...สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นถ้าแทกห้องผิดขออภัยด้วยนะคะ
...เราและแฟนอยู่กินกันมาสิบปี จดทะเบียนกันมีลูกสาวอายุ 8 ขวบ แฟนรับราชการ ส่วนเราพนักงานบริษัทเอกชน ช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมารู้สึกท้อแท้ และไม่มีกำลังใจมากเลยค่ะ น่าจะเพราะด้วยอายุที่มากขึ้น (ปัจจุบันอายุ 33) ความคิดเปลี่ยนไป ความคิดในการใช้ชีวิตคู่เปลี่ยนไป
...เริ่มแรกเราแต่งงานมาก็อยู่บ้านแฟน ตอนท้องต่างคนต่างยังไม่มีงานทำ จนเรามีงานทำก่อน และแฟนมารับราชการทีหลัง (ปัจจุบันแฟนเงินเดือนไม่เยอะมาก เรามีรายได้เป็น 2-2.5 เท่าของแฟน) แฟนรับราชการต่างจังหวัด กว่าจะกลับมาก็เสาร์ อาทิตย์
...ช่วงแรกๆตอนลูกเล็กๆเรารู้สึกลำบากมากค่ะ ไม่มีรถยนต์ มีแต่มอไซต์ ไปไหนมาไหนสองคนลำบาก เพราะแฟนทำงานต่างจังหวัดกัน (รถยนต์มีแต่ของพ่อแม่แฟน แต่บางทีจะใช้เวลาก็ชนกันทำให้ต้องรอกัน หรือรีบกลับ) บางทีขับรถมอไซต์รับลูกจากโรงเรียนก็ตากฝนกันมาสองคนแม่ลูก จนเรามีงานทำที่อยู่ตัว เลยตัดสินใจออกรถเอง ดาวน์เอง ผ่อนเอง (1x,xxx) ซึ่งเราคิดแล้วว่าภาระส่วนนี้เราจ่ายไหว เพราะเพื่อความสะดวกในการเดินทางของเรากับลูก (เรื่องออกรถเราเคยถามแฟนแล้ว แต่เขาพูดเหมือนไม่จำเป็น พ่อกับแม่ก็มีรถใช้ของเขาก็ได้) ซึ่งปัจจุบันรถที่ออกมาช่วยได้มากเลยค่ะ เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก สามารถพาลูกเที่ยว ไม่ต้องกังวงเรื่องการแย่งใช้รถ ไม่ต้องกังวลเวลาไปไหนมาไหน มีอิสระในการเดินทางมากๆ
...แต่เมื่อเวลาผ่านไป การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป เรารู้สึกว่าแฟนไม่ช่วยค่าใช้จ่ายอะไรเลยค่ะ ไม่ช่วยจริงๆต้องทวง ถึงจะได้ ค่าใช้จ่ายลูกส่วนมากลูกอยู่กับเราค่าใช้จ่ายก็จะตกที่เรามากกว่าเขา เพราะเขาจะกลับมาแค่เสาร์ อาทิตย์ บางทีไปกินข้าวนอกบ้านก็หารกันบ้าง เขาออกบ้าง แต่รถที่ใช้ก็จะเป็นรถเรานะคะ หรือค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินก้อนเราก็ต้องออกก่อน แล้วให้เขามาผ่อนทีหลัง ซึ่งเราต้องทวง ไม่ทวงไม่ได้ค่ะ
...พฤติกรรมของแฟนตั้งแต่แรกๆเลย คือติดเพื่อนค่ะ ขนาดลูกเล็กๆยังออกไปหาเพื่อนดึกๆดื่นๆ จนมาปัจจุบันก็ยังออกไปนอกบ้านทุกคืนที่กลับมาช่วงเวลา 4 ทุ่ม -เที่ยงคืน นอนดึกตื่นสาย กว่าจะตื่นก็ 9-10 โมงเช้า พาลูกเราตื่นสาย กินข้าวช้าไปด้วย แล้วก็นอนดึก เพราะนานๆพ่อกลับมาทีลูกก็จะอยากรอพ่อนอนด้วย เรารู้สึกว่าทำให้ลูกเราเสียวินัยมาก บางทีก็นอนไม่ตื่นแล้วปล่อยให้ลูกเราเฝ้าโทรศัพท์แทน อีกอย่างเดี๋ยวนี้มีการสูบบุหรี่ และกินน้ำกท.มาก ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยเป็นอบบนี้เลย แต่พอแฟนมีงานทำพฤติกรรมเหล่านี้ก็ตามมา จนลูกพูด้ลยว่าสูบบุหรี่ทำไหม กินน้ำกท.ทำไหม
...มาทุกวันนี้เราเลยรู้สึกเหนื่อยใจค่ะ มานั่งคิดว่าทำไหมคนเป็นสามีภรรยากันทำไหมเราต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากกว่า ไหนจะดูแลลูก เพราะเราตื่นเช้ามาก็ต้องทำอาหาร เตรียมตัวให้ลูกไปโรงเรียน กลับมาก็ต้องเล่นกับลูก ดูแลลูก แต่กลับเขาสบายมากอยู่คนล่ะที่ ไม่ต้องรับภาระอะไร ลูกไม่ต้องดู เงินไม่ต้องช่วย เราเคยคุยเรื่องนี้ เขาพูดมาคำหนึ่งค่ะ ว่า เราเงินเดือนเยอะกว่า เราก็อึ้งค่ะ ไม่คิดว่าจะได้ยินแบบนี้ เพราะแค่ทำงานก็เหนื่อย ไหนจะต้องทำโอทีเพื่อให้มีเงินมากพอสำหรับลูกและผ่อนรถ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เพราะเขาก็ไม่เคยช่วยเหลืออยู่แล้ว แค่เอารถไปล้างให้ยังนับครั้งได้เลยค่ะ ไม่เคยทำให้ด้วยใจ แต่เราต้องบังคับ นอกจากนี้แฟนยังเคยมีนอกใจเรื่องผญ.เราเคยจับได้ 1 ครั้ง ตอนนั้นเราคิดนะคะว่าไม่สนใจเราไม่ว่า แต่นี้ไปสนใจคนอื่น มีเวลาให้คนอื่น มันใช่หรอ แล้วมาพูดว่าเราตะหากที่ไม่สนใจเค้า ทำให้เค้าต้องไปคุยกับคนอื่น เราอยากจะบอกนะคะ ว่าทุกวันนี้เราแทบไม่มีเวลาชีวิตเป็นของตัวเองเลยค่ะ ดูและลูก ทำงาน กลับบ้าน ดูแลลูก พาลูกนอน กว่าจะนอนเสร็จ ก็มา 3 ทุ่ม หลัง 3-4 ทุ่มถึงจะเป็นเวลาของเรา เราก็แทบจะทำอะไรไม่ได้แล้ว มีเวลานิดหน่อย แล้วก็รีบเข้านอนเพื่อเตรียมสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่พอเขากลับมาบ้าน ไม่ต้องรีบตื่น นอนสายๆ ไม่สนใจโลกในวัย 30 กว่า เราเห็นก็รับไม่ได้ ต่างจากเราที่ต้องตื่นมาทำงานบ้าน ทำข้าวรอลูก ซักผ้า ล้างจาน
...รู้สึกท้อมากเลย เหมือนทุกอย่างดำเนินชีวิตได้ด้วยตัวเราเอง เวลาท้อก็ไม่เยเป็นที่ปรึกษาชีวิตเหมืนต่างคนต่างอยู่
รู้สึกไม่มีความสุขในชีวิตคู่
...เราและแฟนอยู่กินกันมาสิบปี จดทะเบียนกันมีลูกสาวอายุ 8 ขวบ แฟนรับราชการ ส่วนเราพนักงานบริษัทเอกชน ช่วง 5 ปีหลังที่ผ่านมารู้สึกท้อแท้ และไม่มีกำลังใจมากเลยค่ะ น่าจะเพราะด้วยอายุที่มากขึ้น (ปัจจุบันอายุ 33) ความคิดเปลี่ยนไป ความคิดในการใช้ชีวิตคู่เปลี่ยนไป
...เริ่มแรกเราแต่งงานมาก็อยู่บ้านแฟน ตอนท้องต่างคนต่างยังไม่มีงานทำ จนเรามีงานทำก่อน และแฟนมารับราชการทีหลัง (ปัจจุบันแฟนเงินเดือนไม่เยอะมาก เรามีรายได้เป็น 2-2.5 เท่าของแฟน) แฟนรับราชการต่างจังหวัด กว่าจะกลับมาก็เสาร์ อาทิตย์
...ช่วงแรกๆตอนลูกเล็กๆเรารู้สึกลำบากมากค่ะ ไม่มีรถยนต์ มีแต่มอไซต์ ไปไหนมาไหนสองคนลำบาก เพราะแฟนทำงานต่างจังหวัดกัน (รถยนต์มีแต่ของพ่อแม่แฟน แต่บางทีจะใช้เวลาก็ชนกันทำให้ต้องรอกัน หรือรีบกลับ) บางทีขับรถมอไซต์รับลูกจากโรงเรียนก็ตากฝนกันมาสองคนแม่ลูก จนเรามีงานทำที่อยู่ตัว เลยตัดสินใจออกรถเอง ดาวน์เอง ผ่อนเอง (1x,xxx) ซึ่งเราคิดแล้วว่าภาระส่วนนี้เราจ่ายไหว เพราะเพื่อความสะดวกในการเดินทางของเรากับลูก (เรื่องออกรถเราเคยถามแฟนแล้ว แต่เขาพูดเหมือนไม่จำเป็น พ่อกับแม่ก็มีรถใช้ของเขาก็ได้) ซึ่งปัจจุบันรถที่ออกมาช่วยได้มากเลยค่ะ เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก สามารถพาลูกเที่ยว ไม่ต้องกังวงเรื่องการแย่งใช้รถ ไม่ต้องกังวลเวลาไปไหนมาไหน มีอิสระในการเดินทางมากๆ
...แต่เมื่อเวลาผ่านไป การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป เรารู้สึกว่าแฟนไม่ช่วยค่าใช้จ่ายอะไรเลยค่ะ ไม่ช่วยจริงๆต้องทวง ถึงจะได้ ค่าใช้จ่ายลูกส่วนมากลูกอยู่กับเราค่าใช้จ่ายก็จะตกที่เรามากกว่าเขา เพราะเขาจะกลับมาแค่เสาร์ อาทิตย์ บางทีไปกินข้าวนอกบ้านก็หารกันบ้าง เขาออกบ้าง แต่รถที่ใช้ก็จะเป็นรถเรานะคะ หรือค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินก้อนเราก็ต้องออกก่อน แล้วให้เขามาผ่อนทีหลัง ซึ่งเราต้องทวง ไม่ทวงไม่ได้ค่ะ
...พฤติกรรมของแฟนตั้งแต่แรกๆเลย คือติดเพื่อนค่ะ ขนาดลูกเล็กๆยังออกไปหาเพื่อนดึกๆดื่นๆ จนมาปัจจุบันก็ยังออกไปนอกบ้านทุกคืนที่กลับมาช่วงเวลา 4 ทุ่ม -เที่ยงคืน นอนดึกตื่นสาย กว่าจะตื่นก็ 9-10 โมงเช้า พาลูกเราตื่นสาย กินข้าวช้าไปด้วย แล้วก็นอนดึก เพราะนานๆพ่อกลับมาทีลูกก็จะอยากรอพ่อนอนด้วย เรารู้สึกว่าทำให้ลูกเราเสียวินัยมาก บางทีก็นอนไม่ตื่นแล้วปล่อยให้ลูกเราเฝ้าโทรศัพท์แทน อีกอย่างเดี๋ยวนี้มีการสูบบุหรี่ และกินน้ำกท.มาก ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยเป็นอบบนี้เลย แต่พอแฟนมีงานทำพฤติกรรมเหล่านี้ก็ตามมา จนลูกพูด้ลยว่าสูบบุหรี่ทำไหม กินน้ำกท.ทำไหม
...มาทุกวันนี้เราเลยรู้สึกเหนื่อยใจค่ะ มานั่งคิดว่าทำไหมคนเป็นสามีภรรยากันทำไหมเราต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่มากกว่า ไหนจะดูแลลูก เพราะเราตื่นเช้ามาก็ต้องทำอาหาร เตรียมตัวให้ลูกไปโรงเรียน กลับมาก็ต้องเล่นกับลูก ดูแลลูก แต่กลับเขาสบายมากอยู่คนล่ะที่ ไม่ต้องรับภาระอะไร ลูกไม่ต้องดู เงินไม่ต้องช่วย เราเคยคุยเรื่องนี้ เขาพูดมาคำหนึ่งค่ะ ว่า เราเงินเดือนเยอะกว่า เราก็อึ้งค่ะ ไม่คิดว่าจะได้ยินแบบนี้ เพราะแค่ทำงานก็เหนื่อย ไหนจะต้องทำโอทีเพื่อให้มีเงินมากพอสำหรับลูกและผ่อนรถ รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆอีก เพราะเขาก็ไม่เคยช่วยเหลืออยู่แล้ว แค่เอารถไปล้างให้ยังนับครั้งได้เลยค่ะ ไม่เคยทำให้ด้วยใจ แต่เราต้องบังคับ นอกจากนี้แฟนยังเคยมีนอกใจเรื่องผญ.เราเคยจับได้ 1 ครั้ง ตอนนั้นเราคิดนะคะว่าไม่สนใจเราไม่ว่า แต่นี้ไปสนใจคนอื่น มีเวลาให้คนอื่น มันใช่หรอ แล้วมาพูดว่าเราตะหากที่ไม่สนใจเค้า ทำให้เค้าต้องไปคุยกับคนอื่น เราอยากจะบอกนะคะ ว่าทุกวันนี้เราแทบไม่มีเวลาชีวิตเป็นของตัวเองเลยค่ะ ดูและลูก ทำงาน กลับบ้าน ดูแลลูก พาลูกนอน กว่าจะนอนเสร็จ ก็มา 3 ทุ่ม หลัง 3-4 ทุ่มถึงจะเป็นเวลาของเรา เราก็แทบจะทำอะไรไม่ได้แล้ว มีเวลานิดหน่อย แล้วก็รีบเข้านอนเพื่อเตรียมสำหรับวันพรุ่งนี้ แต่พอเขากลับมาบ้าน ไม่ต้องรีบตื่น นอนสายๆ ไม่สนใจโลกในวัย 30 กว่า เราเห็นก็รับไม่ได้ ต่างจากเราที่ต้องตื่นมาทำงานบ้าน ทำข้าวรอลูก ซักผ้า ล้างจาน
...รู้สึกท้อมากเลย เหมือนทุกอย่างดำเนินชีวิตได้ด้วยตัวเราเอง เวลาท้อก็ไม่เยเป็นที่ปรึกษาชีวิตเหมืนต่างคนต่างอยู่