ตอน ม.1-ม.2 เราเรียนไม่เก่งวิชาคณิตศาสตร์กับวิทยาศาสตร์เลยค่ะ เรียนยังไงมันก็ไม่เข้าหัวเลย ตอนสอบเก็บคะแนนเราก็พยายามอ่านๆแล้วจำไปเขียนในห้องสอบเอาถ้าเป็นวิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนก็ยังพอดูได้บ้าง เกรดก็ได้ 4 เพราะทำงานส่งล้วนๆ แต่พอมาเป็นคณิตศาสตร์ที่ต้องทำความเข้าใจเราทำไม่ได้เลยค่ะ ต้องสอบแก้แทบทุกครั้ง ตอนสอบเราอยากร้องไห้ทุกครั้งเลยค่ะที่เห็นข้อสอบแล้วรัสึกสิ้นหวังเพราะทำไม่ได้เลย เราตั้งใจเรียนตั้งใจฟังครูในคาบทุกครั้งนะคะ มันก็เหมือนจะเข้าใจ เลยติวเพิ่มจำสูตรเพิ่มก่อนสอบทุกรอบ แต่สุดท้ายพอไปอยู่หน้ากระดาษข้อสอบเราทำไม่ได้เลยค่ะ เกรดที่ออกมาตอน ม.1-ม.2 ในวิชาคณิตศาสตร์เลยได้แค่เกรด 2-3 ไม่เคยได้เกรด 4 เลยค่ะ
แต่ตอนนี้เรากำลังจะขึ้น ม.3 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เรายังกังวลใจอยู่ตลอดเลยค่ะว่าจะเอายังไงดีกับสายที่ตัวเองจะเลือกตอนขึ้น ม.ปลาย เราจะทำได้รึเปล่า เพราะสายที่เราอยากไปต่อคือสายวิทย์-คณิตค่ะ เพราะเราอยากเรียนคณะแพทย์ เราอยากเป็นหมอมากๆ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ดันมาเก่งด้านภาษา ด้านศิลปะ ไม่ว่าจะวาดรูประบายสี ร้องเพลง เล่นดนตรี เราทำได้หมดเลยค่ะ ถ้าเราไปวิทย์-คณิตไม่ได้แล้วเราไปต่อสายศิลป์แทนเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะเข้าคณะอะไรในตอนมหาลัย เพราะใจเราก็อยากเป็นหมอ เราไม่ได้คิดไว้เลยว่าอาชีพรองเราจะทำอะไรดี
เราเลยอยากรู้ว่าถ้ามาพยายามในตอน ม.3 อีกซักครั้งมันจะยังพอทันมั้ยคะ หรือเราควรจะตัดใจแล้วคิดแผนสำรองไว้ก่อนดีกว่า เพราะยังไงมันก็มีเวลาอีกแค่ปีเดียวในการเตรียมตัว มันก็ค่อนข้างเสี่ยงถ้าจะไปคิดหน้างานเลยทีเดียว
ุยังไงก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ🙇🏻♀️
ถ้าตอน ม.1-ม.2 เรียนไม่เก่งในวิชาที่ตรงตามสายที่อยากเข้าเลย ทุกคนคิดว่า ม.3 ยังพอแก้ตัวทันมั้ยคะ ?
แต่ตอนนี้เรากำลังจะขึ้น ม.3 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เรายังกังวลใจอยู่ตลอดเลยค่ะว่าจะเอายังไงดีกับสายที่ตัวเองจะเลือกตอนขึ้น ม.ปลาย เราจะทำได้รึเปล่า เพราะสายที่เราอยากไปต่อคือสายวิทย์-คณิตค่ะ เพราะเราอยากเรียนคณะแพทย์ เราอยากเป็นหมอมากๆ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ดันมาเก่งด้านภาษา ด้านศิลปะ ไม่ว่าจะวาดรูประบายสี ร้องเพลง เล่นดนตรี เราทำได้หมดเลยค่ะ ถ้าเราไปวิทย์-คณิตไม่ได้แล้วเราไปต่อสายศิลป์แทนเราก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจะเข้าคณะอะไรในตอนมหาลัย เพราะใจเราก็อยากเป็นหมอ เราไม่ได้คิดไว้เลยว่าอาชีพรองเราจะทำอะไรดี
เราเลยอยากรู้ว่าถ้ามาพยายามในตอน ม.3 อีกซักครั้งมันจะยังพอทันมั้ยคะ หรือเราควรจะตัดใจแล้วคิดแผนสำรองไว้ก่อนดีกว่า เพราะยังไงมันก็มีเวลาอีกแค่ปีเดียวในการเตรียมตัว มันก็ค่อนข้างเสี่ยงถ้าจะไปคิดหน้างานเลยทีเดียว
ุยังไงก็มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะคะ🙇🏻♀️