คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ตอบเป็นเรื่อง ๆ
1. การเมืองในประเทศ ของแต่ละประเทศ ยังไงก็มีการอิงแอบชาตินิยมอยู่เสมอ
ในภูมิภาค SEA นี้ ถ้าไม่โง่เกินไป ก็รู้อยู่แหละว่ากำลังรบของใครเหนือกว่าใคร
2. หน่วยข่าวกรอง และ กองทัพของเรา ก็ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ มีการซ้อมแผนจำลองสถานการณ์อยู่เสมอ (แต่อาจไม่ได้เข้มมาก)
อย่างเช่นจำลองว่าหากภัยคุกคามมาจากฝั่งตะวันตกของประเทศ จะทำอย่างไร
หรือ อย่างภัยคุกคามมาจากทางตะวันออกเฉ๊ยงใต้ จะทำอย่างไร
การกระทบกระทั่งกันตามชายแดน บางครั้งก็เกิดแค่หวังผลเล็กน้อย
ภัยคุกคามระดับยกทัพมาหวังยึดประเทศ น่าจะยังไม่มีใครกล้า
3. ปัญหาเขตแดนระหว่างไทย กับเพื่อนบ้านมีอยู่แหละครับ อย่างพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยระหว่าง ไทย-กัมพูชา ก็ยังตกลงกันไม่ได้
ด้วยกำลังพลของเราก็ยังมีอำนาจอยู่ไม่น้อย จึงยังเป็นจุดเกรงใจที่ทำให้เพื่อนบ้านยังไม่กล้าหืออะไรกับเรามาก
4. จีน มีนโยบายการเมืองต่างประเทศเน้นหามิตร (ในแบบต่าง ๆ) พื้นฐานสุดคือ อยากปลดแอกเอเชียจากอำนาจตะวันตก
สำหรับไทยเองในสายตาจีน น่าจะยังเหมือนนก 2 หัว แต่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามโดยตรง เมื่อเทียบกับ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
(แต่พอมีการสร้างสถานกงศุล เมกา ใหม่ที่เชียงใหม่ ก็โดนมึนตรึงไปไม่น้อย)
ดังนั้น จีนเองก็ไม่น่าจะสนับสนุนการโจมตีไทยของกัมพูชาแบบเต็มรูปแบบ (แต่อาจมีประเด็นตรงพื้นที่ซ้อนทับในอ่าวไทย)
ฮุนเซ็น ครั้งหนึ่งคือตัวแทนสายนิยมเวียดนาม (ที่ชนะศึกในกัมพูชา ในสงครามกลางเมืองของ เขมร 3 ฝ่าย)
แถมห้าวบอกจะบุกยึดกรุงเทพใน 2 ชั่วโมง ... ตอนนั้นมหามิตรหัวทองเปิดตูดแน่บ จนมีเรื่อง(เล่า)ถึงสงครามสั่งสอนเวียดนามจากจีน
5. หากจะมีสงครามจริง ภาพอาจจะเป็นเหมือนสงครามตัวแทน จีน->กัมพูชา VS ไทย<-เมกา
ซึ่งไม่น่าเกิดได้ เพราะจีนเอง พยายามเลี่ยงสงครามแบบนี้อยู่ และจีนก็รู้ดีหากทำสงครามจริง ๆ ยังไงจีนก็เสียหายหนัก
ดังนั้น น่าจะเป็นการปะทะกันตามชายแดน (ที่ตอนนี้ยังหาเหตุไม่ได้) คิดว่าถ้าจะมีก็น่าจะปะทะกันในพื้นที่ทับซ้อนในทะเล
(ที่เขมรกำลังฮึกว่าจีนมาตั้งฐานทัพเรือที่กัมพูชาแล้วนะ อาจจะละเมอไปบ้างไรบ้างว่าเป็นกำลังของตนเอง)
แล้วก็รีบตัดจบ แบบกัมพูชาหวังให้จีนช่วยนัดเจรจา (จะได้เคลมได้ว่า ฉันสู้ได้นะ แต่พี่เขาขอเลยหยุด ตาม xxดานเขมร)
ในการเมือง สิ่งที่พูด กับสิ่งที่สื่อ อาจคนละอย่างกัน
ก็เหมือนอย่างเรื่องเขมรพยายามเคลมทุกสิ่งอย่าง
เราก็ไม่ได้เต้นไปเหมือนคนบ้า ... ปล่อยเขมรเคลมไป แต่ทางเราก็พัฒนาระบบของเราไป (อย่าไปขัดขากันเองจนเสียท่าเขาก็พอ)
อย่างเรื่องที่ จขกท ยกมา เช่น เรื่อง ยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร พาดหัวจริง ๆ มันคือ
ในภาวะ ปกติยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบเดิม มาใช้ระบบ ทหารอาชีพ รับสมัครเข้ามา จะได้มีทหารอาชีพระดับพลทหาร มีช่องทางก้าวหน้าขึ้นเป็นนายสิบ นายร้อยได้ (ไม่ใช่เกณฑ์มาเพื่อเป็นแรงงานในกองทัพ)
ในส่วนของกำลังพลสำรอง ก็ปรับปรุงระบบไปตามเหมาะสม (ความเข้ม เร่งด่วน ก็ควรดูตามภาวะภัยคุกคาม)
และ ทหารอาชีพไม่ควรมายุ่งกับการเมือง
วันก่อนดูข่าวเรื่องจีนปรับกฎหมานระบบเกณฑ์ทหาร เพื่อเตรียมรับภัยคุกคาม ... จากที่ฟังหลัก ๆ คือ เน้นคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ เช่น
ในการเกณฑ์จะเน้นไปที่ทหารที่มีประสบการณ์ก่อน ในส่วนของการเกณฑ์จะสนใจกลุ่ม ป.ตรี สายวิทย์ โดยจะส่งเข้าไปฝึกในกรมกองอาวุธที่เป็นเทคโนโลยี หรือ ฝ่ายพัฒนาด้านเทคโนโลยี (ไม่ได้มองว่าเป็นแค่แรงงาน)
การเมืองไม่ว่าในประเทศ หรือ ระหว่างประเทศ
บางครั้งต้องแกะสิ่งที่สื่อให้ออก ไม่มีใครพูดอะไรโต้ง ๆ ตรง ๆ มันมีการรักษาหน้ากัน
ถ้าต่างคนต่างมีอำนาจพอกัน การเจรจามันก็พอจะ win-win ได้
แต่ถ้าฝ่ายหนึ่งด้อยกว่า ก็เหมือนไทยเราเคยโดนกระทำมา
====
บางที เลียดก๊ก สามก๊ก อ่าน ๆ ไปก็ทำให้พอเห็นอะไร ๆ อยู่ไม่น้อย
รวมถึงเรื่องเล่า สิงโต กับ หมาป่า ที่ว่า
ลูกสิงโตเดินไปกับพ่อ ไปทางไหนสัตว์ต่าง ๆ ก็เกรง
แต่พอไปเจอหมาป่าเข้า มันเห่า แยกเขี้ยว แต่ หางตก ใส่พ่อสิงโต
แต่พ่อสิงโตก็เมินเฉยเดินผ่านไป ไม่ตบสั่งสอน จนลูกอดไม่ไหวที่จะถามว่า
ทำไมพ่อไม่ตบสั่งสอนหมาป่ามัน
พ่อสิงโตเลยบอก กับหมาป่า ที่เห่าที่ขู่ แต่ไม่กล้าโจมตีเรา จะลดตัวไปกัดด้วยทำไม
ชนะไปก็ไม่ได้เกียรติเพิ่ม แพ้ไปก็มีแต่เสีย หรือ เสมอกันก็มีเจ็บตัว ดีไม่ดีหาอาหารไม่ได้อีก
1. การเมืองในประเทศ ของแต่ละประเทศ ยังไงก็มีการอิงแอบชาตินิยมอยู่เสมอ
ในภูมิภาค SEA นี้ ถ้าไม่โง่เกินไป ก็รู้อยู่แหละว่ากำลังรบของใครเหนือกว่าใคร
2. หน่วยข่าวกรอง และ กองทัพของเรา ก็ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ มีการซ้อมแผนจำลองสถานการณ์อยู่เสมอ (แต่อาจไม่ได้เข้มมาก)
อย่างเช่นจำลองว่าหากภัยคุกคามมาจากฝั่งตะวันตกของประเทศ จะทำอย่างไร
หรือ อย่างภัยคุกคามมาจากทางตะวันออกเฉ๊ยงใต้ จะทำอย่างไร
การกระทบกระทั่งกันตามชายแดน บางครั้งก็เกิดแค่หวังผลเล็กน้อย
ภัยคุกคามระดับยกทัพมาหวังยึดประเทศ น่าจะยังไม่มีใครกล้า
3. ปัญหาเขตแดนระหว่างไทย กับเพื่อนบ้านมีอยู่แหละครับ อย่างพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทยระหว่าง ไทย-กัมพูชา ก็ยังตกลงกันไม่ได้
ด้วยกำลังพลของเราก็ยังมีอำนาจอยู่ไม่น้อย จึงยังเป็นจุดเกรงใจที่ทำให้เพื่อนบ้านยังไม่กล้าหืออะไรกับเรามาก
4. จีน มีนโยบายการเมืองต่างประเทศเน้นหามิตร (ในแบบต่าง ๆ) พื้นฐานสุดคือ อยากปลดแอกเอเชียจากอำนาจตะวันตก
สำหรับไทยเองในสายตาจีน น่าจะยังเหมือนนก 2 หัว แต่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามโดยตรง เมื่อเทียบกับ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้
(แต่พอมีการสร้างสถานกงศุล เมกา ใหม่ที่เชียงใหม่ ก็โดนมึนตรึงไปไม่น้อย)
ดังนั้น จีนเองก็ไม่น่าจะสนับสนุนการโจมตีไทยของกัมพูชาแบบเต็มรูปแบบ (แต่อาจมีประเด็นตรงพื้นที่ซ้อนทับในอ่าวไทย)
ฮุนเซ็น ครั้งหนึ่งคือตัวแทนสายนิยมเวียดนาม (ที่ชนะศึกในกัมพูชา ในสงครามกลางเมืองของ เขมร 3 ฝ่าย)
แถมห้าวบอกจะบุกยึดกรุงเทพใน 2 ชั่วโมง ... ตอนนั้นมหามิตรหัวทองเปิดตูดแน่บ จนมีเรื่อง(เล่า)ถึงสงครามสั่งสอนเวียดนามจากจีน
5. หากจะมีสงครามจริง ภาพอาจจะเป็นเหมือนสงครามตัวแทน จีน->กัมพูชา VS ไทย<-เมกา
ซึ่งไม่น่าเกิดได้ เพราะจีนเอง พยายามเลี่ยงสงครามแบบนี้อยู่ และจีนก็รู้ดีหากทำสงครามจริง ๆ ยังไงจีนก็เสียหายหนัก
ดังนั้น น่าจะเป็นการปะทะกันตามชายแดน (ที่ตอนนี้ยังหาเหตุไม่ได้) คิดว่าถ้าจะมีก็น่าจะปะทะกันในพื้นที่ทับซ้อนในทะเล
(ที่เขมรกำลังฮึกว่าจีนมาตั้งฐานทัพเรือที่กัมพูชาแล้วนะ อาจจะละเมอไปบ้างไรบ้างว่าเป็นกำลังของตนเอง)
แล้วก็รีบตัดจบ แบบกัมพูชาหวังให้จีนช่วยนัดเจรจา (จะได้เคลมได้ว่า ฉันสู้ได้นะ แต่พี่เขาขอเลยหยุด ตาม xxดานเขมร)
ในการเมือง สิ่งที่พูด กับสิ่งที่สื่อ อาจคนละอย่างกัน
ก็เหมือนอย่างเรื่องเขมรพยายามเคลมทุกสิ่งอย่าง
เราก็ไม่ได้เต้นไปเหมือนคนบ้า ... ปล่อยเขมรเคลมไป แต่ทางเราก็พัฒนาระบบของเราไป (อย่าไปขัดขากันเองจนเสียท่าเขาก็พอ)
อย่างเรื่องที่ จขกท ยกมา เช่น เรื่อง ยกเลิกระบบเกณฑ์ทหาร พาดหัวจริง ๆ มันคือ
ในภาวะ ปกติยกเลิกการเกณฑ์ทหารแบบเดิม มาใช้ระบบ ทหารอาชีพ รับสมัครเข้ามา จะได้มีทหารอาชีพระดับพลทหาร มีช่องทางก้าวหน้าขึ้นเป็นนายสิบ นายร้อยได้ (ไม่ใช่เกณฑ์มาเพื่อเป็นแรงงานในกองทัพ)
ในส่วนของกำลังพลสำรอง ก็ปรับปรุงระบบไปตามเหมาะสม (ความเข้ม เร่งด่วน ก็ควรดูตามภาวะภัยคุกคาม)
และ ทหารอาชีพไม่ควรมายุ่งกับการเมือง
วันก่อนดูข่าวเรื่องจีนปรับกฎหมานระบบเกณฑ์ทหาร เพื่อเตรียมรับภัยคุกคาม ... จากที่ฟังหลัก ๆ คือ เน้นคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ เช่น
ในการเกณฑ์จะเน้นไปที่ทหารที่มีประสบการณ์ก่อน ในส่วนของการเกณฑ์จะสนใจกลุ่ม ป.ตรี สายวิทย์ โดยจะส่งเข้าไปฝึกในกรมกองอาวุธที่เป็นเทคโนโลยี หรือ ฝ่ายพัฒนาด้านเทคโนโลยี (ไม่ได้มองว่าเป็นแค่แรงงาน)
การเมืองไม่ว่าในประเทศ หรือ ระหว่างประเทศ
บางครั้งต้องแกะสิ่งที่สื่อให้ออก ไม่มีใครพูดอะไรโต้ง ๆ ตรง ๆ มันมีการรักษาหน้ากัน
ถ้าต่างคนต่างมีอำนาจพอกัน การเจรจามันก็พอจะ win-win ได้
แต่ถ้าฝ่ายหนึ่งด้อยกว่า ก็เหมือนไทยเราเคยโดนกระทำมา
====
บางที เลียดก๊ก สามก๊ก อ่าน ๆ ไปก็ทำให้พอเห็นอะไร ๆ อยู่ไม่น้อย
รวมถึงเรื่องเล่า สิงโต กับ หมาป่า ที่ว่า
ลูกสิงโตเดินไปกับพ่อ ไปทางไหนสัตว์ต่าง ๆ ก็เกรง
แต่พอไปเจอหมาป่าเข้า มันเห่า แยกเขี้ยว แต่ หางตก ใส่พ่อสิงโต
แต่พ่อสิงโตก็เมินเฉยเดินผ่านไป ไม่ตบสั่งสอน จนลูกอดไม่ไหวที่จะถามว่า
ทำไมพ่อไม่ตบสั่งสอนหมาป่ามัน
พ่อสิงโตเลยบอก กับหมาป่า ที่เห่าที่ขู่ แต่ไม่กล้าโจมตีเรา จะลดตัวไปกัดด้วยทำไม
ชนะไปก็ไม่ได้เกียรติเพิ่ม แพ้ไปก็มีแต่เสีย หรือ เสมอกันก็มีเจ็บตัว ดีไม่ดีหาอาหารไม่ได้อีก
แสดงความคิดเห็น
เขมร พูดจริงหรือ ?
1.ที่ฮุนเซ็นพูด เอาฮา หรือ มีมูล
2.ชาวเขมรมีความคิดว่าพื้นที่ไทยบางส่วน จริงๆเป็นของเขมรจริงหรือ (ใครทำงานในเขมร มีเรื่องแบบนี้มีอยู่ในสังคมบ้างมั้ย)
3.ถ้ามีลูกปืนครกมาตกในดินแดนไทยลูกแรก ควรจะตอบโต้อย่างไร ยิงสวนเลย หรือ นิ่ง ก่อน
4.กำลังพลประจำการตอนนี้ เพียงพอมั้ย หากเกิดการรุกรานขึ้นจริง
5.การพูดว่าจะยกเลิกระบบเกณฑ์ทหารในตอนนี้ จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีกับพรรคที่ชูนโยบายนี้มั้ย
6.เรือดำน้ำ ได้เครื่องยนต์รึยัง ถ้าหาไม่ทัน เอาเครื่องยนต์รถบรรทุกมาต่อๆกันได้มั้ย จริงๆสงครามสมัยนี้ อากาศยานไร้คนขับน่าจะเป็นของเล่นหลักนะ คุณว่ามั้ย
7.ถ้าจะบึ้มบั้มกันจริง ยังไงเขมรก็ต้องเริ่มก่อน ตอนนี้ หน่วยข่าวกรองของเรา รู้เรื่องบ้างมั้ย หรือเพิ่งรู้พร้อมๆกันเนี่ยแหละ
8.หากเกิดสงคราม เราจะขับไล่คนเขมรออกนอกประเทศมั้ย
9.จีนจะมีท่าทีอย่างไร พม่าจะเลียนแบบเขมร มั้ย
10.เราต้องวาดแผนที่โลกใหม่ รึป่าว
11.ฮุนเซ็นมั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ ว่าจะตบไทยได้ ถ้ามาจริง ใครได้เปรียบครับ
หรือ ทั้งหมด เป็นเพียงการพูดเพื่อหวังผลในการเลือกตั้งภายในของประเทศเขมร แต่พูดขนาดนี้ มีปูตินเป็นไอดอลหรอ คุณคิดว่าล้ำเส้นรึยัง การพูดแบบนี้จากปากผู้นำ สำหรับผม ล้ำแล้ว