* D2C คือการขายเพลงที่ผู้บริโภคได้รับโดยตรง เช่น เว็ปไซต์ขายเพลงของค่ายกับศิลปิน โดยไม่ผ่านบุคคลที่สาม
จากยอดขายที่คาดการณ์ไว้ของ
Like Crazy สัปดาห์นี้คือ 100K - 140K แต่ กฏใหม่ของ Billboard ได้ลบยอดขายจาก D2C ออกไป (ยอดที่หายคงเป็นอีเมลที่ใช้ซื้อเพลงซ้ำ) ทำให้ยอดขายสัปดาห์นี้เหลือเพียง 14,800 copies ตามรายงาจาก
Forbes (via:
Forbes)
แต่ความน่าเกลียดของ Billboard คือมาเปลี่ยนกฏตอนที่อาร์มี่ซื้อเพลงไปแล้วนี่สิ ยอดที่ซื้อไปไม่เลยไม่ถูกนับเข้าชาร์ต (แต่เงินยังเข้าบฮกับจีมิน แค่ไม่ถูกนับเข้าชาร์ต 😪)
เท่ากับว่าระบบของชาร์ต Billboard HOT 100 คือจำกัดยอดที่ทำรายได้ให้ศิลปินโดยตรงออกไป ซึ่งแน่นอนว่าชาร์ตก็คงไปเอื้อให้บุคคลที่สามมากขึ้น เช่น แพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง, สถานีวิทยุ
แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอาจต้องจ่ายเงินเพื่อให้เพลงได้รับการสนับสนุนจากเพลย์ลิส หรือให้อัลกอริทึมสุ่มเจอเพลงได้บ่อย ส่วนสถานีวิทยุก็อาจต้องจ่ายเงินเพื่อแลกให้ดีเจเปิดเพลงให้กับสถานีวิทยุต่างๆ
Blonde Máfia อธิบายอุตสหกรรมเพลงในอเมริกาตั้งแต่ปี 2017 ว่า ศิลปินจะต้องจ่าย $160,000 (5.5 ล้านบาท) เพื่อให้ Pop Radio เปิดเพลง จ่าย $60,000 (2 ล้าน) เพื่อให้ Urban Radio เปิดเพลง ซึ่งราคาก็น่าจะแตกต่างกันไปตามสถานี ปัจจุบันราคาอาจเพิ่มด้วย ศิลปินเอเชียถ้าอยากให้วิทยุเปิดอาจจ่ายมากกว่านี้หลายเท่า
ซึ่งดูจากรายได้ที่ HITS Daily Double รายงาน ยอดขายสูงเท่าไหร่ รายได้ยิ่งสูงมากเท่านั้น สัปดาห์ที่ผ่านมา Like Crazy ทำรายได้อันดับ 1 ในอเมริกา ยอดขายอย่างเดียว 241,200 copies ทำรายได้ไป $219,491 (7.5 ล้านบาท)
แอนตี้ชอบบอกว่ายอดปั่นๆ แต่ยอดพวกนี้นี่แหละที่ทำให้ BTS คือนักดนตรีที่ทำรายได้สูงที่สุดในโลกอันดับ #4 สองปีซ้อน 🫡
สัปดาห์นี้ Billboard ลบยอดขายจาก D2C ของ 'Like Crazy' ออกทั้งหมด จากแสนเหลือหมื่น 😪