ก่อนเลือกซื้อปั๊มน้ำต้องทราบข้อมูลพื้นฐานของบ้านว่ามีขนาดและพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเท่าไหร่ ควรเลือกซื้อปั๊มน้ำประเภทไหน สเปคแบบไหน ถึงจะเหมาะสมกับ เช่น บ้านมีกี่ชั้น , จุดใช้น้ำภายในบ้านที่สูงที่สุด ได้แก่ ฝักบัวอาบน้ำของห้องน้ำชั้นบนสุดของบ้าน หรือก๊อกน้ำบนชั้นดาดฟ้า เป็นต้น , มีห้องน้ำทั้งหมดกี่ห้อง , มีก๊อกน้ำหรือจุดใช้น้ำกี่จุด ซึ่งรวมทั้งหมดของพื้นที่บ้าน ,โอกาสการใช้น้ำพร้อมกันกี่จุด และตำแหน่งการติดตั้งปั๊มน้ำอยู่บริเวณใดของตัวบ้าน
“ปั๊มน้ำ” เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มแรงดันน้ำในเส้นท่อให้มีมากขึ้น เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการใช้น้ำภายในบ้านในเวลาเดียวกันหลายจุด เพื่อให้ทุกจุดมีความแรงของน้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ไหลอ่อนจนเกินไป และต้องใช้ร่วมกับถังเก็บน้ำ (แทงก์น้ำ) ภายในบ้านเท่านั้น อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึง คือการเตรียมพื้นที่เพื่อติดตั้งปั๊มน้ำ เพราะการเลือกพื้นที่ติดตั้งปั๊มน้ำจะส่งผลให้ปั๊มทำงานดีและใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น
บางท่านอาจสงสัยว่าหากเราไม่ติดตั้งปั๊มน้ำจะสามารถใช้น้ำได้อย่างปกติหรือไม่ ตามปกติแล้วท่อประปามีแรงดันในเส้นท่อที่สามารถจ่ายน้ำในบ้านพักอาศัย 2 ชั้นได้สบาย ๆ แต่หากมีการเปิดน้ำภายในบ้านพร้อมกันหลายจุดเกินไป อาจเกิดกรณีน้ำบางจุดไหลอ่อนบ้างแรงบ้าง ไม่สม่ำเสมออันเนื่องมาจากน้ำในเส้นท่อมีแรงดันไม่เพียงพอ ปั๊มน้ำจึงกลายมาเป็นอุปกรณ์สำคัญภายในบ้านพักอาศัย เพื่อให้ใช้น้ำได้สะดวกขึ้น ซึ่งที่เรารู้จักกันทั่วไป คือ ปั๊มน้ำอัตโนมัติ ที่แบ่งได้หลัก ๆ เป็น 2 ประเภท คือ ปั๊มชนิดถังแรงดัน และปั๊มชนิดแรงดันคงที่
วิธีการเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน
1. การเลือกกำลังวัตต์ปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน
หลายท่านคิดว่าการเลือกปั๊มน้ำต้องเลือกที่กำลังวัตต์สูงๆ ไว้ก่อน ซึ่งปั๊มน้ำแรงวัตต์สูงนั้นดีแต่ถ้าเกินความจำเป็นสำหรับบ้านที่มีจุดใช้น้ำน้อย ดังนั้นก่อนทำการตัดสินใจซื้อจึงต้องศึกษาคุณสมบัติของปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลัก โดยพิจารณาจากปริมาณการใช้งานต่อวัน, จุดที่ใช้น้ำในบ้านทั้งหมดมีกี่จุด ทั้งในบ้านและนอกบ้าน, โอกาสและช่วงเวลาที่ใช้พร้อมกัน ประกอบกับความสูงของอาคาร
2. ฟังก์ชันปรับแรงดันน้ำอัตโนมัติ ของปั๊มน้ำอัตโนมัติมี 2 ประเภท คือ ปั๊มชนิดถังแรงดัน และปั๊มชนิดแรงดันคงที่ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้
-
ปั๊มน้ำชนิดถังแรงดัน ปั๊มน้ำทรงกระบอก การทำงานของปั๊มน้ำชนิดนี้จะใช้หลักการให้น้ำไปแทนที่อากาศ เพื่อใช้แรงดันของอากาศในปั๊มดันน้ำออกไปยังส่วนต่างๆ ของบ้าน ปั๊มน้ำชนิดนี้ ทนทาน ราคาถูก และหาอะไหล่ แต่แรงดันน้ำจะไม่สม่ำเสมอ หากเปิดใช้งานพร้อมกันความแรงของน้ำแต่ละจุดอาจจะไม่เท่ากัน ปั๊มน้ำตัดการทำงานบ่อย ทำให้ต้องไล่เช็กลมและปล่อยน้ำอยู่เสมอ
-
ปั๊มน้ำชนิดแรงดันคงที่ ปั๊มน้ำทรงเหลี่ยม รูปลักษณ์ สวยงามและทันสมัย การทำงานให้แรงดันน้ำสม่ำเสมอ หากรุ่นที่มีราคาสูงจะมีฟังก์ชั่นควบคุมน้ำอัจฉริยะ สามารถตรวจสอบแรงดันน้ำที่เปลี่ยนแปลงแบบอัตโนมัติ หรือตั้งแรงดันได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับบ้านที่มีการใช้น้ำหลายจุด และอุปกรณ์ที่ต้องการแรงดันน้ำคงที่ เช่น เครื่องซักผ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น และ Rain shower
ข้อดีของปั๊มน้ำชนิดนี้คือ แรงดันน้ำคงที่ เสียงเบา ขนาดไม่ใหญ่ และประหยัดไฟฟ้ากว่า แต่แน่นอนว่าราคาค่อนข้างสูง
3. วัสดุของตัวถังของปั๊มน้ำ
ปั๊มน้ำเป็นอุปกรณ์ที่มักติดตั้งไว้ระดับพื้น มักได้รับผลกระทบจากแสงแดด ลมและฝน หากตัวถังผลิตจากวัสดุไม่มีคุณภาพจะทำให้ผุกร่อนง่ายและเกิดปัญหาถังรั่วตามรอยตะเข็บ อย่าลืมมองหารุ่นที่ตัวถังผลิตจากวัสดุที่มีความทนทาน ไม่เป็นสนิมหรือออกแบบไร้รอยเชื่อมต่อ เพื่อป้องกันการรั่วซึมตามตะเข็บ ทั้งนี้ควรเลือกปั๊มน้ำที่มีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานของตัวมอเตอร์ ซึ่งในบางรุ่นจะมีพัดลมระบายความร้อนในเครื่อง แต่ปั๊มน้ำอัตโนมัติบางรุ่นได้ออกแบบการระบายความร้อนด้วยน้ำหรือใช้มอเตอร์แบบแม่เหล็กถาวร จึงไม่จำเป็นต้องมีพัดลมระบายความร้อน
4. ควรมีระบบตรวจสอบความผิดปกติของน้ำ ปั๊มน้ำที่ดีควรมีเครื่องหมาย มอก. รับรอง พร้อมเทคโนโลยีระบบตรวจสอบความผิดปกติและตัดการทำงานอัตโนมัติ อาทิ การป้องกันแรงดันเกินจากท่อประปาที่ส่งน้ำมาแรงเกิน มีเซนเซอร์แจ้งเตือนกรณีน้ำแห้งหรือน้ำขาด (Dry-running protection) และกรณีท่อรั่ว ปิดวาล์วน้ำไม่สนิท ปั๊มน้ำจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนหน้าตัวเครื่อง พร้อมกับปิดการทำงานให้อัตโนมัติ เพื่อป้องกันด้านความปลอดภัยและแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบได้ว่ามีจุดรั่วไหล
5. ปั๊มน้ำเสียงเงียบ ผู้ใช้หลับสบายไม่สะดุ้งกลางดึก ปั๊มน้ำทั่วไปจะมีเสียงดังทุกครั้งที่มีการเปิดใช้น้ำ ระดับเสียงจะอยู่ที่ 50-60 เดซิเบล ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพกาย แต่อาจรบกวนสุขภาพจิตของคนในบ้านและเพื่อนบ้านได้ แนะนำให้มองหาปั๊มน้ำอัตโนมัติระบบ Inverter ที่นอกจากช่วยประหยัดค่าไฟแล้ว การทำงานยังเงียบ บางรุ่นมีระดับเสียงเทียบเท่า กับเสียงคุยกันปกติหรือประมาณ 45 เดซิเบล
ติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากสตีเบล เอลทรอน
เลือกปั๊มน้ำอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน
วิธีการเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน
1. การเลือกกำลังวัตต์ปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งาน
หลายท่านคิดว่าการเลือกปั๊มน้ำต้องเลือกที่กำลังวัตต์สูงๆ ไว้ก่อน ซึ่งปั๊มน้ำแรงวัตต์สูงนั้นดีแต่ถ้าเกินความจำเป็นสำหรับบ้านที่มีจุดใช้น้ำน้อย ดังนั้นก่อนทำการตัดสินใจซื้อจึงต้องศึกษาคุณสมบัติของปั๊มน้ำให้เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลัก โดยพิจารณาจากปริมาณการใช้งานต่อวัน, จุดที่ใช้น้ำในบ้านทั้งหมดมีกี่จุด ทั้งในบ้านและนอกบ้าน, โอกาสและช่วงเวลาที่ใช้พร้อมกัน ประกอบกับความสูงของอาคาร
2. ฟังก์ชันปรับแรงดันน้ำอัตโนมัติ ของปั๊มน้ำอัตโนมัติมี 2 ประเภท คือ ปั๊มชนิดถังแรงดัน และปั๊มชนิดแรงดันคงที่ ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้
- ปั๊มน้ำชนิดถังแรงดัน ปั๊มน้ำทรงกระบอก การทำงานของปั๊มน้ำชนิดนี้จะใช้หลักการให้น้ำไปแทนที่อากาศ เพื่อใช้แรงดันของอากาศในปั๊มดันน้ำออกไปยังส่วนต่างๆ ของบ้าน ปั๊มน้ำชนิดนี้ ทนทาน ราคาถูก และหาอะไหล่ แต่แรงดันน้ำจะไม่สม่ำเสมอ หากเปิดใช้งานพร้อมกันความแรงของน้ำแต่ละจุดอาจจะไม่เท่ากัน ปั๊มน้ำตัดการทำงานบ่อย ทำให้ต้องไล่เช็กลมและปล่อยน้ำอยู่เสมอ
- ปั๊มน้ำชนิดแรงดันคงที่ ปั๊มน้ำทรงเหลี่ยม รูปลักษณ์ สวยงามและทันสมัย การทำงานให้แรงดันน้ำสม่ำเสมอ หากรุ่นที่มีราคาสูงจะมีฟังก์ชั่นควบคุมน้ำอัจฉริยะ สามารถตรวจสอบแรงดันน้ำที่เปลี่ยนแปลงแบบอัตโนมัติ หรือตั้งแรงดันได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับบ้านที่มีการใช้น้ำหลายจุด และอุปกรณ์ที่ต้องการแรงดันน้ำคงที่ เช่น เครื่องซักผ้า, เครื่องทำน้ำอุ่น และ Rain shower
ข้อดีของปั๊มน้ำชนิดนี้คือ แรงดันน้ำคงที่ เสียงเบา ขนาดไม่ใหญ่ และประหยัดไฟฟ้ากว่า แต่แน่นอนว่าราคาค่อนข้างสูง
ปั๊มน้ำเป็นอุปกรณ์ที่มักติดตั้งไว้ระดับพื้น มักได้รับผลกระทบจากแสงแดด ลมและฝน หากตัวถังผลิตจากวัสดุไม่มีคุณภาพจะทำให้ผุกร่อนง่ายและเกิดปัญหาถังรั่วตามรอยตะเข็บ อย่าลืมมองหารุ่นที่ตัวถังผลิตจากวัสดุที่มีความทนทาน ไม่เป็นสนิมหรือออกแบบไร้รอยเชื่อมต่อ เพื่อป้องกันการรั่วซึมตามตะเข็บ ทั้งนี้ควรเลือกปั๊มน้ำที่มีคุณสมบัติระบายความร้อนได้ดี เพื่อยืดอายุการใช้งานของตัวมอเตอร์ ซึ่งในบางรุ่นจะมีพัดลมระบายความร้อนในเครื่อง แต่ปั๊มน้ำอัตโนมัติบางรุ่นได้ออกแบบการระบายความร้อนด้วยน้ำหรือใช้มอเตอร์แบบแม่เหล็กถาวร จึงไม่จำเป็นต้องมีพัดลมระบายความร้อน
4. ควรมีระบบตรวจสอบความผิดปกติของน้ำ ปั๊มน้ำที่ดีควรมีเครื่องหมาย มอก. รับรอง พร้อมเทคโนโลยีระบบตรวจสอบความผิดปกติและตัดการทำงานอัตโนมัติ อาทิ การป้องกันแรงดันเกินจากท่อประปาที่ส่งน้ำมาแรงเกิน มีเซนเซอร์แจ้งเตือนกรณีน้ำแห้งหรือน้ำขาด (Dry-running protection) และกรณีท่อรั่ว ปิดวาล์วน้ำไม่สนิท ปั๊มน้ำจะส่งสัญญาณแจ้งเตือนหน้าตัวเครื่อง พร้อมกับปิดการทำงานให้อัตโนมัติ เพื่อป้องกันด้านความปลอดภัยและแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบได้ว่ามีจุดรั่วไหล