ห้างดังกทม.-โคราช บ่นค่าไฟแพงโหด ติดโซลาร์เซลล์ยังเอาไม่อยู่ พุ่งหลักล้านต่อเดือน
https://www.matichon.co.th/economy/news_3940806

ห้างดัง กทม.-โคราช บ่นอุบค่าไฟแพงโหด ติดโซลาร์เซลล์แล้ว ยังเอาไม่อยู่ พุ่งหลักล้านต่อเดือน
 
เมื่อวันที่ 24 เมษายน แหล่งข่าวจากร้านค้าปลีกและค้าส่งฮกกี่ เมกาสโตร์ จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามียอดขายดีขึ้นกว่าปี 2565 โดยภาพรวมมียอดขายอยู่ที่ 170 ล้านบาทต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 15% โดยเฉพาะสินค้าหน้าร้อนขายดีมาก ไม่ว่าน้ำอัดลม น้ำดื่มต่างๆ รวมถึงเหล้า-เบียร์ เพราะเป็นช่วงเทศกาล ขณะที่ราคาสินค้า ยังไม่มีการปรับขึ้นในช่วงนี้
 
“ทั้งนี้จากค่าเอฟทีที่ปรับขึ้นล่าสุด ทำให้ค่าไฟรอบเดือนมีนาคมของที่ร้านเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทั้งที่ได้ติดโซลาร์เซลล์แล้ว อย่างสาขาใหญ่จากเดิมจ่ายอยู่ที่ 600,000 บาทต่อเดือน เป็น 800,000 บาทต่อเดือน ยังไม่รวมสาขาย่อยอีก 10 สาขาที่จ่าย 50,000-80,000 บาทต่อเดือน คาดว่ารอบเดือนเมษายนค่าไฟสาขาใหญ่น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านบาทต่อเดือน เราให้พนักงานช่วยกันประหยัด เช่น กลางวันปิดไฟ ปิดแอร์ และใช้เท่าที่จำเป็น ส่วนอีก 10 สาขาย่อยมีแผนจะติดโซลาร์เซลล์” แหล่งข่าวกล่าว
 
นายสมพล ตรีภพนารถ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือ MBK กล่าวว่า หลังเปิดประเทศ สถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทำให้ปัจจุบันมีผู้มาใช้บริการศูนย์การค้า MBK เฉลี่ย 80,000 คนต่อวัน โดยเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 50% และคนไทย 50%
 
ทั้งนี้ผลจากการปรับขึ้นค่าเอฟทีล่าสุด ส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้านบาทต่อเดือน แม้จะติดโซลาร์เซลล์แล้วก็ตาม โดยอยากให้รัฐบาลมีการบริหารจัดการเรื่องค่าไฟแพงให้มีความเสถียรภาพมากกว่านี้ ซึ่งต้องดูว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามานั้น จะมีนโยบายเกี่ยวกับค่าไฟอย่างไรและจะทำได้ตามที่ประกาศไว้หรือไม่
 
“จากค่าไฟที่ปรับขึ้น เราก็ต้องช่วยตัวเอง โดยทุกศูนย์การค้าที่เราบริหาร จะติดตั้งโซลาร์เซลล์ ซึ่งช่วยประหยัดไฟได้ 30% ในช่วงกลางวัน แต่ค่าไฟก็สูงขึ้นตามค่าเอฟที เพราะเราเปิด 24 ชั่วโมง และจากค่าใช้จ่ายเพิ่ม เราไม่ได้ขึ้นค่าเช่า แต่ในส่วนของค่าไฟที่เราขายให้กับผู้เช่า หากรัฐลดค่าเอฟทีลง 7 สตางค์ เราจะลดค่าไฟให้ หากขึ้นเราก็ขึ้นตาม” นายสมพลกล่าว

---

เป็นงง! ร้านไม่มีคนอยู่แต่บิลค่าไฟแพง เหตุเพราะคนจดคิดว่ามิเตอร์พังเลยมโนเลขเอง!
https://www.dailynews.co.th/news/2253058/

เห็นแบบนี้แล้วเป็นงงเลย! สาวโอดร้านไม่มีคนอยู่ ไม่ได้ใช้ไฟ แต่เจอบิลคิดค่าไฟ 97 หน่อย พอปีนดูมิเตอร์ใช้จริง แค่ 8 หน่วย พอลองถามเจอคำตอบ พนักงานจดคิดว่ามิเตอร์พัง เลยมโนเลขเอาค่าเฉลี่ยมาคิดแทน

เรียกได้ว่ากำลังกลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตบนโลกออนไลน์ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์กันออกไปเป็นจำนวนมาก กับเรื่องราวของ “ค่าไฟ” ทำเอาหลายคนลุกขึ้นมาโอดว่า ค่าไฟแพงหูฉี่กันเป็นแถว แม้บางคนจะใช้ไฟเท่าเดิม แต่ก็ยังไม่วาย บิลค่าไฟออกมาแพงขึ้นเป็น 2 เท่าตัว จนหลายคนต้องออกมาแชร์ประสบการณ์ค่าไฟที่สูงขึ้นจนเป็นประวัติการณ์กันเป็นจำนวนมาก

ซึ่งก็มีสมาชิกผู้ใชเฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของค่าไฟในร้าน ที่ไม่มีอะไรที่เปิดใช้ไฟเลย เนื่องจากเป็นร้านปล่อยเช่า ไม่มีคนเช่า แต่กลับถูกคิดว่าไฟ 97 หน่วย ทำเอาเธองงหนักมาก จึงลองปีนขึ้นไปดูมิเตอร์ ปรากฏว่าเลขอยู่ที่ 4,000 และในบิลค่าไฟเดือนที่แล้ว ที่มาอ่านเลข คือ 3,992 ต่างกันแค่ 8 หน่วย ทำเอาเธองงหนักเข้าไปอีก และชาวเน็ตจำนวนมากจึงเข้ามาคอมเมนต์ สอบถามสรุปแล้วเรื่องราวไปอย่างไรบ้างนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด ผู้โพสต์ได้ออกมาอัปเดตว่า 

“อัปเดตเรื่องบิลค่าไฟ ได้ความว่า 

1. เจ้าหน้าที่ที่การไฟฟ้าบอกว่า สาเหตุที่เอาค่าเฉลี่ยของเดือนก่อนๆ มาคิดค่าไฟเดือนมีนาให้ เพราะคนที่ไปจดเลข เห็นว่าอยู่ดีๆ เดือนนี้มิเตอร์มันขึ้นน้อย ทั้งๆ ที่เดือนที่แล้วใช้ไฟเยอะ (เดือนที่แล้วใช้ไป 36 หน่วย) เลยคิดว่าหม้อพัง!!! จึงเอาค่าเฉลี่ยมาคิดแทน
ได้แต่คิดในใจว่าแล้วคนจดมิเตอร์เนี่ย เมิงไม่คิดจะใช้ความคิด พินิจพิจารณา หรือถามข้างบ้านหน่อยเหรอ ว่าบ้านนี้มีคนอยู่มั้ยงี้ หากเอ่ยปากถามเขาสักนิด ก็รู้แล้วมั้ยว่าทำไมมิเตอร์มันไม่ค่อยหมุนน สึดดดดดด เสียเวลามาก

2. ให้ทำหนังสือเพื่อส่งเรื่องไปที่การไฟฟ้าที่อุบล ให้ตรวจสอบ และเปลี่ยนแปลงค่าไฟให้ เนื่องจากการไฟฟ้าที่มุกดาหาร ไม่มีอำนาจการเปลี่ยนแปลงบิลค่าไฟ น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์ (จะเสร็จมั้ยก็ไม่รู้ 1 อาทิตย์หนิ)

เอาจริงๆ ปีก่อนๆ ที่เคยไม่มีคนเช่าหลายๆเดือนติด ก็ไม่เห็นมีปัญหาเรื่องค่าไฟแบบนี้นะ นี่คนเช่าคนก่อนเพิ่งออกไปสิ้นเดือนกุมภา เพิ่งไม่มีคนเช่าแค่เดือนมีนาเดือนเดียวเอง มีปัญหาขึ้นมาเลยปีนี้ แน่นอนจริงๆ

ขอแนะนำบ้านหรือร้านไหนที่ปล่อยให้เช่าแล้วอยู่ดีๆ เดือนนั้นๆ ไม่มีคนเช่า ติดป้ายไว้หน้าร้านเลยจ้าว่าไม่มีคนอยู่ หรือ ป้ายว่างให้เช่า ป้ายใหญ่ๆ คนจดมิเตอร์จะได้ไม่มโนไปเองว่าหม้อพัง แล้วเอาค่าเฉลี่ยมาคิดให้ ไม่งั้นหัวเสีย แถมเสียเวลา เสียค่าน้ำมันรถขับไปตามเรื่องอีก เอกสารด้านล่าง เจ้าหน้าที่ให้ลอกจากเคสอื่นที่เจอแบบดิฉัน มิได้คิดขึ้นมาเอง ขออภัยในความรีบเขียน และลายมือไม่สวย ป.ล. มีคนโดนแบบนี้หลายเคสอยู่นะ ถ้าจะว่าคงต้องว่าคนไปจดมิเตอร์นั้นแหละ ตัวต้นเหตุ”

ขอบคุณภาพประกอบ : Ruttanaporn Jinnabut

https://www.facebook.com/baiiporss/posts/pfbid07BgBiJZKuVz4Sf2XcqB3NWsadXELD42q6UxcSRS45YNky76k55PQdwBBaRm8AnDNl

---

เศรษฐา นำทัพ เพื่อไทย ล่องใต้ลุยหาเสียง 4 จว. ‘ณัฐวุฒิ’ มั่นใจ ปักธงภาคใต้ได้แน่
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7628043

“เศรษฐา” หอบคณะ เพื่อไทย ล่องใต้ ลุยหาเสียง 4 จังหวัด “อิ๊งค์” ปราศรัยผ่านออนไลน์ “ณัฐวุฒิ” มั่นใจนโยบาย-ผลงาน ปักธงภาคใต้ได้แน่
 
เมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากเปิดเวทีปราศรัยในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานช่วงที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเดินหน้าเปิดเวทีปราศรัยในภาคใต้ทั้ง 4 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 25-27 เม.ย. พร้อมพบปะพี่น้องประชาชนในตลาด พื้นที่ชุมชน รวมถึงเปิดพื้นที่ให้ประชาชนกลุ่มต่างๆ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวประมง สวนยางพารา ผู้ประกอบการธุรกิจเอกชน ตลอดจนผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่สตาร์ทอัพหรือเอสเอ็มอี
 
โดยการลงพื้นที่ดังกล่าว นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ส่วนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่วมปราศรัยผ่านระบบออนไลน์ โดยเริ่มต้นที่ จ.ภูเก็ต ในวันที่ 25 เม.ย. เวลา 16.30 น. ที่อาคารยินเนเซียมสะพานหิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ต่อมาเป็น จ.พังงา ณ หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพังงาหลังเก่า เวลา 18.00 น.
 
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 เม.ย. จะมีการพบปะผู้ประกอบการประมง และผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ณ อ.เมือง จ.สงขลา ช่วงบ่ายพบปะกับพี่น้องสวนยางพารา ณ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เวลา 14.00 น. และ 18.00 น. จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ณ โรงเรียนเทคโนโลยีหาดใหญ่ จ.สงขลา
 
จากนั้นในวันที่ 27 เม.ย. ลงพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เวลา 08.30 น. เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน ณ ตลาดสดเทศบาลทุ่งสง เวลา 11.00 น. สักการะพ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ ณ วัดธาตุน้อย อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับพบปะพี่น้องประชาชน ณ คลองจันทร์ดี อ.ช้างกลาง สักการะพระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง เวลา 15.30 น.เปิดวงเสวนากับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เวลา 18.00 น. ณ พื้นที่สนามหน้าเมือง
 
“เรามั่นใจว่าด้วยแนวนโยบาย ผลงานในอดีต ความมุ่งมั่น และจุดยืนที่ชัดเจนของพรรคเพื่อไทย จะได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชนภาคใต้ แกนนำของพรรคเชื่อมั่นว่า จะเห็นชัยชนะของพรรคเพื่อไทย ปักธงในพื้นที่ภาคใต้มากกว่า 1 จุด จากโพลผลสำรวจและคะแนนนิยมของพรรค อีกทั้งความล้มเหลวของรัฐบาลที่ผ่านมา จะช่วยให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกตั้งที่จะมาถึง” นายณัฐวุฒิ กล่าว
 

---

ช่อ ลุยหาเสียงโคราช ชี้เมืองใหญ่แต่เหลื่อมล้ำสูง ลั่นกาก้าวไกล คนไม่ต้องเข้ากทม.หางาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_3941106

ช่อ ลุยโคราช ช่วยผู้สมัครหาเสียง ลั่นไม่ใช่เมืองเล็ก แต่เหลื่อมล้ำสูง ขอ ก้าวไกลขจัดความเจ็บปวด

เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 24 เมษายน นางสาวพรรณิการ์ วานิช หรือช่อ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล (กก.) ลงพื้นที่ช่วย นายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พื้นที่ ต.ในเมือง ต.หนองไผ่ล้อม และ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง เบอร์ 3 หาเสียงที่สำนักงานเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา นำออกเดินพบปะทักทายพร้อมแนะนำผู้สมัครรวมทั้งชี้แจงนโยบายพรรคเน้นการกระจายอำนาจและเพิ่มบุคลากร รวมทั้งงบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จึงโดนใจผู้ปฏิบัติงานทำให้ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ พนักงาน ทน.นครราชสีมา รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่มาติดต่อราชการโดยขอเซลฟี่กันอย่างคึกคัก

น.ส.พรรณิการ์เปิดเผยว่า เป็นครั้งที่ 2 ในรอบเดือน ที่มาช่วยผู้สมัครหาเสียงในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่และมีเยาวชนคนรุ่นใหม่มากที่สุดในภูมิภาค โดยเฉพาะเขต 1, 2, 3 พี่น้องประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองและเข้าถึงสื่อออนไลน์ค่อนข้างมาก นโยบายสร้างคน สร้างงาน สร้างรายได้และลดความเหลื่อมล้ำ เราคาดหวังสูงที่จะได้ ส.ส.ทั้ง 3 เขต ช่วงเข้าสู่โค้งสุดท้ายเน้นกิจกรรมเดินตลาด แหล่งชุมชนและขึ้นรถแห่ให้มากที่สุด
 
ทั้งนี้ โคราชไม่ใช่เมืองเล็ก เป็นเมืองมหานครแต่มีปมเจ็บปวด ทำไมงานดี เศรษฐกิจดีๆ มีไม่มาก พอหลายคนต้องไปทำงานที่อื่น ที่สำคัญโคราชไม่เคยมีพรรคการเมืองใดครองได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผลัดกันไปมา ขอให้กา ก.ก. โคราชจะไม่เหมือนเดิมอย่างแน่นอน