เมื่อสามปีที่แล้วแม่ของเราเลิกกับพ่อ แล้วไม่นานก็ไปคบกับลุงที่ทำงานที่เดียวกัน เราก็รู้จักเขานั้นแหละแต่ไม่ได้สนิทเพราะไม่เคยรู้ว่าจะต้องกลายมาเป็นคนรู้จักใกล้ชิดกัน ลุงเขามีลูกสองคนคนโตทำงานแล้วคนเล็กยังเรียนประถมอยู่
เราก็ไม่พอใจในตอนแรกที่เขาคบกับแม่ เรามีความรู้สึกว่าเขาดูเหมือนไม่ใช่คนดี เราก็คิดว่าถ้างั้นก็ต่างคนต่างอยู่ แต่แม่ก็พยายามจะให้เรามีส่วนร่วมกับเขาให้ได้ และดูถ้าว่าแม่คงจะรักเขาจริงๆ เขาก็พูดดีกับเราสั่งสอนเราในบางครั้ง มันทำให้เราลดเกาะป้องกันตัวของเราลงและลองเปิดใจให้เขาย
พอเราเริ่มเปิดใจแล้ว เราก็คุยเล่นกับเขามีบางครั้งที่เขาจะแตะต้องมือเราบ่อยๆ แต่เราก็คิดว่ามันคงเป็นเรื่องบังเอิญไม่ก็เขาคงจะเอ็นดูเราเหมือนลูกสาว เพราะเขาก็มีลูกสาวเราจึงไม่ได้คิดอะไร
สามปีผ่านไป อีกไม่กี่เดือนเราก็จะ18 ก่อนหน้านั้นมีงานสงกรานต์พวกเราเลยจัดงานสงกรานต์กันหน้าบ้าน บ้านเราเป็นที่พักพนักงานของบริษัทเป็นตึกสามชั้น แต่มีเพียงครอบครัวของเราที่อยู่ พอสงกรานต์มาถึงพวกเราก็เล่นน้ำกัน
เวลาผ่านไปถึงเย็นคนอื่นยังคงเล่นน้ำอยู่เรารู้สึกว่าเหนื่อยแล้วจึงขึ้นไปบนชั้นสองห้องของเราเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด ในตอนนั้นเรารู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมา เราจึงช่วยตัวเองในห้องน้ำ ประตูห้องน้ำมันเป็นไม้ ตรงประตูห้องน้ำมันมีรูอยู่แต่มันค่อนข้างจะต่ำอยู่พอสมควร
ถ้าคนข้างนอกต้องการดูก็ต้องก้มตัวดู แต่เราคิดว่าคงไม่เป็นอะไรท้ายที่สุดแล้วพวกเราก็เป็นครอบครัวและคนอื่นๆก็อยู่ข้างล่างกำลังเล่นน้ำกันอยู่ทำให้เราไม่ระวังตัว เมื่อเราทำธุรเสร็จเราได้ยินเสีงจากข้างนอกห้องน้ำเราก็คิดว่าเป็นน้องชายเพราะเรานอนอยู่ชั้นเดียวกัน ส่วนแม่กับลุงนอนชั้นสาม เราก็ไม่คิดอะไร
เราลงมาช่วยพวกเขาเก็บของเข้าบ้านตอนที่เราเก็บของเข้าไปในห้องเก็บของลุงก็ตามเข้ามา เราคิดว่าเขาจะมาล็อคประตูเราจึงจะล้อเล่นกับเขาและออกไป
แต่เขาจับข้อมือเราแล้วบอกว่าเขารู้นะว่าเราทำอะไร เราก็ตกใจแต่ก็หัวเราะแหะๆให้เขาไป แล้วเขาก็จับหน้าอกเรา เราก็ตกใจมากแต่ก็ไม่ได้กรีดร้องออกมา บางทีอาจเป็นเพราะความกลัว เราสบัดออกจากการเกาะกุมของเขา
เราหัวเราะใส่เขาและบอกว่าเราก็ไปอาบน้ำมาไงและออกไป เราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่าเขาคงแค่เมา แต่เราก็รู้สึกกลัว คลื่นไส้ และขยะแขยง เราคิดว่าพรุ้งนี้เขาคงไม่กล้าทำอะไรอีกแต่เราคิดผิด
วันต่อมาเราไปเก็บของที่รถที่กล้องวงจรปิดไม่มีตรงนั้น เขาฉวยโอกาสนั้นเข้ามาอยู่ข้างหลังเรากอดเราไว้แน่น มือของมันลูบคลำไปทั่ว เราพยายามจะสบัดออกแต่แรงของมันกับเยอะกว่าจึงไม่ออก มันลูบหน้าอกเราและลูบอวัยวะเพศเรา เราพยายามปฏิเสธมันแต่มันก็ไม่หยุด เราจึงพยายามหักนิ้วมัน มันร้องและปล่อยมือออก
เราเดินหนีไม่พูดอะไร มีความรู้สึกโกรธมันมาก และขยะแขยง รังเกียจ คลื้นไส้ ความมรู้สึกต่างๆโถมเข้ามาจนเราอยากร้องไห้
เราตั้งใจว่าจะบอกแม่ แต่พอเห็นแม่ที่เล่นน้ำสงกรานต์อย่างมีความสุขกับมันแล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปได้หรือป่าว
บางครั้งเราก็เกลียดตัวเองเหมือนกันที่สนความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าตัวเอง
เรารู้ว่าถ้าพูดออกไปแล้วทุกอย่างที่แม่สร้างมากับมันจะทำให้แม่เจ็บในขนาดเดียวกันมันก็เป็นเรื่องของเราด้วย จะให้เราทนหรอ?
และถึงเราบอกกับแม่ออกไปแม่จะเชื่อเราหรอ? เราไม่มีหลักฐานไม่มีอะไรเลย แล้วใครจะเชื่อกัน?
เราควรทำยังไงดี
ผัวใหม่ของแม่ลวนลามเรา
เราก็ไม่พอใจในตอนแรกที่เขาคบกับแม่ เรามีความรู้สึกว่าเขาดูเหมือนไม่ใช่คนดี เราก็คิดว่าถ้างั้นก็ต่างคนต่างอยู่ แต่แม่ก็พยายามจะให้เรามีส่วนร่วมกับเขาให้ได้ และดูถ้าว่าแม่คงจะรักเขาจริงๆ เขาก็พูดดีกับเราสั่งสอนเราในบางครั้ง มันทำให้เราลดเกาะป้องกันตัวของเราลงและลองเปิดใจให้เขาย
พอเราเริ่มเปิดใจแล้ว เราก็คุยเล่นกับเขามีบางครั้งที่เขาจะแตะต้องมือเราบ่อยๆ แต่เราก็คิดว่ามันคงเป็นเรื่องบังเอิญไม่ก็เขาคงจะเอ็นดูเราเหมือนลูกสาว เพราะเขาก็มีลูกสาวเราจึงไม่ได้คิดอะไร
สามปีผ่านไป อีกไม่กี่เดือนเราก็จะ18 ก่อนหน้านั้นมีงานสงกรานต์พวกเราเลยจัดงานสงกรานต์กันหน้าบ้าน บ้านเราเป็นที่พักพนักงานของบริษัทเป็นตึกสามชั้น แต่มีเพียงครอบครัวของเราที่อยู่ พอสงกรานต์มาถึงพวกเราก็เล่นน้ำกัน
เวลาผ่านไปถึงเย็นคนอื่นยังคงเล่นน้ำอยู่เรารู้สึกว่าเหนื่อยแล้วจึงขึ้นไปบนชั้นสองห้องของเราเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุด ในตอนนั้นเรารู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมา เราจึงช่วยตัวเองในห้องน้ำ ประตูห้องน้ำมันเป็นไม้ ตรงประตูห้องน้ำมันมีรูอยู่แต่มันค่อนข้างจะต่ำอยู่พอสมควร
ถ้าคนข้างนอกต้องการดูก็ต้องก้มตัวดู แต่เราคิดว่าคงไม่เป็นอะไรท้ายที่สุดแล้วพวกเราก็เป็นครอบครัวและคนอื่นๆก็อยู่ข้างล่างกำลังเล่นน้ำกันอยู่ทำให้เราไม่ระวังตัว เมื่อเราทำธุรเสร็จเราได้ยินเสีงจากข้างนอกห้องน้ำเราก็คิดว่าเป็นน้องชายเพราะเรานอนอยู่ชั้นเดียวกัน ส่วนแม่กับลุงนอนชั้นสาม เราก็ไม่คิดอะไร
เราลงมาช่วยพวกเขาเก็บของเข้าบ้านตอนที่เราเก็บของเข้าไปในห้องเก็บของลุงก็ตามเข้ามา เราคิดว่าเขาจะมาล็อคประตูเราจึงจะล้อเล่นกับเขาและออกไป
แต่เขาจับข้อมือเราแล้วบอกว่าเขารู้นะว่าเราทำอะไร เราก็ตกใจแต่ก็หัวเราะแหะๆให้เขาไป แล้วเขาก็จับหน้าอกเรา เราก็ตกใจมากแต่ก็ไม่ได้กรีดร้องออกมา บางทีอาจเป็นเพราะความกลัว เราสบัดออกจากการเกาะกุมของเขา
เราหัวเราะใส่เขาและบอกว่าเราก็ไปอาบน้ำมาไงและออกไป เราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คิดว่าเขาคงแค่เมา แต่เราก็รู้สึกกลัว คลื่นไส้ และขยะแขยง เราคิดว่าพรุ้งนี้เขาคงไม่กล้าทำอะไรอีกแต่เราคิดผิด
วันต่อมาเราไปเก็บของที่รถที่กล้องวงจรปิดไม่มีตรงนั้น เขาฉวยโอกาสนั้นเข้ามาอยู่ข้างหลังเรากอดเราไว้แน่น มือของมันลูบคลำไปทั่ว เราพยายามจะสบัดออกแต่แรงของมันกับเยอะกว่าจึงไม่ออก มันลูบหน้าอกเราและลูบอวัยวะเพศเรา เราพยายามปฏิเสธมันแต่มันก็ไม่หยุด เราจึงพยายามหักนิ้วมัน มันร้องและปล่อยมือออก
เราเดินหนีไม่พูดอะไร มีความรู้สึกโกรธมันมาก และขยะแขยง รังเกียจ คลื้นไส้ ความมรู้สึกต่างๆโถมเข้ามาจนเราอยากร้องไห้
เราตั้งใจว่าจะบอกแม่ แต่พอเห็นแม่ที่เล่นน้ำสงกรานต์อย่างมีความสุขกับมันแล้วเราก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกไปได้หรือป่าว
บางครั้งเราก็เกลียดตัวเองเหมือนกันที่สนความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าตัวเอง
เรารู้ว่าถ้าพูดออกไปแล้วทุกอย่างที่แม่สร้างมากับมันจะทำให้แม่เจ็บในขนาดเดียวกันมันก็เป็นเรื่องของเราด้วย จะให้เราทนหรอ?
และถึงเราบอกกับแม่ออกไปแม่จะเชื่อเราหรอ? เราไม่มีหลักฐานไม่มีอะไรเลย แล้วใครจะเชื่อกัน?
เราควรทำยังไงดี