สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกคน
วันนี้เราขอมาเตือนภัยสำหรับคนที่หางานและบริษัทที่ชื่ออาจจะไม่คุ้นเคยกันค่ะ
Company Profile
- บริษัทแขวงคันนายาว เป็นบริษัท อีเว้นออกาไนซ์เซอร์ ซึ่ง 1 ปี จัดแค่1 ครั้ง
- เจ้าของบริษัทเป็นผู้หญิง (โดยการสนับสนุนของสามีเขา)
Situation
- ครั้งแรกที่จขกท ไปสัมภาษณ์ด้วยการชักชวน HR เก่าที่เคยร่วมงานด้วย ก็คิดว่าน่าลองไปสัมภาษณ์
- วันที่ไปสัมภาษณ์เจอกับ เจ้าของและ Project Director
- เป็น Home office พนักงานอยู่กันไม่เยอะ มี Admin และ Project Director ก็มองว่าเออคนน้อย ซึ่งเป็นปกติหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบ เพราะ จขกท ไม่เคย
ทำงาน event organizer มาก่อน
- แต่ความแปลกใจต่อมา หลังจากที่ผ่านการสัมภาษณ์ เขาต้องการให้เราไปเรียนรู้ก่อนในวันเสาร์ ซึ้งเขายินดีที่จะจ่ายเงิน เราก็ไปตามนั้น
- ช่วงสอนงาน ก็ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานชาวอินเดีย ซึ่งเขาก็มาใหม่เหมือนกัน แต่เขาเริ่มงานก่อนแล้ว
- ในระหว่างการสอนงานเขา ลักษณะจะเป็นของการอวยตัวเอง และอวยบริษัทตัวเองก่อน 50% และลงเนื้อหางาน 50% อันนี้เจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
- ระหว่างที่เรารอสัญญา เราก็ได้รับสาย Project Director ที่เขาสัมภาษณ์ เขาบอก เขามีเรื่องจะคุยกับเรา
- หลังจากที่คุยกันก็ได้ความว่า owner เป็นสาย gossip ชอบว่าคนนู้นที นินทาลูกน้องให้หัวหน้าฟัง นินทาหัวหน้า ให้ลูกน้องฟัง แถมเรื่องการจ่ายเงินเดือนที่ไม่สมเหตุ สมผล รวมทั้ง commission คาดว่าก็ไม่ได้ตามที่เราหวังก็ตาม ซึ่งเราฟังแล้วเราก็มีความคิดว่าเอ๋ทำไมเขาบอก เราเลยไปถามพี่ HR ที่เขาชวนเรามา
- พี่ hr ก็พูดเชิงเข้าข้างเจ้าของอีก นี้เลย พักเรื่องนี้ทิ้งไว้และไม่ไปใส่ใจต่อ
- ต่อมา ไม่นาน พี่ HR ก็บอกว่าเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียออกแล้วนะ สาเหตุที่ออกเป็นเพราะว่าเรื่องวีซ่า ที่ทางบริษัทไม่ได้ process ให้ ทั้งๆ ที่มีการตกลงเรื่องการทำ visa ตั้งแต่ต้น (หลังผ่านการทดลองงาน) แต่เรายังมีคอนแท๊ค เพื่อนชาวอินเดียอยู่เราเลยทักไปถามเขา เขาบอกเขาไม่ชอบบรรยากาศการทำงาน แค่นั้นไม่ได้พูดเยอะ
- วันเริ่มงาน เราไปที่อ๊อฟฟิส มีแอดมินใหม่ และพี่ KA ที่ทำเอกสาร เราก็ทำงาน ซึ่ง task แรก เขาจ้างมาให้เป็น พนักงานระดับบริหารทีม แต่ให้เราหาคนให้เขา ซึ้งเราก็สงสัยแต่ก็เข้าใจได้ว่า เขาขาดคนจริงๆ เพราะคนที่อ๊อฟฟิสไม่รวมตัวเขามีแค่ 3 คน
- ระหว่างนั้นเขาก็เล่าเรื่อง KA ที่ทำงานอยู่ว่า ไม่สามารถทำงานตามที่เขาคาดหวังได้ เขาไม่สามารถสามารถ google meet ได้ ซึ่งเราก็ไม่สนใจ
- ถัดไปจากวันเริ่มงาน 1 วัน KA และแอดมินออก กลายเป็นว่าเราต้องเป็นคนทำเอง ใน part ของ KA
- และเข้าเริ่มเล่าเรื่อง พี่HR ที่ชวนเรามาทำงานให้ฟัง ในเรื่องที่พี่ HR ทำระบบเขาเสียนู้นนี้นั้น ข้อมูลหายบ้าง เอาโทรศัพท์เขาไปด้วย แต่เรามาเช็คแล้ว พี่ HR เอาไปแค่ซิมเท่านั้น
- จากนั้นเราก็ค้นพบว่าการทำงานกับเขาไม่ง่าย เพราะนายทำงานแบบ emotional ล้วนๆ ต้องการให้ทำงานแบบห้ามรุ่งห้ามค่ำ
- Micro Management สุด สั่งงานเสาร์อาทิตย์ เวลาเลิกงาน ประจำ
- ส่งไลน์ให้อ่านก็ไม่ตอบ แต่ต้องการคำตอบถามใหม่อีกครั้ง
- ล่าสุดเขาบอกเราว่า เขาไม่หาจิตแพทย์เพราะเขาเครียดมาก เลยไปหาหมอ และตอนนี้ให้สามีมาดูแลฝั่ง sales แทน
- ซึ่งเราก็ต้อง report ฝั่งสามีเขา ทุกครั้งที่เจออะไรเราก็ report สามีเขาตลอด แต่เราก็โดนเขาว่า เพราะไม่ report เขา อันนี้คือความผิด
- ล่าสุดหลาย vendor ทักมาหาเราว่า ยังไม่สามารถทำงานต่อได้ เพราะเจ้าของยังไม่ชำระเงิน แม้กระทั้งค่าโทรศัพท์ น้องเซลล์เอง ยังไม่จ่ายให้ น้องเซลล์และเราต้องใช้เบอร์ส่วนตัวโทรหาลูกค้าเอง
- เราเองรู้สึกถึงสัญญานไม่ดีละ เราเลยบอกน้องในทีมที่เพิ่งมา ว่าจะออกแต่เราไม่แจ้งเขาก่อน ซึ่งมีประสบการณ์ว่าเงินเดือนออก แล้วออกยกทีม
- ซึ่งเราก็กลัวว่าเงินเดือนจะไม่ออกอีก ความซวยจะมา
อยากจะเตือนทุกคน ถ้าหากว่าบริษัทมีสัญญานไม่ดี ให้ออกเลยค่ะ อย่าเสียเวลาไม่งั้นแย่แน่นอน
ถ้าใครอยากรู้บริษัทอะไรหลังไมค์ได้ค่ะ
อยากเตือนภัยบริษัทไม่เป็นธรรม
วันนี้เราขอมาเตือนภัยสำหรับคนที่หางานและบริษัทที่ชื่ออาจจะไม่คุ้นเคยกันค่ะ
Company Profile
- บริษัทแขวงคันนายาว เป็นบริษัท อีเว้นออกาไนซ์เซอร์ ซึ่ง 1 ปี จัดแค่1 ครั้ง
- เจ้าของบริษัทเป็นผู้หญิง (โดยการสนับสนุนของสามีเขา)
Situation
- ครั้งแรกที่จขกท ไปสัมภาษณ์ด้วยการชักชวน HR เก่าที่เคยร่วมงานด้วย ก็คิดว่าน่าลองไปสัมภาษณ์
- วันที่ไปสัมภาษณ์เจอกับ เจ้าของและ Project Director
- เป็น Home office พนักงานอยู่กันไม่เยอะ มี Admin และ Project Director ก็มองว่าเออคนน้อย ซึ่งเป็นปกติหรือเปล่าอันนี้ไม่ทราบ เพราะ จขกท ไม่เคย
ทำงาน event organizer มาก่อน
- แต่ความแปลกใจต่อมา หลังจากที่ผ่านการสัมภาษณ์ เขาต้องการให้เราไปเรียนรู้ก่อนในวันเสาร์ ซึ้งเขายินดีที่จะจ่ายเงิน เราก็ไปตามนั้น
- ช่วงสอนงาน ก็ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานชาวอินเดีย ซึ่งเขาก็มาใหม่เหมือนกัน แต่เขาเริ่มงานก่อนแล้ว
- ในระหว่างการสอนงานเขา ลักษณะจะเป็นของการอวยตัวเอง และอวยบริษัทตัวเองก่อน 50% และลงเนื้อหางาน 50% อันนี้เจ้าของกระทู้ก็ไม่ได้ติดใจอะไร
- ระหว่างที่เรารอสัญญา เราก็ได้รับสาย Project Director ที่เขาสัมภาษณ์ เขาบอก เขามีเรื่องจะคุยกับเรา
- หลังจากที่คุยกันก็ได้ความว่า owner เป็นสาย gossip ชอบว่าคนนู้นที นินทาลูกน้องให้หัวหน้าฟัง นินทาหัวหน้า ให้ลูกน้องฟัง แถมเรื่องการจ่ายเงินเดือนที่ไม่สมเหตุ สมผล รวมทั้ง commission คาดว่าก็ไม่ได้ตามที่เราหวังก็ตาม ซึ่งเราฟังแล้วเราก็มีความคิดว่าเอ๋ทำไมเขาบอก เราเลยไปถามพี่ HR ที่เขาชวนเรามา
- พี่ hr ก็พูดเชิงเข้าข้างเจ้าของอีก นี้เลย พักเรื่องนี้ทิ้งไว้และไม่ไปใส่ใจต่อ
- ต่อมา ไม่นาน พี่ HR ก็บอกว่าเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียออกแล้วนะ สาเหตุที่ออกเป็นเพราะว่าเรื่องวีซ่า ที่ทางบริษัทไม่ได้ process ให้ ทั้งๆ ที่มีการตกลงเรื่องการทำ visa ตั้งแต่ต้น (หลังผ่านการทดลองงาน) แต่เรายังมีคอนแท๊ค เพื่อนชาวอินเดียอยู่เราเลยทักไปถามเขา เขาบอกเขาไม่ชอบบรรยากาศการทำงาน แค่นั้นไม่ได้พูดเยอะ
- วันเริ่มงาน เราไปที่อ๊อฟฟิส มีแอดมินใหม่ และพี่ KA ที่ทำเอกสาร เราก็ทำงาน ซึ่ง task แรก เขาจ้างมาให้เป็น พนักงานระดับบริหารทีม แต่ให้เราหาคนให้เขา ซึ้งเราก็สงสัยแต่ก็เข้าใจได้ว่า เขาขาดคนจริงๆ เพราะคนที่อ๊อฟฟิสไม่รวมตัวเขามีแค่ 3 คน
- ระหว่างนั้นเขาก็เล่าเรื่อง KA ที่ทำงานอยู่ว่า ไม่สามารถทำงานตามที่เขาคาดหวังได้ เขาไม่สามารถสามารถ google meet ได้ ซึ่งเราก็ไม่สนใจ
- ถัดไปจากวันเริ่มงาน 1 วัน KA และแอดมินออก กลายเป็นว่าเราต้องเป็นคนทำเอง ใน part ของ KA
- และเข้าเริ่มเล่าเรื่อง พี่HR ที่ชวนเรามาทำงานให้ฟัง ในเรื่องที่พี่ HR ทำระบบเขาเสียนู้นนี้นั้น ข้อมูลหายบ้าง เอาโทรศัพท์เขาไปด้วย แต่เรามาเช็คแล้ว พี่ HR เอาไปแค่ซิมเท่านั้น
- จากนั้นเราก็ค้นพบว่าการทำงานกับเขาไม่ง่าย เพราะนายทำงานแบบ emotional ล้วนๆ ต้องการให้ทำงานแบบห้ามรุ่งห้ามค่ำ
- Micro Management สุด สั่งงานเสาร์อาทิตย์ เวลาเลิกงาน ประจำ
- ส่งไลน์ให้อ่านก็ไม่ตอบ แต่ต้องการคำตอบถามใหม่อีกครั้ง
- ล่าสุดเขาบอกเราว่า เขาไม่หาจิตแพทย์เพราะเขาเครียดมาก เลยไปหาหมอ และตอนนี้ให้สามีมาดูแลฝั่ง sales แทน
- ซึ่งเราก็ต้อง report ฝั่งสามีเขา ทุกครั้งที่เจออะไรเราก็ report สามีเขาตลอด แต่เราก็โดนเขาว่า เพราะไม่ report เขา อันนี้คือความผิด
- ล่าสุดหลาย vendor ทักมาหาเราว่า ยังไม่สามารถทำงานต่อได้ เพราะเจ้าของยังไม่ชำระเงิน แม้กระทั้งค่าโทรศัพท์ น้องเซลล์เอง ยังไม่จ่ายให้ น้องเซลล์และเราต้องใช้เบอร์ส่วนตัวโทรหาลูกค้าเอง
- เราเองรู้สึกถึงสัญญานไม่ดีละ เราเลยบอกน้องในทีมที่เพิ่งมา ว่าจะออกแต่เราไม่แจ้งเขาก่อน ซึ่งมีประสบการณ์ว่าเงินเดือนออก แล้วออกยกทีม
- ซึ่งเราก็กลัวว่าเงินเดือนจะไม่ออกอีก ความซวยจะมา
อยากจะเตือนทุกคน ถ้าหากว่าบริษัทมีสัญญานไม่ดี ให้ออกเลยค่ะ อย่าเสียเวลาไม่งั้นแย่แน่นอน
ถ้าใครอยากรู้บริษัทอะไรหลังไมค์ได้ค่ะ