ช่องคลอดมีกลิ่นคาวกับวิธีแก้ปัญหา

วันนี้เราจะมาให้คำแนะนำสำหรับสาวๆที่มีความกังวลเรื่องน้องสาวมีกลิ่นและไม่รู้จะทำยังไง

ต้องขอเล่าก่อนว่า ปกติแล้วน้องสาวเราไม่เคยมีกลิ่นคาวมาก่อน พึ่งจะมามีกลิ่นเมื่อตอนมีเพศสัมพันธ์กับแฟนตอนช่วงที่ประจำเดือนพึ่งจะหมดหมาดๆ ตอนนั้นยอมรับเลยว่าเป็นกังวลมาก เสิร์ชหาข้อมูลใน Google ก็แทบไม่มีข้อมูลที่ช่วยบอกวิธิแก้ไขได้เลย  เราเลยไปหาหมอที่ รพ (รพ เอกชนย่านพญาไท) เพื่อตรวจว่าเป็นอะไร

อาการ: ช่องคลอดมีกลิ่นคาวปลา + ตกขาว (บางวันสีเหลืง บางวันสีขาวเข้ม) แต่ไม่คัน (อาการคันสามารถเกิดขึ้นได้กับบางคน)

ซึ่งคุณหมอก็ทำการตรวจให้ด้วยวิธีการตรวจภายในเพื่อดูว่าเชื้อเป็นแบบไหน ได้ความว่า กลิ่นคาวเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย และ ตกขาวผิดปกติจากเชื้อรา ทั้ง 2 อย่างนี้สามารถ เกิดขึ้นได้พร้อมๆกันและมีสาเหตุมาจากหลายปัดใจ เช่น มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุง / เพศสัมพันธ์ขณะมี ปจด หรือ ใกล้หมด ปจด / ใส่กางเกงในที่รัดมากไปทำให้เกิดความอับชื้น หรือสวนล้างช่องคลอด สามารถทำให้เป็นเชื้อราและติดเชื้อแบคทีเรียได้

ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาการเหล่านี้สามารถหายได้โดยการสอดยา

ยาที่คุณหมอให้มาชื่อยา "Neo penotran forte" 1 กล่องมี 7 เม็ด เป็นยาสอด ที่ใช้สำหรับรักษาการติดเชื้อราและการอักเสบจากแบคทีเรียในเวลาเดียวกัน ผลข้างเคียงหลังจากสอดยาเข้าไป จะรู้สึกแสบร้อน เเละคันมาก จะเป็นแบบนี้ประมาณ 1 ชม. หลังจากสอดยา (ไม่ต้องตกใจเพราะเป็นผลข้างเคียงที่ต้องเกิดขึ้นเป็นปกติอยู่เเล้ว เนื่องจากตัวยากำลังฆ่าเชื้อ) เป็นยาที่ให้ใช้ตอนก่อนนอน 1 ครั้งต่อวัน

สำหรับเราเห็นผลตั้งเเต่เม็ดเเรกที่ใช้ คือกลิ่นคาวไม่มีเเล้ว แต่ยังมีตกขาวอยู่

** วันนี้ที่เราตั้งกระทู้ คือวันที่เราใช้ยาเม็ดที่สอง (ณ ตอนนี้คือไม่มีผลข้างเคียงเเล้ว ไม่รู้สึกแสบ หรือคันหลังจากใช้ยา แต่คุณหมอแนะนำให้ใช้จนกว่าจะครบ 7 เม็ดเพื่ออาการที่หายขาด) บางคนถ้าใช้อาจจะยังมีผลข้างเคียงอยู่ เป็นไปได้ว่าตัวยายังฆ่าเชื้อไม่หมด

สรุปค่าใช้จ่าย เผื่อกรณีเพื่อนๆ อยากจะไปหาหมอแต่ไม่ทราบงบ ต้องการกะ งบประมาณ ถ้า รพ เอกชน แนะนำให้กำเงินไปเลย 3000 - 3500 บาท ถ้าใครมีประกันกลุ่ม เคลมได้ตามวงเงินของเรา ในกรณีที่ค่าใช้จ่ายเกินกว่าวงเงินที่เรามีก็ชำระส่วนต่างที่เหลือ หรือ ถ้ามีประกันสังคมก็สามารถเคลมได้ทั้งหมด

ของเราทั้งหมดก็โดนไปเกือบๆ 3000 บาท จุกๆ แต่เพื่อความสบายใจและไม่อยากให้น้องสาวมีกลิ่น ก็ต้องยอมเสียค่ะ

หวังว่ากระทู้นี้จะสามารถเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆ อีกหลายๆคนได้นะคะ

แนะนำว่า ถ้ามีกำลังจ่าย หรือ มีประกัน ก็ไปหาหมอเลยจะชัวเเละตรงจุดมากกว่า แต่สำหรับคนไหนที่ไม่มีงบ และมีอาการแบบนี้ลองซื้อยาตัวนี้จากร้านขายยามาลองก่อน เผื่อจะดีขึ้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่