เรื่องราวต่อจากภาค 7.2 แฮรี่ได้แต่งงานมีครอบครัวและมีความสุขดีในเมืองเล็กๆแห่งนึง แต่แล้วความสุขก็จบลง แฮรี่ได้ออกเดินทางไปทำงานในเมืองตามปกติแฮรี่ปล่อยให้ภรรยาเลี้ยงลูกน้อยอยู่บ้าน เมื่อสิ้นเสียงเตือนภัยที่แฮรี่ได้ตั้งเวทย์มนต์เกราะรอบบ้าน แฮรี่เห็นท่าไม่ดีจึงใช้เวทย์มนต์กลับมาดูครอบครัว ปรากฎว่าบ้านได้ถูกทำลายไฟไหม้ลูกเมียตายหมด ในเงากองไฟมีชายคนนึงเดินออกมา นัยตาแดงก่ำ หน้าตาไม่มีจมูก ไม่รอช้าเขายิงเวทย์ใส่แฮรี่ กระเด็นไปหลายเมตร แฮรี่กำลังจะขาดสติได้เห็นชายคนนั้นเล็งไม้เวทย์มาทางแฮรี่แล้วร่ายเวทย์มนต์แสงแห่งความตาย แฮรี่คิดถึงภาพเก่าๆครอบครัว เพื่อน พ่อแม่พี่น้อง ซักพักมีแสงยิงรุมยิงมาใส่ชายตาแดงคนนั้นแม้จะทำอะไรไม่ได้แต่ก็ทำให้หนีไปได้ แฮรี่ได้ถูกหญิงที่อยู่แถวๆบ้านช่วยเขาไว้
รุ่งเช้า แฮรี่ตื่นขึ้นมาในบ้านของหญิงข้างบ้าน เธอมีผมสีทองตาสีฟ้าหน้าหมวยๆหน่อยอายุ25 เธอถามแฮรี่ว่าเคยมีความแค้นอะไรกับบุคคลตาแดงคนนั้น แฮรี่บอกไม่รู้เหมือนกัน พ่อแม่ของเด็กสาวคนนั้นได้เข้ามาเรียกลูกสาวกินข้าว เอด้ากินข้าวลูก เขายังไหวไหมเรียกเขามากินด้วยซิ เอด้าชวนแฮรี่กินข้าว เอด้าบอกพ่อกับแม่ว่าพี่เขาเสียครอบครัวไปหมดเลย แฮรี่ได้ยินแบบนั้น น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาด้วยความเสร้า ในขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูขึ้น เอด้าเดินไปเปิด รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ ได้ยินข่าวของแฮรี่เลยรีบมาดูใจแฮรี่แล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังว่าในเมืองใหญ่ที่พวกได้อาศัยอยู่ตอนนี้ถูกครอบงำด้วยมนต์อสูรของไอ้ตาแดงที่มีนามว่า โวลเดอซี ลูกชายของ โวลเดอมอลที่ตายไป แฮรี่ถึงกับหน้าซีดและเข้าใจว่าทำไมมันถึงมาถล่มบ้านฆ่าลูกเมียของเขา แฮรี่โกรธสุดขีด จะไปหาวัลเดอซี แต่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ ได้ห้ามเอาไว้ ไม่ต้องรอช้า วอล์เดอซีและลูกสมุนของเขาได้บุกมาที่บ้านของแฮรี่อยู่ พายุลมแรงและความมืดเข้าครอบคลุม ประตูบ้านเอด้ากระเด็น เขาตะโกน ส่งตัวแฮรี่มา ไม่นั้นข้าจะทำลายทุกสิ่งให้พัง รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ ออกไปพร้อมชูคทาเวทย์ เขาคือเพื่อนฉันและแกก็ไม่มีสิทธิ วอล์เดอซีต่อสู้กับ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ แฮรี่ตะโกน หยุด! แกต้องการฉัน ฉันอยู่นี้แล้วไง คนอื่นไม่เกี่ยว! วอล์เดอซีเล็งคทาเวทย์ไปทางแฮรี่พร้อมพูดว่า แด่พ่อของฉันที่ตายไป พร้อมร่ายคทาแสงปลิดชีพใส่ เอด้าหยิบปืนร็อคเก็ตที่อยู่ใต้บ้านยิงใส่วอลเดอซีจนกระเด็นปลิวไปไกล เอด้าบอกให้ทุกคนวาปหนีแล้วไปเจอกันที่เซฟเฮาท์ในเมืองใหญ่ วอล์เดอซีได้สติกลับมาที่บ้านเอด้า ไม่เจอใครเลย เขาโกรธมากเลยระเยิดบ้านเอด้าให้หายแค้นร้องตะโกนด้วยความแค้น แฮรี่~
ที่เซฟเฮาท์ใจกลางเมือง:
เอด้าได้ถามแฮรีว่าจะเอายังไงต่อ บ้านฉันพังหมดแล้ว
แฮรี้ขอโทษเอด้าด้วยความเสร้า เฮอร์ไมโอนี่ บอกนี้ไม่ใช่เวลาจะมาเสร้า เรากำลังโดนตามล่าจากลูกของอสูรร้ายเราจะทำยังไงกันดี พ่อของเอด้าถามแฮรี่ว่า เธอมีคนที่เก่งและพอจะต่อกรกับมันได้ไหม แฮรี่บอกมีแต่คนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วเขาคือดับเบิลดอร์ พ่อของเอด้าบอกยังพอมีวิธี เราต้องไปหาเจ้าแห่งมนต์ดำ ซาติโน่ เขาสามารถดึงชีวิตที่ตายไปแล้วกลับมาได้แต่มาในรูปแบบดวงจิตไม่สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้ บางทีอย่างน้อยเราอาจจะปรึกษากับวิญญาณของดับเบิลดอร์ว่าจะฆ่ามันยังไง แฮรี่ถามว่าเขาอยู่ที่ไหน พ่อเอด้าพูด หุบเขาทางเหนือ สเควรูม!
ทันทีที่กลุ่มของแฮรี่ไปถึงเว้นพ่อแม่เอด้าไม่ได้ไปด้วย
ไปถึงได้เห็นไฟไหม้บนภูเขา เห็นท่าจะไม่ดีแล้วหละ ใช่แล้ว อสูรตาแดงวอลเดอซีได้รู้ทันก่อน บุกโจมตีบ้านเจ้าแห่งมนต์ดำ ในมือกำหัวของเจ้าแห่งมนต์ดำเตรียมบีบหัว แฮรี่พูด ปล่อยเขาซะ!เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ วอลเดอซีพูด แฮรี่ข้ารอเจ้าอยู่พอดีเลย หามันอยู่เหรอ 555 เสียดายนะ เพราะว่ามันจะเหลือแต่ตัว ไม่มีหัวแล้วหละ เจ้าแห่งมนต์ดำเห็นแฮรี่เขาได้พูดประโยคลับออกมา งู3ปีก2หาง5 หาให้เจอ สิ้นเสียงหัวของเจ้าแห่งมนต์ดำแหลกคามือวอลเดอซี พร้อมโยนศพไปทางกลุ่มแฮรี่ เจ้าไม่มีวันหนีพ้น และมันผู้ใดช่วยเหลือเจ้ามันก็จะตายตามกัน555 แฮรี่วาปกลับมาที่เซฟเฮาท์ตั้งหลักก่อน แล้วมาเล่าให้กับพ่อแม่เอด้าฟังถึงรหัสลับของเจ้าแห่งมนต์ดำ คืออะไร เอด้าบอกว่าคุ้นๆอยู่นะ ในอดีตเคยมีคำกล่าวลือว่ามีงู3หัว แต่ปีก2 หาง 5เนี้ยซิ คืออะไร รอนบอกว่าบางทีเขาอาจจะหมายถึงเราต้องหาสัตว์พวกนี้ให้ครบ แต่เราจะไปหาใครที่รู้จักสัตว์เหล่านี้หละ แม่เอด้าเล่าว่าฉันเคยเห็นคนๆนึงเขาเคยช่วยคนในเมืองไว้จากสัตว์ร้าย เขามีกระเป๋าใบนึงแล้วมีสัตว์ออกมาช่วยเขาเพียบเลย ชื่ออะไรน้า...จำไม่ได้ ผมทองๆเสื้อคลุมน้ำเงิน แฮรี่ได้ย้อนกลับไปที่โรงเรียนเพื่อเข้าไปถามครูใหญ่คนใหม่ว่าพอจะรู้ไหมว่ามีใครที่มีสัตว์เยอะๆ ผมทองๆ เสื้อคลุมสีฟ้า ครูใหญ่เปิดตำรานักเรียนทั้งหมดและก็ได้เจอกับบุคคลชื่อว่า นิวท์ สคามันเดอร์ ปัจจุบันดูแลสัตว์ในตำนานหลายๆตัวเคยเป็นนักเรียนที่นี้ อาศัยอยู่แถวชานเมืองนอร์ติจูน แฮรี่ขอบคุณครูใหญ่ ครูใหญ่ถามจะหาคนเลี้ยงสัตว์ไปทำไม แฮรี่เล่าให้ฟัง ครูใหญ่บอกว่า บางทีมันเคยมีการฆ่าอสูรโดยใช้วัตถุที่มาจากสัตว์ด้วยนะอสูรบางตัวก็ใช้เขี้ยวงูฆ่าหนะ แฮรี่พอจะเข้าใจและขอบคุณครูใหญ่อีกครั้งก่อนจะพาเพื่อนๆไปที่ชานเมืองนอร์ติจูนเพื่อไปหา นิวท์ สคามันเดอร์
.....เรื่องราวเป็นยังไงต่อไปติดตามต่อในโรงภาพยนต์ได้ใน แฮรี่พอตเตอร์ 8 จุดเดือดทายาทจอมเวทย์!
By:Virus
ดูกันรึยัง? แฮรี่พอตเตอร์ ภาค 8 จุดเดือดทายาทจอมเวทย์(อาจมีสปอย)
รุ่งเช้า แฮรี่ตื่นขึ้นมาในบ้านของหญิงข้างบ้าน เธอมีผมสีทองตาสีฟ้าหน้าหมวยๆหน่อยอายุ25 เธอถามแฮรี่ว่าเคยมีความแค้นอะไรกับบุคคลตาแดงคนนั้น แฮรี่บอกไม่รู้เหมือนกัน พ่อแม่ของเด็กสาวคนนั้นได้เข้ามาเรียกลูกสาวกินข้าว เอด้ากินข้าวลูก เขายังไหวไหมเรียกเขามากินด้วยซิ เอด้าชวนแฮรี่กินข้าว เอด้าบอกพ่อกับแม่ว่าพี่เขาเสียครอบครัวไปหมดเลย แฮรี่ได้ยินแบบนั้น น้ำตาลูกผู้ชายก็ไหลออกมาด้วยความเสร้า ในขณะที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้น ก็มีเสียงเคาะประตูขึ้น เอด้าเดินไปเปิด รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ ได้ยินข่าวของแฮรี่เลยรีบมาดูใจแฮรี่แล้วเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังว่าในเมืองใหญ่ที่พวกได้อาศัยอยู่ตอนนี้ถูกครอบงำด้วยมนต์อสูรของไอ้ตาแดงที่มีนามว่า โวลเดอซี ลูกชายของ โวลเดอมอลที่ตายไป แฮรี่ถึงกับหน้าซีดและเข้าใจว่าทำไมมันถึงมาถล่มบ้านฆ่าลูกเมียของเขา แฮรี่โกรธสุดขีด จะไปหาวัลเดอซี แต่ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ ได้ห้ามเอาไว้ ไม่ต้องรอช้า วอล์เดอซีและลูกสมุนของเขาได้บุกมาที่บ้านของแฮรี่อยู่ พายุลมแรงและความมืดเข้าครอบคลุม ประตูบ้านเอด้ากระเด็น เขาตะโกน ส่งตัวแฮรี่มา ไม่นั้นข้าจะทำลายทุกสิ่งให้พัง รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ ออกไปพร้อมชูคทาเวทย์ เขาคือเพื่อนฉันและแกก็ไม่มีสิทธิ วอล์เดอซีต่อสู้กับ รอน และ เฮอร์ไมโอนี่ แฮรี่ตะโกน หยุด! แกต้องการฉัน ฉันอยู่นี้แล้วไง คนอื่นไม่เกี่ยว! วอล์เดอซีเล็งคทาเวทย์ไปทางแฮรี่พร้อมพูดว่า แด่พ่อของฉันที่ตายไป พร้อมร่ายคทาแสงปลิดชีพใส่ เอด้าหยิบปืนร็อคเก็ตที่อยู่ใต้บ้านยิงใส่วอลเดอซีจนกระเด็นปลิวไปไกล เอด้าบอกให้ทุกคนวาปหนีแล้วไปเจอกันที่เซฟเฮาท์ในเมืองใหญ่ วอล์เดอซีได้สติกลับมาที่บ้านเอด้า ไม่เจอใครเลย เขาโกรธมากเลยระเยิดบ้านเอด้าให้หายแค้นร้องตะโกนด้วยความแค้น แฮรี่~
ที่เซฟเฮาท์ใจกลางเมือง:
เอด้าได้ถามแฮรีว่าจะเอายังไงต่อ บ้านฉันพังหมดแล้ว
แฮรี้ขอโทษเอด้าด้วยความเสร้า เฮอร์ไมโอนี่ บอกนี้ไม่ใช่เวลาจะมาเสร้า เรากำลังโดนตามล่าจากลูกของอสูรร้ายเราจะทำยังไงกันดี พ่อของเอด้าถามแฮรี่ว่า เธอมีคนที่เก่งและพอจะต่อกรกับมันได้ไหม แฮรี่บอกมีแต่คนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้วเขาคือดับเบิลดอร์ พ่อของเอด้าบอกยังพอมีวิธี เราต้องไปหาเจ้าแห่งมนต์ดำ ซาติโน่ เขาสามารถดึงชีวิตที่ตายไปแล้วกลับมาได้แต่มาในรูปแบบดวงจิตไม่สามารถกลับมาเกิดใหม่ได้ บางทีอย่างน้อยเราอาจจะปรึกษากับวิญญาณของดับเบิลดอร์ว่าจะฆ่ามันยังไง แฮรี่ถามว่าเขาอยู่ที่ไหน พ่อเอด้าพูด หุบเขาทางเหนือ สเควรูม!
ทันทีที่กลุ่มของแฮรี่ไปถึงเว้นพ่อแม่เอด้าไม่ได้ไปด้วย
ไปถึงได้เห็นไฟไหม้บนภูเขา เห็นท่าจะไม่ดีแล้วหละ ใช่แล้ว อสูรตาแดงวอลเดอซีได้รู้ทันก่อน บุกโจมตีบ้านเจ้าแห่งมนต์ดำ ในมือกำหัวของเจ้าแห่งมนต์ดำเตรียมบีบหัว แฮรี่พูด ปล่อยเขาซะ!เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ วอลเดอซีพูด แฮรี่ข้ารอเจ้าอยู่พอดีเลย หามันอยู่เหรอ 555 เสียดายนะ เพราะว่ามันจะเหลือแต่ตัว ไม่มีหัวแล้วหละ เจ้าแห่งมนต์ดำเห็นแฮรี่เขาได้พูดประโยคลับออกมา งู3ปีก2หาง5 หาให้เจอ สิ้นเสียงหัวของเจ้าแห่งมนต์ดำแหลกคามือวอลเดอซี พร้อมโยนศพไปทางกลุ่มแฮรี่ เจ้าไม่มีวันหนีพ้น และมันผู้ใดช่วยเหลือเจ้ามันก็จะตายตามกัน555 แฮรี่วาปกลับมาที่เซฟเฮาท์ตั้งหลักก่อน แล้วมาเล่าให้กับพ่อแม่เอด้าฟังถึงรหัสลับของเจ้าแห่งมนต์ดำ คืออะไร เอด้าบอกว่าคุ้นๆอยู่นะ ในอดีตเคยมีคำกล่าวลือว่ามีงู3หัว แต่ปีก2 หาง 5เนี้ยซิ คืออะไร รอนบอกว่าบางทีเขาอาจจะหมายถึงเราต้องหาสัตว์พวกนี้ให้ครบ แต่เราจะไปหาใครที่รู้จักสัตว์เหล่านี้หละ แม่เอด้าเล่าว่าฉันเคยเห็นคนๆนึงเขาเคยช่วยคนในเมืองไว้จากสัตว์ร้าย เขามีกระเป๋าใบนึงแล้วมีสัตว์ออกมาช่วยเขาเพียบเลย ชื่ออะไรน้า...จำไม่ได้ ผมทองๆเสื้อคลุมน้ำเงิน แฮรี่ได้ย้อนกลับไปที่โรงเรียนเพื่อเข้าไปถามครูใหญ่คนใหม่ว่าพอจะรู้ไหมว่ามีใครที่มีสัตว์เยอะๆ ผมทองๆ เสื้อคลุมสีฟ้า ครูใหญ่เปิดตำรานักเรียนทั้งหมดและก็ได้เจอกับบุคคลชื่อว่า นิวท์ สคามันเดอร์ ปัจจุบันดูแลสัตว์ในตำนานหลายๆตัวเคยเป็นนักเรียนที่นี้ อาศัยอยู่แถวชานเมืองนอร์ติจูน แฮรี่ขอบคุณครูใหญ่ ครูใหญ่ถามจะหาคนเลี้ยงสัตว์ไปทำไม แฮรี่เล่าให้ฟัง ครูใหญ่บอกว่า บางทีมันเคยมีการฆ่าอสูรโดยใช้วัตถุที่มาจากสัตว์ด้วยนะอสูรบางตัวก็ใช้เขี้ยวงูฆ่าหนะ แฮรี่พอจะเข้าใจและขอบคุณครูใหญ่อีกครั้งก่อนจะพาเพื่อนๆไปที่ชานเมืองนอร์ติจูนเพื่อไปหา นิวท์ สคามันเดอร์
.....เรื่องราวเป็นยังไงต่อไปติดตามต่อในโรงภาพยนต์ได้ใน แฮรี่พอตเตอร์ 8 จุดเดือดทายาทจอมเวทย์!
By:Virus