เราจะมาพูดถึง วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ กิจกรรม หลักสูตร การเรียนต่าง ๆ อย่างคร่าว ๆ ของคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรให้ฟังกันนะคะ
สาเหตุที่เราเขียนขึ้นมา ก็เพราะเรามองว่าส่วนเนื้อหาที่เราจะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นข้อสำคัญสำหรับการเลือกคณะ สาขา มหาวิทยาลัยที่จะศึกษาต่อเลยค่ะ
*ผิดพลาดประการใดทางผู้เขียนต้องขอโทษด้วยนะคะ
ที่ตั้งของคณะ
ก่อนอื่นที่เราจะต้องพูดถึงกันก่อนเลยก็คือที่ตั้งของตัวคณะค่ะ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรตั้งอยู่ที่วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐมค่ะ คณะอักษรของเราจะตั้งอยู่ใกล้กับประตูทรงพลค่ะ เดินไม่ไกลก็จะพบกับตึกเรียนของคณะซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายแล้วค่ะ
https://www.su.ac.th/th/images/sanamchandra_map.jpg (ภาพแผนที่ของมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์)
หลักสูตรของคณะ
ปัจจุบันหลักสูตรที่คณะใช้จะเป็นหลักสูตร ปี 2564 นะคะ สำหรับใครที่อยากเข้าสาขาไหน สามารถศึกษาได้ตามลิ้งค์ที่เราแนบไว้ด้านล่างนี้เลยนะคะ ส่วนใหญ่เกือบทุกสาขา เราจะมีวิชาเอกเป็นของตัวเองตามสาขานั้น และมีวิชาโทอีกตัวตามที่เราเลือกในสาขาอื่น แต่ก็มีบางสาขาวิชาที่มีเฉพาะเอกเดี่ยว หรือลงได้แค่เป็นสาขาวิชาโทเท่านั้นเช่นกันค่ะ สำหรับคนที่ยังไม่มีสาขาวิชาเอกและโท (ตามสาขาวิชาที่เลือกว่าเป็นเอกเดี่ยว หรือเอก-โท) หรือมีวิชาเอกแล้วแต่ยังไม่มีวิชาโท จะได้เลือกในช่วงปิดภาคเรียนเทอม 1 ของปี 2 ค่ะ
แอบกระซิบไว้ว่าถ้าหากอยากเลือกเรียนในสาขาวิชาภาษาปัจจุบันตะวันออก ( จีน ญี่ปุ่น เกาหลี) สามารถเลือกลงได้แค่ตัวเดียวเท่านั้นนะคะ ไม่สามารถเลือกเรียนสองตัวได้ อย่างเช่น หากเราเลือกเรียนวิชาเก็บสาขาภาษาจีนแล้ว เราจะไม่สามารถเลือกเรียนวิชาเก็บสาขาภาษาเกาหลีหรือภาษาญี่ปุ่นได้ค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่หวังว่าจะได้เรียน เอกจีน โทญี่ปุ่น เป็นต้น หมดสิทธิ์นะคะ ส่วนใครที่เลือกเรียนในโครงการพิเศษจะมีวิชาเอกเป็นเอเชียศึกษา และมีวิชาโทตามที่เลือกตอนสมัครเข้ามาค่ะ ( เวียดนาม เกาหลี จีน ญี่ปุ่น)
**เราแนะนำให้คนที่กำลังตัดสินใจ หรือกำลังหาตัวเลือกเพิ่มเติมในการยื่นสมัครมหาวิทยาลัย ศึกษาหลักสูตรกันให้ดี เราพิจารณาหลักสูตรของทุก ๆ คณะ สาขา มหาวิทยาลัยเป็นสำคัญในการเลือกเลยค่ะ
http://www.arts.su.ac.th/หลักสูตร/ปริญญาตรี/
การเรียน
สำหรับการเรียนเราคิดว่าแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาที่เราเลือกเลยค่ะ เราคิดว่าการเลือกลงวิชาเรียนในคณะเราค่อนข้างขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมาก ๆ มีอิสระในการเลือกเรียนค่อนข้างสูงค่ะ แต่บางวิชาในหลักสูตรก็อาจจะไม่เปิดได้เหมือนกันค่ะ เราต้องเช็คไว้ก่อนให้ดี เพราะถึงเราจะสามารถเลือกลงวิชาได้ค่อนข้างเยอะ แต่วิชานั้นก็อาจจะไม่เปิด หรืออาจจะเปิดรับจำนวนจำกัดได้ค่ะ แถมถ้าหากเวลาเรียนของวิชาที่อยากลงชนกัน ก็ต้องตัดสินใจอีกทีว่าจะเลือกลงตัวไหนกันแน่
ส่วนเรื่องอาจารย์ เท่าที่เราเรียนมา พวกวิชาบังคับต่าง ๆ อาจารย์สอนได้ดีเลยค่ะ แต่เราคิดว่าก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การสอนของอาจารย์ และการเรียนของแต่ละคนด้วย เพราะบางวิชา อาจารย์แต่ละเซคก็ต่างกันค่ะ อาจารย์บางท่านที่เราเรียนด้วยแล้วชอบ เพื่อนบางคนก็เรียนด้วยแล้วไม่ค่อยเข้าใจก็มีค่ะ ส่วนวิชาเก็บสาขาที่เราเลือกเอง เราเรียนวิชาสาขาของภาษาจีนกับอังกฤษนะคะ ตามความเห็นเราของภาษาจีนค่อนข้างดีเลยค่ะ อาจารย์กับเหล่าซือสอนดีมาก ๆ สอนอย่างละเอียด ไม่มีพื้นก็เรียนได้แน่นอน แค่ต้องขยันหน่อย เพราะอาจารย์ไปค่อนข้างไวค่ะ แต่ถ้ามีคำถามหรือปัญหาอะไรก็ปรึกษาอาจารย์และเหล่าซือได้เลยค่ะ ส่วนวิชาเก็บสาขาภาษาอังกฤษ เราว่าค่อนข้างขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าค่ะ เนื้อหาค่อนข้างยาก ต้องฝึกฝนเองเยอะ ๆ ค่ะ แต่ถ้าหากต้องการคำปรึกษาหรือให้อาจารย์ช่วยตรงไหน ก็สามารถบอกอาจารย์ได้เลยค่ะ
แนะนำไว้ก่อนสำหรับปี 1 ถ้าหากใครต้องการเข้าสาขาไหน แนะนำให้พยายามเข้ากลุ่มของสาขานั้น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่สร้างโดยคณะเองค่ะ หากลงทะเบียนไม่ได้หรือเกิดปัญหา ให้รีบแจ้งอาจารย์ประจำวิชาเลย จะได้ไม่พลาดสาขาวิชาที่เราตั้งใจไว้นะคะ
เพิ่มเติมเรื่องการเปิดปิดเทอม ภาคเรียนที่ 1 จะเปิดในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ปิดช่วงต้นพฤศจิกายน ภาคเรียนที่ 2 จะเปิดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนและปิดในช่วงปลายมีนาคมค่ะ ( ในช่วงปิดเทอม 1 จะมีเวลาปิดเทอมแค่เกือบเดือน แต่ช่วงปิดเทอม 2 จะมีเวลาถึงประมาณ 3 เดือนเลยค่ะ )
สำหรับรายละเอียดของแต่ละวิชาเราจะลงภายหลังในครั้งถัด ๆ ไปนะคะ (ตั้งใจไว้ว่าจะลงตั้งแต่ปี 1 จนจบเลย สามารถติดตามกันได้นะคะ)
หอพัก
หอพักในของทางมหาวิทยาลัยจะอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากคณะเราค่ะ อยู่แทบจะไกลสุดเลยถ้าเดินจากคณะอักษรฯ ไป (ลองดูภาพแผนที่ที่เราแปะลิ้งค์ไว้ในหัวข้อที่ตั้งของคณะได้นะคะ)
ส่วนหอพักนอกมีทั้งที่อยู่ซอยตรงข้ามประตูทรงพลเลย และซอยถัด ๆ ไปทางฝั่งเดียวกันค่ะ หอพักนอกรอบมหาวิทยาลัยมีค่อนข้างเยอะเลยค่ะ แล้วแต่ว่าจะชอบสไตล์ไหนกัน หอที่เราพอทราบว่ามีเด็กอักษรฯ พักอยู่ค่อนข้างเยอะก็จะเป็นหอพักในซอยทรงพล ซอย 3 กับหอพักที่เรียกกันว่าหอพักซอยชยาทิพค่ะ หอพักทรงพลซอย 3 จะเป็นหอพักที่ค่อนข้างเงียบ ร้านค้าไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นหอพักผู้หญิง มีหอพักชายแค่เพียงหอพักเดียวอยู่ทางด้านในค่ะ สามารถเดินจากตัวหอพักไปถึงคณะได้เลย ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่ะ ส่วนหอพักซอยชยาทิพ จะเป็นหอพักที่อยู่ในระแวกเดียวกันกับชยาทิพแมนชั่น บริเวณถนนจันทรคามพิทักษ์ ถนนสนามจันทร์ค่ะ แถบนี้จะมีร้านอาหารขายค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างคึกคักแม้ยามค่ำค่ะ แต่ถ้าจะเดินจากหอพักไปที่คณะค่อนข้างใช้เวลานานค่ะ นักศึกษาส่วนใหญ่ที่อยู่หอพักระแวกนั้นมักจะเลือกใช้มอเตอร์ไซค์กันค่ะ แต่นอกจากหอพักตามสถานที่ที่เรากล่าวมาก็ยังมีหอพักอื่นระแวกมหาวิทยาลัยที่ใกล้คณะจนสามารถเดินได้อีกนะคะ ลองหาข้อมูลกันเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
กิจกรรม
ในความเห็นส่วนตัวของเรา กิจกรรมภายในคณะและมหาวิทยาลัยมักจะเป็นการแข่งขันต่าง ๆ หรือลงสมัครเอาเองมากกว่าค่ะ อย่างคณะเราก็มีกิจกรรมให้ทำ แต่ว่าต้องลงทะเบียนเอาค่ะ ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากการแข่งขัน ก็มีคอนเสิร์ตบ้าง ขายของตามเทศกาลบ้างค่ะ โดยอาจจะให้นักศึกษาสมัครเข้าขายของ หรือเข้าประกวดร้องเพลง เล่นดนตรีที่เวทีที่จัดพร้อมกันกับการขายของค่ะ หรือบางกิจกรรมก็เป็นของภาควิชาต่าง ๆ โดยเฉพาะค่ะ อย่างหอสมุดก็มีกิจกรรมต่าง ๆ ของตัวเองเหมือนกันค่ะ เช่น ทับแก้วบุ๊คแฟร์ โดยจะมีสำนักพิมพ์ต่าง ๆ หรือร้านขายหนังสือ เข้ามาจัดบูธขายของในงาน และเชิญนักเขียนบางท่านมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ เป็นต้นค่ะ เราไม่ค่อยใช่สายกิจกรรมเท่าไหร่ก็เลยไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่ตามความเห็นส่วนตัว โดยสรุปเราคิดว่ากิจกรรมค่อนข้างน้อยอยู่เหมือนกันค่ะ บรรยากาศค่อนข้างจะสงบมากกว่า
วิถีชีวิต และ อื่น ๆ
ในด้านนี้เราไม่ใช่สายเที่ยวกลางคืนคงต้องข้ามไปนะคะ ส่วนเรื่องร้านค้าโดยรอบของมหาวิทยาลัย ก็มีร้านค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้มีห้างใกล้ ๆ ตัวมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ ที่ใกล้ ๆ ก็จะเป็นพวกโลตัส บิ๊กซี แต่ต้องอาศัยรถไปค่ะ เรามองว่าบรรยากาศของมหาวิทยาลัยค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับคนชอบความสงบพอสมควรค่ะ ถ้าใครเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิจกรรมอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ
ด้านอาหารการกิน
อาหารการกินของร้านที่ขายภายในมหาวิทยาลัยค่อนข้างราคาถูกนะคะ ถ้าเทียบกับที่กรุงเทพฯ รสชาติเราก็ว่าใช้ได้เลย ปริมาณก็เยอะด้วย และที่มหาวิทยาลัยจะมีตลาดกรีนทุกวันพุธ ตั้งแต่ช่วงประมาณสิบโมงถึงช่วงบ่ายสองนะคะ (ไม่ค่อยมั่นใจเวลาเท่าไหร่ค่ะ) และมีตลาดอินดี้ที่ด้านในแถวหอพักทุกวันค่ะ ร้านค้าตั้งเสร็จกันประมาณสี่โมงมีจนถึงทุ่มกว่าค่ะ (แต่ช่วงนั้นบางทีก็ไม่ค่อยมีอะไรขายแล้วค่ะ ขายกันไปหมดแล้ว) ส่วนโรงอาหารของทางมหาวิทยาลัย มีหลัก ๆ สองที่ด้วยกัน โรงยูเนี่ยน กับ โรงเพชรรัตน์ค่ะ จะเปิดกันจันทร์ถึงศุกร์ ปิดช่วงบ่ายสอง ส่วนวันเสาร์จะเปิดเฉพาะโรงยูเนี่ยน ส่วนวันอาทิตย์จะเปิดเฉพาะโรงเพชรรัตน์ค่ะ ร้านรอบ ๆ มหาวิทยาลัยมีทั้งถูกและแพงปะปนกันไปค่ะ
สถานที่ต่าง ๆ
สถานที่อื่น ๆ ที่นักศึกษานิยมอยู่กัน หลายคนก็จะอยู่ตามคณะตัวเองค่ะ อย่างคณะอักษรฯ ก็มีที่ให้นั่งกันทั้งใต้ตึก 36 ปี ใต้ตึก 50 ปี และแถวลานคณะเป็นต้นค่ะ สถานที่อื่น ๆ ที่นิยมกันก็จะเป็นหอสมุดของมหาวิทยาลัย และบริเวณโดยรอบ สะพานสระแก้ว พระราชวังสนามจันทร์ บริเวณด้านในแถวสนามเทนนิส (บริเวณที่มีตลาดอินดี้) เป็นต้นค่ะ โดยพระราชวังสนามจันทร์ และบริเวณด้านในแถวสนามเทนนิสจะนิยมอยู่กันในช่วงเย็นนะคะ
เราจะขออธิบายเพิ่มบางส่วนเกี่ยวกับหอสมุดของมหาวิทยาลัยนะคะ
หอสมุดของมหาวิทยาลัยมีทั้งส่วนของตึกหอสมุดฯ เอง และตึกหม่อมหลวงฯ ค่ะ ตึกหอสมุดฯ จะค่อนข้างเงียบ นักศึกษาจะมาอ่านหนังสือ ทำงานกัน ส่วนตึกหม่อมหลวงฯ จะค่อนข้างเสียงดังกว่า มีบอร์ดเกม ห้องดูหนัง และห้องคาราโอเกะค่ะ (ห้องคาราโอเกะเราไม่เคยไป ไม่รู้เป็นไงนะคะ แต่ห้องดูหนังมีแค่สองห้อง เป็นห้องติดกันเสียงของสองห้องส่งถึงกันค่ะ จองห้องล่วงหน้าก่อนใช้บริการสามสิบนาที ใช้บริการได้สองชั่วโมงค่ะ)
ในส่วนบริการของหอสมุด สำหรับนักศึกษาปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยสามารถยืมหนังสือได้สูงสุด 15 เล่ม เป็นเวลา 10 วันค่ะ หากต้องการยืมต่อสามารถยืมต่อได้เองเลยผ่านทางเว็บไซต์ของหอสมุดค่ะ (ยืมต่อได้จำนวนสองครั้ง ไม่สามารถยืมต่อได้หากมีคนอื่นทำการจองไว้ค่ะ) หากต้องการจองหนังสือก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจะต้องเป็นหนังสือที่ถูกยืมอยู่ หรือ อยู่ในวิทยาเขตอื่นนะคะ (เราสามารถยืมหนังสือของหอสมุดมหาวิทยาลัยศิลปากร ในวิทยาเขตอื่นได้ค่ะ หรือเราจะยืมหนังสือของวิทยาเขตที่เราเรียนอยู่ แล้วไปรับในวิทยาเขตอื่นที่เราสะดวกก็ได้เช่นกันค่ะ) นอกจากจะยืมหนังสือจากวิทยาเขตอื่นได้แล้ว เราก็ยังสามารถนำหนังสือไปคืนที่วิทยาเขตไหนก็ได้ที่เราสะดวกด้วยค่ะ เช่นเดียวกันกับที่เราสามารถเลือกวิทยาเขตที่เราสะดวกไปรับหนังสือที่จองไว้ได้ค่ะ หรือหากต้องการยืมหรือคืนผ่านทางไปรษณีย์ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่เราต้องชำระค่าใช้จ่ายเองนะคะ (เรื่องนี้ต้องติดต่อส่วนตัวไปทางหอสมุดค่ะ) หอสมุดยังขยายเวลาทำการให้นักศึกษาในช่วงการสอบอีกด้วยค่ะ โดยจันทร์ถึงศุกร์ ตึกหอสมุดฯ จะเปิดบริการจนถึงเที่ยงคืนเลยค่ะ นอกจากนี้หอสมุดยังมีบริการให้นักศึกษาทำการเสนอหนังสือที่สนใจที่หอสมุดยังไม่มีอีกด้วยค่ะ และยังมี กิจกรรมยืมไม่อั้นที่จะมีในช่วงปิดเทอมใหญ่ (ปิดเทอมช่วงซัมเมอร์ หลังจบเทอม 2) ซึ่งจะให้นักศึกษาที่ยังศึกษาต่อในปีการศึกษาถัดไปสามารถยืมหนังสือของหอสมุดวิทยาเขตตนเอง จำนวนเท่าไหร่ก็ได้ และกำหนดส่งคืนในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษาถัดไปค่ะ
ทางหอสมุดยังมีกิจกรรม และบริการอื่น ๆ อีกด้วยค่ะ สามารถติดตามกิจกรรมและบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทางลิ้งค์ที่เราแนบไว้เลยนะคะ
http://www.snc.lib.su.ac.th/libsnc/
https://www.facebook.com/suslibrary
การเดินทาง
เราคิดว่าการเดินทางไปสถานที่ไกล ๆ ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ หากไม่มีรถส่วนตัว แต่บางคนก็นั่งรถตู้ เรียกวิน เรียก Grab กันเอาค่ะ ส่วนเรื่องการเดินทางกลับบ้าน มีรถตู้อยู่แถวหน้ามหาวิทยาลัยไปส่งยังสถานที่ต่าง ๆ อยู่ค่ะ หลายคนที่รถตู้สามารถพากลับบ้านได้ก็เดินทางด้วยรถตู้กัน บางส่วนก็นั่งไปแถวรังสิตแล้วต่อรถอีกทีค่ะ
จบกันไปแล้วนะคะสำหรับการพูดถึงด้านต่าง ๆ ทั้งของคณะและทางมหาวิทยาลัยของเรา หากสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามกันได้เลยนะคะ ถ้าเราตอบได้จะช่วยตอบค่ะ หวังว่าจะช่วยในการตัดสินใจของทุกคนได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
อักษร ศิลปากร เป็นอย่างไร?
สาเหตุที่เราเขียนขึ้นมา ก็เพราะเรามองว่าส่วนเนื้อหาที่เราจะกล่าวถึงต่อไปนี้เป็นข้อสำคัญสำหรับการเลือกคณะ สาขา มหาวิทยาลัยที่จะศึกษาต่อเลยค่ะ
*ผิดพลาดประการใดทางผู้เขียนต้องขอโทษด้วยนะคะ
ที่ตั้งของคณะ
ก่อนอื่นที่เราจะต้องพูดถึงกันก่อนเลยก็คือที่ตั้งของตัวคณะค่ะ คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากรตั้งอยู่ที่วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐมค่ะ คณะอักษรของเราจะตั้งอยู่ใกล้กับประตูทรงพลค่ะ เดินไม่ไกลก็จะพบกับตึกเรียนของคณะซึ่งตั้งอยู่ทางด้านซ้ายแล้วค่ะ
https://www.su.ac.th/th/images/sanamchandra_map.jpg (ภาพแผนที่ของมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์)
หลักสูตรของคณะ
ปัจจุบันหลักสูตรที่คณะใช้จะเป็นหลักสูตร ปี 2564 นะคะ สำหรับใครที่อยากเข้าสาขาไหน สามารถศึกษาได้ตามลิ้งค์ที่เราแนบไว้ด้านล่างนี้เลยนะคะ ส่วนใหญ่เกือบทุกสาขา เราจะมีวิชาเอกเป็นของตัวเองตามสาขานั้น และมีวิชาโทอีกตัวตามที่เราเลือกในสาขาอื่น แต่ก็มีบางสาขาวิชาที่มีเฉพาะเอกเดี่ยว หรือลงได้แค่เป็นสาขาวิชาโทเท่านั้นเช่นกันค่ะ สำหรับคนที่ยังไม่มีสาขาวิชาเอกและโท (ตามสาขาวิชาที่เลือกว่าเป็นเอกเดี่ยว หรือเอก-โท) หรือมีวิชาเอกแล้วแต่ยังไม่มีวิชาโท จะได้เลือกในช่วงปิดภาคเรียนเทอม 1 ของปี 2 ค่ะ
แอบกระซิบไว้ว่าถ้าหากอยากเลือกเรียนในสาขาวิชาภาษาปัจจุบันตะวันออก ( จีน ญี่ปุ่น เกาหลี) สามารถเลือกลงได้แค่ตัวเดียวเท่านั้นนะคะ ไม่สามารถเลือกเรียนสองตัวได้ อย่างเช่น หากเราเลือกเรียนวิชาเก็บสาขาภาษาจีนแล้ว เราจะไม่สามารถเลือกเรียนวิชาเก็บสาขาภาษาเกาหลีหรือภาษาญี่ปุ่นได้ค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่หวังว่าจะได้เรียน เอกจีน โทญี่ปุ่น เป็นต้น หมดสิทธิ์นะคะ ส่วนใครที่เลือกเรียนในโครงการพิเศษจะมีวิชาเอกเป็นเอเชียศึกษา และมีวิชาโทตามที่เลือกตอนสมัครเข้ามาค่ะ ( เวียดนาม เกาหลี จีน ญี่ปุ่น)
**เราแนะนำให้คนที่กำลังตัดสินใจ หรือกำลังหาตัวเลือกเพิ่มเติมในการยื่นสมัครมหาวิทยาลัย ศึกษาหลักสูตรกันให้ดี เราพิจารณาหลักสูตรของทุก ๆ คณะ สาขา มหาวิทยาลัยเป็นสำคัญในการเลือกเลยค่ะ
http://www.arts.su.ac.th/หลักสูตร/ปริญญาตรี/
การเรียน
สำหรับการเรียนเราคิดว่าแตกต่างกันไปตามสาขาวิชาที่เราเลือกเลยค่ะ เราคิดว่าการเลือกลงวิชาเรียนในคณะเราค่อนข้างขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมาก ๆ มีอิสระในการเลือกเรียนค่อนข้างสูงค่ะ แต่บางวิชาในหลักสูตรก็อาจจะไม่เปิดได้เหมือนกันค่ะ เราต้องเช็คไว้ก่อนให้ดี เพราะถึงเราจะสามารถเลือกลงวิชาได้ค่อนข้างเยอะ แต่วิชานั้นก็อาจจะไม่เปิด หรืออาจจะเปิดรับจำนวนจำกัดได้ค่ะ แถมถ้าหากเวลาเรียนของวิชาที่อยากลงชนกัน ก็ต้องตัดสินใจอีกทีว่าจะเลือกลงตัวไหนกันแน่
ส่วนเรื่องอาจารย์ เท่าที่เราเรียนมา พวกวิชาบังคับต่าง ๆ อาจารย์สอนได้ดีเลยค่ะ แต่เราคิดว่าก็ขึ้นอยู่กับสไตล์การสอนของอาจารย์ และการเรียนของแต่ละคนด้วย เพราะบางวิชา อาจารย์แต่ละเซคก็ต่างกันค่ะ อาจารย์บางท่านที่เราเรียนด้วยแล้วชอบ เพื่อนบางคนก็เรียนด้วยแล้วไม่ค่อยเข้าใจก็มีค่ะ ส่วนวิชาเก็บสาขาที่เราเลือกเอง เราเรียนวิชาสาขาของภาษาจีนกับอังกฤษนะคะ ตามความเห็นเราของภาษาจีนค่อนข้างดีเลยค่ะ อาจารย์กับเหล่าซือสอนดีมาก ๆ สอนอย่างละเอียด ไม่มีพื้นก็เรียนได้แน่นอน แค่ต้องขยันหน่อย เพราะอาจารย์ไปค่อนข้างไวค่ะ แต่ถ้ามีคำถามหรือปัญหาอะไรก็ปรึกษาอาจารย์และเหล่าซือได้เลยค่ะ ส่วนวิชาเก็บสาขาภาษาอังกฤษ เราว่าค่อนข้างขึ้นอยู่กับตัวบุคคลมากกว่าค่ะ เนื้อหาค่อนข้างยาก ต้องฝึกฝนเองเยอะ ๆ ค่ะ แต่ถ้าหากต้องการคำปรึกษาหรือให้อาจารย์ช่วยตรงไหน ก็สามารถบอกอาจารย์ได้เลยค่ะ
แนะนำไว้ก่อนสำหรับปี 1 ถ้าหากใครต้องการเข้าสาขาไหน แนะนำให้พยายามเข้ากลุ่มของสาขานั้น ๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่สร้างโดยคณะเองค่ะ หากลงทะเบียนไม่ได้หรือเกิดปัญหา ให้รีบแจ้งอาจารย์ประจำวิชาเลย จะได้ไม่พลาดสาขาวิชาที่เราตั้งใจไว้นะคะ
เพิ่มเติมเรื่องการเปิดปิดเทอม ภาคเรียนที่ 1 จะเปิดในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ปิดช่วงต้นพฤศจิกายน ภาคเรียนที่ 2 จะเปิดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนและปิดในช่วงปลายมีนาคมค่ะ ( ในช่วงปิดเทอม 1 จะมีเวลาปิดเทอมแค่เกือบเดือน แต่ช่วงปิดเทอม 2 จะมีเวลาถึงประมาณ 3 เดือนเลยค่ะ )
สำหรับรายละเอียดของแต่ละวิชาเราจะลงภายหลังในครั้งถัด ๆ ไปนะคะ (ตั้งใจไว้ว่าจะลงตั้งแต่ปี 1 จนจบเลย สามารถติดตามกันได้นะคะ)
หอพัก
หอพักในของทางมหาวิทยาลัยจะอยู่ค่อนข้างห่างไกลจากคณะเราค่ะ อยู่แทบจะไกลสุดเลยถ้าเดินจากคณะอักษรฯ ไป (ลองดูภาพแผนที่ที่เราแปะลิ้งค์ไว้ในหัวข้อที่ตั้งของคณะได้นะคะ)
ส่วนหอพักนอกมีทั้งที่อยู่ซอยตรงข้ามประตูทรงพลเลย และซอยถัด ๆ ไปทางฝั่งเดียวกันค่ะ หอพักนอกรอบมหาวิทยาลัยมีค่อนข้างเยอะเลยค่ะ แล้วแต่ว่าจะชอบสไตล์ไหนกัน หอที่เราพอทราบว่ามีเด็กอักษรฯ พักอยู่ค่อนข้างเยอะก็จะเป็นหอพักในซอยทรงพล ซอย 3 กับหอพักที่เรียกกันว่าหอพักซอยชยาทิพค่ะ หอพักทรงพลซอย 3 จะเป็นหอพักที่ค่อนข้างเงียบ ร้านค้าไม่เยอะ ส่วนใหญ่เป็นหอพักผู้หญิง มีหอพักชายแค่เพียงหอพักเดียวอยู่ทางด้านในค่ะ สามารถเดินจากตัวหอพักไปถึงคณะได้เลย ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่ะ ส่วนหอพักซอยชยาทิพ จะเป็นหอพักที่อยู่ในระแวกเดียวกันกับชยาทิพแมนชั่น บริเวณถนนจันทรคามพิทักษ์ ถนนสนามจันทร์ค่ะ แถบนี้จะมีร้านอาหารขายค่อนข้างเยอะ ค่อนข้างคึกคักแม้ยามค่ำค่ะ แต่ถ้าจะเดินจากหอพักไปที่คณะค่อนข้างใช้เวลานานค่ะ นักศึกษาส่วนใหญ่ที่อยู่หอพักระแวกนั้นมักจะเลือกใช้มอเตอร์ไซค์กันค่ะ แต่นอกจากหอพักตามสถานที่ที่เรากล่าวมาก็ยังมีหอพักอื่นระแวกมหาวิทยาลัยที่ใกล้คณะจนสามารถเดินได้อีกนะคะ ลองหาข้อมูลกันเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
กิจกรรม
ในความเห็นส่วนตัวของเรา กิจกรรมภายในคณะและมหาวิทยาลัยมักจะเป็นการแข่งขันต่าง ๆ หรือลงสมัครเอาเองมากกว่าค่ะ อย่างคณะเราก็มีกิจกรรมให้ทำ แต่ว่าต้องลงทะเบียนเอาค่ะ ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากการแข่งขัน ก็มีคอนเสิร์ตบ้าง ขายของตามเทศกาลบ้างค่ะ โดยอาจจะให้นักศึกษาสมัครเข้าขายของ หรือเข้าประกวดร้องเพลง เล่นดนตรีที่เวทีที่จัดพร้อมกันกับการขายของค่ะ หรือบางกิจกรรมก็เป็นของภาควิชาต่าง ๆ โดยเฉพาะค่ะ อย่างหอสมุดก็มีกิจกรรมต่าง ๆ ของตัวเองเหมือนกันค่ะ เช่น ทับแก้วบุ๊คแฟร์ โดยจะมีสำนักพิมพ์ต่าง ๆ หรือร้านขายหนังสือ เข้ามาจัดบูธขายของในงาน และเชิญนักเขียนบางท่านมาร่วมพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ เป็นต้นค่ะ เราไม่ค่อยใช่สายกิจกรรมเท่าไหร่ก็เลยไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่ตามความเห็นส่วนตัว โดยสรุปเราคิดว่ากิจกรรมค่อนข้างน้อยอยู่เหมือนกันค่ะ บรรยากาศค่อนข้างจะสงบมากกว่า
วิถีชีวิต และ อื่น ๆ
ในด้านนี้เราไม่ใช่สายเที่ยวกลางคืนคงต้องข้ามไปนะคะ ส่วนเรื่องร้านค้าโดยรอบของมหาวิทยาลัย ก็มีร้านค่อนข้างเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ไม่ได้มีห้างใกล้ ๆ ตัวมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ ที่ใกล้ ๆ ก็จะเป็นพวกโลตัส บิ๊กซี แต่ต้องอาศัยรถไปค่ะ เรามองว่าบรรยากาศของมหาวิทยาลัยค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะกับคนชอบความสงบพอสมควรค่ะ ถ้าใครเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิจกรรมอาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ค่ะ
ด้านอาหารการกิน
อาหารการกินของร้านที่ขายภายในมหาวิทยาลัยค่อนข้างราคาถูกนะคะ ถ้าเทียบกับที่กรุงเทพฯ รสชาติเราก็ว่าใช้ได้เลย ปริมาณก็เยอะด้วย และที่มหาวิทยาลัยจะมีตลาดกรีนทุกวันพุธ ตั้งแต่ช่วงประมาณสิบโมงถึงช่วงบ่ายสองนะคะ (ไม่ค่อยมั่นใจเวลาเท่าไหร่ค่ะ) และมีตลาดอินดี้ที่ด้านในแถวหอพักทุกวันค่ะ ร้านค้าตั้งเสร็จกันประมาณสี่โมงมีจนถึงทุ่มกว่าค่ะ (แต่ช่วงนั้นบางทีก็ไม่ค่อยมีอะไรขายแล้วค่ะ ขายกันไปหมดแล้ว) ส่วนโรงอาหารของทางมหาวิทยาลัย มีหลัก ๆ สองที่ด้วยกัน โรงยูเนี่ยน กับ โรงเพชรรัตน์ค่ะ จะเปิดกันจันทร์ถึงศุกร์ ปิดช่วงบ่ายสอง ส่วนวันเสาร์จะเปิดเฉพาะโรงยูเนี่ยน ส่วนวันอาทิตย์จะเปิดเฉพาะโรงเพชรรัตน์ค่ะ ร้านรอบ ๆ มหาวิทยาลัยมีทั้งถูกและแพงปะปนกันไปค่ะ
สถานที่ต่าง ๆ
สถานที่อื่น ๆ ที่นักศึกษานิยมอยู่กัน หลายคนก็จะอยู่ตามคณะตัวเองค่ะ อย่างคณะอักษรฯ ก็มีที่ให้นั่งกันทั้งใต้ตึก 36 ปี ใต้ตึก 50 ปี และแถวลานคณะเป็นต้นค่ะ สถานที่อื่น ๆ ที่นิยมกันก็จะเป็นหอสมุดของมหาวิทยาลัย และบริเวณโดยรอบ สะพานสระแก้ว พระราชวังสนามจันทร์ บริเวณด้านในแถวสนามเทนนิส (บริเวณที่มีตลาดอินดี้) เป็นต้นค่ะ โดยพระราชวังสนามจันทร์ และบริเวณด้านในแถวสนามเทนนิสจะนิยมอยู่กันในช่วงเย็นนะคะ
เราจะขออธิบายเพิ่มบางส่วนเกี่ยวกับหอสมุดของมหาวิทยาลัยนะคะ
หอสมุดของมหาวิทยาลัยมีทั้งส่วนของตึกหอสมุดฯ เอง และตึกหม่อมหลวงฯ ค่ะ ตึกหอสมุดฯ จะค่อนข้างเงียบ นักศึกษาจะมาอ่านหนังสือ ทำงานกัน ส่วนตึกหม่อมหลวงฯ จะค่อนข้างเสียงดังกว่า มีบอร์ดเกม ห้องดูหนัง และห้องคาราโอเกะค่ะ (ห้องคาราโอเกะเราไม่เคยไป ไม่รู้เป็นไงนะคะ แต่ห้องดูหนังมีแค่สองห้อง เป็นห้องติดกันเสียงของสองห้องส่งถึงกันค่ะ จองห้องล่วงหน้าก่อนใช้บริการสามสิบนาที ใช้บริการได้สองชั่วโมงค่ะ)
ในส่วนบริการของหอสมุด สำหรับนักศึกษาปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยสามารถยืมหนังสือได้สูงสุด 15 เล่ม เป็นเวลา 10 วันค่ะ หากต้องการยืมต่อสามารถยืมต่อได้เองเลยผ่านทางเว็บไซต์ของหอสมุดค่ะ (ยืมต่อได้จำนวนสองครั้ง ไม่สามารถยืมต่อได้หากมีคนอื่นทำการจองไว้ค่ะ) หากต้องการจองหนังสือก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยจะต้องเป็นหนังสือที่ถูกยืมอยู่ หรือ อยู่ในวิทยาเขตอื่นนะคะ (เราสามารถยืมหนังสือของหอสมุดมหาวิทยาลัยศิลปากร ในวิทยาเขตอื่นได้ค่ะ หรือเราจะยืมหนังสือของวิทยาเขตที่เราเรียนอยู่ แล้วไปรับในวิทยาเขตอื่นที่เราสะดวกก็ได้เช่นกันค่ะ) นอกจากจะยืมหนังสือจากวิทยาเขตอื่นได้แล้ว เราก็ยังสามารถนำหนังสือไปคืนที่วิทยาเขตไหนก็ได้ที่เราสะดวกด้วยค่ะ เช่นเดียวกันกับที่เราสามารถเลือกวิทยาเขตที่เราสะดวกไปรับหนังสือที่จองไว้ได้ค่ะ หรือหากต้องการยืมหรือคืนผ่านทางไปรษณีย์ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ แต่เราต้องชำระค่าใช้จ่ายเองนะคะ (เรื่องนี้ต้องติดต่อส่วนตัวไปทางหอสมุดค่ะ) หอสมุดยังขยายเวลาทำการให้นักศึกษาในช่วงการสอบอีกด้วยค่ะ โดยจันทร์ถึงศุกร์ ตึกหอสมุดฯ จะเปิดบริการจนถึงเที่ยงคืนเลยค่ะ นอกจากนี้หอสมุดยังมีบริการให้นักศึกษาทำการเสนอหนังสือที่สนใจที่หอสมุดยังไม่มีอีกด้วยค่ะ และยังมี กิจกรรมยืมไม่อั้นที่จะมีในช่วงปิดเทอมใหญ่ (ปิดเทอมช่วงซัมเมอร์ หลังจบเทอม 2) ซึ่งจะให้นักศึกษาที่ยังศึกษาต่อในปีการศึกษาถัดไปสามารถยืมหนังสือของหอสมุดวิทยาเขตตนเอง จำนวนเท่าไหร่ก็ได้ และกำหนดส่งคืนในช่วงเปิดภาคเรียนที่ 1 ของปีการศึกษาถัดไปค่ะ
ทางหอสมุดยังมีกิจกรรม และบริการอื่น ๆ อีกด้วยค่ะ สามารถติดตามกิจกรรมและบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ทางลิ้งค์ที่เราแนบไว้เลยนะคะ
http://www.snc.lib.su.ac.th/libsnc/
https://www.facebook.com/suslibrary
การเดินทาง
เราคิดว่าการเดินทางไปสถานที่ไกล ๆ ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ หากไม่มีรถส่วนตัว แต่บางคนก็นั่งรถตู้ เรียกวิน เรียก Grab กันเอาค่ะ ส่วนเรื่องการเดินทางกลับบ้าน มีรถตู้อยู่แถวหน้ามหาวิทยาลัยไปส่งยังสถานที่ต่าง ๆ อยู่ค่ะ หลายคนที่รถตู้สามารถพากลับบ้านได้ก็เดินทางด้วยรถตู้กัน บางส่วนก็นั่งไปแถวรังสิตแล้วต่อรถอีกทีค่ะ
จบกันไปแล้วนะคะสำหรับการพูดถึงด้านต่าง ๆ ทั้งของคณะและทางมหาวิทยาลัยของเรา หากสงสัยเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามกันได้เลยนะคะ ถ้าเราตอบได้จะช่วยตอบค่ะ หวังว่าจะช่วยในการตัดสินใจของทุกคนได้ไม่มากก็น้อยนะคะ