอีก7รอบ ****
#ต้องกิน
ชานมไข่มุกที่นี้ก็อร่อย แนะนำสั่งแบบร้อน

3)การเรียน
ตอนแรกเราจะต้องสอบวัดระดับภาษาจีนของเราก่อน
มี คลาส0 คลาสA,B,D ที่เราสามารถเรียนได้
ตอนแรกผมสอบได้คลาสAแต่รู้สึกง่ายไปเลยไปเรียน คลาสBแทน
เล่าการเรียนคลาสB
ช่วงสัปดาห์แรกที่เรียนอาจจะรู้สึกยาก เพราะเราต้องเรียน ทั้งวิชาบทเรียน วิชาฟัง วิชาพูด วิชาอ่าน
แต่พาผ่านไปสักสัปดาห์หนึ่งก็จะชินเอง การเรียนภาษาที่นั้นสนุกครับ 老师ใจดีด้วย
วิชาเรียน1วิชา ต่อ1คาบใช้เวลาเรียนประมาณ2-3ชั่วโมง แต่老师จะมีเวลาให้พักตลอด
สำหรับ 老师ที่สอนอย่างที่บอกใจดีมาก เราสามารถถามข้อสงสัยได้ตลอด เค้าจะอธิบายอย่างละเอียดให้เราเข้าใจ
ถึงแม้ว่าจะสอนเป็นภาษาจีนแต่ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่เข้าใจ ขอแค่พอฟังภาษาจีนได้ก็น่าจะเข้าใจ 老师อธิบายดีครับ

นอกจากเรียนภาษาแล้ว ก็มีเรียนวิชาวัฒนธรรมด้วย
:พู่กันจีน,ทำอาหาร(ดูเชฟทำ แล้วชิม),ตัดกระดาษ,แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม:
เป็นกิจกรรมที่เราจะเรียนหลังจากเรียนภาษา

4)การอยู่
สำหรับการอยู่ในมหาวิทยาลัย เนื่องจากมหาลัยค่อนข้างใหญ่ และมีหลายทาง สกิลการเดินไกลคุณต้องนำมาใช้แล้ว
ในช่วงแรกอาจหลงได้บ้าง เดินสำรวจบ่อยๆก็จะรู้ทางไปเอง
โรงอาหารที่นั้น มีอยู่3โรง ปกติกินอยู่แค่โรงเดียว
Culture Shockที่คุณจะเจอเมืองไปอยู่จีนคือ ทุกๆที่สามารถสูบบุหรี่ได้ คุณควรสวมแมส ไว้ ไม่งั้นคุณอาจเป็นมะเร็งปอดได้เลยทีเดียว555 
อีกข้อคือ คุณควรพกกระดาษทิชชูไว้ด้วย

!อากาศ!🌸❄️🌧
หลายๆคนอาจกังวลเรื่องอากาศที่นั้น ช่วงที่ผมไปคือฤดูใบไม้ผลิ อากาศจะอยู่ประมาณ7-8 องศา ตำ่สุดที่เจอคือ -4 สูงสุดที่เจอคือ 17องศา(ร้อน)
ช่วงแรกที่ไปถึงอาจป่วยได้เพราะอากาศเปลี่ยนแปลง ติดยาแก้แพ้ไปด้วย
ตอนอยู่ที่นั้นอาจป่วยได้บ่อย เพราะอากาศหนาว และมักเปลี่ยนแปลง
เป็นฤดูใบไม้ผลิ ที่ผมเจอทั้ง ฝนหิมะ ฝนตก และ ฝุ่น581🌫  อยู่ไปสักอาทิตย์นึงก็จะเริ่มชินกับอากาศแล้วครับ
อาจจะหนาวเป็นพิเศษในวันที่ลมพัดแรง กับวันฝนตก

【วันนี้พายุทรายเข้า ฝุ่น500กว่า】

!เงินจีน!💴 
อย่างที่รู้กันจีนในปัจจุบันเป็นสังคมที่ไม่ค่อยใช้เงินสด ตอนไปเราคนไทยก็จะพกเงินสดไป เพราะไม่สามารถใช้แอปของจีนได้ (เพื่อนบ้างคนใช้ได้)
การใช้เงินสดที่นั้นอาจจะยากในบางสถานการณ์ เช่นในซุปเปอร์ คุณป้าคิดเงิน ทำหน้าไม่พอใจทุกที ที่จ่ายแบงค์ร้อยไป แต่ถ้าไปตามตลาด ห้าง ก็สามารถใช้เงินสดได้ ก็คือว่าไม่ต้องกลัวว่าไม่มีแอปจะจ่ายเงินไม่ได้ 

5)เที่ยว
ขอไม่อธิบายเยอะนะครับ เอารูปมาฝากให้ดู
~Harbin Grand Theatre ไปเล่นว่าวที่นี้สนุกครับ~

~Saint Sophia's Church~

~วัดจีน ใกล้ๆมหาวิทยาลัย~

~ถนนคนเดิน~

~ยูนิต731~พิพิธภัณฑ์

~สวนสนุก~

~สวนเสือ~

นอกจากนี้แล้วก็จะมีสวนสัตว์เมืองหนาว  ตลาดกลางคืน 
และอีกอย่างคือ ตอนเย็นๆหลังเลิกเรียนพี่ก้อย พี่โจอี้บางวันก็จะพาไปเดินห้างเดินตลาดด้วย

; นอกจากที่พี่ๆเค้าพาไปเที่ยวแล้ว เราสามารถไปห้าง ไปตลาดคนเดินด้วยตัวเองได้ ช่วงหลังเลิกเรียนหรือหลังจากที่พี่เค้าพาไปเที่ยว แต่ควรไปกับเพื่อนสัก2-3คน

ข้อแนะนำในการไปกับSummer Jeen 
1.ต้องมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา เรื่องตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากครับ
2.ฟังคำแนะนำของพี่ก้อย และพี่โจอี้
3.ทำตามกฎของพี่ๆ และ กฎของมหาวิทยาลัย

ข้อแนะนำการไป
1.พกยาแก้หวัด รักษาอาการแพ้ ยาอม ยาดมไปด้วย
2.พกกระดาษที่ทิชชูตลอด ที่นั้นไม่ค่อยมีให้ ต้องซื้อ
3.อากาศหนาว สวมเสื้อดีๆ ดูพยากรณ์อากาศตลอดทุกๆวัน

|
เนื่องจากผมไปคนเดียวไม่รู้จัก เป็นประสบการณ์ในการไปอยู่ที่นั้นที่ดีมากครับ เราได้เจอเพื่อนใหม่ๆเยอะมาก
มีกลุ่มเพื่อนเพิ่มมาอีกกลุ่ม จนตอนนี้กลับไทยมาเราก็ยังติดต่อคุยกันตลอดเลยครับ

สำหรับภาษาจีนที่ไปเรียนมาจากที่นั้น สิ่งที่สำคัญกว่าการเรียนคือ เราได้คุยสื่อสารกับคนจีน ถึงแม้อาจตะกุกตะกักบ้างแต่เป็นเหมือนการเพิ่มประสบการณ์ในชีวิต ผมได้อะไรหลายอย่างมากจากที่นั้นครับ

เรื่องเล่าพิเศษ อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ
1.สถานที่ในมหาวิทยาลัยที่ควรไปดูคือ ห้องสมุดที่นั้น ผมไปนั่งทำงานอ่านหนังสือกับเพื่อนบ่อย หอสมุดของมหาวิทยาลัย ถึงแม้ว่าคนจะเยอะ แต่เงียบสงบมาก

2.ไม่ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหนก็ตาม ผมก็กินไอศกรีมบ่อยมาก

3.เนื่องจากผมเป็นมุสลิม ผมจึงอยากไปมัสยิดที่นั้น เลยชวนเพื่อนไปกันรวม5คน /สนุกมาก/
กว่าเราจะไปถึงได้ใช้เวลาไป2ชม. เพราะหลงบ่อยมากตอนแรกเราจะนั่งแท็กซี่ไปแต่เพราะนั่งกันได้ไม่หมดเลยเปลี่ยนไปนั่งรถไฟใต้ดินแทน วันนั้นใช้สกิลการถามสกิลภาษาจีนเยอะมาก แต่ไม่ได้ถามเองนะครับให้เพื่อนถาม พอนั่งรถไฟใต้ดินเสร็จเราก็ต้องต่อรถเมล์ต่อ เราหลงกับรถเมล์ประมาณครึ่งชั่วโมง โชคดีได้คุณป้าใจดีช่วยไว้ กว่าจะไปถึงที่มัสยิดก็เกือบทุ่มแล้ว ออกตั้งแต่สี่โมงกว่า พอจะกลับ เนื่องจากเราต้องไปถึงหอก่อน3ทุ่ม เราก็ต้องรีบกลับ เพราะเราเหลือเวลาอีกแค่ ชั่วโมงกว่า สุดท้ายพวกเรานั่งแท็กซี่กลับ โชคดีกลับไปถึงทัน เกือบโดนทำโทษแล้ว555
เป็นวันที่ใช้ชีวิตคุ้มมากที่สุดแล้ว สนุก+หลง

^_^ตรงนี้คือรูปรอบๆมหาวิทยาลัย》

สุดท้ายนี้นะครับ อยากจะฝากคนที่อยากจะไป แต่ยังลังเลอยู่
การไปเรียนsummer ที่จีน เป็นประสบการณ์ที่ดีมากที่ควรไป ได้ทั้งประสบการณ์ ความรู้ เพื่อน มิตรภาพ
พี่ก้อยกับพี่โจอี้ก็ดูแลตลอด อย่างดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่