สวัสดีครับ บทความนี้จะมารีวิวการเดินทางไปเกาหลีของผมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมเลือกใช้บริการสายการบินโลวคอสสัญชาติเกาหลีอย่าง T’Way Air ซึ่งเป็นการใช้บริการสายการบินนี้ครั้งที่สองของผมแล้ว หลังจากครั้งแรกเคยใช้บริการบินในประเทศจากโซล — เกาะเชจู (GMP-CJU) มาแล้ว ซึ่งผมได้เขียนรีวิวไว้เช่นกัน ถ้าใครสนใจก็สามารถอ่านได้จาก
ลิ้งค์นี้ครับ
รู้จักสายการบิน T’Way Air
สายการบิน T’Way Air เป็นสายการบินโลวคอส (Low Cost Carrier) สัญชาติเกาหลีใต้ เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2010 มีเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย มีเส้นทางบินไปหลายประเทศทั้งญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และไทย โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาลงที่ประเทศไทยก็มีหลายเส้นทางทั้งกรุงเทพฯ (ทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง) เชียงใหม่ เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่แล้วสายการบิน T’Way Air จะใช้เครื่องบิน Boeing 737–800 สำหรับเส้นทางบินโดยส่วนใหญ่ แต่เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ทางสายการบินได้รับมอบเครื่องบิน Airbus A330–300 มาจำนวน 3 ลำเพื่อใช้สำหรับบินในเส้นทางระหว่างประเทศที่เป็น Long-haul flight เช่น โซล-กรุงเทพฯ, โซล-สิงคโปร์, โซล-โอซาก้า และ โซล-ซิดนีย์ เป็นต้น
การจองตั๋วเครื่องบิน
[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมออกค่าใช้จ่ายเองในการเดินทางเองทั้งหมด ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรืบริษัท Travel Agency ใดๆ ทั้งสิ้น
ในการเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Travel Agency อย่าง Trip.com ซึ่งได้ตั๋วเครื่องบินช่วงเทศกาลสงกรานต์ในราคาค่อนข้างดีเลยครับ จองแยกขาไปและกลับ 2 bookings ราคารวมกันประมาณ 13,xxx บาทครับ ซึ่งจะได้น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องฟรี 15kg และกระเป๋า carry on อีก 10kg ครับ
การเช็คอิน
การเช็คอินของสายการบิน T’Way ที่สนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่ที่เค้าเตอร์แถว P นะครับ เนื่องจากผมซื้อตั๋วผ่าน Travel Agency จึงไม่สามารถทำ Online Check In ได้ จึงต้องมารอเช็คอินที่สนามบิน ซึ่งเค้าเตอร์เช็คอินของสายการบิน T’Way ที่สนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่ที่แถว “P” นะครับ ซึ่งจะเปิดให้เช็คอินได้ก่อนเวลาออกเดินทาง 3 ชม.ครับ
ก่อนเวลาเค้าเตอร์เช็คอินจะเปิด 1 ชม.ก็จะเริ่มเห็นมีผู้โดยสารมาต่อคิวรอเช็คอินแถวยาวแล้วครับ เพราะฉะนั้นก็แนะนำให้เผื่อเวลาการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิก็ดีนะครับ เพราะมีปริมาณผู้โดยสารค่อนข้างมาก
หลังจากเช็คอินก็จะได้รับ Boarding Pass พร้อมกับ Baggage Tag มาให้ ซึ่งตัว Baggage Tag จะเป็นลวดลาย Pokemon ด้วย น่ารักดีครับ เนื่องจาก T’Way Air ได้เป็น partner กับทาง Nintendo เพื่อใช้ Pokemon เป็น Characters บนเครื่องบินของ T’Way Air และมีบางเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินที่ Paint เป็นลาย Pokemon ด้วย เผื่อใครเป็นสาวก Pokemon ก็ไปตามหากันได้ครับ
การเดินทาง#1 BKK-ICN
Flight: TW102
Route: Bangkok (BKK) — Seoul (ICN)
Departure Time: 01:25 am
Arrival Time: 8:55 am
Duration: 5 Hours 30 Minutes
Aircraft: Airbus A330–300 (HL-8502)
Class: Economy
เที่ยวบินของ T’Way Air ที่ใช้เครื่องบิน Airbus A330–300 จะมีที่นั่งแบ่งเป็นสองระดับนะครับ ก็คือชั้นประหยัด Economy 335 ที่นั่งและชั้นธุรกิจ 12 ที่นั่ง ซึ่งชั้นธุรกิจจะเป็นที่นั่ง Premium Flatbed คล้ายๆ กับบนเครื่องบิน A330 ของ Thai Air Asia X เลยครับ
ซึ่งเครื่องบินที่จะบินไปเกาหลีวันนี้ เป็นเครื่องบินที่ T’Way Air รับมอบมาจาก Thai Air Asia X (XJ) อีกทีครับ แต่ว่าการจัดเรียงที่นั่งในชั้นประหยัดนั้นจะแตกต่างจาก XJ ตรงที่จะจัดเรียงแบบ 2–4–2 (แต่ถ้าเป็นเที่ยวบิน XJ ของ Thai Air Asia X จะจัดแบบ 3–3–3)
การเลือกที่นั่งสามารถจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ได้ (แบบเสียเงินเพิ่ม) หรือจะเลือกที่เค้าเตอร์ตอนเช็คอิน แต่เลือกได้แค่ว่าเป็นที่นั่ง Aisle หรือ Window แค่นั้นครับ
ที่นั่งบนเครื่อง A330–300 ของ T’Way Air ค่อนข้างกว้างมากครับ กว้างกว่าค่ามาตรฐานทั่วไป ความกว้าง 17.5 นิ้ว Seat Pitch 31–32 นิ้วเลยครับ ผมสูง 177 cm นั่งได้สบาย มีที่ว่างเหลือจากเข่าถึงเบาะที่นั่งด้านหน้าด้วย
เบาะที่นั่ง Paint สีดำทั้งหมด และมี Port USB ให้เราใช้สำหรับชาร์จมือถือได้ ตัว Seat Tray สามารถเปิดออกมาเพื่อนำมือถือหรือ iPad มาตั้งดูหนังได้ด้วยนะครับ ไม่ต้องพกที่ตั้งมือถือมาเอง
วิววันนี้มีเครื่องบินของ Henan Airlines อยู่เป็นเพื่อนไกลๆ ครับ กัปตันนำเครื่อง Taxi และ Take Off ได้อย่างค่อนข้างตรงเวลาเลยครับ เมื่อเครื่องไต่ระดับแล้ว บนเครื่องก็เริ่มปรับไฟให้มืดลงเพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนกันครับ
ระหว่างทางเราสามารถขอซื้อเครื่องดื่มรวมถึงอาหารต่างๆ บนเครื่องเพิ่มเติมได้นะครับ ซึ่งทางแอร์ก็จะเข็น Cart มาให้เราเลือกช้อปซื้อหาได้ครับ ราคาผมก็ว่าก็ไม่ได้แพงมากครับ ราคาก็พอรับได้ ถ้าใครหิวๆ ก็อาจจะลองเลือกสั่งอาหารทานได้ครับ แต่เมนูก็อาจจะไม่ได้มีให้เลือกมาก ยกเว้นแต่เราจะเลือกสั่งอาหารล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์มานะครับ ส่วนตัวผมนั้นก็นอนยาวๆ เลยครับจนก่อนถึงราวๆ 1 ชม. กัปตันก็เริ่มปรับแสงในห้องโดยสารให้สว่างขึ้นและแจกใบ Arrival Card ให้ได้กรอกกันครับ
และกัปตันก็นำเครื่องลงจอดที่สนามบินอินชอนก่อนเวลาเล็กน้อย ใช้เวลาเดินทางจริงประมาณ 5 ชม. 20 นาทีครับ
การเดินทาง#2 ICN-BKK
Flight: TW101
Route: Seoul (ICN) — Bangkok (BKK)
Departure Time: 7:50 pm
Arrival Time: 11:55 pm
Duration: 6 Hours 5 Minutes
Aircraft: Airbus A330–300 (HL-8502)
Class: Economy
ขากลับจากโซลไปกรุงเทพนั้น ถ้าเราใช้บริการของ T’Way Air นั้นไฟลท์จะบินช่วงหัวค่ำที่เกาหลีครับ ซึ่งผมได้เลือกใช้บริการ City Airport Check-in ที่สถานีรถไฟ Seoul Station ได้เลยตั้งแต่ตอนเช้า เพื่อ Check-in และโหลดกระเป๋าที่ในเมืองได้เลย สะดวกสบายมาก
City Airport Check-in
วิธีการก็คือให้เราไปที่สถานี Seoul Station ไปที่ Airport Railroad & City Airport Terminal ตรงนี้ครับ
ลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้น B2 ซึ่งเป็นชั้น Express Train ของรถไฟ Airport Railroad (AREX) โดยเราจะต้องซื้อตั๋วรถไฟกลับสนามบินของ AREX ที่เป็น Express Train ก่อนนะครับ ราคา 9,500 วอน (หรือจะซื้อผ่านออนไลน์ Agency มาก่อนก็ได้) ถึงจะสามารถใช้บริการ City Airport Terminal ได้
หลังจากนั้นก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเรามีไฟลท์บินกับ T’Way Air วันนี้ แล้วเราก็สามารถใช้ตั๋วที่เราซื้อมาจะมี QR Code เพื่อสแกนเข้าไปทำ Check-in และโหลดกระเป๋าได้เลย
ปัจจุบันที่ City Airport Terminal ที่ Seoul Station นี้จะใช้บริการได้เฉพาะผู้โดยสารที่บินกับสายการบินต่อไปนี้: T’Way Air, Jeju Air, Air Seoul, Air Busan, Asiana Airlines และ Korean Air ซึ่งเป็นสายการบินสัญชาติเกาหลีทั้งหมดนะครับ สายการบินอื่นๆ ยังไม่สามารถใช้บริการนี้ได้ครับ
เมื่อเราทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าแล้ว เราก็จะได้ Boarding Pass มาพร้อมเพื่อใช้ในการเดินทางได้เลย เราก็ไม่ต้องเดินลากกระเป๋าหรือหาที่ฝากกระเป๋าระหว่างวัน แถมยังมีเวลาให้ไปเที่ยวได้อีกพอสมควรเลยครับ ถือว่าเป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารดีมากเลยนะครับ
เมื่อถึงเวลาที่เราจองรอบรถไฟไว้ก็ให้กลับมาที่ Seoul Station เพื่อขึ้นรถไฟ AREX ไปสนามบินอินชอนนะครับ ซึ่งจะเป็น Express Train วิ่งตรงจาก Seoul Station ถึงสนามบินอินชอนแบบไม่แวะจอดสถานีไหนเลย ใช้เวลาเดินทาง 43 นาทีเท่านั้นครับ
เมื่อมาถึงสนามบินเราก็สามารถทำเรื่อง Tax Refund และผ่านด่าน Security Check เพื่อเข้าสู่เกทได้เลย ซึ่งจะช่วงประหยัดเวลาที่ต้องรอเช็คอินไปได้มาก มีเวลาไปใช้บริการต่างๆ ในสนามบินได้เต็มที่ เช่นผมก็มีเวลาไปทำ Tax Refund นั่งกินข้าวใน Lounge ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องรีบมากเหมือนแต่ก่อนครับ
หลังจากท้องอิ่มแล้วก็พร้อมขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้วครับ วันนี้เกทเราอยู่ที่เกท 108 จะต้องนั่งรถไฟต่อไปอีกทีนะครับ
เครื่องบินที่ใช้บินกลับไทยวันนี้ คือเครื่องบินลำเดียวกับขามาเลยครับ ดังนั้นผมก็คงไม่ได้รีวิวไฟลท์ขากลับแล้วนะครับ เพราะทุกอย่างเหมือนกับขามาหมดเลย ซึ่งกัปตันก็นำเครื่องออกเดินทางค่อนข้างตรงเวลาอีกเช่นเคย ใช้เวลาเดินทางจริงประมาณ 5 ชม. 46 นาทีก็ถึงไทยแล้วครับ
สรุป
การเดินทางไปกลับเกาหลีด้วยสายการบิน T’Way Air นั้นส่วนตัวผมก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยครับ เพราะใช้เครื่องบินลำใหญ่ นั่งสบาย ขาไม่ติด หลับสบายตลอดทาง และการเดินทางก็ออกตามตารางค่อนข้างตรงเวลาดีเลยทีเดียว อีกสิ่งที่ประทับใจคือ City Airport Terminal ที่ให้เราสามารถไปเช็คอินโหลดกระเป๋าได้ตั้งแต่ตอนเช้า ทำให้เรามีเวลาเที่ยวในเมืองโซลได้เพิ่มอีกเกือบๆ วันเลยทีเดียว ถือเป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารอย่างเราๆ ได้มากเลยครับ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวที่เกาหลีกันนะครับ Happy Travel!
[CR] รีวิวสายการบิน T’Way Air บินไปโซลด้วย Airbus A330–300 เครื่องใหญ่นั่งสบาย อัพเดต 2023
สวัสดีครับ บทความนี้จะมารีวิวการเดินทางไปเกาหลีของผมอีกครั้ง ครั้งนี้ผมเลือกใช้บริการสายการบินโลวคอสสัญชาติเกาหลีอย่าง T’Way Air ซึ่งเป็นการใช้บริการสายการบินนี้ครั้งที่สองของผมแล้ว หลังจากครั้งแรกเคยใช้บริการบินในประเทศจากโซล — เกาะเชจู (GMP-CJU) มาแล้ว ซึ่งผมได้เขียนรีวิวไว้เช่นกัน ถ้าใครสนใจก็สามารถอ่านได้จากลิ้งค์นี้ครับ
รู้จักสายการบิน T’Way Air
สายการบิน T’Way Air เป็นสายการบินโลวคอส (Low Cost Carrier) สัญชาติเกาหลีใต้ เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 2010 มีเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศมากมาย มีเส้นทางบินไปหลายประเทศทั้งญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และไทย โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาลงที่ประเทศไทยก็มีหลายเส้นทางทั้งกรุงเทพฯ (ทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง) เชียงใหม่ เป็นต้น
โดยส่วนใหญ่แล้วสายการบิน T’Way Air จะใช้เครื่องบิน Boeing 737–800 สำหรับเส้นทางบินโดยส่วนใหญ่ แต่เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ทางสายการบินได้รับมอบเครื่องบิน Airbus A330–300 มาจำนวน 3 ลำเพื่อใช้สำหรับบินในเส้นทางระหว่างประเทศที่เป็น Long-haul flight เช่น โซล-กรุงเทพฯ, โซล-สิงคโปร์, โซล-โอซาก้า และ โซล-ซิดนีย์ เป็นต้น
การจองตั๋วเครื่องบิน
[Disclosure] การเดินทางครั้งนี้ผมออกค่าใช้จ่ายเองในการเดินทางเองทั้งหมด ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จากสายการบินหรืบริษัท Travel Agency ใดๆ ทั้งสิ้น
ในการเดินทางครั้งนี้ ผมเลือกจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Travel Agency อย่าง Trip.com ซึ่งได้ตั๋วเครื่องบินช่วงเทศกาลสงกรานต์ในราคาค่อนข้างดีเลยครับ จองแยกขาไปและกลับ 2 bookings ราคารวมกันประมาณ 13,xxx บาทครับ ซึ่งจะได้น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องฟรี 15kg และกระเป๋า carry on อีก 10kg ครับ
การเช็คอิน
การเช็คอินของสายการบิน T’Way ที่สนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่ที่เค้าเตอร์แถว P นะครับ เนื่องจากผมซื้อตั๋วผ่าน Travel Agency จึงไม่สามารถทำ Online Check In ได้ จึงต้องมารอเช็คอินที่สนามบิน ซึ่งเค้าเตอร์เช็คอินของสายการบิน T’Way ที่สนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่ที่แถว “P” นะครับ ซึ่งจะเปิดให้เช็คอินได้ก่อนเวลาออกเดินทาง 3 ชม.ครับ
ก่อนเวลาเค้าเตอร์เช็คอินจะเปิด 1 ชม.ก็จะเริ่มเห็นมีผู้โดยสารมาต่อคิวรอเช็คอินแถวยาวแล้วครับ เพราะฉะนั้นก็แนะนำให้เผื่อเวลาการเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิก็ดีนะครับ เพราะมีปริมาณผู้โดยสารค่อนข้างมาก
หลังจากเช็คอินก็จะได้รับ Boarding Pass พร้อมกับ Baggage Tag มาให้ ซึ่งตัว Baggage Tag จะเป็นลวดลาย Pokemon ด้วย น่ารักดีครับ เนื่องจาก T’Way Air ได้เป็น partner กับทาง Nintendo เพื่อใช้ Pokemon เป็น Characters บนเครื่องบินของ T’Way Air และมีบางเที่ยวบินที่ใช้เครื่องบินที่ Paint เป็นลาย Pokemon ด้วย เผื่อใครเป็นสาวก Pokemon ก็ไปตามหากันได้ครับ
การเดินทาง#1 BKK-ICN
Flight: TW102
Route: Bangkok (BKK) — Seoul (ICN)
Departure Time: 01:25 am
Arrival Time: 8:55 am
Duration: 5 Hours 30 Minutes
Aircraft: Airbus A330–300 (HL-8502)
Class: Economy
เที่ยวบินของ T’Way Air ที่ใช้เครื่องบิน Airbus A330–300 จะมีที่นั่งแบ่งเป็นสองระดับนะครับ ก็คือชั้นประหยัด Economy 335 ที่นั่งและชั้นธุรกิจ 12 ที่นั่ง ซึ่งชั้นธุรกิจจะเป็นที่นั่ง Premium Flatbed คล้ายๆ กับบนเครื่องบิน A330 ของ Thai Air Asia X เลยครับ
ซึ่งเครื่องบินที่จะบินไปเกาหลีวันนี้ เป็นเครื่องบินที่ T’Way Air รับมอบมาจาก Thai Air Asia X (XJ) อีกทีครับ แต่ว่าการจัดเรียงที่นั่งในชั้นประหยัดนั้นจะแตกต่างจาก XJ ตรงที่จะจัดเรียงแบบ 2–4–2 (แต่ถ้าเป็นเที่ยวบิน XJ ของ Thai Air Asia X จะจัดแบบ 3–3–3)
การเลือกที่นั่งสามารถจองล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ได้ (แบบเสียเงินเพิ่ม) หรือจะเลือกที่เค้าเตอร์ตอนเช็คอิน แต่เลือกได้แค่ว่าเป็นที่นั่ง Aisle หรือ Window แค่นั้นครับ
ที่นั่งบนเครื่อง A330–300 ของ T’Way Air ค่อนข้างกว้างมากครับ กว้างกว่าค่ามาตรฐานทั่วไป ความกว้าง 17.5 นิ้ว Seat Pitch 31–32 นิ้วเลยครับ ผมสูง 177 cm นั่งได้สบาย มีที่ว่างเหลือจากเข่าถึงเบาะที่นั่งด้านหน้าด้วย
เบาะที่นั่ง Paint สีดำทั้งหมด และมี Port USB ให้เราใช้สำหรับชาร์จมือถือได้ ตัว Seat Tray สามารถเปิดออกมาเพื่อนำมือถือหรือ iPad มาตั้งดูหนังได้ด้วยนะครับ ไม่ต้องพกที่ตั้งมือถือมาเอง
วิววันนี้มีเครื่องบินของ Henan Airlines อยู่เป็นเพื่อนไกลๆ ครับ กัปตันนำเครื่อง Taxi และ Take Off ได้อย่างค่อนข้างตรงเวลาเลยครับ เมื่อเครื่องไต่ระดับแล้ว บนเครื่องก็เริ่มปรับไฟให้มืดลงเพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนกันครับ
ระหว่างทางเราสามารถขอซื้อเครื่องดื่มรวมถึงอาหารต่างๆ บนเครื่องเพิ่มเติมได้นะครับ ซึ่งทางแอร์ก็จะเข็น Cart มาให้เราเลือกช้อปซื้อหาได้ครับ ราคาผมก็ว่าก็ไม่ได้แพงมากครับ ราคาก็พอรับได้ ถ้าใครหิวๆ ก็อาจจะลองเลือกสั่งอาหารทานได้ครับ แต่เมนูก็อาจจะไม่ได้มีให้เลือกมาก ยกเว้นแต่เราจะเลือกสั่งอาหารล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์มานะครับ ส่วนตัวผมนั้นก็นอนยาวๆ เลยครับจนก่อนถึงราวๆ 1 ชม. กัปตันก็เริ่มปรับแสงในห้องโดยสารให้สว่างขึ้นและแจกใบ Arrival Card ให้ได้กรอกกันครับ
และกัปตันก็นำเครื่องลงจอดที่สนามบินอินชอนก่อนเวลาเล็กน้อย ใช้เวลาเดินทางจริงประมาณ 5 ชม. 20 นาทีครับ
การเดินทาง#2 ICN-BKK
Flight: TW101
Route: Seoul (ICN) — Bangkok (BKK)
Departure Time: 7:50 pm
Arrival Time: 11:55 pm
Duration: 6 Hours 5 Minutes
Aircraft: Airbus A330–300 (HL-8502)
Class: Economy
ขากลับจากโซลไปกรุงเทพนั้น ถ้าเราใช้บริการของ T’Way Air นั้นไฟลท์จะบินช่วงหัวค่ำที่เกาหลีครับ ซึ่งผมได้เลือกใช้บริการ City Airport Check-in ที่สถานีรถไฟ Seoul Station ได้เลยตั้งแต่ตอนเช้า เพื่อ Check-in และโหลดกระเป๋าที่ในเมืองได้เลย สะดวกสบายมาก
City Airport Check-in
วิธีการก็คือให้เราไปที่สถานี Seoul Station ไปที่ Airport Railroad & City Airport Terminal ตรงนี้ครับ
ลงบันไดเลื่อนไปที่ชั้น B2 ซึ่งเป็นชั้น Express Train ของรถไฟ Airport Railroad (AREX) โดยเราจะต้องซื้อตั๋วรถไฟกลับสนามบินของ AREX ที่เป็น Express Train ก่อนนะครับ ราคา 9,500 วอน (หรือจะซื้อผ่านออนไลน์ Agency มาก่อนก็ได้) ถึงจะสามารถใช้บริการ City Airport Terminal ได้
หลังจากนั้นก็แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเรามีไฟลท์บินกับ T’Way Air วันนี้ แล้วเราก็สามารถใช้ตั๋วที่เราซื้อมาจะมี QR Code เพื่อสแกนเข้าไปทำ Check-in และโหลดกระเป๋าได้เลย
ปัจจุบันที่ City Airport Terminal ที่ Seoul Station นี้จะใช้บริการได้เฉพาะผู้โดยสารที่บินกับสายการบินต่อไปนี้: T’Way Air, Jeju Air, Air Seoul, Air Busan, Asiana Airlines และ Korean Air ซึ่งเป็นสายการบินสัญชาติเกาหลีทั้งหมดนะครับ สายการบินอื่นๆ ยังไม่สามารถใช้บริการนี้ได้ครับ
เมื่อเราทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋าแล้ว เราก็จะได้ Boarding Pass มาพร้อมเพื่อใช้ในการเดินทางได้เลย เราก็ไม่ต้องเดินลากกระเป๋าหรือหาที่ฝากกระเป๋าระหว่างวัน แถมยังมีเวลาให้ไปเที่ยวได้อีกพอสมควรเลยครับ ถือว่าเป็นบริการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารดีมากเลยนะครับ
เมื่อถึงเวลาที่เราจองรอบรถไฟไว้ก็ให้กลับมาที่ Seoul Station เพื่อขึ้นรถไฟ AREX ไปสนามบินอินชอนนะครับ ซึ่งจะเป็น Express Train วิ่งตรงจาก Seoul Station ถึงสนามบินอินชอนแบบไม่แวะจอดสถานีไหนเลย ใช้เวลาเดินทาง 43 นาทีเท่านั้นครับ
เมื่อมาถึงสนามบินเราก็สามารถทำเรื่อง Tax Refund และผ่านด่าน Security Check เพื่อเข้าสู่เกทได้เลย ซึ่งจะช่วงประหยัดเวลาที่ต้องรอเช็คอินไปได้มาก มีเวลาไปใช้บริการต่างๆ ในสนามบินได้เต็มที่ เช่นผมก็มีเวลาไปทำ Tax Refund นั่งกินข้าวใน Lounge ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องรีบมากเหมือนแต่ก่อนครับ
หลังจากท้องอิ่มแล้วก็พร้อมขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้วครับ วันนี้เกทเราอยู่ที่เกท 108 จะต้องนั่งรถไฟต่อไปอีกทีนะครับ
เครื่องบินที่ใช้บินกลับไทยวันนี้ คือเครื่องบินลำเดียวกับขามาเลยครับ ดังนั้นผมก็คงไม่ได้รีวิวไฟลท์ขากลับแล้วนะครับ เพราะทุกอย่างเหมือนกับขามาหมดเลย ซึ่งกัปตันก็นำเครื่องออกเดินทางค่อนข้างตรงเวลาอีกเช่นเคย ใช้เวลาเดินทางจริงประมาณ 5 ชม. 46 นาทีก็ถึงไทยแล้วครับ
สรุป
การเดินทางไปกลับเกาหลีด้วยสายการบิน T’Way Air นั้นส่วนตัวผมก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลยครับ เพราะใช้เครื่องบินลำใหญ่ นั่งสบาย ขาไม่ติด หลับสบายตลอดทาง และการเดินทางก็ออกตามตารางค่อนข้างตรงเวลาดีเลยทีเดียว อีกสิ่งที่ประทับใจคือ City Airport Terminal ที่ให้เราสามารถไปเช็คอินโหลดกระเป๋าได้ตั้งแต่ตอนเช้า ทำให้เรามีเวลาเที่ยวในเมืองโซลได้เพิ่มอีกเกือบๆ วันเลยทีเดียว ถือเป็นบริการที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารอย่างเราๆ ได้มากเลยครับ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวที่เกาหลีกันนะครับ Happy Travel!
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้