ส่วนตัวมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับผิวหนังหลายโรค sebderm, สะเก็ดเงิน (เป็นโรคกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด), ผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบ เวลาอาการกำเริบและไปตรวจที่โรงพยาบาล ถ้าเกิดบริเวณใบหน้าหมอก็มักจะวินิจฉัยว่าเป็น sebderm ผมก็ไม่แน่ใจว่าการดูแค่รอยโรค ซักประวัติ มันทำให้วินิจฉัยได้ว่าเป็น sebderm ได้ชัดเลยหรือไม่ โดยไม่ต้องตรวจชิ้นเนื้อ
สมัยก่อนเวลาอาการกำเริบ ผมจะไปหาหมอตามโรงพยาบาลเพราะสามารถเบิกค่ารักษาได้ หมอจะจ่ายยา พวกแก้แพ้, ยาปฏิชีวนะ, เสตียรอยด์แบบอ่อน ซึ่งมันก็สามารถทุเลาอาการไปได้ทุกครั้ง แต่ผมไม่ทราบว่ามันส่งผลใดๆกับผิวหน้าหรือเปล่าจากการที่ใช้เสตียรอยด์บ่อยๆ
ปัจจุบันอยากลองรักษาแบบไม่ใช้เสตียรอยด์ ก็ลองมารักษาที่คลินิกแถวสีลม โดยจะใช้วิธีแบบฉายแสง LED ควบคู่ไปกับยาทานพวกแก้แพ้ ปฏิชีวนะ ยาทา โฟมล้างหน้าและไม่ใช้เสตียรอยด์ แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ฉายแสง 10 ครั้งก็เกือบ 30,000 บาท และใช้เวลารักษานานมาก คลินิกแจ้งว่าโดยทั่วไปต้องใช้เวลารักษา 3 เดือน จึงจะเห็นผล โดยอ้างว่าวิธีนี้จะเป็นการทำให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว ป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำบ่อย
ผมอยากสอบถามว่าปัจจุบันวิธีการฉายแสงนี่เป็นวิธีที่ได้ผลและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ครับ เพราะกว่าจะหายนานมาก คนไข้ต้องทนทรมานกับอาการของโรคนาน ทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันลำบากเพราะอาการของโรคมันไม่ทุเลาเลย และวิธีการรักษาแบบนี้ถือว่าเป็นการเลี้ยงไข้หรือไม่ครับ เพราะโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และะคนไข้จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อคอร์สในระยะยาว แทนที่จะใช้วิธีที่รักษาให้โรคทุเลาโดยเร็วเพื่อให้คนไข้กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติครับ
เป็นเซ็บเดิร์ม (sebderrm) บนใบหน้า รักษาโดยการฉายแสงไม่ใช้เสตียรอยด์ ปัจจุบันเป็นวิธีที่ได้ผลหรือเลี้ยงไข้ครับ?
สมัยก่อนเวลาอาการกำเริบ ผมจะไปหาหมอตามโรงพยาบาลเพราะสามารถเบิกค่ารักษาได้ หมอจะจ่ายยา พวกแก้แพ้, ยาปฏิชีวนะ, เสตียรอยด์แบบอ่อน ซึ่งมันก็สามารถทุเลาอาการไปได้ทุกครั้ง แต่ผมไม่ทราบว่ามันส่งผลใดๆกับผิวหน้าหรือเปล่าจากการที่ใช้เสตียรอยด์บ่อยๆ
ปัจจุบันอยากลองรักษาแบบไม่ใช้เสตียรอยด์ ก็ลองมารักษาที่คลินิกแถวสีลม โดยจะใช้วิธีแบบฉายแสง LED ควบคู่ไปกับยาทานพวกแก้แพ้ ปฏิชีวนะ ยาทา โฟมล้างหน้าและไม่ใช้เสตียรอยด์ แต่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ฉายแสง 10 ครั้งก็เกือบ 30,000 บาท และใช้เวลารักษานานมาก คลินิกแจ้งว่าโดยทั่วไปต้องใช้เวลารักษา 3 เดือน จึงจะเห็นผล โดยอ้างว่าวิธีนี้จะเป็นการทำให้ผิวแข็งแรงในระยะยาว ป้องกันไม่ให้เป็นซ้ำบ่อย
ผมอยากสอบถามว่าปัจจุบันวิธีการฉายแสงนี่เป็นวิธีที่ได้ผลและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ครับ เพราะกว่าจะหายนานมาก คนไข้ต้องทนทรมานกับอาการของโรคนาน ทำงานหรือใช้ชีวิตประจำวันลำบากเพราะอาการของโรคมันไม่ทุเลาเลย และวิธีการรักษาแบบนี้ถือว่าเป็นการเลี้ยงไข้หรือไม่ครับ เพราะโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และะคนไข้จำเป็นต้องจ่ายเงินซื้อคอร์สในระยะยาว แทนที่จะใช้วิธีที่รักษาให้โรคทุเลาโดยเร็วเพื่อให้คนไข้กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติครับ