ผมหัดทำธุรกิจกับพ่อ ผมใช้เงินเก็บตัวเองทุกอย่าง
พ่อชอบทำเป็นพูดให้ผมได้ยินว่าโดยปกติเขาให้ประมาณนี้เหละพูดย้ำๆให้ผมได้ยิน
สุดท้ายก็รู้ว่า พ่อโกหกและพ่อหักกำไรไปเยอะ60%ผมได้40% คิดกับผมเป็นเงินทุกอย่าง
ต่อให้พ่อผมแบ่งกำไรให้ผมแบบ100% พ่อก็ไม่ได้เดือดร้อนแค่เศษเงิน
แต่นี่หักยิ่งกว่าเราเป็นคนนอกที่เป็นคู่ค้าร่วมกันซะอีก
เพราะมารู้ทีหลังธุรกิจนี้ราคาตลาดเขาไม่หักมากเท่าพ่อผม
ซึ่งต่างจากแม่ผม ผมได้เท่าไหร่ยกให้ผมหมดเลยเพราะแม่ถือว่าสนับสนุนผม เอ็นดูผม และแม่ก็ไม่ได้เดือดร้อนมีส่วนของแม่อยู่แล้ว
พ่อผมคิดกับผมทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง ไม่มีอะไรฟรีสักอย่าง หักเงินหมดเหลือเศษให้ผม ไม่มีเอ็นดูผมเลย
ทำให้ผมมีเงินเก็บน้อยมาก ก็เข้าใจว่าเป็นปกติในวงการธุรกิจ
แต่ในครอบครัวการทำแบบนี้ถือว่าปกติหรือเปล่าครับ
ปล.อ้ออย่าคิดว่าพอพ่อตายแล้วทรัพย์สินก็จะเป็นของผม เพราะพ่อผมมีเมียน้อยครับและรักมากกว่าแม่ผมแน่นอน
เวลาเด็กหัดมีเงิน ผู้ใหญ่ในบ้านญาติสนิท จำเป็นต้องเอ็นดูสนับสนุนหรือเปล่าครับ
สุดท้ายก็รู้ว่า พ่อโกหกและพ่อหักกำไรไปเยอะ60%ผมได้40% คิดกับผมเป็นเงินทุกอย่าง
ต่อให้พ่อผมแบ่งกำไรให้ผมแบบ100% พ่อก็ไม่ได้เดือดร้อนแค่เศษเงิน
แต่นี่หักยิ่งกว่าเราเป็นคนนอกที่เป็นคู่ค้าร่วมกันซะอีก เพราะมารู้ทีหลังธุรกิจนี้ราคาตลาดเขาไม่หักมากเท่าพ่อผม
ซึ่งต่างจากแม่ผม ผมได้เท่าไหร่ยกให้ผมหมดเลยเพราะแม่ถือว่าสนับสนุนผม เอ็นดูผม และแม่ก็ไม่ได้เดือดร้อนมีส่วนของแม่อยู่แล้ว
พ่อผมคิดกับผมทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง ไม่มีอะไรฟรีสักอย่าง หักเงินหมดเหลือเศษให้ผม ไม่มีเอ็นดูผมเลย
ทำให้ผมมีเงินเก็บน้อยมาก ก็เข้าใจว่าเป็นปกติในวงการธุรกิจ
แต่ในครอบครัวการทำแบบนี้ถือว่าปกติหรือเปล่าครับ
ปล.อ้ออย่าคิดว่าพอพ่อตายแล้วทรัพย์สินก็จะเป็นของผม เพราะพ่อผมมีเมียน้อยครับและรักมากกว่าแม่ผมแน่นอน