A Taxi Driver (2017) - ภารกิจเสี่ยงตายพานักข่าวฝ่าดงกระสุนในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ควังจู

A Taxi Driver: แท็กซี่เพื่อชีวิต

กำกับโดย Jang Hun

สวัสดีครับทุกท่าน ! หลังจากเห็นหลาย ๆ คนบนกลุ่ม Netflix แนะนำถึงเรื่อง A Taxi Driver รวมถึงเห็นรีวิวจากเพจของคุณเต๋อ นวพล เลยมีโอกาสได้ไปตามรับชม พอดูจบรู้สึกว่า นี่เป็นหนังที่ดีใช้ได้ น่าเขียนรีวิวแชร์สำหรับท่านที่สนใจหนังเกาหลีคุณภาพดี 

เรื่องย่อ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
A Taxi Driver Trailer #1 (2017)

ภาพยนตร์สร้างจากเรื่องจริง ในช่วงราวปี 1980 "คิม มันซบ (ซอง คังโฮ)" แท็กซี่ในกรุงโซล ได้รับการว่าจ้างจาก "เจอร์เก้น ฮินซ์ปีเตอร์ (Thomas Kretschmann)" นักข่าวชาวเยอรมัน ให้พาเขาไปที่เมืองควังจูในช่วงที่มีการปราบปรามการประท้วงอย่างหนัก พร้อมใช้กระสุนจริงจากเจ้าหน้าที่รัฐ (ฟีลลิ่งแบบเหตุการณ์ 6 ตุลา ฯ)

การเดินทางครั้งนี้ จึงเป็นภารกิจเสี่ยงตายที่คิมและฮินซ์ปีเตอร์ต้องเอาตัวรอดออกจากเมือง เพื่อส่งฟุตเทจบันทึกเหตุการณ์การสลายการชุมนุมออกสู่สายตาชาวโลก

ความรู้สึกหลังชม

- ดูจบรู้สึกว่า นี่เป็นหนังแพทเทินฮอลลีวู้ดรสกิมจิจริง ๆ หนังทริลเลอร์ ผสมการเมือง + ดราม่าเคล้าน้ำตา 😂 ซึ่งว่าไปแล้ว มันเป็นหนังที่มีแนวทางเดียวกับ Argo (2012) กับ Escape from Mogadishu (2021) เพียงแต่สองเรื่องหลัง สเกลโปรดักชั่นระดับ International ส่วน Taxi Driver เกรดโปรดักชั่นใหญ่เหมือนกัน แต่เป็นระดับในประเทศ

- ตัวหนังเฟรนลี่กับคนดูมาก สนุกบันเทิง เศร้า ซึ้ง น้ำตาซึม ครบทุกรส ทำให้กลุ่มผู้ชมกว้างมาก (ไม่ได้จำกัดเฉพาะสายดราม่าและสายหนังรางวัล)

- ประเด็นหลักในเรื่อง พูดถึงเรื่องการเรียกร้อง "ประชาธิปไตย" ของชาวเกาหลีใต้ 

ถึงแม้ว่าทุกวันนี้ เกาหลีใต้ยุคใหม่จะมีประชาธิปไตยที่ชัดเจนและเชื่อถือได้ แต่ดูจากเหตุการณ์ในอดีต ก็นับว่า เกาหลี ฯ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ แถมต้องแลกกับอะไรหลาย ๆ อย่างกว่าจะได้ในสิ่งที่ทุกคนต้องการและภาคภูมิใจ

หลังจากที่ได้เห็นภาพและเรื่องราวต่าง ๆ จากหนังเรื่องนี้ ก็รู้สึกว่า "น่าทึ่งเหมือนกัน" ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาถึงจุดนี้ !

ภาพเหตุการณ์ล้อมปราบที่กวางจู

- จุดน่าสนใจอีกอย่างในเรื่อง คือ หนังพูดประเด็นทางการเมืองที่ชัดเจนมาก คล้ายกับว่า เหล่าคนทำหนังและชาวเกาหลีสามารถมูฟออนความเจ็บปวด / ความ Sensitive ทางการเมืองไปได้แล้ว 

ตรงนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เหล่าผู้สร้างภาพยนตร์สามารถหยิบจับประเด็นต่าง ๆ มาเล่าเป็นภาพยนตร์ได้อย่างเสรี ซึ่งช่วยให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์แข็งแกร่งขึ้น คนดูก็มีทางเลือกหลากหลายในการรับชม (ไม่โดนเซนเซอร์)

- ตั้งแต่ดูการแสดงของ "ซอง คังโฮ" มาหลายเรื่อง รู้สึกชอบการแสดงของแกในเรื่องนี้มากที่สุด 

"คิม มันซบ" เป็นตัวละครที่มีมิติหลากหลาย ตั้งแต่เป็นคนระดับล่างขี้โลเล ขี้งก โลภ ชอบหนีเอาตัวรอด แต่ก็แอบเป็นห่วงคนอื่น รักลูกสาว รักเพื่อนพ้อง

แค่เห็นคาแรคเตอร์ตัวละคร ก็อยากปาดเหงื่อแทน 😅 แต่ซอง คังโฮ ยังคงแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม สะท้อนบุคคลิกตัวละครออกมาถึงแก่น ทำให้ส่วนนี้ เป็นอีกส่วนที่ดีที่สุดของเรื่อง !


- มาดูที่ฝั่งข้อเสียบ้าง 

-- อย่างแรก ตัวหนัง Based on true story แต่มีหลาย ๆ จุดที่ไม่ได้สมจริงไปทั้งหมด มีความ Fiction ผสมเข้ามา ทำให้หนังหลุดความสมจริงไป (ตรงนี้ส่วนใหญ่เป็นข้อเสียหลักของหนัง Commercial)

-- ส่วนที่สอง ความล้นในพาร์ทดราม่า การบิ้ว / การเค้นดราม่า มีล้นและหลุด ๆ บ้าง

-- ส่วนที่สาม ความยาวหนังที่ยืดไปนิดนึง ถ้าตัดให้เหลือไม่เกิน 1.45 - 2 ชม. จะกระชับพอดีกว่า

โดยรวมข้อเสียที่ว่ามา อยู่ในระดับรับได้ แถมเมื่อเทียบกับภาพรวมหนังโดยรวม ก็ถือว่า หนังสอบผ่านแบบสบาย ๆ

สรุป

เป็นหนังเกาหลีอีกเรื่องที่สนุกและประทับใจ ถึงจะไม่ได้ชอบที่สุด แต่รู้สึกคุ้มค่าที่ได้ดู อย่างน้อยก็ได้เห็นหนังศักยภาพดี ๆ ในเอเชียที่น่าชื่นชม พร้อมกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ "ซอง คังโฮ"

แถมใครจะไปรู้ว่า ในปี 2022 ซอง คังโฮ จะได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง Broker (2022) ใน Cannes Film Festival ซึ่งการันตีความสามารถทางการแสดงของเขา

ดังนั้นใครสนใจก็แนะนำเลยนะครับ... ดูได้บน Netflix!
_________________________________

ป.ล. อีกหนึ่งช่องทางการติดต่อทาง Facebook เผื่อสนใจอยากพูดคุยติดต่อ

IG: benjireview
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่