ขอขอบคุณเพจ GUN in The World อย่างสูงครับ
https://www.facebook.com/catwarriorandroyalthaiarmyman
กล่าวนำ
..................................................
ไบคาล ไอแซดเอช-18 (Байкал ИЖ-18) เป็นปืนลูกซองเดี่ยวบรรจุกระสุนด้วยหารหักลำกล้องลงและบรรจุเดิมทีผลิตโดยโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ (Ижевский Механический Завод) ในปี ค.ศ.1964 ในยุคสหภาพโซเวียต ในปัจจุบันนั้นจัดจำหน่ายในรัสเซียและทั่วโลกภายใต้แบรนด์ ไบคาล ซึ่งปัจจุบันนั้นเป็นบริษัทในเครือ คลาชนิคอฟ กรุ๊ป (Группа компаний «Калашников») เนื่องจากปัจจุบันนั้นรัฐบาลรัสเซียนั้นสนับสนุนให้บริษัทและภาคอุสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีความคล้ายคลึงกันนั้นรวมตัวกันเป็น บ.ในเครือ เดียวกันและทำตลาดแยกแบรนด์เช่นเดียวกันบริษัทผลิตเครื่องบินรบ ซุคฮอย ที่ผลิตเครื่องบินตระกูล ซู-27 และ มิโคยัน ที่ผลิตเครื่องบินตระกูล มิก-29 ที่รวมตัวกันเป็น บ.ในเครือ นามว่า บริษัทอากาศยาน ยูเอซี (Объединённая авиастроительная корпорация) แต่ทำตลาดแยกกันเหมือนเดิม โดย ไบคาล จะเป็นแบรนด์ที่เน้นทำตลาดปืนพลเรือนและปืนล่าสัตว์เป็นหลักในขณะที่ คาลาชนิคอฟคอนเซิร์น (Конце́рн Кала́шников) จะเน้นทำตลาดปืนทหารเช่นปืนเล็กยาวตระกูล เอเค แบบต่าง ๆ
..................................................
ประวัติความเป็นมา
..................................................
ในช่วงปี ค.ศ.1962 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์มีความต้องการนำปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอชเค (ИЖК) ซึ่งออกแบบโดย นาย วาซิลี อเล็กซานโดรวิช คาซานสกี (Василий Александрович Казанский) ในปี ค.ศ.1955 มาพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมให้มีน้ำหนักเบาขึ้นเนื่องจากปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอชเค นั้นมีน้ำหนักมากถึง 3.25 กิโลกรัม และ ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบใหม่นี้ต้องทำออกมาให้ใช้กับกระสุนขนาด 12เกจ ได้
ในปี ค.ศ.1960 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ได้มีการใช้ชื่อทางการค้า ไบคาล (Байкал) ซึ่งเป็นชื่อทะเลสาบแห่งหนึ่งในสหภาพโซเวียตสำหรับการส่งออกไปต่างประเทศโดยปืนรุ่นแรกที่ใช้ชื่อไบคาลคือปืนลูกแฝดขนานแบบ ไอแซดเอช-54 (ИЖ-54)
การออกแบบเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1963 โดยวีศวกรของโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ภายใต้การคุมของ นาย ดิมิทรี พาฟโลวิช พินาเยฟ (Дмитрий Павлович Пинаев) ผู้มีส่วนร่วมในการสร้างปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอช-5 สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จนในปี ค.ศ.1964 หลังจากปรับปรุงมาเรื่อย ๆ นั้น ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำรุ่นใหม่ก็เข้าสู่สายการผลิตจำนวนมากในชื่อ ไอแซดเอช-18 (ИЖ-18) โดยราคาเปิดตัวในสหภาพโซเวียตอยู่ที่ 28 รูเบิล หรือประมาณ 139 บาทไทย
นาย วาซิลี อเล็กซานโดรวิช คาซานสกี
ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอชเค (ИЖК)
นาย ดิมิทรี พาฟโลวิช พินาเยฟ
ไอแซดเอช-18เอ็ม (ИЖ-18М)
ไอแซดเอช-18อี (ИЖ-18Е)
ภายหลังในปี ค.ศ.1979 ได้มีการส่งออกปืนลูกเดี่ยวหักลำ ไอแซดเอช-18 ได้จำหน่ายนอกประเทศในเครือสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียต 15 รัฐโดยกรมดูแลกิจการการค้าระหว่างประเทศของสหภาพโซเวียต (Внешнеэкономическая деятельность เรียกย่อ ๆ ว่า “сокр. ВЭД”) และมีการออกรุ่นปรับปรุงเพิ่มเติมคือ ไอแซดเอช-18เอ็ม (ИЖ-18М) ที่เป็นการปรับวัสดุในการผลิตเพิ่มเติมและเปลี่ยนจากะบบนกนอกต้องง้างนกยิงทุกครั้งเป็นนกในแทน และ ไอแซดเอช-18อี (ИЖ-18Е) รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกในตระกูล ไอแซดเอช-18 ที่มีตัวดีดปลอกกระสุนเวลาหักลำกล้องลงติดตั้งมาให้ รวมถึงมีการ รุ่นที่ใช้กระสุน .410 และ กระสุน 20เกจ คือ ไอแซดเอช-18-410เอ็ม (ИЖ-18-410М) และ ไอแซดเอช-18อี-20เอ็ม (Ж-18Е-20М) ในเดือน มกราคม ค.ศ.1979 อีกด้วย โดยทั้งสี่รุ่นได้ถูกส่งออกไปประเทศที่คบหากับสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็นและได้รับเสียงตอบรับดีเป็นอย่างมากทั้งในด้านราคาที่ถูกรวมถึงความถึกทนและใช้งานง่ายและด้วยความที่ถูกและเรียบง่ายนั้นทำให้มันถูกสนใจโดยภาครัฐโดยในช่วงยุค ค.ศ.1980 นั้นรัฐบาลโซเวียตได้มีการสั่งซื้อ ไอแซดเอช-18 สำหรับใช้งานโดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าของสหภาพโซเวียต (заповедники СССР) จำนวน 1,000 กว่ากระบอก
-ไอแซดเอช-18-410เอ็ม (ИЖ-18-410М) คือรุ่นส่งออกใช้กระสุน .410
รุ่น ไอแซดเอช-18เอ็ม-เอ็ม (ИЖ-18М-M) ในปี ค.ศ.1992 โดยมีการปรับเปลี่ยนคือมีรุ่นที่ใช้พานท้ายและประกับลำกล้องเปลี่ยนไปใช้วัสดุพลาสติกรมด้วยสีดำ
ไอแซดเอช-18เอ็มเอ็น (ИЖ-18МН) เป็นปืนเล็กยาวเดี่ยวหักลำ ใช้กระสุนขนาด 7.62x39มม. แบบ ปลย.เอเค-47 พร้อมศูนย์เหล็ก ในปี ค.ศ.1994
ในปี ค.ศ.1985 นั้นปืนลูกซองเดี่ยวหักลำรุ่น ไอแซดเอช-18อีเอ็ม ได้รับรางวัลในงานแสดงสินค้าพลอฟดิฟในฐานะสินค้าดีเด่นแห่งสหภาพโซเวียต
หลังจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1991 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์นั้นยังคงดำเนินกิจการต่อปืนลูกซอง ไอแซดเอช-18 นั้นยังคงดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายทางการค้าที่จดทะเบียนอย่างเป็นทางการคือไบคาล (รัสเซียไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์แบบในยุคสหภาพโซเวียตจึงเริ่มมีการจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าโดยตัวบริษัทเอกชนแบบ 100%) และมีการออกรุ่น ไอแซดเอช-18เอ็ม-เอ็ม (ИЖ-18М-M) ในปี ค.ศ.1992 โดยมีการปรับเปลี่ยนคือมีรุ่นที่ใช้พานท้ายและประกับลำกล้องเปลี่ยนไปใช้วัสดุพลาสติกรมด้วยสีดำ และมีการออกรุ่นปืนเล็กยาวคือ ไอแซดเอช-18เอ็มเอ็น (ИЖ-18МН) เป็นปืนเล็กยาวเดี่ยวหักลำ ใช้กระสุนขนาด 7.62x39มม. แบบ ปลย.เอเค-47 พร้อมศูนย์เหล็ก ในปี ค.ศ.1994
ในปี ค.ศ.2004 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ได้มีการลงนามกับบริษัท เรมิงตัน อาร์ม (Remington Arms) เพื่อนำปืนลูกซองเดี่ยว ไบคาล ไอแซดเอช-18 ไปจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ เรมิงตัน และมีการทำรุ่นใช้กระสุน 16,20,28 เกจ สำหรับตลาดอเมริกันโดยเฉพาะอีกด้วยโดยมีการกำหนดชื่อดังนี้
เรมิงตัน สปาร์ตัน-100 = ไบคาล ไอแซดเอช-18
เรมิงตัน เอสพีอาร์-18 = ไบคาล ไอแซดเอช-18 เอ็มเอ็น
ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำไบคาลรุ่นนั้นได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดีในสหรัฐฯ แต่ภายหลังในยุคของ นาย บารัก โอบามา นั้นได้มีการแบนปืนและเครื่องกระสุนจากรัสเซียส่งผลให้มี ไบคาล ไอแซดเอช-18 เข้าไปจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ เพิ่มเติม
ในปี ค.ศ.2013 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ได้ถูกควบรวมกับบริษัทอิซห์มาชผู้ผลิตปืนเล็กยาวตระกูล เอเค แบบต่าง ๆ เป็นบริษัทในเครือ คลาชนิคอฟ กรุ๊ป (Группа компаний «Калашников») แบรนด์ไบคาลจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งกับ คลาชนิคอฟ กรุ๊ป นับตั้งแต่นั้นและมีการออกรุ่น .366 ทีเคเอ็ม ซึ่งเป็นกระสุนที่เป็นที่นิยมในตลาดปืนพลเรือนรัสเซียรุ่นนี้จะเน้นขายในรัสเซียเป็นส่วนใหญ่
โดยในปัจจุบันจากแค็ตตาล็อคของบริษัท คลาชนิคอฟ กรุ๊ป นั้น ไบคาล ไอแซดเอช-18 จะเปลี่ยนชื่อเป็น เอ็มพี-18 แทนและมีด้วยการสองรุ่นคือ ไบคาล เอ็มพี-18เอ็ม-เอ็ม สำมารถเลือกได้ว่าจะเอาประกับและพานท้ายเป็น พลาสติก,ไม้วอลนัท และ ไม้เบิร์ช และ รุ่น ไบคาล เอ็มพี-18อีเอ็ม-เอ็ม รุ่นนี้โครงปืน (กระโหลก) จะเป็นสีเงินรมเงา,ลำกล้องเจาะรูระบายความร้อนตรงปากลำกล้อง,มีการทำแนวเล็งพลังสะพานไปหาศูนย์หน้าลูกปัด โดยทั้งสองรุ่นนั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเอาเป็นนกนอกหรือนกในและมีตัวดีดปลอกหรือไม่มีโดยขึ้นอยู่กับความต้องการที่โรงงานได้รับมาซึ่งสามารถผลิตได้ตามความต้องการ
ไอแซดเอช-18อีเอ็ม (ИЖ-18ЕМ)
..................................................
คุณลักษณะของตัวปืน
..................................................
ไบคาล ไอแซดเอช-18 เป็นปืนลูกซองเดี่ยวบรรจุกระสุนด้วยหารหักลำกล้องลงในรุ่นนกนอกและไม่มีตัวดีดปลอกกระสุนนั้นเมื่อจะทำการยิงผู้ยิงจำเป็นต้องง้างนกปืนมาที่ด้านหลังจากนั้นเมื่อทำการเหนี่ยวไกปืนนกปืนจะฝาดและยิงกระสุนออกไป ตัวปืนจะมีคันหักลำกล้องในบริเวณใกล้โกร่งไกปืนเมื่อผู้ยิงกดคันหักลำกล้องลงนั้นลำกล้องจะงอลงในรุ่นที่ไม่มีตัวดีดปลอกกระสุนนั้นผู้ยิงจะต้องหยิบปลอกกระสุนออกมาเองและบรรจุกระสุนนัดต่อไปเพื่อทำการยิงต่อไป ในรุ่นใหม่ ๆ นั้นจะมีคันปรับให้ตัวดีดปลอกกระสุนนั้นดีดออกหรือไม่ดีดออกในบริเวณด้านล่างโครงปืน
..................................................
รุ่นต่าง ๆ ของตัวปืน
..................................................
-ไอแซดเอช-18 (ИЖ-18) คือรุ่นแรกสุดของตระกูลนี้
-ไอแซดเอช-18เอ็ม (ИЖ-18М) คือรุ่นปรับปรุงเพิ่มเติมนกปืนอยู่ด้านในตัวปืน
-ไอแซดเอช-18อี (ИЖ-18Е) รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกในตระกูล ไอแซดเอช-18 ที่มีตัวดีดปลอกกระสุนเวลาหักลำกล้องลงติดตั้งมาให้
-ไอแซดเอช-18อีเอ็ม (ИЖ-18ЕМ) คือรุ่นปรับปรุงวัสดุเพิ่มเติมของ ไอแซดเอช-18อี ในปี ค.ศ.1980
-ไอแซดเอช-18อี-20เอ็ม (Ж-18Е-20М) คือรุ่นส่งออกใช้กระสุนขนาด 20เกจ
-ไอแซดเอช-18-410เอ็ม (ИЖ-18-410М) คือรุ่นส่งออกใช้กระสุน .410
-ไอแซดเอช-18เอ็มเค (ИЖ-18МК) คือรุ่นปรับปรุงวัสดุเพิ่มเติมของ ไอแซดเอช-18เอ็ม ในปี ค.ศ.1988 เป็นรุ่นสุดท้ายในยุคสหภาพโซเวียต
-ไอแซดเอช-18เอ็ม-เอ็ม (ИЖ-18М-M) เป็นรุ่นที่ผลิตในปี ค.ศ.1992 โดยมีการปรับเปลี่ยนคือมีรุ่นที่ใช้พานท้ายและประกับลำกล้องเปลี่ยนไปใช้วัสดุพลาสติกรมด้วยสีดำ
-ไอแซดเอช-18เอ็มเอ็น (ИЖ-18МН) เป็นปืนเล็กยาวเดี่ยวหักลำ ใช้กระสุนขนาด 7.62x39มม. แบบ ปลย.เอเค-47 พร้อมศูนย์เหล็ก ในปี ค.ศ.1994
..................................................
ข้อมูลทางเทคนิค
..................................................
ชื่อ : ไบคาล ไอแซดเอช-18 ผู้ผลิต : โรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ภายใต้ชื่อแบรนด์ไบคาล ขนาดกระสุน : 12, 16, 20 และ 28 เกจ, .410 และ .366 ทีเคเอ็ม ความจุซองกระสุน : 1 นัด ระบบ : บรรจุกระสุนด้วยหารหักลำกล้องลง ความยาวลำกล้อง : 28 นิ้ว น้ำหนักตัวปืน : 2.4 - 2.7 กิโลกรัม ประเทศผู้ผลิต : สหพันธรัฐรัสเซีย
..................................................
ขอบคุณที่ติดตามหากมีข้อผิดพลาดประการใดขอให้ชี้แจงและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยสวัสดีครับ
แหล่งอ้างอิง
..................................................
https://www.wikipedia.org/
https://en.kalashnikovgroup.ru/
https://shotguncollector.com/
..................................................
#บทความปืนโดยGW
#GW
#แอดมินDoberman
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1959 ไบคาล ไอแซดเอช-18
https://www.facebook.com/catwarriorandroyalthaiarmyman
กล่าวนำ
..................................................
ไบคาล ไอแซดเอช-18 (Байкал ИЖ-18) เป็นปืนลูกซองเดี่ยวบรรจุกระสุนด้วยหารหักลำกล้องลงและบรรจุเดิมทีผลิตโดยโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ (Ижевский Механический Завод) ในปี ค.ศ.1964 ในยุคสหภาพโซเวียต ในปัจจุบันนั้นจัดจำหน่ายในรัสเซียและทั่วโลกภายใต้แบรนด์ ไบคาล ซึ่งปัจจุบันนั้นเป็นบริษัทในเครือ คลาชนิคอฟ กรุ๊ป (Группа компаний «Калашников») เนื่องจากปัจจุบันนั้นรัฐบาลรัสเซียนั้นสนับสนุนให้บริษัทและภาคอุสาหกรรมต่าง ๆ ที่มีความคล้ายคลึงกันนั้นรวมตัวกันเป็น บ.ในเครือ เดียวกันและทำตลาดแยกแบรนด์เช่นเดียวกันบริษัทผลิตเครื่องบินรบ ซุคฮอย ที่ผลิตเครื่องบินตระกูล ซู-27 และ มิโคยัน ที่ผลิตเครื่องบินตระกูล มิก-29 ที่รวมตัวกันเป็น บ.ในเครือ นามว่า บริษัทอากาศยาน ยูเอซี (Объединённая авиастроительная корпорация) แต่ทำตลาดแยกกันเหมือนเดิม โดย ไบคาล จะเป็นแบรนด์ที่เน้นทำตลาดปืนพลเรือนและปืนล่าสัตว์เป็นหลักในขณะที่ คาลาชนิคอฟคอนเซิร์น (Конце́рн Кала́шников) จะเน้นทำตลาดปืนทหารเช่นปืนเล็กยาวตระกูล เอเค แบบต่าง ๆ
..................................................
ประวัติความเป็นมา
..................................................
ในช่วงปี ค.ศ.1962 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์มีความต้องการนำปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอชเค (ИЖК) ซึ่งออกแบบโดย นาย วาซิลี อเล็กซานโดรวิช คาซานสกี (Василий Александрович Казанский) ในปี ค.ศ.1955 มาพัฒนาต่อยอดเพิ่มเติมให้มีน้ำหนักเบาขึ้นเนื่องจากปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอชเค นั้นมีน้ำหนักมากถึง 3.25 กิโลกรัม และ ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบใหม่นี้ต้องทำออกมาให้ใช้กับกระสุนขนาด 12เกจ ได้
ในปี ค.ศ.1960 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ได้มีการใช้ชื่อทางการค้า ไบคาล (Байкал) ซึ่งเป็นชื่อทะเลสาบแห่งหนึ่งในสหภาพโซเวียตสำหรับการส่งออกไปต่างประเทศโดยปืนรุ่นแรกที่ใช้ชื่อไบคาลคือปืนลูกแฝดขนานแบบ ไอแซดเอช-54 (ИЖ-54)
การออกแบบเริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ.1963 โดยวีศวกรของโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ภายใต้การคุมของ นาย ดิมิทรี พาฟโลวิช พินาเยฟ (Дмитрий Павлович Пинаев) ผู้มีส่วนร่วมในการสร้างปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอช-5 สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จนในปี ค.ศ.1964 หลังจากปรับปรุงมาเรื่อย ๆ นั้น ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำรุ่นใหม่ก็เข้าสู่สายการผลิตจำนวนมากในชื่อ ไอแซดเอช-18 (ИЖ-18) โดยราคาเปิดตัวในสหภาพโซเวียตอยู่ที่ 28 รูเบิล หรือประมาณ 139 บาทไทย
นาย วาซิลี อเล็กซานโดรวิช คาซานสกี
ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำแบบ ไอแซดเอชเค (ИЖК)
นาย ดิมิทรี พาฟโลวิช พินาเยฟ
ไอแซดเอช-18เอ็ม (ИЖ-18М)
ไอแซดเอช-18อี (ИЖ-18Е)
ภายหลังในปี ค.ศ.1979 ได้มีการส่งออกปืนลูกเดี่ยวหักลำ ไอแซดเอช-18 ได้จำหน่ายนอกประเทศในเครือสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียต 15 รัฐโดยกรมดูแลกิจการการค้าระหว่างประเทศของสหภาพโซเวียต (Внешнеэкономическая деятельность เรียกย่อ ๆ ว่า “сокр. ВЭД”) และมีการออกรุ่นปรับปรุงเพิ่มเติมคือ ไอแซดเอช-18เอ็ม (ИЖ-18М) ที่เป็นการปรับวัสดุในการผลิตเพิ่มเติมและเปลี่ยนจากะบบนกนอกต้องง้างนกยิงทุกครั้งเป็นนกในแทน และ ไอแซดเอช-18อี (ИЖ-18Е) รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกในตระกูล ไอแซดเอช-18 ที่มีตัวดีดปลอกกระสุนเวลาหักลำกล้องลงติดตั้งมาให้ รวมถึงมีการ รุ่นที่ใช้กระสุน .410 และ กระสุน 20เกจ คือ ไอแซดเอช-18-410เอ็ม (ИЖ-18-410М) และ ไอแซดเอช-18อี-20เอ็ม (Ж-18Е-20М) ในเดือน มกราคม ค.ศ.1979 อีกด้วย โดยทั้งสี่รุ่นได้ถูกส่งออกไปประเทศที่คบหากับสหภาพโซเวียตในช่วงสงครามเย็นและได้รับเสียงตอบรับดีเป็นอย่างมากทั้งในด้านราคาที่ถูกรวมถึงความถึกทนและใช้งานง่ายและด้วยความที่ถูกและเรียบง่ายนั้นทำให้มันถูกสนใจโดยภาครัฐโดยในช่วงยุค ค.ศ.1980 นั้นรัฐบาลโซเวียตได้มีการสั่งซื้อ ไอแซดเอช-18 สำหรับใช้งานโดยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าของสหภาพโซเวียต (заповедники СССР) จำนวน 1,000 กว่ากระบอก
-ไอแซดเอช-18-410เอ็ม (ИЖ-18-410М) คือรุ่นส่งออกใช้กระสุน .410
รุ่น ไอแซดเอช-18เอ็ม-เอ็ม (ИЖ-18М-M) ในปี ค.ศ.1992 โดยมีการปรับเปลี่ยนคือมีรุ่นที่ใช้พานท้ายและประกับลำกล้องเปลี่ยนไปใช้วัสดุพลาสติกรมด้วยสีดำ
ไอแซดเอช-18เอ็มเอ็น (ИЖ-18МН) เป็นปืนเล็กยาวเดี่ยวหักลำ ใช้กระสุนขนาด 7.62x39มม. แบบ ปลย.เอเค-47 พร้อมศูนย์เหล็ก ในปี ค.ศ.1994
ในปี ค.ศ.1985 นั้นปืนลูกซองเดี่ยวหักลำรุ่น ไอแซดเอช-18อีเอ็ม ได้รับรางวัลในงานแสดงสินค้าพลอฟดิฟในฐานะสินค้าดีเด่นแห่งสหภาพโซเวียต
หลังจากสหภาพโซเวียตในปี ค.ศ.1991 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์นั้นยังคงดำเนินกิจการต่อปืนลูกซอง ไอแซดเอช-18 นั้นยังคงดำเนินการผลิตภายใต้เครื่องหมายทางการค้าที่จดทะเบียนอย่างเป็นทางการคือไบคาล (รัสเซียไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์แบบในยุคสหภาพโซเวียตจึงเริ่มมีการจดทะเบียนเครื่องหมายทางการค้าโดยตัวบริษัทเอกชนแบบ 100%) และมีการออกรุ่น ไอแซดเอช-18เอ็ม-เอ็ม (ИЖ-18М-M) ในปี ค.ศ.1992 โดยมีการปรับเปลี่ยนคือมีรุ่นที่ใช้พานท้ายและประกับลำกล้องเปลี่ยนไปใช้วัสดุพลาสติกรมด้วยสีดำ และมีการออกรุ่นปืนเล็กยาวคือ ไอแซดเอช-18เอ็มเอ็น (ИЖ-18МН) เป็นปืนเล็กยาวเดี่ยวหักลำ ใช้กระสุนขนาด 7.62x39มม. แบบ ปลย.เอเค-47 พร้อมศูนย์เหล็ก ในปี ค.ศ.1994
ในปี ค.ศ.2004 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ได้มีการลงนามกับบริษัท เรมิงตัน อาร์ม (Remington Arms) เพื่อนำปืนลูกซองเดี่ยว ไบคาล ไอแซดเอช-18 ไปจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ ภายใต้ชื่อ เรมิงตัน และมีการทำรุ่นใช้กระสุน 16,20,28 เกจ สำหรับตลาดอเมริกันโดยเฉพาะอีกด้วยโดยมีการกำหนดชื่อดังนี้
เรมิงตัน สปาร์ตัน-100 = ไบคาล ไอแซดเอช-18
เรมิงตัน เอสพีอาร์-18 = ไบคาล ไอแซดเอช-18 เอ็มเอ็น
ปืนลูกซองเดี่ยวหักลำไบคาลรุ่นนั้นได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดีในสหรัฐฯ แต่ภายหลังในยุคของ นาย บารัก โอบามา นั้นได้มีการแบนปืนและเครื่องกระสุนจากรัสเซียส่งผลให้มี ไบคาล ไอแซดเอช-18 เข้าไปจัดจำหน่ายในสหรัฐฯ เพิ่มเติม
ในปี ค.ศ.2013 นั้นโรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ได้ถูกควบรวมกับบริษัทอิซห์มาชผู้ผลิตปืนเล็กยาวตระกูล เอเค แบบต่าง ๆ เป็นบริษัทในเครือ คลาชนิคอฟ กรุ๊ป (Группа компаний «Калашников») แบรนด์ไบคาลจึงกลายเป็นส่วนหนึ่งกับ คลาชนิคอฟ กรุ๊ป นับตั้งแต่นั้นและมีการออกรุ่น .366 ทีเคเอ็ม ซึ่งเป็นกระสุนที่เป็นที่นิยมในตลาดปืนพลเรือนรัสเซียรุ่นนี้จะเน้นขายในรัสเซียเป็นส่วนใหญ่
โดยในปัจจุบันจากแค็ตตาล็อคของบริษัท คลาชนิคอฟ กรุ๊ป นั้น ไบคาล ไอแซดเอช-18 จะเปลี่ยนชื่อเป็น เอ็มพี-18 แทนและมีด้วยการสองรุ่นคือ ไบคาล เอ็มพี-18เอ็ม-เอ็ม สำมารถเลือกได้ว่าจะเอาประกับและพานท้ายเป็น พลาสติก,ไม้วอลนัท และ ไม้เบิร์ช และ รุ่น ไบคาล เอ็มพี-18อีเอ็ม-เอ็ม รุ่นนี้โครงปืน (กระโหลก) จะเป็นสีเงินรมเงา,ลำกล้องเจาะรูระบายความร้อนตรงปากลำกล้อง,มีการทำแนวเล็งพลังสะพานไปหาศูนย์หน้าลูกปัด โดยทั้งสองรุ่นนั้นสามารถเลือกได้ว่าจะเอาเป็นนกนอกหรือนกในและมีตัวดีดปลอกหรือไม่มีโดยขึ้นอยู่กับความต้องการที่โรงงานได้รับมาซึ่งสามารถผลิตได้ตามความต้องการ
ไอแซดเอช-18อีเอ็ม (ИЖ-18ЕМ)
..................................................
คุณลักษณะของตัวปืน
..................................................
ไบคาล ไอแซดเอช-18 เป็นปืนลูกซองเดี่ยวบรรจุกระสุนด้วยหารหักลำกล้องลงในรุ่นนกนอกและไม่มีตัวดีดปลอกกระสุนนั้นเมื่อจะทำการยิงผู้ยิงจำเป็นต้องง้างนกปืนมาที่ด้านหลังจากนั้นเมื่อทำการเหนี่ยวไกปืนนกปืนจะฝาดและยิงกระสุนออกไป ตัวปืนจะมีคันหักลำกล้องในบริเวณใกล้โกร่งไกปืนเมื่อผู้ยิงกดคันหักลำกล้องลงนั้นลำกล้องจะงอลงในรุ่นที่ไม่มีตัวดีดปลอกกระสุนนั้นผู้ยิงจะต้องหยิบปลอกกระสุนออกมาเองและบรรจุกระสุนนัดต่อไปเพื่อทำการยิงต่อไป ในรุ่นใหม่ ๆ นั้นจะมีคันปรับให้ตัวดีดปลอกกระสุนนั้นดีดออกหรือไม่ดีดออกในบริเวณด้านล่างโครงปืน
..................................................
รุ่นต่าง ๆ ของตัวปืน
..................................................
-ไอแซดเอช-18 (ИЖ-18) คือรุ่นแรกสุดของตระกูลนี้
-ไอแซดเอช-18เอ็ม (ИЖ-18М) คือรุ่นปรับปรุงเพิ่มเติมนกปืนอยู่ด้านในตัวปืน
-ไอแซดเอช-18อี (ИЖ-18Е) รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกในตระกูล ไอแซดเอช-18 ที่มีตัวดีดปลอกกระสุนเวลาหักลำกล้องลงติดตั้งมาให้
-ไอแซดเอช-18อีเอ็ม (ИЖ-18ЕМ) คือรุ่นปรับปรุงวัสดุเพิ่มเติมของ ไอแซดเอช-18อี ในปี ค.ศ.1980
-ไอแซดเอช-18อี-20เอ็ม (Ж-18Е-20М) คือรุ่นส่งออกใช้กระสุนขนาด 20เกจ
-ไอแซดเอช-18-410เอ็ม (ИЖ-18-410М) คือรุ่นส่งออกใช้กระสุน .410
-ไอแซดเอช-18เอ็มเค (ИЖ-18МК) คือรุ่นปรับปรุงวัสดุเพิ่มเติมของ ไอแซดเอช-18เอ็ม ในปี ค.ศ.1988 เป็นรุ่นสุดท้ายในยุคสหภาพโซเวียต
-ไอแซดเอช-18เอ็ม-เอ็ม (ИЖ-18М-M) เป็นรุ่นที่ผลิตในปี ค.ศ.1992 โดยมีการปรับเปลี่ยนคือมีรุ่นที่ใช้พานท้ายและประกับลำกล้องเปลี่ยนไปใช้วัสดุพลาสติกรมด้วยสีดำ
-ไอแซดเอช-18เอ็มเอ็น (ИЖ-18МН) เป็นปืนเล็กยาวเดี่ยวหักลำ ใช้กระสุนขนาด 7.62x39มม. แบบ ปลย.เอเค-47 พร้อมศูนย์เหล็ก ในปี ค.ศ.1994
..................................................
ข้อมูลทางเทคนิค
..................................................
ชื่อ : ไบคาล ไอแซดเอช-18 ผู้ผลิต : โรงงานเครื่องกลอีเจฟสค์ภายใต้ชื่อแบรนด์ไบคาล ขนาดกระสุน : 12, 16, 20 และ 28 เกจ, .410 และ .366 ทีเคเอ็ม ความจุซองกระสุน : 1 นัด ระบบ : บรรจุกระสุนด้วยหารหักลำกล้องลง ความยาวลำกล้อง : 28 นิ้ว น้ำหนักตัวปืน : 2.4 - 2.7 กิโลกรัม ประเทศผู้ผลิต : สหพันธรัฐรัสเซีย
..................................................
ขอบคุณที่ติดตามหากมีข้อผิดพลาดประการใดขอให้ชี้แจงและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยสวัสดีครับ
แหล่งอ้างอิง
..................................................
https://www.wikipedia.org/
https://en.kalashnikovgroup.ru/
https://shotguncollector.com/
..................................................
#บทความปืนโดยGW
#GW
#แอดมินDoberman