ขออภัยครับที่ให้ข้อมูลแบบภาพรวม
แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลครับ
ผมไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้มากนักครับ อาศัยฟังจากที่ช่างเขาบอก
รถผมอายุ 10 กว่าปีครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Mazda 3 2.0
ระบบแอร์รถผมมีปัญหาช่วง 2563-2565
มันทยอยเสียทีละอย่างครับ แต่ที่รื้อคอนโซล คือ ปี 2565
เริ่มจาก
แอร์ไม่เย็น แล้วมีสัญลักษณ์เครื่องร้อน
พอผมเห็นรีบจอดรถเรียกรถสไลด์
ไปถึงอู่ ช่างบอกว่าสาเหตุ จากพัดลมหน้าเครื่องยนต์ไม่หมุน
จำได้ว่า ช่างบอกว่า ถ้ารถวิ่งเร็ว ไม่ได้จอดนิ่งเฉยๆ ไม่มีปัญหา เพราะลมจากภายนอกช่วยระบายความร้อน
แต่ถ้ารถติด (รถไม่เคลื่อนที่) ต้องระวังเครื่องร้อน
ดีแล้วที่ไม่ขับต่อ ไม่งั้นถ้าร้อนจนเครื่องพัง บานปลายแน่
ก็เปลี่ยนพัดลมระบายความร้อนหน้าเครื่องยนต์ครับ
ต่อมาก็
น้ำยาแอร์หมด ไปเติมได้ไม่นานก็หมด ช่างเขาบอกวา ระบบแอร์เป็นระบบปิด น้ำยาแอร์จะไม่หายไปไหน ยกเว้นมันรั่ว ซึ่งอาการนี้คือมีจุดรั่ว
สรุป เปลี่ยน ท่อ H รั่ว, รังผึ้งรั่ว (เรียกคอนแดนเซอร์ใช่ไหมครับ) เขาเอาไปแช่น้ำให้ดูว่ามันรั่ว
ต่อมาก็
คอมแอร์เสียงดังมากกกกก ไปตรงไหนมีแต่คนหันมามองหา ว่าเสียงอะไรดังมาก เอี๊ยดดๆๆๆๆๆ
สรุป เปลี่ยน คอมแอร์, มูเล่, สายพานมูเล่ (ผมจำชื่อเรียกเป๊ะๆ ไม่ได้ครับ) คุ้นๆ ว่ามีเปลี่ยนคอยล์ร้อนด้วย
ต่อมาก็
ตื่นเช้ามาน้ำแอร์ไหลนองเต็มพื้นรถ
สรุป ตู้แอร์ตัน เป็นเมือก อาจจะเกิดจากฝุ่นผสมกับสเปรย์แอลกอฮอล์ที่พ่นในรถ พอมันตันน้ำแอร์ไม่มีทางระบายไปที่พื้นถนน เลยไหลเข้าตัวรถ
ก็ต้องรื้อคอนโซลในรถ เปลี่ยน ตู้แอร์คอยล์เย็น, วาล์วบล๊อคตู้แอร์, มอเตอร์โบลวเวอร์ (มันคือพัดลมแอร์ใช่ไหมครับ)
ผมจำได้ประมาณนี้ครับ รายละเอียดลงลึกกว่านี้ผมเริ่มไม่แน่ใจครับ
อะไหล่ทุกตัวคือมือหนึ่งหมดครับ
แอร์เย็นเฉียบมาโดยตลอดหลายเดือน (แม้ว่าหน้าร้อน แต่แอร์เย็นมากครับ)
วันนี้
สตาร์ทรถกำลังจะออกไปข้างนอก
พบว่าแอร์รถยนต์เสียครับ
อาการเสีย คือ ไม่มีลมออกจากช่องแอร์
เมื่อวานยังเย็นเฉียบอยู่เลยครับ (คือ ตั้งแต่เปลี่ยนตู้แอร์มา คือ เย็นเฉียบมาตลอดครับ)
เท่าที่ผมสังเกตุดูเบื้องต้น คือ
- ไฟสัญลักษณ์ที่คอนโซลแอร์ติดปกติ (ไฟ A/C ติด)
- ไม่มีลมจากช่องแอร์พัดออกมา และไม่ได้ยินเสียงพัดลมแอร์ (ฟังเสียงตอนอยู่ในรถ)
- พัดลมหน้าเครื่องยนต์หมุน (เปิดฝากระโปรงหน้ารถดู แต่ถ้าปิด A/C พัดลมจะหยุดหมุน)
- ได้ยินเสียงคอมแอร์ (แต่ถ้าปิด A/C เสียงนี้จะหายไป)
- สายพานหมุน (เปิดฝากระโปรงหน้ารถดู)
- น้ำหล่อเย็นเต็มกระปุก (เปิดฝากระโปรงหน้ารถดู)
- ไม่มีสัญลักษณ์เครื่องฮีทปรากฏบนหน้าจอแสดงผล
ผมจำได้ว่า ช่างเคยบอกว่า ถ้าแอร์เสียให้ปิด A/C ป้องกันอาการบานปลาย
ระหว่างนี้ ต้องปิด A/C ใช่ไหมครับ
แต่พอผมปิด A/C แล้วพัดลมหน้าเครื่องยนต์ก็ไม่หมุน
แบบนี้จะเสี่ยงเครื่องฮีทไหม
ตอนนี้ดันมีธุระครับ ไปร้านแอร์ไม่ทัน (ยอมร้อนไปก่อน)
รบกวนถามครับ
- ระหว่างนี้ ผมควรใช้รถอย่างไรครับ
ปิด A/C ใช่ไหมครับ หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ถ้ารถจอดนิ่งต้องดับเครื่อง ผมเข้าใจถูกไหมครับ
- อาการนี้ไม่น่าจะเป็นที่น้ำยาแอร์หมดใช่ไหมครับ เพราะถ้าน้ำยาแอร์หมด ต้องมีลมออกมาเป็นลมธรรมดา (ไม่ใช่ลมเย็น) ใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ
แอร์รถยนต์เสีย ระหว่างนี้ ต้องปิด A/C ใช่ไหมครับ แต่พอปิด A/C แล้วพัดลมหน้าเครื่องยนต์ก็ไม่หมุน จะเสี่ยงเครื่องฮีทไหม
แก้ไขเพิ่มเติมข้อมูลครับ
ผมไม่ค่อยมีความรู้ทางด้านนี้มากนักครับ อาศัยฟังจากที่ช่างเขาบอก
รถผมอายุ 10 กว่าปีครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ระบบแอร์รถผมมีปัญหาช่วง 2563-2565
มันทยอยเสียทีละอย่างครับ แต่ที่รื้อคอนโซล คือ ปี 2565
เริ่มจาก
แอร์ไม่เย็น แล้วมีสัญลักษณ์เครื่องร้อน
พอผมเห็นรีบจอดรถเรียกรถสไลด์
ไปถึงอู่ ช่างบอกว่าสาเหตุ จากพัดลมหน้าเครื่องยนต์ไม่หมุน
จำได้ว่า ช่างบอกว่า ถ้ารถวิ่งเร็ว ไม่ได้จอดนิ่งเฉยๆ ไม่มีปัญหา เพราะลมจากภายนอกช่วยระบายความร้อน
แต่ถ้ารถติด (รถไม่เคลื่อนที่) ต้องระวังเครื่องร้อน
ดีแล้วที่ไม่ขับต่อ ไม่งั้นถ้าร้อนจนเครื่องพัง บานปลายแน่
ก็เปลี่ยนพัดลมระบายความร้อนหน้าเครื่องยนต์ครับ
ต่อมาก็
น้ำยาแอร์หมด ไปเติมได้ไม่นานก็หมด ช่างเขาบอกวา ระบบแอร์เป็นระบบปิด น้ำยาแอร์จะไม่หายไปไหน ยกเว้นมันรั่ว ซึ่งอาการนี้คือมีจุดรั่ว
สรุป เปลี่ยน ท่อ H รั่ว, รังผึ้งรั่ว (เรียกคอนแดนเซอร์ใช่ไหมครับ) เขาเอาไปแช่น้ำให้ดูว่ามันรั่ว
ต่อมาก็
คอมแอร์เสียงดังมากกกกก ไปตรงไหนมีแต่คนหันมามองหา ว่าเสียงอะไรดังมาก เอี๊ยดดๆๆๆๆๆ
สรุป เปลี่ยน คอมแอร์, มูเล่, สายพานมูเล่ (ผมจำชื่อเรียกเป๊ะๆ ไม่ได้ครับ) คุ้นๆ ว่ามีเปลี่ยนคอยล์ร้อนด้วย
ต่อมาก็
ตื่นเช้ามาน้ำแอร์ไหลนองเต็มพื้นรถ
สรุป ตู้แอร์ตัน เป็นเมือก อาจจะเกิดจากฝุ่นผสมกับสเปรย์แอลกอฮอล์ที่พ่นในรถ พอมันตันน้ำแอร์ไม่มีทางระบายไปที่พื้นถนน เลยไหลเข้าตัวรถ
ก็ต้องรื้อคอนโซลในรถ เปลี่ยน ตู้แอร์คอยล์เย็น, วาล์วบล๊อคตู้แอร์, มอเตอร์โบลวเวอร์ (มันคือพัดลมแอร์ใช่ไหมครับ)
ผมจำได้ประมาณนี้ครับ รายละเอียดลงลึกกว่านี้ผมเริ่มไม่แน่ใจครับ
อะไหล่ทุกตัวคือมือหนึ่งหมดครับ
แอร์เย็นเฉียบมาโดยตลอดหลายเดือน (แม้ว่าหน้าร้อน แต่แอร์เย็นมากครับ)
วันนี้
สตาร์ทรถกำลังจะออกไปข้างนอก
พบว่าแอร์รถยนต์เสียครับ
อาการเสีย คือ ไม่มีลมออกจากช่องแอร์
เมื่อวานยังเย็นเฉียบอยู่เลยครับ (คือ ตั้งแต่เปลี่ยนตู้แอร์มา คือ เย็นเฉียบมาตลอดครับ)
เท่าที่ผมสังเกตุดูเบื้องต้น คือ
- ไฟสัญลักษณ์ที่คอนโซลแอร์ติดปกติ (ไฟ A/C ติด)
- ไม่มีลมจากช่องแอร์พัดออกมา และไม่ได้ยินเสียงพัดลมแอร์ (ฟังเสียงตอนอยู่ในรถ)
- พัดลมหน้าเครื่องยนต์หมุน (เปิดฝากระโปรงหน้ารถดู แต่ถ้าปิด A/C พัดลมจะหยุดหมุน)
- ได้ยินเสียงคอมแอร์ (แต่ถ้าปิด A/C เสียงนี้จะหายไป)
- สายพานหมุน (เปิดฝากระโปรงหน้ารถดู)
- น้ำหล่อเย็นเต็มกระปุก (เปิดฝากระโปรงหน้ารถดู)
- ไม่มีสัญลักษณ์เครื่องฮีทปรากฏบนหน้าจอแสดงผล
ผมจำได้ว่า ช่างเคยบอกว่า ถ้าแอร์เสียให้ปิด A/C ป้องกันอาการบานปลาย
ระหว่างนี้ ต้องปิด A/C ใช่ไหมครับ
แต่พอผมปิด A/C แล้วพัดลมหน้าเครื่องยนต์ก็ไม่หมุน
แบบนี้จะเสี่ยงเครื่องฮีทไหม
ตอนนี้ดันมีธุระครับ ไปร้านแอร์ไม่ทัน (ยอมร้อนไปก่อน)
รบกวนถามครับ
- ระหว่างนี้ ผมควรใช้รถอย่างไรครับ
ปิด A/C ใช่ไหมครับ หลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ถ้ารถจอดนิ่งต้องดับเครื่อง ผมเข้าใจถูกไหมครับ
- อาการนี้ไม่น่าจะเป็นที่น้ำยาแอร์หมดใช่ไหมครับ เพราะถ้าน้ำยาแอร์หมด ต้องมีลมออกมาเป็นลมธรรมดา (ไม่ใช่ลมเย็น) ใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ