“สนธิ” ชี้เอกสารลับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รั่ว ฉีกหน้ารัฐบาลไบเดนครั้งมโหฬาร หลอกลวงชาวโลกมาตลอดปมสงครามยูเครน
โดยมีสื่ออเมริกันช่วยประโคมข่าวกรอกหูประชาชนมาปีกว่าว่ารัสเซียจะแพ้แล้ว แต่เอกสารที่รั่วออกมาระบุชัดเคียฟร่อแร่ ระบบป้องกันทางอากาศส่อพังในเดือนหน้า อัตราสูญเสียทหารมากกว่ารัสเซีย
แม้มีทหารจากนาโตเข้าร่วมรบ มีกองพลเกิดใหม่ฝึกโดยอเมริกาและพันธมิตร
ซ้ำเปิดโปงพฤติกรรมที่ไว้ใจไม่ได้ของสหรัฐฯ แอบสอดแนมแม้กระทั่งพวกเดียวกันเอง
ทั้งยังเป็นการตบหน้าสื่อไทยใจฝรั่งที่เป็นเครื่องมือขยายเสียงและคำโกหกของสื่อตะวันตก
วันศุกร์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงกรณีเอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) รั่วไหลออกมาเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ดิสคอร์ด (Discord) ของเกม Minecraft
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของเหล่าเกมเมอร์ในการใช้พูดคุยกันระหว่างเล่นเกม ก่อนเผยแพร่ไปยังโซเชียลมีเดียอื่นๆ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แม้ทางการอเมริกาจะตามไล่ลบเอกสารลับที่รั่วไหลไปยังทวิตเตอร์ และเทเลแกรม แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
ต่อมา วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน ทาง FBI ได้จับกุมผู้ก่อเหตุ คือ จ่าอากาศโท แจ๊ก เทเซรา (Jack Teixeira) ทหารอากาศวัย 21 ปี ที่เมืองดีตัน รัฐแมสซาชูเซตส์
จ่าอากาศโท เทเซรา สังกัดอยู่ที่กองกำลังรักษาดินแดน ก็คือเป็นทหารพิเศษที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า National Guardsman ของแมสซาชูเซตส์ เขาถูกนำตัวขึ้นศาลที่แขวงในเมืองบอสตันในเช้าวันศุกร์ที่ 14 ทันที
เอกสารการแจ้งข้อกล่าวหา ระบุว่า เทเซรา ได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลความมั่นคงขั้นลับสุดยอด ตั้งแต่ปี 2564 เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีระดับล่าง มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบไซเบอร์ทรานสปอร์ตซิสเต็ม (Cyber Transport System)
ทำให้ต้องทำงานกับเครือข่ายที่มีข้อมูลความลับสูง และเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงได้รับสิทธิให้เข้าถึงข้อมูลลับขนาดนี้
เอกสารคำฟ้องระบุด้วยว่า เขาเริ่มโพสต์ข้อมูลที่เกี่ยวกับเอกสารลับทางออนไลน์ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 และโพสต์บรรดารูปถ่ายเอกสารในเดือนมกราคม 2566
มีคนๆ หนึ่งซึ่งไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อ ได้เปิดเผยกับ FBI ว่า เทเซรา บอกว่าเขากังวลเกี่ยวกับการคัดลอกข้อมูลในที่ทำงาน จึงนำเอกสารกลับไปที่บ้าน
และถ่ายรูปเก็บไว้เอกสารบางฉบับเป็นข้อมูลลับสุดยอด เช่น เอกสารที่รายงานการลอบดักฟังโทรศัพท์ของพันธมิตรและศัตรูรายสำคัญ และการประเมินสถานการณ์จริงของสถานภาพของสงครามยูเครน
เจ้าหน้าที่หลายคนกล่าวกับสำนักข่าว CNN เชื่อว่าเทเซรา เป็นหัวหน้าห้องแชตบนแพลตฟอร์มดิสคอร์ด ที่เปิดรับเฉพาะผู้ได้รับเชิญเท่านั้น
ซึ่งข้อมูลจากเอกสารลับถูกโพสต์ครั้งแรกในห้องแชตนี้เมื่อหลายเดือนก่อน
บันทึกคำให้การระบุว่า เทเซรา ใช้ชื่อจริง และให้ข้อมูลที่บ้านของเขาในรัฐแมสซาชูเซตส์ สำหรับเป็นข้อมูลการเรียกเก็บเงินที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดิสคอร์ด
ข้อมูลเอกสารลับฉีกหน้าเพนตากอน-รัฐบาลไบเดน ชี้ชัดกำลังโกหกครั้งมโหฬาร
วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นทราบเป็นครั้งแรกเมื่อเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหม ประสบปัญหาการรั่วไหลของเอกสารลับจำนวนมาก
ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศสำหรับยูเครน ความพยายามของทหารสหรัฐฯ ในสงครามยูเครน
และข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ ทำให้เห็นภาพที่น่ากลัวเกี่ยวกับแนวโน้มของการป้องกันทางอากาศของยูเครน
โดยเอกสารนี้ทำนายว่า ยูเครนอาจจะต้องประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงก่อนสิ้นเดือนพฤษภาคม 2566
ซึ่งในข้อเท็จจริงก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ในตอนนี้ เพราะว่าเมืองบักมุต ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดที่เซเลนสกี และฝ่ายยูเครน และฝ่ายตะวันตก พยายามจะยันกองทัพรัสเซียเอาไว้
ตอนนี้ข่าวหลุดออกมาแล้วว่า รัสเซียยึดเมืองบักมุตได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
จากการตรวจสอบเอกสารที่รั่วไหลออกมาจำนวน 53 ฉบับ ของหน่วยข่าวกรอง ของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักข่าวกรองของกระทรวงกลาโหม
สำนักข่าวกรองภูมิสารสนเทศแห่งชาติ สำนักความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทั้งหมดมีตราประทับว่า "เป็นความลับ" และ "ความลับสุดยอด" SECRET และ TOP SECRET เอกสารบางอย่างถูกจัดทำขึ้นระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ ถึงต้นเดือนมีนาคม 2566
เพราะฉะนั้นข้อมูลที่ออกมาในเอกสารลับนี้ เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์
เอกสารข้อมูลต่างๆ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมาอเมริกานั้นได้สอดแนม แอบดักฟังโทรศัพท์ประเทศพันธมิตรและคู่ขัดแย้งอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
แม้กระทั่งล่าสุด เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ก็ออกมาโวยวายว่าถูกแอบดักฟังโทรศัพท์เหมือนกัน
การรั่วไหลครั้งนี้ได้สร้างความสั่นคลอนอย่างมาก โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้นำกองทัพระดับสูงสุดของกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีหน้าที่ให้คำแนะนำต่อประธานาธิบดี
และดูเหมือนจะเป็นเอกสารสรุปข่าวกรองรายวันขนาดใหญ่ที่จัดทำโดยกระทรวงกลาโหมอเมริกาเกี่ยวกับข้อมูลลับด้านสงครามสำหรับผู้นำระดับสูง ที่จะรับรายงานจากหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหม ของ CIA ของสภาความมั่นคง
ทั้งหมดนี้มารวมอยู่ในเอกสารลับชุดนี้ และเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะถูกกลั่นกรองมาแล้ว และเป็นข้อเท็จจริงที่ออกมาว่าสถานภาพที่แท้จริงของสงครามนั้นเป็นอย่างไร
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า รายงานที่นำเสนอต่อกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ระบุว่า ยูเครนเพิ่มปริมาณการใช้ขีปนาวุธบั๊ตราว 69 ลูกต่อเดือน และขีปนาวุธ S300 จำนวน 200 ลูกต่อเดือน
เอกสารดังกล่าวลงวันที่ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ระบุด้วยว่า เมื่อคำนวณจากอัตราการยิงเช่นนี้ ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม
กองกำลังยูเครนจะไม่เหลืออาวุธให้ต่อสู้แล้ว โดยเฉพาะเอกสารลับเตือนว่า กระสุนขีปนาวุธระบบป้องกันภัยทางอากาศ S300 ของยูเครน กำลังจะหมดคลัง
ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่นๆ ของประเทศอาจจะหมดภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566
ขีปนาวุธต่อต้านการโจมตีทางอากาศ S300 นั้น ต้นทางที่มาก็คือรัสเซีย ความสามารถของยูเครนในการป้องภันภัยทางอากาศของยูเครนนั้น 89 เปอร์เซ็นต์ ต้องพึ่งระบบ S300 ของรัสเซีย และกระสุนกำลังจะหมดแล้ว
ที่ผ่านมา นายเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เรียกร้องให้อเมริกาและพันธมิตรจัดระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
โดยระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศนั้นมีความสำคัญอันดับหนึ่ง นอกจากนี้แล้ว เซเลนสกี และผู้ช่วยของเขา ยังร้องขอเครื่องบินรบที่ผลิตโดยตะวันตก อย่างเช่น F-16 ของอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ชาติตะวันตก ยุโรปบางส่วน บอกว่า เขาเปิดรับความคิด แต่ก็ยังปฏิเสธ ไม่ส่งเครื่องบินให้ประเด็นสำคัญของเอกสารลับเพนตากอนที่รั่วไหลเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ระบุชัดเจนว่า ยูเครนจะใช้ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศจนเกือบหมดภายในเดือนพฤษภาคม 2566 นี้
และด้วยแนวโน้มต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่รัสเซียครองความได้เปรียบบนท้องฟ้า คือรัสเซียส่งเครื่องบิน หรือขีปนาวุธยิงเข้ายูเครนตลอดเวลา ก็มีเฉพาะ S300 นั้นที่พอจะป้องกันได้
ปัจจุบันรัสเซียมีฝูงเครื่องบินขับไล่ 485 ลำ ยูเครนมีเหลือ 85 ลำ ยูเครนจึงร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมจากตะวันตกมาหลายเดือนแล้ว
สรุปแบบสั้นๆ เกี่ยวกับเนื้อหาเอกสารที่หลุดนั้น บ่งชี้ว่าอย่างไร ?
ข้อที่หนึ่ง เอกสารหลุดเป็นรายงานสถานการณ์สงครามในยูเครน ในช่วงกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2566
ถือว่าแม่นยำมาก เพราะว่าเพิ่งรายงานเหตุการณ์เมื่อเดือนที่แล้วเอง ณ วันนี้ คือวันที่ 21 เมษายน แต่เอกสารรายงานนี้สิ้นสุดเอาเดือนมีนาคม ก็คือสิ้นเดือนที่แล้วนั่นเอง
ข้อที่สอง นัยสำคัญของข้อมูลคือ ยูเครนกำลังสุ่มเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้สงคราม โดยอเมริกามีความหวังค่อนข้างน้อยต่อโอกาสที่กองทัพยูเครนจะตอบโต้รัสเซียได้อย่างมีนัยสำคัญ
เจ้าหน้าที่ที่เขียนเอกสารลับระบุว่า ชัยชนะสำหรับยูเครนจะเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุผลสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหากการประเมินทางฝั่งสหรัฐฯ
จะชี้ไปว่า มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะตั้งยันกันตลอดปี 2566
ข้อที่สาม อเมริกาแสดงความไม่พอใจ โดยเห็นว่าจุดยืนของนายอังตอนียู กูแตรึซ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ เรื่องการผ่อนปรนต่อข้อตกลงการส่งออกธัญพืช กระทบต่อความพยายามที่จะลงโทษรัสเซียต่อสงครามในยูเครน
ข้อที่สี่ เอกสารลับบอกว่า อเมริกายอมรับว่ามีกองกำลังพิเศษชาติตะวันตก คือทหารทางชาติตะวันตก มาปฏิบัติการในยูเครน มีทหารจากอังกฤษ 50 นาย ลัตเวีย 17 นาย ฝรั่งเศส 15 นาย และมีอเมริกาอีก 14 นาย อันนี้เป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนมาก และกระทบ สร้างความหวั่นไหวให้กับชาติตะวันตก
นอกจากนี้แล้ว ในเอกสารลับมีข้อมูลเกี่ยวกับกองทหารยูเครนที่เกิดขึ้นใหม่ 12 กองพล มี 9 กองพลดูเหมือนว่าจะได้รับการฝึกฝนและจัดหาโดยสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรอื่นๆ ของสมาชิกนาโต โดย 6 กองพลใน 9กองพล คาดว่าจะพร้อมรบในวันที่ 31 มีนาคม 2566 ส่วนที่เหลือ ภายในวันที่ 30 เมษายน 2566
เนื้อหาเอกสารยังเน้นถึงความต้องการรถถังของยูเครนถึง 250 คัน และยานรบทหารราบ 350 คัน
สำหรับแผนปฏิบัติการ นอกจากนี้ ยังระบุถึงอัตราค่าใช้จ่ายสำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ภายใต้การควบคุมทางทหารของยูเครน รวมทั้งระบบจรวดไฮมาร์ส(HIMARS)อีกด้วย
ข้อที่ห้า อเมริกาสอดแนมชาติต่างๆ รวมทั้งชาติพันธมิตร โดยเอกสารนี้ระบุว่า
-อียิปต์กำลังวางแผนอย่างลับๆ เพื่อสนับสนุนจรวดให้รัสเซีย
-เกาหลีใต้ตกในจุดยืนที่ยากลำบาก เพราะอเมริกากดดันให้จำหน่ายกระสุนปืนใหญ่ให้ยูเครน แต่เกาหลีใต้ไม่ต้องการติดอาวุธให้ประเทศใดๆ ในสงคราม
“เอกสารอีกฉบับหนึ่งอธิบายรายละเอียดการสนทนาของเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ 2 คน เกี่ยวกับข้อกังวลของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับคำขอของสหรัฐฯ
สำหรับการจัดหากระสุนให้ยูเครน โดยเจ้าหน้าที่กังวลว่า การจัดหากระสุนที่อเมริกาจะส่งให้ยูเครนนั้นจะเป็นการละเมิดนโยบายของเกาหลีใต้ที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือที่เป็นอันตรายให้กับประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม
โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของเกาหลีใต้แนะนำให้ขายกระสุนให้กับโปแลนด์แทน เพื่อหลีกเลี้ยงการละเมิดนโยบาย”
การดักฟังโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้นั้น เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ทำให้สื่อมวลชนในเกาหลีใต้ ตลอดจนสังคมในเกาหลีใต้ แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งที่อเมริกา ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด กลับมาแอบดักฟังโทรศัพท์คนของตัวเอง
-รายงานข่าวกรองเกี่ยวกับอิสราเอลได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจจากรัฐบาลอิสราเอล ซึ่งรายงานดังกล่าวจัดทำโดย CIA ระบุว่า หน่วยข่าวกรองหลักของอิสราเอล อย่างมอสสาด (Mossad) ได้สนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู
- จีนกำลังดำเนินการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิครุ่นใหม่ที่มีศักยภาพยิงได้ไกลถึง 2,100 กิโลเมตร ภายในระยเวลา 12 นาที เท่านั้นเอง
รายการนี้วิเคราะห์ได้ชัดมาก!! เอกสารลับเพนตากอนรั่ว ฉีกหน้าอเมริกาครั้งมโหฬาร ชี้ชัดโกหกชาวโลกสงครามยูเครน!
โดยมีสื่ออเมริกันช่วยประโคมข่าวกรอกหูประชาชนมาปีกว่าว่ารัสเซียจะแพ้แล้ว แต่เอกสารที่รั่วออกมาระบุชัดเคียฟร่อแร่ ระบบป้องกันทางอากาศส่อพังในเดือนหน้า อัตราสูญเสียทหารมากกว่ารัสเซีย
แม้มีทหารจากนาโตเข้าร่วมรบ มีกองพลเกิดใหม่ฝึกโดยอเมริกาและพันธมิตร
ซ้ำเปิดโปงพฤติกรรมที่ไว้ใจไม่ได้ของสหรัฐฯ แอบสอดแนมแม้กระทั่งพวกเดียวกันเอง
ทั้งยังเป็นการตบหน้าสื่อไทยใจฝรั่งที่เป็นเครื่องมือขยายเสียงและคำโกหกของสื่อตะวันตก
วันศุกร์ที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ ได้กล่าวถึงกรณีเอกสารลับของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(เพนตากอน) รั่วไหลออกมาเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ดิสคอร์ด (Discord) ของเกม Minecraft
ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของเหล่าเกมเมอร์ในการใช้พูดคุยกันระหว่างเล่นเกม ก่อนเผยแพร่ไปยังโซเชียลมีเดียอื่นๆ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แม้ทางการอเมริกาจะตามไล่ลบเอกสารลับที่รั่วไหลไปยังทวิตเตอร์ และเทเลแกรม แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
ต่อมา วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน ทาง FBI ได้จับกุมผู้ก่อเหตุ คือ จ่าอากาศโท แจ๊ก เทเซรา (Jack Teixeira) ทหารอากาศวัย 21 ปี ที่เมืองดีตัน รัฐแมสซาชูเซตส์
จ่าอากาศโท เทเซรา สังกัดอยู่ที่กองกำลังรักษาดินแดน ก็คือเป็นทหารพิเศษที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า National Guardsman ของแมสซาชูเซตส์ เขาถูกนำตัวขึ้นศาลที่แขวงในเมืองบอสตันในเช้าวันศุกร์ที่ 14 ทันที
เอกสารการแจ้งข้อกล่าวหา ระบุว่า เทเซรา ได้รับสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลความมั่นคงขั้นลับสุดยอด ตั้งแต่ปี 2564 เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ไอทีระดับล่าง มีหน้าที่รับผิดชอบดูแลระบบไซเบอร์ทรานสปอร์ตซิสเต็ม (Cyber Transport System)
ทำให้ต้องทำงานกับเครือข่ายที่มีข้อมูลความลับสูง และเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงได้รับสิทธิให้เข้าถึงข้อมูลลับขนาดนี้
เอกสารคำฟ้องระบุด้วยว่า เขาเริ่มโพสต์ข้อมูลที่เกี่ยวกับเอกสารลับทางออนไลน์ในช่วงเดือนธันวาคม 2565 และโพสต์บรรดารูปถ่ายเอกสารในเดือนมกราคม 2566
มีคนๆ หนึ่งซึ่งไม่ยอมเปิดเผยรายชื่อ ได้เปิดเผยกับ FBI ว่า เทเซรา บอกว่าเขากังวลเกี่ยวกับการคัดลอกข้อมูลในที่ทำงาน จึงนำเอกสารกลับไปที่บ้าน
และถ่ายรูปเก็บไว้เอกสารบางฉบับเป็นข้อมูลลับสุดยอด เช่น เอกสารที่รายงานการลอบดักฟังโทรศัพท์ของพันธมิตรและศัตรูรายสำคัญ และการประเมินสถานการณ์จริงของสถานภาพของสงครามยูเครน
เจ้าหน้าที่หลายคนกล่าวกับสำนักข่าว CNN เชื่อว่าเทเซรา เป็นหัวหน้าห้องแชตบนแพลตฟอร์มดิสคอร์ด ที่เปิดรับเฉพาะผู้ได้รับเชิญเท่านั้น
ซึ่งข้อมูลจากเอกสารลับถูกโพสต์ครั้งแรกในห้องแชตนี้เมื่อหลายเดือนก่อน
บันทึกคำให้การระบุว่า เทเซรา ใช้ชื่อจริง และให้ข้อมูลที่บ้านของเขาในรัฐแมสซาชูเซตส์ สำหรับเป็นข้อมูลการเรียกเก็บเงินที่เกี่ยวข้องกับบัญชีดิสคอร์ด
ข้อมูลเอกสารลับฉีกหน้าเพนตากอน-รัฐบาลไบเดน ชี้ชัดกำลังโกหกครั้งมโหฬาร
วันพฤหัสบดีที่ 8 เมษายน พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตนเองนั้นทราบเป็นครั้งแรกเมื่อเพนตากอน หรือกระทรวงกลาโหม ประสบปัญหาการรั่วไหลของเอกสารลับจำนวนมาก
ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยทางอากาศสำหรับยูเครน ความพยายามของทหารสหรัฐฯ ในสงครามยูเครน
และข่าวกรองที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ ทำให้เห็นภาพที่น่ากลัวเกี่ยวกับแนวโน้มของการป้องกันทางอากาศของยูเครน
โดยเอกสารนี้ทำนายว่า ยูเครนอาจจะต้องประสบกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงก่อนสิ้นเดือนพฤษภาคม 2566
ซึ่งในข้อเท็จจริงก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ในตอนนี้ เพราะว่าเมืองบักมุต ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดที่เซเลนสกี และฝ่ายยูเครน และฝ่ายตะวันตก พยายามจะยันกองทัพรัสเซียเอาไว้
ตอนนี้ข่าวหลุดออกมาแล้วว่า รัสเซียยึดเมืองบักมุตได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
จากการตรวจสอบเอกสารที่รั่วไหลออกมาจำนวน 53 ฉบับ ของหน่วยข่าวกรอง ของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักข่าวกรองของกระทรวงกลาโหม
สำนักข่าวกรองภูมิสารสนเทศแห่งชาติ สำนักความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งทั้งหมดมีตราประทับว่า "เป็นความลับ" และ "ความลับสุดยอด" SECRET และ TOP SECRET เอกสารบางอย่างถูกจัดทำขึ้นระหว่างกลางเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้ ถึงต้นเดือนมีนาคม 2566
เพราะฉะนั้นข้อมูลที่ออกมาในเอกสารลับนี้ เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะทันสมัยและทันต่อเหตุการณ์
เอกสารข้อมูลต่างๆ เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าที่ผ่านมาอเมริกานั้นได้สอดแนม แอบดักฟังโทรศัพท์ประเทศพันธมิตรและคู่ขัดแย้งอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
แม้กระทั่งล่าสุด เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ก็ออกมาโวยวายว่าถูกแอบดักฟังโทรศัพท์เหมือนกัน
การรั่วไหลครั้งนี้ได้สร้างความสั่นคลอนอย่างมาก โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งประกอบด้วยผู้นำกองทัพระดับสูงสุดของกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีหน้าที่ให้คำแนะนำต่อประธานาธิบดี
และดูเหมือนจะเป็นเอกสารสรุปข่าวกรองรายวันขนาดใหญ่ที่จัดทำโดยกระทรวงกลาโหมอเมริกาเกี่ยวกับข้อมูลลับด้านสงครามสำหรับผู้นำระดับสูง ที่จะรับรายงานจากหน่วยข่าวกรองของกระทรวงกลาโหม ของ CIA ของสภาความมั่นคง
ทั้งหมดนี้มารวมอยู่ในเอกสารลับชุดนี้ และเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างจะถูกกลั่นกรองมาแล้ว และเป็นข้อเท็จจริงที่ออกมาว่าสถานภาพที่แท้จริงของสงครามนั้นเป็นอย่างไร
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า รายงานที่นำเสนอต่อกระทรวงกลาโหมเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ระบุว่า ยูเครนเพิ่มปริมาณการใช้ขีปนาวุธบั๊ตราว 69 ลูกต่อเดือน และขีปนาวุธ S300 จำนวน 200 ลูกต่อเดือน
เอกสารดังกล่าวลงวันที่ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ระบุด้วยว่า เมื่อคำนวณจากอัตราการยิงเช่นนี้ ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม
กองกำลังยูเครนจะไม่เหลืออาวุธให้ต่อสู้แล้ว โดยเฉพาะเอกสารลับเตือนว่า กระสุนขีปนาวุธระบบป้องกันภัยทางอากาศ S300 ของยูเครน กำลังจะหมดคลัง
ขณะที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศอื่นๆ ของประเทศอาจจะหมดภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2566
ขีปนาวุธต่อต้านการโจมตีทางอากาศ S300 นั้น ต้นทางที่มาก็คือรัสเซีย ความสามารถของยูเครนในการป้องภันภัยทางอากาศของยูเครนนั้น 89 เปอร์เซ็นต์ ต้องพึ่งระบบ S300 ของรัสเซีย และกระสุนกำลังจะหมดแล้ว
ที่ผ่านมา นายเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เรียกร้องให้อเมริกาและพันธมิตรจัดระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว
โดยระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศนั้นมีความสำคัญอันดับหนึ่ง นอกจากนี้แล้ว เซเลนสกี และผู้ช่วยของเขา ยังร้องขอเครื่องบินรบที่ผลิตโดยตะวันตก อย่างเช่น F-16 ของอเมริกา
อย่างไรก็ตาม ชาติตะวันตก ยุโรปบางส่วน บอกว่า เขาเปิดรับความคิด แต่ก็ยังปฏิเสธ ไม่ส่งเครื่องบินให้ประเด็นสำคัญของเอกสารลับเพนตากอนที่รั่วไหลเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ระบุชัดเจนว่า ยูเครนจะใช้ขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศจนเกือบหมดภายในเดือนพฤษภาคม 2566 นี้
และด้วยแนวโน้มต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่รัสเซียครองความได้เปรียบบนท้องฟ้า คือรัสเซียส่งเครื่องบิน หรือขีปนาวุธยิงเข้ายูเครนตลอดเวลา ก็มีเฉพาะ S300 นั้นที่พอจะป้องกันได้
ปัจจุบันรัสเซียมีฝูงเครื่องบินขับไล่ 485 ลำ ยูเครนมีเหลือ 85 ลำ ยูเครนจึงร้องขอระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมจากตะวันตกมาหลายเดือนแล้ว
สรุปแบบสั้นๆ เกี่ยวกับเนื้อหาเอกสารที่หลุดนั้น บ่งชี้ว่าอย่างไร ?
ข้อที่หนึ่ง เอกสารหลุดเป็นรายงานสถานการณ์สงครามในยูเครน ในช่วงกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2566
ถือว่าแม่นยำมาก เพราะว่าเพิ่งรายงานเหตุการณ์เมื่อเดือนที่แล้วเอง ณ วันนี้ คือวันที่ 21 เมษายน แต่เอกสารรายงานนี้สิ้นสุดเอาเดือนมีนาคม ก็คือสิ้นเดือนที่แล้วนั่นเอง
ข้อที่สอง นัยสำคัญของข้อมูลคือ ยูเครนกำลังสุ่มเสี่ยงที่จะพ่ายแพ้สงคราม โดยอเมริกามีความหวังค่อนข้างน้อยต่อโอกาสที่กองทัพยูเครนจะตอบโต้รัสเซียได้อย่างมีนัยสำคัญ
เจ้าหน้าที่ที่เขียนเอกสารลับระบุว่า ชัยชนะสำหรับยูเครนจะเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุผลสำเร็จ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหากการประเมินทางฝั่งสหรัฐฯ
จะชี้ไปว่า มีแนวโน้มที่ทั้งสองฝ่ายจะตั้งยันกันตลอดปี 2566
ข้อที่สาม อเมริกาแสดงความไม่พอใจ โดยเห็นว่าจุดยืนของนายอังตอนียู กูแตรึซ เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ เรื่องการผ่อนปรนต่อข้อตกลงการส่งออกธัญพืช กระทบต่อความพยายามที่จะลงโทษรัสเซียต่อสงครามในยูเครน
ข้อที่สี่ เอกสารลับบอกว่า อเมริกายอมรับว่ามีกองกำลังพิเศษชาติตะวันตก คือทหารทางชาติตะวันตก มาปฏิบัติการในยูเครน มีทหารจากอังกฤษ 50 นาย ลัตเวีย 17 นาย ฝรั่งเศส 15 นาย และมีอเมริกาอีก 14 นาย อันนี้เป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนมาก และกระทบ สร้างความหวั่นไหวให้กับชาติตะวันตก
นอกจากนี้แล้ว ในเอกสารลับมีข้อมูลเกี่ยวกับกองทหารยูเครนที่เกิดขึ้นใหม่ 12 กองพล มี 9 กองพลดูเหมือนว่าจะได้รับการฝึกฝนและจัดหาโดยสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรอื่นๆ ของสมาชิกนาโต โดย 6 กองพลใน 9กองพล คาดว่าจะพร้อมรบในวันที่ 31 มีนาคม 2566 ส่วนที่เหลือ ภายในวันที่ 30 เมษายน 2566
เนื้อหาเอกสารยังเน้นถึงความต้องการรถถังของยูเครนถึง 250 คัน และยานรบทหารราบ 350 คัน
สำหรับแผนปฏิบัติการ นอกจากนี้ ยังระบุถึงอัตราค่าใช้จ่ายสำหรับอาวุธยุทโธปกรณ์ภายใต้การควบคุมทางทหารของยูเครน รวมทั้งระบบจรวดไฮมาร์ส(HIMARS)อีกด้วย
ข้อที่ห้า อเมริกาสอดแนมชาติต่างๆ รวมทั้งชาติพันธมิตร โดยเอกสารนี้ระบุว่า
-อียิปต์กำลังวางแผนอย่างลับๆ เพื่อสนับสนุนจรวดให้รัสเซีย
-เกาหลีใต้ตกในจุดยืนที่ยากลำบาก เพราะอเมริกากดดันให้จำหน่ายกระสุนปืนใหญ่ให้ยูเครน แต่เกาหลีใต้ไม่ต้องการติดอาวุธให้ประเทศใดๆ ในสงคราม
“เอกสารอีกฉบับหนึ่งอธิบายรายละเอียดการสนทนาของเจ้าหน้าที่อาวุโสระดับความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ 2 คน เกี่ยวกับข้อกังวลของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เกี่ยวกับคำขอของสหรัฐฯ
สำหรับการจัดหากระสุนให้ยูเครน โดยเจ้าหน้าที่กังวลว่า การจัดหากระสุนที่อเมริกาจะส่งให้ยูเครนนั้นจะเป็นการละเมิดนโยบายของเกาหลีใต้ที่จะไม่ให้ความช่วยเหลือที่เป็นอันตรายให้กับประเทศที่อยู่ในภาวะสงคราม
โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของเกาหลีใต้แนะนำให้ขายกระสุนให้กับโปแลนด์แทน เพื่อหลีกเลี้ยงการละเมิดนโยบาย”
การดักฟังโทรศัพท์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้นั้น เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ทำให้สื่อมวลชนในเกาหลีใต้ ตลอดจนสังคมในเกาหลีใต้ แสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งที่อเมริกา ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด กลับมาแอบดักฟังโทรศัพท์คนของตัวเอง
-รายงานข่าวกรองเกี่ยวกับอิสราเอลได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจจากรัฐบาลอิสราเอล ซึ่งรายงานดังกล่าวจัดทำโดย CIA ระบุว่า หน่วยข่าวกรองหลักของอิสราเอล อย่างมอสสาด (Mossad) ได้สนับสนุนการประท้วงต่อต้านรัฐบาลใหม่ของนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู
- จีนกำลังดำเนินการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิครุ่นใหม่ที่มีศักยภาพยิงได้ไกลถึง 2,100 กิโลเมตร ภายในระยเวลา 12 นาที เท่านั้นเอง