Duty after school การเปรียบเทียบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยกับการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด (มีสปอย)

Duty after school
     ซีรีย์ที่เปรียบเทียบการเรียนการสอบเหมือนดั่งสนามรบ ให้นักเรียนมาต่อสู้กับมอนสเตอร์(ข้อสอบ)
ในช่วงแรกของซีรีย์จะแสดงให้เห็นว่า แต่ละตัวละครมีความตั้งในการสอบเข้าต่างกันออกไป และระดับการเตรียมตัวสอบของแต่ละคนขึ้นอยู่กับครอบครัวของแต่ละคน เปรียบเหมือว่าโรงเรียนจะฝึกให้เด็กใช้มีดเพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาด(ข้อสอบ) แต่นักเรียนที่มีฐานะหน่อยจะได้รับปืนจากโรงเรียนกวดวิชาทำให้ต่อสู้กับสัตว์ประหลายง่ายขึ้น 
ซีรีย์เรื่องนี้จึงนำเสนอว่าถ้าทำให้นักเรียนทุกคนเท่าเทียมกันในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย (ให้ปืนกันทุกคน) จะเกิดอะไรขึ้น เพื่อการนี้ แต่อยู่ๆจะให้ปืนเลยก็ไม่ได้ ระบบทหารจึงถูกนำเข้ามาในเรื่องนี้ เพื่อฝึกฝนตามแบบแผนที่เหมือนกัน เพื่อให้ reset ทุกอย่าง เพื่อให้ทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะทุกคนจะเริ่มจากศูนย์เหมือนกัน 
     เมื่อเริ่มจากศูนย์เหมือนกันทุกคน สถานทางสังคนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป การเรียนรู้เพื่อต้อสู้จึงขึ้นอยู่กับนิสัย และความตั้งใจของแต่ละคน และเพราะทุกคนเริ่มจากศูนย์นักเรียนจึงสามารถแสดงศักยภาพของแต่ละคนเช่นความสามารถในการเรียนรู้ ความสามารถในคุมอารมณ์ หรือ ความสามารถในการปรับตัว
     ในขณะที่ทุกคนเริ่มเรียนรู้เหมือนๆกับในเวลาที่เท่ากัน แต่ก็มีคนเสียสละเวลาของตนเองให้ส่วนรวม และการเสียสละเวลาของตนเองไม่ได้มีผลต่อการเข้ามหาวิยาลัยในเวลาปกติ ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากรับผิดชอบการเป็นหัวหน้าห้อง, คนทำหนังสือรุ่น หรือ ประธานนักเรียน แต่การเสียสละเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดี ซีรีย์จึงมีการให้คะแนนพิเศษเพื่อให้รางวัลกับบุคคลเหล่านี้ และคะแนนพิเศษเปรียบดังการทำกิจกรรมนอกหลักสูตร จึงมีการให้คะแนนพิเศษแก่หัวหน้าห้องหรือคนที่บันทึกวิดีโอ เพื่อให้เข้ามหาวิทยาลัยง่ายขึ้น
     การยิงปืนถูกหยิบโยงให้แสดงถึงความแน่วแน่ของนักเรียนแต่ละคน 
-           คนที่ยิงเข้าตรงกลางทั้งสามนัดจึงบอกได้ว่าคนที่มีเป้าหมายที่แน่นอนและแน่วแน่กับเส้นทางที่ตัวเองเลือกแล้ว
-           คนบางคนยิงเกาะกลุ่มกันแต่ไม่เข้าตรงกลางบอกได้ว่าเขามีตั้งใจแต่ยังลังเลใจหรือไม่แน่ใจกับเส้นทางที่เลือก
-           คนที่ยิงไม่เกาะกลุ่มบอกได้ว่ายังลังเลใจไม่ตั้งใจหรือยังหาตัวเองไม่เจอหรือยังเลือกเส้นทางไม่ได้
-           คนที่เข้าเป้าคนอื่นบอกได้ว่าทำตามคนอื่นไม่ได้เลือกเส้นทางของตนเอง 
     เมื่อฝึกฝนจนถึงระดับนึง ย่อมต้องมีการลองสนาม ลองเข้าตรวจสอบเมือง (ลองทำข้อสอบ) แต่ทว่ากลับกลายเป็นข้อสอบจริง(เจอสัตวประหลาด) ยิ่งเมื่ออาจารย์ประจำห้องเสียชีวิตจากสัตว์ประหลาด (อาจารย์ระบบเก่าไม่สามารถสู้กับข้อสอบสมัยใหม่)  ยิ่งต้องตื่นตระหนก ลืมสิ่งที่เรียนมาทั้งหมดและสติแตกไป แต่ไม่ทั้งหมดนักเรียนบางคนสามารถรับมือสิ่งเหล่านี้ได้ และสามารถร่วมมือกับคนที่สามารถสู้กับสัตว์ประหลาดได้คือทหาร (อาจารย์ระบบใหม่)  
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
     เมื่อเห็นข้อสอบที่ยากมาแล้ว ดังนั้นอย่าไปสู้มันเลยหนีกลับบ้านไปพึ่งบ้านให้ช่วยดีกว่า (ตอนโหวตจึงมีคนไม่โหวตหนีกลับบ้านเพราะฐานะทางที่บ้านไม่สามารถช่วยได้) เมื่อกลับบ้านไม่ได้ เมื่อทางบ้านไม่สามารถช่วยได้ ปลุกระดมเพื่อนเพื่อไม่ต้องสอบดีกว่าแต่ทว่าข้อสอบกลับเข้ามาไม่ทันตั้งตัว และแสดงให้เห็นว่าการเตรียมตัวไม่ดีทำให้ยังต่อสู้ไม่ได้ ดังนั้นต้องไปฝึกฝนอีก หนีจากสัตว์ประหลาดก่อนแล้วจะกลับมาจัดการที่หลัง
    ทหารหรืออาจารย์ระบบใหม่ใช่ว่าทุกคนจะรอดจากสัตว์ประหลาดหรือข้อสอบใหม่ ทหารบางคนตายไปทำให้นักเรียนเคว้งไม่รู้หนทางควรจะไปทางไหน ควรเลือกอยู่นิ่งๆหรือขวนขวายด้วยตัวเอง และก็มีคนโกหกเพราะเชื่อว่าอยู่ที่เดิมไม่มีอะไรดีขึ้น และก็มีเห็นแก่ตัว แต่เพราะทุกคนเข้าใจทุกคนเลยให้อภัย(หมายความถ้าเป็นตัวเองก็ทำเหมือนกันอยู่ดี) และเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่าสัตว์ประหลาดไม่ได้ไปไหนเพียงแต่รออยู่ รอให้นักเรียนมาเผชิญหน้าเท่านั้น
     เมื่อฝึกฝนจนพร้อมแล้วก็ถึงเวลาที่จะไปจัดการกับสัตวประหลาดแล้ว ด้วยความชำนาญกลุ่มนักเรียนกลุ่มนี้สามารถจัดการกับสัตว์ประหลาดได้อย่างง่ายได้ไม่กลัวสัตว์ประหลาดอีกต่อไปแล้วเหลือเพียงแต่รอสอบเข้ามหาวิทยาลับอย่างเดียว(ไม่ห่วงเรื่องการทำข้อสอบอีกแล้ว) เมื่อไม่มีเรื่องเครียด เมื่อคิดว่าทุกอย่างตอนนี้ปกติ(ปรับตัวได้แล้ว) วัยรุ่นย่อมต้องคู่กับความรัก ไม่ว่าจะเป็นรักแบบเพื่อน แบบชายหญิง หรือพ่อแม่กับลูก (อยากกลับไปหาพ่อแม่) นักเรียนแต่ละคนเติบโตค้นพบสิ่งที่ตัวเองถนัดหรือชอบแล้วหลังจากที่ต้องอยู่เพียงลำพัง หลังจากนั้นก็มีเหตุการณ์นักเรียนคนหนึ่งแสดงให้ว่าแม้ว่าคุณจะเก่งหรือเตรียมตัวดีแค่ไหนหากอารมณ์ความรู้สึก(ความรู้สึกผิดกับบางอย่าง) ณ เวลาทำข้อสอบมีผลสำคัญเป็นอย่างมาก ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งเผชิญกับคนคนไม่ดีหรือคนที่ไม่รู้เรื่องสัตว์ประหลาด(ไม่รู้เรื่องระบบใหม่) และเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดและนักเรียนจากระบบใหม่ เขาก็สู้ไม่ได้
     ในเวลานี้การสอบมหาวิทยาลัยเปรียบเหมือนกับว่าโลกปกติที่ดี แต่หากไม่มีการสอบย่อมหมายถึงการที่สถานการณ์ที่ผิดปกติ การโกหกจึงถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง หวังเพียงทำให้ทุกคนยังมีความหวังอยู่ หลอกให้เข้าใจว่าทุกอย่างภายนอกยังปกติดี และเพราะว่าทุกคนเข้าใจเจตนาทุกคนจึงให้อภัย แต่ทว่าความตั้งใจในเรื่องมหาลัยของแต่ละคนที่ไม่เท่ากัน(ดังตอนแรกที่อธิบายไว้) เพราะว่าเมื่อเผชิญโลกกว้างแล้วก็เข้าใจว่ามหาวิทยาลัยไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต ในขณะที่ทุกคนสนุกกับชีวิตได้โดยที่โลกยังไม่กลับมาเหมือนเดิม(ไม่ต้องผ่ามหาวิทยาลัย) แล้วคนที่หวังเรื่องมหาวิทยาลัยไว้สูงสุด หรือหวังว่าโลกจะกลับมาเหมือนเดิมมากๆ จะเป็นยังไงเมื่อมันหายไป ขอเพียงเค่มีการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ขอเพียงว่าจะสามารถกลับไปโลกก่อนหน้ามีสัตว์ประหลาด ขอเพียงเท่านี้ แต่เขานั้นก็ทำผิดพลาดไปแล้ว แต่เขาก็อยากให้ทุกอย่างเหมือนเดิม เขาเชื่อว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่เพราะงั้นสิ่งที่ทำผิดไปแล้วจะทำให้เขาไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยได้ ทำให้เขาเป็นคนผิดในสังคมเดิม คนอื่นๆก็มีครอบครัวคอยสนับสนุนตัวเขาไม่มีอะไรแบบ ความอคติเกิดขึ้น ถ้าทุกอย่างยังเหมือมเดิมต้องกำจัดพยาน ตอนจบแสนน่าเศร้าจึงเกิดขึ้น
ซีรีย์เรื่องนี้เปรียบเทียบว่าถ้าทุกคนเท่าเทียมกันในเรื่องการสอบเข้าจริงๆจะเป็นยังไง คนที่แน่วแน่หรือตั้งใจ คนที่ไม่เก่งอะไรเลย คนที่เก่งวิชาการมากๆ คนที่ยึดติดมากจนเกินไป และคนอีกหลายประเภท จะเป็นยังไงเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่