🧐 “หมอหลวง” ละครไทยที่ทำให้กลับมาติดงอมแงม รอดูเรียลไทม์หลังจบ “บุพเพสันนิวาส”


“หมอหลวง” ละครไทยที่บทดี นักแสดงเด่น โครงเรื่องน่าติดตาม จะกลับมาสร้างกระแส
ให้กับวงการละครไทยได้อีกครั้งหรือไม่
เพราะถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องกลับมา
ดูละครไทยแบบเรียลไทม์หน้าจอทีวีกันอีกครั้ง
เมื่อนักศึกษาแพทย์สาววาร์ปไปสมัย ร.3
เอาความรู้การแพทย์สมัยใหม่ไปไฟท์กับตำราแพทย์โบราณที่ใช้สมุนไพรและกดจุดเป็นหลัก
งานนี้บันเทิงไม่แพ้แม่การะเกด
ใน “บุพเพสันนิวาส” จริงๆ

ตัวผู้เขียนไม่ได้เป็นนักดูละครไทยตัวยงนัก เหมือนคนทั่วไปที่ส่วนใหญ่ติดตามละคร
และซีรีส์ใหม่ๆ ผ่านสตรีมมิงมากกว่า
แทบจะจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้าย
ที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยละครตอนใหม่
แบบเรียลไทม์ผ่านหน้าจอทีวีที่บ้าน
เป็นละครเรื่องอะไร
เท่าที่นึกออกจากแค่เรื่อง “บุพเพสันนิวาส”
และ “เลือดข้นคนจาง” เท่านั้น
แต่หลังจากที่ได้ชิมตอนแรกของ “หมอหลวง” หรือ “Royal Doctor” ใน Netflix ก็พบว่า
ตัวเองนั่งดูอย่างเพลิดเพลินตั้งแต่ตอนแรก
ยันตอนล่าสุดจบรวดเดียวแบบงงๆ
แถมตอนที่ไม่มีตอนต่อไปให้ดู
ก็มีอาการโหยหาตอนต่อไปในทันที
นี่สินะอาการของคนติดละคร มันกลับมาแล้วหลังจากที่ไม่ได้มีอาการนี้มานาน
เพราะส่วนใหญ่มักจะเลือกดูละคร
หรือซีรีส์แบบรวดเดียวจบมากกว่า
เพราะกลัวลงแดงอยากดูตอนต่อไป
แต่พอหลงมาดู หมอหลวง แล้ว
อาการอยากดูตอนต่อไปเล่นงานเข้าทันที

 
บัว ในหมอหลวง VS การะเกด บุพเพสันนิวาส 

หมอหลวง เดินเรื่องคล้ายสูตรสำเร็จ
ของละครหลายๆ เรื่องที่เป็นแนวย้อนเวลา
สู่อดีต ตัวละครมีความนึกคิดเป็นคน
ในยุคปัจจุบันทันสมัย พูดจาด้วยภาษาวัยรุ่น
ท่ามกลางชาวบ้านชาวช่องในสมัยอดีต
ที่แต่งกายและใช้ภาษาโบราณ และคนใน
สมัยก่อนก็จะไม่เข้าใจคำพูดคำจา
ของตัวละครที่วาร์ปมาจากโลกอนาคต
ทำให้บัว (แสดงโดย คิมเบอร์รี่)
และ การะเกด (แสดงโดย เบลล่า ราณี)
มีคาแร็กเตอร์ที่คล้ายกันค่อนข้างมาก
และเป็นจุดเด่นที่ทำให้ละครดำเนินเรื่อง
ไปได้อย่างสนุกสนาน
คนดูติดตามว่าตัวละครนี้จะสร้างสีสันอะไร
ในสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้นอีก
ถ้า บุพเพสันนิวาส ทำได้ดี ในฐานะละคร
ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ไทย
ตามยุคสมัยต่างๆ ได้อย่างสนุกสนานแล้ว
หมอหลวง ก็ทำหน้าที่ได้ดี
ในการเล่าเรื่องเกร็ดความรู้เรื่องการแพทย์
ในสมัยอดีตของไทย พูดถึงหมอปลัดเล หรือ แดน บีช แบรดลีย์ นายแพทย์ชาวอเมริกัน
ที่เข้ามาเผยแพร่ศาสนาคริสต์
และการแพทย์สมัยใหม่ในกรุงรัตนโกสินทร์
การใช้สมุนไพรรักษาโรค และวงการหมอหลวงที่คอซีรีส์เกาหลีน่าจะคุ้นหูคุ้นตากันมาบ้าง
ในครานี้ได้ดูเป็นเวอร์ชั่นละครไทย
ต้องบอกเลยว่าสนุกและน่าติดตามไม่แพ้กัน


ซีรีส์วงการอาชีพที่พบมากในซีรีส์เกาหลี
มาให้ดูแล้วในละครไทย

แน่นอนว่าผู้เขียนก็เป็นคนหนึ่งที่เป็นคอซีรีส์เกาหลี เพราะชื่นชอบในโครงเรื่อง บทละคร
ที่มีมิติ สอดแทรกสาระน่ารู้ของอาชีพต่างๆ
ที่ตัวละครหลักทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็น หมอ ทนาย อัยการ ทหาร ตำรวจ ฯลฯ และอดสงสัย
เหมือนคนรุ่นใหม่หลายๆ คนไม่ได้ เหมือนกัน
ว่า นอกจากละครตบจูบหรือเมียหลวงเมียน้อยทะเลาะแย่งพระเอกกันแล้ว
ละครไทยจะสามารถมีละครที่เล่าเรื่องอาชีพ
ได้ลึกๆ สนุก และน่าติดตามได้บ้างไหม
สำหรับผู้เขียนแล้ว
หมอหลวง ถือว่าสอบผ่านในระดับหนึ่ง
(ให้ในระดับหนึ่ง เพราะยังดูไม่จบ) 
โดยตัวพระเอก นายทองอ้น (แสดงโดย
มาริโอ้ เมาเร่อ) รับบทเป็นลูกชายของหมอหลวงที่ถวายงานในวัง และต้องเข้าไปสอบเข้าโรงเรียนหมอหลวง เพื่อร่ำเรียนและจบออกมาเป็นหมอหลวงให้ได้เหมือนพ่อ ระหว่าง
การร่ำเรียนเป็นหมอก็ต้องเจอกับบททดสอบและบทเรียนยากๆ ที่เหล่าหมอหลวงต้องเจอ
คนดูได้เรียนรู้เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ
เกี่ยวกับการแพทย์แผนโบราณ
ระหว่างที่ลุ้นไปด้วยว่า
ตัวละครจะสามารถทำได้ดีหรือไม่
ทำให้คนดูได้รับความรู้อย่างเพลินๆ
แบบที่ไม่รู้สึกว่ายัดเยียด
และคนเขียนบทก็ทำการบ้านมาได้ดีทีเดียว


เลิฟไลน์น่ารักน่าชังตามแบบฉบับหนังฟีลกู๊ด

ส่วนสำคัญของละครรอมคอม (โรแมนติก
คอเมดี้) คือการสอดแทรกเรื่องความรัก
เข้าไปในตัวละครพระนาง
ทองอ้นกับบัวเป็นคู่รักคู่กัดที่น่ารักน่าชัง
จนคนดูหลงรักได้ง่ายๆ รวมถึง
ตัวละครเสริมต่างๆ ที่ทำให้คู่รักในละคร
มีมากกว่าคู่พระนาง คู่รองต่างๆ ที่คาดว่า
ก็น่าจะน่ารักและคนดูเอาใจช่วยไม่แพ้คู่หลัก หมอหลวงยังคงทำได้ดีตามสไตล์ละครไทย และถือว่าเป็นละครสอดแทรกความรู้ต่างๆ
ที่ทำออกมาได้กลมกล่อมไม่ดราม่า
หรือซีเรียสจนย่อยยากจนเกินไป
รวมถึงเมียหลวงเมียน้อยของคุณหมอพ่อของพระเอกก็ไฟท์กันแบบพอหอมปากหอมคอ
ไม่ได้อิจฉาริษยาใส่กันมากเกินไปจนเกินเรื่อง เป็นละครฟีลกู๊ดที่ตัวละครร้ายหรือตัวโกง
ก็ไม่ได้เลวจนทำให้ดราม่าจนเกินไป
ดูไปยิ้มไปกันได้ทั้งครอบครัว
(ส่วนตัวคิดว่า ตัวละครเณรน้อย และ
หลานชายตระกูลหมอที่เป็นเพื่อนกัน
ก็เล่นได้น่ารักเช่นกัน)


นักแสดงหน้าใหม่หน้าเก่ามากความสามารถ เล่นได้เข้าถึงบทบาท

อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถดึงรั้งผู้เขียน
ให้ดูละครเรื่องนี้ได้แบบตอนต่อตอน
ไม่ปิดหรือเทไปเสียก่อนกลางคัน เป็นเพราะ
นักแสดงที่เล่นในเรื่องนี้ ล้วนแต่เป็นนักแสดงฝีมือดี และแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ทั้งคิมเบอร์รี่ มาริโอ้ (ที่แม้จะเป็นลูกครึ่ง แต่เล่นละครไทย พูดภาษาไทยโบราณได้เข้าปากมากเพราะน่าจะเล่นละครพีเรียดมาหลายเรื่องมากแล้ว) บวกกับ ชาย ชาตโยดม, จริยา แอนโฟเน่, มยุริญ ผ่องผุดพันธ์, ณปภา ตันตระกูล
เสริมด้วยนักแสดงรุ่นใหม่ มาสุ จรรยางค์ดีกุล, ทัศน์พล วิวิธวรรธน์ และ ศิริลักษณ์ คอง
และตัวละครสมทบอื่นๆ อีกเป็นสิบๆ คน
แต่ละคนเล่นได้พอดีกลมกล่อม และไม่มีใคร
ฉุดใครลง แต่ต่างเสริมให้กันและกัน
ได้เป็นอย่างดี


ด้วยเหตุผลเหล่านี้ 
ทำให้คนที่ไม่ได้ติดตามละครไทยมานาน 
กลับมาติดละครไทยงอมแงมอีกครั้ง 
จนต้องลุกมาเขียนบทความอวยยศ
ให้ชาวไทยได้ดูละครเรื่องนี้กันเยอะๆ 
และกล้าบอกได้เลยว่า หมอหลวง 
เป็นละครไทยที่ควรค่าแก่การลง Netflix 
ให้แฟนๆ ต่างชาติได้ดูกันทั่วโลกจริงๆ


แล้วคุณล่ะ… ถึงเวลากลับมาดูละครไทยดีๆ สนุกๆ เพลินๆ อีกสักเรื่องได้หรือยัง


ติดตามชม หมอหลวง ได้ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.20 น. ทางช่อง 3

ดูย้อนหลังได้ที่ Netflix



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่