วันนี้จะมาเล่าย้อนความหลัง เราทำจมูกแท่งนี้กับคลินิกนี้มาประมาณ2ปีได้
ครั้งแรกที่ไปทำตอนจบมอปลายใหม่ๆทุกคนพอจะนึกภาพออกไหมคะความอยากสวยก่อนเข้ามหาลัย
แน่นอนการที่เราจะศัลยกรรมหรือปรับเปลี่ยนอะไรให้กับตัวเองเราต้องคาดหวังให้มันออกมาดีอยู่แล้ว
เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ555 คือเราจอโปรกับคลินิกตัวBเมืองหลวงที่มีหลายสาขาในไทยไว้
ด้วยที่ตอนนั้นวัยนั้นเรามีงบจำกัดตามตัวเลขที่เขาวางไว้พอดี ตอนจองเราถามแอดมินคนตอบเพจคลินิกซ้ำๆว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไหม
เขาบอกไม่มี จบที่ราคาโปรนี้เลยเราก็โอเคเตรียมไปเท่านั้น ในโปรเขียนไว้ว่า ฟรีค่ายารวมไปเรียบร้อยแล้ว พอเราทำเสร็จเขาหิ้วุงยามาให้พร้อม
บิลค่ายาประมาณสองพันได้ในถุงมียาแก้ปวด ก้านสำลี ยาแผลแดง น้ำเกลือเล็ก และผ้ากลอส นี่คือแจ็กพอตแรก
แจ็กพอตที่สองมาเล่าถึงตอนทำ
พอเราทำการคลีนหน้าเสร็จก็ได้เวลาเข้าห้องผ่าศัลยกรรม เข้าไปเจอคุณหมอ(ผญ)เราก็สวัสดีเสร็จสรรพคำแรกที่หมอพูดคือ อยากได้ทรงไหนคะ เรายื่นเรฟให้ดู คือเรฟเราเอามาจากเพจของคลินิกคือเคสของคลินิก พอหมอดูเสร็จ เขาพูดขึ้นว่า แต่พี่คนนี้จมูกเขาเล็กไงตะมุตะมิ เอ้อแต่เขาแก้ด้วยนะ รอบแรกเขาก็ไม่สวยหรอกแต่เขามาแก้ก็โอเคละแต่มันต้องแก้นะถึงจะสวยเขาทำที่นี่ทั้งสองครั้งเลย เราเอะใจ แต่ยังไม่ตะหงิดใจ
จนนอนลงบนเตียงคุณหมอไม่ได้มีการนั่งวางแผนดูรูปทรงจมูกเราเลย ไม่มีการบอกว่าต้องทำแบบนี้ๆนะให้เรานอนฉีดยาชาแล้วยัดซิลิโคนเลยที่รู้สึกได้
และเราไม่ได้เห็นเขาเหลาหรือ ออกแบบใดใดทั้งสิ้น ด้วยความที่เรายังครั้งแรกเราคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แล้วหมอดูรีบทำมากๆและระหว่างการทำมีพูดคุยกับผู้ช่วยว่าต้องรีบไปไหนสักที่ เชื่อไหมเราใช้เวลาคุยบวกทำไม่เกิน30นาทีเสร็จ
แล้วอีกอย่างคลินิกไม่มีมีการตามคนไข้แต่อย่างใด ไม่ไดมีการดูแลหลังทำใดใดทั้งสิ้น
จนประมาณ สองเดือนได้ เราเริ่มเห็นทรงจมูกยอมรับเลยว่าไม่ปลื้มมากแต่ยังคิดว่ามันต้องรอให้เข้ารูป
จนเข้าเดือนที่6 เชื่อไหมเรายังหลอกตัวเองแบบนั้น แต่คนรอบตัวเราพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอาออกได้ไหม อย่างกะแม่มด โดนจนถึงตอนนี้
น้องเราที่อายุแค่สิบขวบเอามือมาชี้จมูกเราแล้วพูดว่าอันนี้จมูกจริงๆส่วนแบ่งที่รอยนี่คือที่คุณหมอเอาใส่ 55555ฝันร้ายมากๆ
เวลาถ่ายรูปเราต้องตุ้งตลอด กลายเป็นคนชอบใส่แมสไม่ม่ความมั่นใจมากๆ เรแค่อยากมาพูดเตือนและเล่าปสก ของเราเฉยๆงดดราม่าจ้า
เพราะคลินิกและหมอไร้จรรยาบรรณเราถึงต้องเป็นเคสหลุดและเสียความมั่นใจทุกอย่างไปเลย
รีวิวคลินิกศัลยกรรม ตัวBเมืองหลวง
ครั้งแรกที่ไปทำตอนจบมอปลายใหม่ๆทุกคนพอจะนึกภาพออกไหมคะความอยากสวยก่อนเข้ามหาลัย
แน่นอนการที่เราจะศัลยกรรมหรือปรับเปลี่ยนอะไรให้กับตัวเองเราต้องคาดหวังให้มันออกมาดีอยู่แล้ว
เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ555 คือเราจอโปรกับคลินิกตัวBเมืองหลวงที่มีหลายสาขาในไทยไว้
ด้วยที่ตอนนั้นวัยนั้นเรามีงบจำกัดตามตัวเลขที่เขาวางไว้พอดี ตอนจองเราถามแอดมินคนตอบเพจคลินิกซ้ำๆว่ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไหม
เขาบอกไม่มี จบที่ราคาโปรนี้เลยเราก็โอเคเตรียมไปเท่านั้น ในโปรเขียนไว้ว่า ฟรีค่ายารวมไปเรียบร้อยแล้ว พอเราทำเสร็จเขาหิ้วุงยามาให้พร้อม
บิลค่ายาประมาณสองพันได้ในถุงมียาแก้ปวด ก้านสำลี ยาแผลแดง น้ำเกลือเล็ก และผ้ากลอส นี่คือแจ็กพอตแรก
แจ็กพอตที่สองมาเล่าถึงตอนทำ
พอเราทำการคลีนหน้าเสร็จก็ได้เวลาเข้าห้องผ่าศัลยกรรม เข้าไปเจอคุณหมอ(ผญ)เราก็สวัสดีเสร็จสรรพคำแรกที่หมอพูดคือ อยากได้ทรงไหนคะ เรายื่นเรฟให้ดู คือเรฟเราเอามาจากเพจของคลินิกคือเคสของคลินิก พอหมอดูเสร็จ เขาพูดขึ้นว่า แต่พี่คนนี้จมูกเขาเล็กไงตะมุตะมิ เอ้อแต่เขาแก้ด้วยนะ รอบแรกเขาก็ไม่สวยหรอกแต่เขามาแก้ก็โอเคละแต่มันต้องแก้นะถึงจะสวยเขาทำที่นี่ทั้งสองครั้งเลย เราเอะใจ แต่ยังไม่ตะหงิดใจ
จนนอนลงบนเตียงคุณหมอไม่ได้มีการนั่งวางแผนดูรูปทรงจมูกเราเลย ไม่มีการบอกว่าต้องทำแบบนี้ๆนะให้เรานอนฉีดยาชาแล้วยัดซิลิโคนเลยที่รู้สึกได้
และเราไม่ได้เห็นเขาเหลาหรือ ออกแบบใดใดทั้งสิ้น ด้วยความที่เรายังครั้งแรกเราคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แล้วหมอดูรีบทำมากๆและระหว่างการทำมีพูดคุยกับผู้ช่วยว่าต้องรีบไปไหนสักที่ เชื่อไหมเราใช้เวลาคุยบวกทำไม่เกิน30นาทีเสร็จ
แล้วอีกอย่างคลินิกไม่มีมีการตามคนไข้แต่อย่างใด ไม่ไดมีการดูแลหลังทำใดใดทั้งสิ้น
จนประมาณ สองเดือนได้ เราเริ่มเห็นทรงจมูกยอมรับเลยว่าไม่ปลื้มมากแต่ยังคิดว่ามันต้องรอให้เข้ารูป
จนเข้าเดือนที่6 เชื่อไหมเรายังหลอกตัวเองแบบนั้น แต่คนรอบตัวเราพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอาออกได้ไหม อย่างกะแม่มด โดนจนถึงตอนนี้
น้องเราที่อายุแค่สิบขวบเอามือมาชี้จมูกเราแล้วพูดว่าอันนี้จมูกจริงๆส่วนแบ่งที่รอยนี่คือที่คุณหมอเอาใส่ 55555ฝันร้ายมากๆ
เวลาถ่ายรูปเราต้องตุ้งตลอด กลายเป็นคนชอบใส่แมสไม่ม่ความมั่นใจมากๆ เรแค่อยากมาพูดเตือนและเล่าปสก ของเราเฉยๆงดดราม่าจ้า
เพราะคลินิกและหมอไร้จรรยาบรรณเราถึงต้องเป็นเคสหลุดและเสียความมั่นใจทุกอย่างไปเลย