เวทีดีเบต ประชานิยม-ปฏิรูปเศรษฐกิจ แค่ขายฝัน หรือเพิ่มโอกาสทำกิน จาก3 พรรคการเมืองกับศึกเลือกตั้ง 66

ปัจจุบันปัญหาปากท้องของคนในประเทศนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก อัตราเงินเฟ้อเกิดขึ้นมากมายเกือบจะทุกประเทศในโลกในการเลือกตั้ง66 ครั้งนี้ เหล่าบรรดาพรรคการเมืองชั้นนำได้ยกนโยบายมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ละพรรคจะมีนโยบายอย่างไร ขายฝันหรือทำได้จริง มาถอดบทสัมภาษณ์แบบย่อๆให้อ่านง่ายๆกัน
 
 
 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ คณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย พรรคพลังประชารัฐ ของลุงป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวว่า ประเทศไทยต้องไม่ลืมว่าเราคือใคร พร้อมยกตัวอย่าง 3 ประเทศที่ก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจได้ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน ไทยเราเองมีเรื่องของเกษตรอยู่ในมือ และถ้า พปชร.เป็นรัฐบาล จะทำให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจได้มากกว่าหรือเท่ากับที่เพื่อไทยอ้างนายมิ่งขวัญ ส่งท้ายคำขวัญของ พปชร. ก้าวข้ามความขัดแย้ง ถ้าสามารถเลิกทะเลาะกันได้ จะพากันแก้ปัญหาและก้าวข้ามความยากจน พปชร. มีบัตรคนจน มีนโยบายผู้สูงอายุ มีนโยบายพลังงาน จะลดค่าครองชีพ ค่าน้ำมัน-แก๊ส-ค่าไฟ
แน่นอนว่าพรรคนี้เด่นสุดๆในเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้งอย่างชัดเจน เรียกว่าเน้นเจรจาประณีประนอม เพราะหลังจากแยกทางกับลุงตู่แล้ว ทั้งสองลุงก็ยังคงเป็นมิตรที่ดีต่อกันมาโดยตลอด 

 
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเมืองที่แท้จริง คือเพื่อเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยตั้งเป้าหมาย จะทำให้พี่น้องประชาชนมีเศรษฐกิจดีขึ้น ต้องทำให้ประชาชนนิยม พรรคเพื่อไทยจะเพิ่มรายได้เกษตรกร 3 เท่า รวมทั้งขยายรายได้ภาคการท่องเที่ยว และรัฐสนับสนุนภาคธุรกิจ แก้กฎหมายต่าง ๆ หากประชาชนไม่มีประชาธิปไตย ไม่มีเสรีภาพ ไม่ได้แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ นักรบทางเศรษฐกิจของเรา คือ ประชาชน จะไม่มีโอกาสแสดงศักยภาพเต็มที่ จึงจะเน้นแก้ความเหลื่อมล้ำและกฎหมาย พรรคเพื่อไทยขอเสนอตัวเป็นผู้นำความเปลี่ยนแปลงและผู้นำความหวัง ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน กระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งทำให้ประเทศโปร่งใส แก้ทุจริตคอร์รัปชัน
นโยบายพรรคเพื่อไทย อาจจะฟังยากไปนิดเพราะอาจจะต้องทำความเข้าใจกับคำว่า เทคโนโลยีบล็อกเชน กันอีกครั้ง แต่การเพิ่มรายได้ให้ชาวเกษตรกรนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีแบบสุดๆ เพราะประเทศของเป็นประเทศของการเกษตรอันดับต้นของโลก


 
มากันที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ไทยต้องมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ โดยขับเคลื่อน 4 ตัว คือ การใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุนจากต่างประเทศ การส่งออก และการใช้จ่ายภายในประเทศ ตนได้ไปพบเอกอัครราชทูตหลายประเทศ ทุกคนพูดเหมือนกันว่า 10 ปีจากนี้ไทยและอาเซียน จะเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก ต้องสร้างโอกาสให้ไทยเป็น “เฮลท์ ฮับ” ดูแลผู้สูงอายุทั่วโลกส่วนเรื่องประชานิยม พรรคภูมิใจไทยจะใช้นโยบายประชานิยมอย่างมีเหตุผล ไม่เกินตัว ไม่มอมเมาพี่น้องประชาชน ไม่สร้างภาระในอนาคตให้ประเทศ เมื่อถามว่า กัญชาเคยพูดว่าเป็นพืชเศรษฐกิจ-กระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า กัญชาของพรรคภูมิใจไทยสำเร็จไปแล้ว นำกัญชาออกจากยาเสพติด ส่วนใหญ่ทุกพรรคให้ความเห็นชอบหลักการกฎหมายกัญชา แต่เหตุผลทางการเมืองทำให้กฎหมายกัญชายังไม่ผ่านสภา แต่ไม่ได้ตก หากพรรคกลับไปจะผลักดันกฎหมายนี้
เรียกได้ว่าโดยหนักอยู่สำหรับความขัดแย้งเรื่องกัญชาเสรี ที่ที่ผ่านมาไม่มีการควบคุมดูแลอย่างทั่วถึง อย่างที่เห็นได้ตามสื่อเกี่ยวกับเยาวชนทดลองใช้กัญชา หากข้อนี้จัดการได้ กัญชาเสรีก็ถือว่าเป็นจุดเด่นกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้เหมือนกัน 
ต้องมาจับตาดูว่าโค้งสุดท้ายของแต่ละพรรคการเมืองจะปล่อยหมัดเด็ดอะไรออกมาเพื่อดึงเสียงเลือกตั้งจากประชาชน แต่เท่าที่ผ่านมาศึกการเลือกตั้ง66 นี้ ดุเดือด สูสีกันแบบเดาไม่ออกเลยว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 กันแน่ ความหวังของประเทศอยู่ที่ปลายปากกาของประชาชน 14 พฤษภาคม พ.ศ.2566 อย่าลืมออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันนะ 
ที่มา: https://www.thaipbs.or.th/now/content/120?fbclid=IwAR1p3BobYP3AkHaVSi1FHvUh5-6pMFWimYLynZYtDWV0sWr-RdMQADA9b4M
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่