JJNY : ฝุ่นแย่ รั้งอันดับ 2โลก│หวยเลย-สมาพันธ์คนพิการบุกสภา│"พลภูมิ"กังวลบัตรเสียเพิ่ม│รัสเซีย-ยูเครน แลกตัวเชลยศึก

ฝุ่นควันพิษ ยังวิกฤต จุดความร้อนปะทุต่อเนื่อง คุณภาพอากาศแย่สุดรั้งอันดับ 2โลก
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7615688
 
 
เชียงใหม่ ไฟป่าปะทุหนักกว่า 200 จุด ผ่านเมษา 17 วัน ยอดจุดความร้อนพุ่ง กระทบคุณภาพอากาศติดอันดับ 2 เมืองที่อากาศแย่สุดที่ของโลก
 
17 เม.ย. 66 – จังหวัดเชียงใหม่ ยังต้องผจญกับปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ต่อเนื่องเกินค่ามาตรฐาน 2 เดือนเศษ ซึ่งพบว่าเดือนเมษายน ผ่านมาได้ 17 วัน มีจุดความร้อนสะสมเกือบ 5 พันจุด
 
อำเภอโซนเหนือที่พบมากที่สุด อำเภอเชียงดาว 1,664 จุด รองลงมา อำเภอพร้าว จำนวน 732 จุด และอำเภอแม่แตง จำนวน 716 จุด ส่วน อำเภอทางใต้ มี 3 อำเภอที่มีจุดความร้อนใกล้เคียงกันขึ้นหลักพันจุด คือ อำเภออมก๋อย จำนวน 1,192 จุด อำเภอแม่แจ่มจำนวน 1,185 จุด และอำเเภอฮอดจำนวน 1,061 จุด ยังพบวาการเกิดไฟป่าส่วนใหญ่มากจากการเผาเพื่อหาของป่า
 
จากการรายงาน ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ พบจุดความร้อน (Hotspot) ประจำวันที่ 17 เมษายน 2566 รอบเช้าจังหวัดเชียงใหม่พบจุดความร้อน จำนวน 209 จุด เกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ เขตสปก. และเขตชุมชนและอื่นๆ
  
พบมากที่สุดอำเภอแม่แจ่มจำนวน 34 จุด อำเภอแม่อายจำนวน 20 จุด และอำเภอแม่วาง 18 จุด พบว่าจุดความร้อนสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2566 ถึงปัจจุบัน ทั้งหมดจำนวน 11,712 จุด
 
ส่งผลให้ คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงรั้งอันดับ 2 คุณภาพอากาศแย่ที่สุดของโลก จากการตรวจสอบ เว็บไซต์ https://www.iqair.com รายงานคุณภาพอากาศและการจัดอันดับเมืองที่มีมลพิษทางอากาศ US AQI . พบว่าจังหวัดเชียงใหม่ มีค่า 171 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
 
เช่นเดียวกับการตรวจวัดคุณภาพของกรมควบคุมมลพิษ เว็บไซต์ http://air4thai.com ช่วงเวลา 08.00 น. มีค่า 51-220 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร พื้นที่มีค่าฝุ่นมากที่สุด ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว, เชียงใหม่ พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 220 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร บาศก์เมตร
 
ส่วนพื้นที่กลางเมืองเชียงใหม่ ตำบลศรีภูมิ มีค่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกเมตร และพื้นที่ศาลากลาง จังหวัดเชียงใหม่อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีค่าเท่ากัน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพื้นที่ดอยสุเทพ มีค่า 76 ไมโครกรัมต่อลูกเมตร



ชมรมผู้ค้าหวยเลย-สมาพันธ์คนพิการออกแถลงการณ์ กว่า 2,000 คนบุกสภาจัดโควต้าใหม่
https://www.matichon.co.th/region/news_3930325

ชมรมผู้ค้าหวยเลย-สมาพันธ์คนพิการออกแถลงการณ์ กว่า 2,000 คนบุกสภาจัดโควต้าใหม่
 
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2566 นายจีระศักดิ์ น้อยกล่ำ ประธานชมรมผู้ค้าสลากรายย่อย จ.เลย ได้ออกแถลงการณ์ จะนำสมาชิกชมรมผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยจังหวัดเลย และสมาพันธ์คนพิการผู้ค้าสลากรายย่อยแห่งประเทศไทย กว่า 2,000 คน เข้าได้เรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรี กับการแก้ปัญหาสลากไม่เพียงพอกับผู้ที่ได้โควตา และไม่มีความเป็นธรรม โดยจะนำสมาชิกนอนหน้าสภา จนกว่าจะได้รับชัยชนะ เริ่มเช้าของวันที่ 19 เมษายน เป็นต้นไป
 
โดยคำแถลงการณ์ระบุว่า สืบเนื่องชมรมผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยจังหวัดเลย และสมาพันธ์คนพิการผู้ค้าสลากรายย่อยแห่งประเทศไทย ได้ต่อสู้และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้ค้าสลากตัวจริง มาตั้งแต่ 17 สิงหาคม พ.ศ 2563 จนถึงปัจจุบันพวกเราได้ถูกทอดทิ้ง โดยเป็นผู้ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปเป็นผู้ค้าฯ ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กำหนดให้ผู้ค้าตัวจริงต้องมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น ซึ่งข้อเท็จจริงพวกเราเป็นผู้ค้าตัวจริงมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100,000 บาทต่อปี พวกเราเป็นผู้ตก สำรวจ โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นตัวกำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นก่อนจะมีการแรนดอม

และพวกเราได้เรียกร้องให้ท่านแก้ปัญหาสลากไม่เพียงพอกับผู้ที่ได้โควตา จาก 3 เล่ม เป็น 5 เล่มโดยการหยุดนำสลากไปขายในระบบดิจิตอลจนกว่าผู้ค้าสลากจะได้คนละ 5 เล่ม ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างชมรม 5 กลุ่มที่ได้ร่วมประชุมในครั้งที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเราจึงขอเรียกร้องให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้แก้ไขปัญหาดังนี้
  
1. จัดสรรโดวตาให้กับผู้ค้ำสลากตัวจริง ที่จะมาให้ท่านยืนยันตัวตน ที่ทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนเป็นต้นไป

2. ให้หยุดนำสลากเข้าแพลตฟอร์มในเป๋าตัง จนกว่าจะแก้ปัญหาสลากให้กับผู้ที่มีโควตาได้คนละ 5 เล่มตามข้อตกลงไว้ จึงสามารถนำไปเข้าไปขายแพลตฟอร์มเป้าตังในระบบดิจิตอลต่อไปได้ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีจัดสรร โควต้ากับผู้ค้าตัวจริงที่ท่านได้ทอดทิ้ง และไม่ให้ความสนใจเพิกเฉยมานาน พวกเราจึงขับเคลื่อนการชุมนุมเรียกร้องเพื่อความเป็นธรรมและความถูกต้องตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะได้รับชัยชนะ

ด้านนายจีระศักดิ์  เผยอีกว่า การออกแถลงการณ์มี 2 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกให้นายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรโควต้าสลากให้กับผู้ค้าตัวจริง ประเด็นที่ 2 การที่เราได้ร่วมประชุมการแก้ไขปัญหาสลาก 5 เล่ม ของผู้ค้าสลากรายย่อยทั้ง 5 ภาค รวมทั้งผู้พิการ ที่มีปัญหามีการตบตีกันหน้าตู้ เอทีเอ็ม นอนหน้าธนาคาร 4-5 วันเพื่อต้องการกดเอาสลาก โดยเราจะขอเรียกร้องห้ามเอาสลากไปขายในระบบดิจิตอล ในเป๋าตัง จากที่ผู้มีโควต้า 5 เล่มเหลือ 3 เล่ม โดยในเช้าวันที่ 19 เมษายน
 
พวกเราได้นัดกันเจอที่หน้ารัฐสภา ซึ่งจะมีเครือข่ายชมรมผู้ค้าลอตเตอรี่รายย่อยจังหวัดเลย และสมาพันธ์คนพิการผู้ค้าสลากรายย่อยแห่งประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 2,000 คน และจะมีกลุ่มผู้ค้าที่ถูกตัดโควต้าที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจะมาร่วมด้วย
 

  
"พลภูมิ" กังวลบัตรเสียเพิ่ม หลัง กกต.เผย "สีบัตรเลือกตั้ง" สีม่วง-สีเขียว
https://www.thairath.co.th/news/politic/2681770

"พลภูมิ" ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กังวลบัตรเสียเพิ่ม หลัง กกต.เผยแพร่ "สีบัตรเลือกตั้ง" เกรง ประชาชนสับสน เร่งทำความเข้าใจควบคู่หาเสียงเสนอนโยบาย
 
วันที่ 17 เม.ย. 66 นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตบึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม)-คันนายาว เบอร์ 7 พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่หาเสียงในเขตบึงกุ่ม-คันนายาว ช่วงที่ผ่านมา ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงมั่นใจว่า จะได้รับความไว้วางใจกลับมาเป็น ส.ส.อีกรอบ
 
"ผมขับรถเอง ลงเดินเท้าแจกใบปลิว ขอคะแนนเสียงด้วยตัวเอง ขอโอกาสให้พรรคเพื่อไทยไปบริหารประเทศ ขอคะแนนเสียงให้พลภูมิ ลูกหลานชาวคันนายาว-บึงกุ่ม เข้าไปทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียง ช่วยชาวบ้านเหมือนที่เคยทำมาตลอด ภาพที่เห็นคือ ชาวบ้านเข้ามากอด เข้ามาทักทายบอกเลือก เบอร์ 7 แน่นอน มาขอถ่ายรูปไม่ขาดสาย" นายพลภูมิ กล่าว...
 
นายพลภูมิ กล่าวว่า แม้กระแสของตนเองและพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จะดี แต่ไม่ประมาท ยังต้องลงพื้นที่เยอะๆ เพื่อสื่อสารนโยบาย และตอบข้อสงสัยกับประชาชน เพื่อผลักดันนโยบายของพรรคให้เข้าถึงประชาชน ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจเรื่องของบัตรเลือกตั้ง ซึ่งล่าสุด กกต.ได้เผยแพร่สีบัตรเลือกตั้ง โดยบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเป็น "สีม่วง" และบัตรเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ "เป็นสีเขียว" ประชาชนอาจจะเกิดความสับสน จึงเร่งทำความเข้าใจ เพราะเกรงว่าจะมีบัตรเสียจำนวนมากนั้นตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์และเป็นกังวล ดังนั้นเป็นสิ่งที่ทางพรรคและผู้สมัครจะต้องเร่งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนจากนี้ไปอีกประมาณหนึ่งเดือน
 
บัตรสองใบสีม่วงและสีเขียวมีความละม้ายคล้ายกัน หากพ่อแม่พี่น้องไม่ดูให้ดี หากไปกาผิดหรือจำสีสับสนอาจทำให้บัตรเลือกตั้งใบนั้นเสียได้ จึงได้ย้ำกับประชาชนในพื้นที่ว่า บัตรสีม่วงให้กาเบอร์ 7 พลภูมิ ส่วนบัตรสีเขียวให้กา เบอร์ 29 พรรคเพื่อไทย" นายพลภูมิ ระบุ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่