เมื่อวานวันที่ 13 เมษายน เราได้ถามแม่ว่าเคยมีใครในบ้านเป็นโรคซึมเศร้าไหม แล้วเคยเดาไหมว่าใครเป็น แม่ตอบมาว่า
" ไม่คิดก็ไม่เป็นหรอก เราแข็งแรงสถานการณ์ไหนก็ผ่านมาได้ "
แล้วแม่ก็เอาตัวเองในอดีตสมัยก่อนมาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน บอกว่า " แต่ก่อนแม่ลำบากกว่านี้อีก ก็ไม่เห็นจะเป็นโรคซึมเศร้าอะไรเลย แต่ก่อนแม่แทบไม่มีกินไม่มีใช้ ถุงเท้าก็ได้ยืมเพื่อนมาใส่ รองเท้าก็ไม่มีกับเขา แม่ก็ผ่านมาได้ "
เราก็เลยบอกแม่ว่า " สมัยก่อนกับสมัยนี้มันไม่เหมือนกัน " แม่ก็บอกว่า " ก็เหมือนกันนั่นแหละ อยู่ที่คนคิด "
แล้วเราก็พยายามอธิบายให้แม่ฟังว่า โรคซึมเศร้ามันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เป็นนะ ไม่ใช่แค่สถานการณ์ในครอบครัว มันมีทั้งความกดดัน สังคม คนรอบข้าง หรืออาจจะเกิดจากเคมีในสมอง...
เรายังไม่ทันอธิบายจบแม่ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า " สรุปแล้วคนที่เป็นโรคซึมเศร้า มันก็คือคนที่ไม่รู้จักปล่อยวาง ยึดติดแค่เรื่องเรื่องเดียวนั่นแหละ อะไรเล็กๆน้อยๆก็เก็บมาคิด ไม่คิดก็ไม่เป็นหรอก ไม่อยากเป็นโรคซึมเศร้าเราก็แค่ไม่เป็นแค่นั้น จะยากอะไร ไอ้ที่ฆ่าตัวตายกันก็เพราะยึดติดแค่เรื่องเรื่องเดียวทั้งนั้นแหละ ไม่อยากเป็นก็ไม่ต้องคิด "
ได้ยินแบบนั้นเราก็เลยเงียบไปเลย แล้วก็คิดในใจว่า " มันห้ามไม่ให้คิดได้ด้วยเหรอ? มันห้ามไม่ให้เป็นกันได้ด้วยเหรอ? มันไม่มีใครอยากเป็นหรอก แต่มันเป็นของมันเอง บางคนก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ บางคนก็ไม่แน่ใจก็มีเยอะแยะ มันห้ามกันได้ด้วยเหรอ? " คือเราตอนนั้นรู้สึกจะร้องไห้ มันอึดอัด อยากให้แม่เข้าใจในตัวเราบ้าง
เราก็เลยอยากจะขอความคิดเห็นและความช่วยเหลือจากทุกคน ว่าเราควรอธิบายยังไงให้แม่เข้าใจ แล้วก็ตั้งใจฟังโดยไม่พูดแทรก เพราะไม่ว่าจะมีปัญหาอยากปรึกษา หรืออธิบายให้แม่ฟัง แม่ก็จะตัดบทพูดเรา แล้วก็เอาตัวเองสมัยก่อนมาเปรียบเทียบตลอดเลย เราก็เลยไม่กล้าเปิดใจคุยกับคนในครอบครัวเลยสักคน มีปัญหาหรือเครียดอะไรก็ต้องเก็บไว้คนเดียวตลอด เวลาเศร้าเสียใจเราก็จะแอบร้องไห้คนเดียวเงียบๆ บางทีก็เผลอทำร้ายตัวเองค่ะ แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นแผลเลยสักคน ไม่มีใครถามว่าเหนื่อยไหม เครียดไหม เครียดหรือมีปัญหาอะไรเล่าให้ฟังได้ไหม ไม่มีใครถามแบบนั้นกับเราเลยค่ะ เราอายุ 15 กำลังจะ 16 เราเรียนไปด้วยหารายได้เสริมจากการรับวาดภาพไปด้วย เราแบกความหวังและความกดดันทั้งหมดของทุกคนมาตั้งแต่ประถม บางทีก็เหนื่อย แต่ก็เล่าให้ใครฟังไม่ได้เลยค่ะ เราทำได้แค่เงียบ เราเคยเล่าแล้วครั้งนึง แต่ก็ได้คำตอบมาแค่ " ก็อย่าไปคิดสิ อย่าคิดมาก " ซึ่งมันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเลย พอเราหาเงินมาได้เราก็ให้ครอบครัวไปหมด ไม่เหลือให้ตัวเองสักบาท แต่ตอนที่ไม่มีเงินเข่ก็บอกว่าเราไม่ได้ช่วยอะไร เราก็คิดนะว่า " เอ้า แล้วที่เราหาเงินได้แล้วเอามาให้ มันไม่มีค่าเลยใช่ไหม ไม่มีความหมายอะไรเลยใช่หรือเปล่า " แต่ถึงจะคิดแบบนั้นเราก็ยังช่วยหาเงินต่อไป เพราะอยากจะช่วยครอบครัวจริงๆ ถึงเขาจะไม่เห็นค่าก็ตาม
ในครอบครัวเรามีแค่พี่สาวที่รับฟังเราค่ะ เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆค่ะ ขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ
ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าค่ะ 🙇🏻♀️💦
เราควรทำยังไงดีคะ? ครอบครัวไม่ค่อยรับฟังเราเลย
" ไม่คิดก็ไม่เป็นหรอก เราแข็งแรงสถานการณ์ไหนก็ผ่านมาได้ "
แล้วแม่ก็เอาตัวเองในอดีตสมัยก่อนมาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน บอกว่า " แต่ก่อนแม่ลำบากกว่านี้อีก ก็ไม่เห็นจะเป็นโรคซึมเศร้าอะไรเลย แต่ก่อนแม่แทบไม่มีกินไม่มีใช้ ถุงเท้าก็ได้ยืมเพื่อนมาใส่ รองเท้าก็ไม่มีกับเขา แม่ก็ผ่านมาได้ "
เราก็เลยบอกแม่ว่า " สมัยก่อนกับสมัยนี้มันไม่เหมือนกัน " แม่ก็บอกว่า " ก็เหมือนกันนั่นแหละ อยู่ที่คนคิด "
แล้วเราก็พยายามอธิบายให้แม่ฟังว่า โรคซึมเศร้ามันมีหลายปัจจัยที่ทำให้เป็นนะ ไม่ใช่แค่สถานการณ์ในครอบครัว มันมีทั้งความกดดัน สังคม คนรอบข้าง หรืออาจจะเกิดจากเคมีในสมอง...
เรายังไม่ทันอธิบายจบแม่ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า " สรุปแล้วคนที่เป็นโรคซึมเศร้า มันก็คือคนที่ไม่รู้จักปล่อยวาง ยึดติดแค่เรื่องเรื่องเดียวนั่นแหละ อะไรเล็กๆน้อยๆก็เก็บมาคิด ไม่คิดก็ไม่เป็นหรอก ไม่อยากเป็นโรคซึมเศร้าเราก็แค่ไม่เป็นแค่นั้น จะยากอะไร ไอ้ที่ฆ่าตัวตายกันก็เพราะยึดติดแค่เรื่องเรื่องเดียวทั้งนั้นแหละ ไม่อยากเป็นก็ไม่ต้องคิด "
ได้ยินแบบนั้นเราก็เลยเงียบไปเลย แล้วก็คิดในใจว่า " มันห้ามไม่ให้คิดได้ด้วยเหรอ? มันห้ามไม่ให้เป็นกันได้ด้วยเหรอ? มันไม่มีใครอยากเป็นหรอก แต่มันเป็นของมันเอง บางคนก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ บางคนก็ไม่แน่ใจก็มีเยอะแยะ มันห้ามกันได้ด้วยเหรอ? " คือเราตอนนั้นรู้สึกจะร้องไห้ มันอึดอัด อยากให้แม่เข้าใจในตัวเราบ้าง
เราก็เลยอยากจะขอความคิดเห็นและความช่วยเหลือจากทุกคน ว่าเราควรอธิบายยังไงให้แม่เข้าใจ แล้วก็ตั้งใจฟังโดยไม่พูดแทรก เพราะไม่ว่าจะมีปัญหาอยากปรึกษา หรืออธิบายให้แม่ฟัง แม่ก็จะตัดบทพูดเรา แล้วก็เอาตัวเองสมัยก่อนมาเปรียบเทียบตลอดเลย เราก็เลยไม่กล้าเปิดใจคุยกับคนในครอบครัวเลยสักคน มีปัญหาหรือเครียดอะไรก็ต้องเก็บไว้คนเดียวตลอด เวลาเศร้าเสียใจเราก็จะแอบร้องไห้คนเดียวเงียบๆ บางทีก็เผลอทำร้ายตัวเองค่ะ แต่ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นแผลเลยสักคน ไม่มีใครถามว่าเหนื่อยไหม เครียดไหม เครียดหรือมีปัญหาอะไรเล่าให้ฟังได้ไหม ไม่มีใครถามแบบนั้นกับเราเลยค่ะ เราอายุ 15 กำลังจะ 16 เราเรียนไปด้วยหารายได้เสริมจากการรับวาดภาพไปด้วย เราแบกความหวังและความกดดันทั้งหมดของทุกคนมาตั้งแต่ประถม บางทีก็เหนื่อย แต่ก็เล่าให้ใครฟังไม่ได้เลยค่ะ เราทำได้แค่เงียบ เราเคยเล่าแล้วครั้งนึง แต่ก็ได้คำตอบมาแค่ " ก็อย่าไปคิดสิ อย่าคิดมาก " ซึ่งมันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเลย พอเราหาเงินมาได้เราก็ให้ครอบครัวไปหมด ไม่เหลือให้ตัวเองสักบาท แต่ตอนที่ไม่มีเงินเข่ก็บอกว่าเราไม่ได้ช่วยอะไร เราก็คิดนะว่า " เอ้า แล้วที่เราหาเงินได้แล้วเอามาให้ มันไม่มีค่าเลยใช่ไหม ไม่มีความหมายอะไรเลยใช่หรือเปล่า " แต่ถึงจะคิดแบบนั้นเราก็ยังช่วยหาเงินต่อไป เพราะอยากจะช่วยครอบครัวจริงๆ ถึงเขาจะไม่เห็นค่าก็ตาม
ในครอบครัวเรามีแค่พี่สาวที่รับฟังเราค่ะ เราไม่รู้จะทำยังไงจริงๆค่ะ ขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ
ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าค่ะ 🙇🏻♀️💦