มีตายายคู่ 1 มาปรึกษาปัญหาเรื่องรถเป็นชาวบ้านชนบทธรรมดา ที่ฐานะไม่ค่อยดี (เราแค่ทำงานในหน่วยราชการ ไม่ได้มีความรู้เรื่องกฎหมายลึก เราได้แต่แนะนำไปหาทนายที่เป็นทนายเพื่อประชาชน) ซึ่งเรื่องราวเป็นดังนี้ เมื่อ 11 ปีก่อนตาซื้อรถยนต์ 1คัน แล้วผ่อนชำระไม่ไหว ครบ 3 งวด เขาเลยมายึดรถไป ซึ่งตาก็ไม่รู้ว่ารถเขาเอาไปยังไง หรือทำอะไรต่อ.....อยู่มาวันหนึ่งมีจดหมายมาหาคุณตาที่บ้าน ว่าบริษัทไฟแนนซ์อายัดโฉนดที่ดินคุณตา (พึ่งเป็นที่โฉนดได้ 2 ปี ) จะนำไปขายทอดตลาดในราคา 2 แสนกว่า เพื่อนำมาชำระหนี้จำนวน 155,000 ซื้อเงินต้น 100,000 และคิดดอกเบี้ยปีละ 5% จากต้น ก็คือปีละ 5,000 บาท (100,000 คือยอดที่เขาเอารถไปประมูลขายแล้วขาดทุน) พอเขานัดไกล่เกลี่ยนตายายก็ไปที่บังคับคดี ปรากฎว่าฝั่งไฟแนนซ์คนไม่มา มีแค่โทรมาคุยกับทนายเพื่อประชาชน ได้ข้อสรุปว่า ตายายต้องจ่ายเงินก้อน 155,000 ถ้าผ่อนจะมีดอกเบี้ยประมาณ 20,000 บาท และทางสุดท้ายคือเขาจะขายที่ดินแปลงที่พึ่งขึ้นโฉนดของตานั่นละ ........ข้อสงสัยของตาคือ ตาว่าทำไมถ้าได้จ่ายถึงไม่แจ้งแต่แรกๆ ตอนนั่นยังพอมีแรงทำงาน และดอกเบี้ยคงไม่ได้มากมายขนาดนี้ และถ้าจ่ายเงินก้อนเดียวเขาจะสามารถลดให้ได้ไหม ต้องไปทำอย่างไรต่อ เพื่อนๆพอมีประสบการณ์คล้ายๆกันไหมคะ
เรื่องจ่ายส่วนต่าง(ไฟแนนซ์เอารถไปประมูลแล้วขาดทุน) เมื่อถูกยึดรถไปแล้ว 11 ปี