สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เป็นครู แต่แบ่งวรรคตอนไม่เป็น จัดหน้าประหลาด
ความคิดเห็นของคุณไม่ผิด และมันก็ควรจะเป็นแบบนั้นค่ะ แต่คนที่เดือดร้อนจริงๆ (แม่คุณ) เค้าก็ไม่ได้เอ่ยอะไร แถมก็ยังให้เงินเหมือนเดิม เค้าสปอยด์ลูกมานาน และก็คงจะทำต่อไป ถ้าเค้าไม่เอ่ยไม่พูด คุณเอาตัวเข้าไปไปวุ่นวายขวางทางก็แน่นอนว่าทำให้ทุกคนไม่พอใจ และเราเชื่อว่าคุณจะหัวเน่าอีกด้วย
คุณเคยได้ยินมั้ย "เด็กที่ร้องไห้มักได้ขนม" นั่นคือพวกพี่น้องคุณ ส่วนคุณไม่เรียกร้อง แถมแม่ก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เงินคุณ วันหนึ่งพี่น้องคุณก็เอาไปหมด ไม่ได้จะบอกให้คุณไปเป็นปลิงอีกคน แต่ถ้าคุณจะเป็นคนดี คุณก็ต้องบอกให้แม่รู้ด้วยว่าคุณ "เป็นห่วงแม่ ที่ไม่เอาเงินไม่ใช่ไม่อยากได้ แต่ก็เห็นว่าแม่ต้องเอามาเลี้ยงหลาน แถมต้องให้เงินค่าน้ำมันกับลูกเขยที่อุตส่าห์มาเยี่ยมทุกอาทิตย์อีก แต่แม่ก็อย่าลืมเก็บเงินในส่วนของหนูไว้ด้วยนะ ไม่ใช่เปย์หลานหมด หนูก็ลูกแม่เหมือนกัน ถึงจะไม่มีผัวแต่หนูก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน รักแม่นะ"
ความคิดเห็นของคุณไม่ผิด และมันก็ควรจะเป็นแบบนั้นค่ะ แต่คนที่เดือดร้อนจริงๆ (แม่คุณ) เค้าก็ไม่ได้เอ่ยอะไร แถมก็ยังให้เงินเหมือนเดิม เค้าสปอยด์ลูกมานาน และก็คงจะทำต่อไป ถ้าเค้าไม่เอ่ยไม่พูด คุณเอาตัวเข้าไปไปวุ่นวายขวางทางก็แน่นอนว่าทำให้ทุกคนไม่พอใจ และเราเชื่อว่าคุณจะหัวเน่าอีกด้วย
คุณเคยได้ยินมั้ย "เด็กที่ร้องไห้มักได้ขนม" นั่นคือพวกพี่น้องคุณ ส่วนคุณไม่เรียกร้อง แถมแม่ก็ไม่ได้คะยั้นคะยอให้เงินคุณ วันหนึ่งพี่น้องคุณก็เอาไปหมด ไม่ได้จะบอกให้คุณไปเป็นปลิงอีกคน แต่ถ้าคุณจะเป็นคนดี คุณก็ต้องบอกให้แม่รู้ด้วยว่าคุณ "เป็นห่วงแม่ ที่ไม่เอาเงินไม่ใช่ไม่อยากได้ แต่ก็เห็นว่าแม่ต้องเอามาเลี้ยงหลาน แถมต้องให้เงินค่าน้ำมันกับลูกเขยที่อุตส่าห์มาเยี่ยมทุกอาทิตย์อีก แต่แม่ก็อย่าลืมเก็บเงินในส่วนของหนูไว้ด้วยนะ ไม่ใช่เปย์หลานหมด หนูก็ลูกแม่เหมือนกัน ถึงจะไม่มีผัวแต่หนูก็ต้องกินต้องใช้เหมือนกัน รักแม่นะ"
ความคิดเห็นที่ 4
สวัสดีค่ะชาว pantip ทุกคน ดิฉันก็คิดและลังเลอยู่นานนะคะว่าจะมาตั้งกระทู้ถามดีหรือไม่เพราะมันเป็นปัญหาครอบครัวที่ไม่ควรให้ใครเข้ามารับรู้หรือยุ่งเกี่ยวด้วยแต่จขกท.อึดอัดไม่สามารถที่จะปรึกษาใครได้จึงตัดสินใจ login เข้ามาถามหรือเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นว่าควรทำอย่างไรดีเผื่อเพื่อนๆมีแนวทางหรือวิธีแก้ไขให้ดีขึ้นได้บ้างค่ะ😂
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนนะคะ จขกท.มีพี่น้อง 4 คนค่ะเป็นผู้หญิงล้วน เราเป็นคนที่ 2 ทุกคนแต่งงานหมดแล้วค่ะยกเว้นเรา ปัญหาของเรื่องก็คือพี่สาวเราอายุ 32 ปีมีลูก 2 คนลูกคนแรกอายุ 6 ขวบและลูกคนที่ 2 อายุ 2 เดือนกว่าเมื่อครบ 3 เดือนพี่สาวก็จะทิ้งลูกให้แม่เลี้ยงและไปทำงานต่อที่กทม.
ซึ่งแม่ไม่อยากให้ไปทำเพราะอยากให้เลี้ยงลูกเองอยู่บ้านหางานทำแถวบ้านลูกคนแรกแม่ก็เลี้ยงให้ ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆคือแม่ออกให้หมดเลยและ ลูกคนที่ 2 เราก็คาดว่าจะเป็นเหมือนคนแรก แต่พี่สาวอ้างว่ามีภาระคืองวดรถซึ่งเหลือประมาณ 3 ปีแม่ก็เสนอว่าถ้ามาทำงานและอยู่ดูแลลูกที่บ้านแม่จะปิดงวดรถให้
พี่สาวก็อยากที่จะดึงดังไปทำเหมือนเดิมอาจจะเป็นเพราะว่าอยากไปทำงานอยู่ใกล้ๆสามี แม่ก็คงไปตามน้ำได้เลี้ยงลูกให้พี่สาวเหมือนเดิม
ตอนนี้แม่เราอายุ 56 ปีทำไร่อ้อยประมาณร้อยกว่าไร่กับพ่อก็ถือว่าแม่มีเงินเลี้ยงดูหลานในระดับหนึ่งแต่เรารู้สึกไม่โอเค ที่พี่สาวจะต้องมาทิ้งภาระให้พ่อกับแม่ทั้งที่ตัวเองแต่งงานและมีครอบครัวแล้ว แม่ก็บ่นว่าถ้าเลี้ยงหลานใครจะทำไร่อ้อยกับพ่อเพราะแม่กับพ่อก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน และมากไปกว่านั้นคือ
ตอนนี้น้องสาวคนที่ 3 อายุ 26 ปี ก็เพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน อยู่บ้านเดียวกันกับแม่ก็ต้องให้แม่เลี้ยงเหมือนกัน แต่ก็ยังดีหน่อยเพราะน้องทำงานที่เทศบาลใกล้บ้านไปกลับทุกวันและมีหยุดเสาร์อาทิตย์ ได้ช่วยแม่ดูลูกอยู่บ้าง
แต่ที่คิดหนักคือทุกคนใช้จ่ายกับแม่ ซื้ออยู่ซื้อกิน กับข้าวแม่เราก็ทำให้กิน ค่าน้ำมันค่างวดรถค่าใช้จ่ายต่างๆคือใช้กับแม่หมดเลย รวมไปถึงสามีพี่สาวคนโตเวลากลับบ้านแม่ก็จะส่งค่าน้ำมันให้ทุกครั้งครั้งละ 4,000-6,000 บาท เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะรับทั้งที่เขาเป็นหัวหน้าช่างโรงงานในเครือ CP เราก็ไม่รู้นะว่าเงินเดือนเท่าไหร่แม่ก็เคยถามแต่เขาก็บอกว่ามันเป็นความลับของบริษัท และเขาบอกว่าก็เยอะพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวได้แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาส่งเงินให้พี่สาวใช้หรือให้แม่ในการใช้จ่ายเลี้ยงลูกเขาเลยก็มีบ้างนานๆครั้งแต่นานมากนิดๆหน่อยๆเทียบไม่ได้กับเงินที่แม่ให้ใช้แต่ละครั้งเลย
ตัดมาที่เราเป็นแค่ครูผู้ช่วยบรรจุครบ 1 ปีเงินเดือน 16k นิดๆ ค่างวดรถ 8,482 ค่าประกัน1,750 ค่าเช่าบ้าน 3,000 หักกบข. กยศ. ประกันชีวิตแม่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ เหลือใช้ไม่ถึงพันแต่เราก็รับสอนพิเศษหารายได้เสริม ซึ่งเวลากลับบ้านเราไม่เคยที่จะรับค่าน้ำมันรถจากแม่เลยเพราะคิดว่าเราโตแล้วไม่ควรไปเดือดร้อนพ่อแม่ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเงินเราจะกลับบ้านเดือนละครั้งหรือ 2 ครั้งเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายตัวเอง แต่สามีพี่สาวกลับเกือบทุกอาทิตย์ และกลับแต่ละครั้งคือต้องได้ค่าน้ำมัน เขาเป็นคนใต้อิสลาม ส่วนครอบครัวเราเป็นพุทธชาวอีสานการอยู่การกินแตกต่างกันลำบากแม่ที่ต้องเตรียมอาหารไว้รอเรารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่แกกลับบ้าน จนแม่ได้เอ่ยปากบอกว่าไม่ต้องกลับมาบ่อยหรอกนะ แต่ก็มาเหมือนเดิม
เราเคยพูดกับแม่นะว่าจะให้ค่าน้ำมันเขาทำไม เขามีงานทำลูกตัวเองยังไม่เคยขอ แม่ก็ตอบกลับประมาณว่าก็เขาไม่มีเงินถามครั้งไหนก็บอกว่าไม่มีค่างวดรถมันก็ 30,000-4 หมื่นแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้
ขอบอกก่อนว่าแกออกรถ ford everest ตัวท็อปปี 2021 ได้ประมาณปีกว่าๆแล้ว พี่สาวเราก็ค่อนข้างที่จะให้ท้ายสามี เอาตรงๆเราเหนื่อยแทนแม่อะทำไมแม่ต้องมาดูแลครอบครัวของพี่สาวทุกอย่างทั้งสามีลูกและค่าใช้จ่ายต่างๆ
จนวันหนึ่งเราทนไม่ไหวเมื่อกลางเดือนมีนาคม เราได้พูดคุยกับพี่สาว เรื่องครอบครัวของแกและก็ใกล้ถึงเวลาลาคลอดครบกำหนดแล้ว
เราบอกให้พี่สาวไม่ต้องไปทำงานให้ลาออกจากงานและเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ถ้าอยากทำงานก็ให้หางานทำแถวบ้าน ช่วยแม่เลี้ยงดูลูกเพราะตัวเองมีลูกตั้งสองคนแล้ว ถ้าจะให้แม่เลี้ยงแม่ก็อายุเยอะมาก และแม่ก็มีสวนมีไร่ที่ต้องทำถ้าแม่ไม่ทำจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงดูครอบครัวรวมถึงครอบครัวพี่ด้วย ถ้าพี่ยังฝืนไปทำงานต่อเราว่าพี่เห็นแก่ตัวนะ
เราบอกสามีพี่สาวด้วยแต่เขาปฏิเสธ เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกให้กับลูก คือเราได้ยินคำนี้เราตกใจคนอายุ 40+ เป็นถึงหัวหน้าทำไมคิดแบบนี้ ทำไมต้องผลักภาระลูกของตัวเองให้กับพ่อแม่ด้วย เราก็บอกไปว่าถ้าไม่มีปัญญาเลี้ยงจะเอาทำไมลูก ถ้าจะมีลูกแล้วให้พ่อแม่เลี้ยงแบบนี้ใครๆก็มีได้นะ นี่แหละเลยเป็นสาเหตุทำให้พี่สาวเราโกรธเราหาว่าเราเป็นคนใจแคบเห็นแก่ตัว เขาบอกว่าเขามีภาระหน้าที่มีงานทำ เขาต้องไปทำงานเขาจะเลี้ยงลูได้อย่างไรก็ต้องให้แม่เลี้ยงสิ ตัวเองยังไม่มีลูกจะไปรู้อะไร และพี่น้อง 2 คนของเราต่างปกป้องพี่สาวและมากล่าวหาและว่าเรา โดยเฉพาะน้องคนเล็กอายุ 20 เพิ่งแต่งงานไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมไปโพสต์ว่าเราผ่าน facebook บอกว่าเราเรียนจบสูงเป็นถึงครูไม่มีปัญญาแต่งงานแต่กลับมาสอนคนอื่นไปเอาชีวิตตัวเองให้มันรอดก่อน ไม่งั้นก็ไปลาออกจากครูซะ
เราในฐานะของพี่ทั้งเสียใจและเสียความรู้สึกทั้งที่ก่อนหน้านี้ก่อนที่น้องจะแต่งงานน้องมาทำงานพักอยู่กับเรา เราดูแลทุกอย่างเรื่องอาหารการกินความสะดวกสบายทุกอย่างในบ้าน แต่พอแต่งงานไปอยู่กับครอบครัวของแฟนทำงานใหม่ที่กทม.ทำไมมาพูดกับพี่สาวแบบนี้ เราเลยตัดสินใจบล็อก facebook น้องไปไม่ติดต่อและคุยกันอีก
และตอนนี้มันเป็นความอึดอัดใจเราไม่รู้เราจะทำยังไงต่อเพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรากลับบ้านไปหาแม่ พี่สาวและน้องสาวเราทำหน้าดึง ไม่คุยกับเราท่าทางจะโกรธ เราก็ไม่รู้ว่าเราผิดอะไรนะแต่เราแค่อยากพูดในฐานะคนที่เป็นห่วงและเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ไม่มีแม่คนไหนหรอกที่จะปฏิเสธไม่เลี้ยงดูลูกให้ แม่ก็คือแม่แหละแต่จะมีลูกสักกี่คนที่สงสารแม่บ้าง กว่าจะเลี้ยงคนหนึ่งคนให้เติบโตมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ มีคนที่ 1ที่ 2 ก็จะมีคนที่ 3 ที่ 4 ไปเรื่อยๆ เราจะต้องทำยังไงดีเพื่อปรับทัศนคติของพี่น้องเราใหม่หรือว่าเราเป็นคนที่ทัศนคติไม่ดีเองหรือเปล่าที่คิดแบบนี้?
เราเข้าใจความคับข้องใจของ จขกท.นะ ส่วนเนื้อหาก็คือการระบายความอัดอั้นนั่นแหละ คุณไม่ได้ผิด ไม่ใช่คนที่มีทัศนคติไม่ดี แต่มันต่างกันที่มุมมอง
สามีพี่สาวเขาอาจจะเงินเดือนสูง แต่เขาเองก็อาจจะมีภาระค่าใช้จ่าย ส่วนที่มาบ้านแม่คุณทุกอาทิตย์ก็คงเพราะอยากมาหาลูก ควรบอกแม่ จขกท.ว่า ไม่ต้องทำอะไรให้ลูกเขย อาหารการกินต่างๆก็ให้เขาจัดหาเอาเอง หรือไม่ก็ให้เมียเขานั่นแหละ เป็นคนหาให้กิน
ส่วนแนวคิดเรื่องให้แม่เลี้ยงลูกของลูกให้ ไม่ออกความเห็น อาจจะเป็นเรื่องที่เขาได้รับการอบรมสั่งสอนมาแบบนั้นเอง
เอาจริงๆ สงสารแม่ จขกท.นะ แบกรับทุกอย่างเอาไว้หมดแบบนี้ จะด้วยความเป็นแม่หรืออะไรก็ตาม ถ้าเราเป็น จขกท. เราจะเลือกที่ไม่กลับบ้าน ไม่รับรู้เรื่องต่างๆ หรือไม่ ถ้ากลับไป เราก็จะเมินเฉยกับทุกเรื่อง เพราะคนที่ต้องพูดออกมาคือแม่ จขกท. เราอยากยุให้แม่หมดความอดทน แล้วก็หยุดทำทุกอย่างให้ลูกๆที่เห็นแก่ตัวซักที
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนนะคะ จขกท.มีพี่น้อง 4 คนค่ะเป็นผู้หญิงล้วน เราเป็นคนที่ 2 ทุกคนแต่งงานหมดแล้วค่ะยกเว้นเรา ปัญหาของเรื่องก็คือพี่สาวเราอายุ 32 ปีมีลูก 2 คนลูกคนแรกอายุ 6 ขวบและลูกคนที่ 2 อายุ 2 เดือนกว่าเมื่อครบ 3 เดือนพี่สาวก็จะทิ้งลูกให้แม่เลี้ยงและไปทำงานต่อที่กทม.
ซึ่งแม่ไม่อยากให้ไปทำเพราะอยากให้เลี้ยงลูกเองอยู่บ้านหางานทำแถวบ้านลูกคนแรกแม่ก็เลี้ยงให้ ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆคือแม่ออกให้หมดเลยและ ลูกคนที่ 2 เราก็คาดว่าจะเป็นเหมือนคนแรก แต่พี่สาวอ้างว่ามีภาระคืองวดรถซึ่งเหลือประมาณ 3 ปีแม่ก็เสนอว่าถ้ามาทำงานและอยู่ดูแลลูกที่บ้านแม่จะปิดงวดรถให้
พี่สาวก็อยากที่จะดึงดังไปทำเหมือนเดิมอาจจะเป็นเพราะว่าอยากไปทำงานอยู่ใกล้ๆสามี แม่ก็คงไปตามน้ำได้เลี้ยงลูกให้พี่สาวเหมือนเดิม
ตอนนี้แม่เราอายุ 56 ปีทำไร่อ้อยประมาณร้อยกว่าไร่กับพ่อก็ถือว่าแม่มีเงินเลี้ยงดูหลานในระดับหนึ่งแต่เรารู้สึกไม่โอเค ที่พี่สาวจะต้องมาทิ้งภาระให้พ่อกับแม่ทั้งที่ตัวเองแต่งงานและมีครอบครัวแล้ว แม่ก็บ่นว่าถ้าเลี้ยงหลานใครจะทำไร่อ้อยกับพ่อเพราะแม่กับพ่อก็มีค่าใช้จ่ายเหมือนกัน และมากไปกว่านั้นคือ
ตอนนี้น้องสาวคนที่ 3 อายุ 26 ปี ก็เพิ่งคลอดลูกได้ 2 เดือน อยู่บ้านเดียวกันกับแม่ก็ต้องให้แม่เลี้ยงเหมือนกัน แต่ก็ยังดีหน่อยเพราะน้องทำงานที่เทศบาลใกล้บ้านไปกลับทุกวันและมีหยุดเสาร์อาทิตย์ ได้ช่วยแม่ดูลูกอยู่บ้าง
แต่ที่คิดหนักคือทุกคนใช้จ่ายกับแม่ ซื้ออยู่ซื้อกิน กับข้าวแม่เราก็ทำให้กิน ค่าน้ำมันค่างวดรถค่าใช้จ่ายต่างๆคือใช้กับแม่หมดเลย รวมไปถึงสามีพี่สาวคนโตเวลากลับบ้านแม่ก็จะส่งค่าน้ำมันให้ทุกครั้งครั้งละ 4,000-6,000 บาท เขาไม่เคยปฏิเสธที่จะรับทั้งที่เขาเป็นหัวหน้าช่างโรงงานในเครือ CP เราก็ไม่รู้นะว่าเงินเดือนเท่าไหร่แม่ก็เคยถามแต่เขาก็บอกว่ามันเป็นความลับของบริษัท และเขาบอกว่าก็เยอะพอที่จะเลี้ยงดูครอบครัวได้แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาส่งเงินให้พี่สาวใช้หรือให้แม่ในการใช้จ่ายเลี้ยงลูกเขาเลยก็มีบ้างนานๆครั้งแต่นานมากนิดๆหน่อยๆเทียบไม่ได้กับเงินที่แม่ให้ใช้แต่ละครั้งเลย
ตัดมาที่เราเป็นแค่ครูผู้ช่วยบรรจุครบ 1 ปีเงินเดือน 16k นิดๆ ค่างวดรถ 8,482 ค่าประกัน1,750 ค่าเช่าบ้าน 3,000 หักกบข. กยศ. ประกันชีวิตแม่ ค่าใช้จ่ายต่างๆ เหลือใช้ไม่ถึงพันแต่เราก็รับสอนพิเศษหารายได้เสริม ซึ่งเวลากลับบ้านเราไม่เคยที่จะรับค่าน้ำมันรถจากแม่เลยเพราะคิดว่าเราโตแล้วไม่ควรไปเดือดร้อนพ่อแม่ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเงินเราจะกลับบ้านเดือนละครั้งหรือ 2 ครั้งเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายตัวเอง แต่สามีพี่สาวกลับเกือบทุกอาทิตย์ และกลับแต่ละครั้งคือต้องได้ค่าน้ำมัน เขาเป็นคนใต้อิสลาม ส่วนครอบครัวเราเป็นพุทธชาวอีสานการอยู่การกินแตกต่างกันลำบากแม่ที่ต้องเตรียมอาหารไว้รอเรารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่แกกลับบ้าน จนแม่ได้เอ่ยปากบอกว่าไม่ต้องกลับมาบ่อยหรอกนะ แต่ก็มาเหมือนเดิม
เราเคยพูดกับแม่นะว่าจะให้ค่าน้ำมันเขาทำไม เขามีงานทำลูกตัวเองยังไม่เคยขอ แม่ก็ตอบกลับประมาณว่าก็เขาไม่มีเงินถามครั้งไหนก็บอกว่าไม่มีค่างวดรถมันก็ 30,000-4 หมื่นแล้วจะเอาเงินที่ไหนมาใช้
ขอบอกก่อนว่าแกออกรถ ford everest ตัวท็อปปี 2021 ได้ประมาณปีกว่าๆแล้ว พี่สาวเราก็ค่อนข้างที่จะให้ท้ายสามี เอาตรงๆเราเหนื่อยแทนแม่อะทำไมแม่ต้องมาดูแลครอบครัวของพี่สาวทุกอย่างทั้งสามีลูกและค่าใช้จ่ายต่างๆ
จนวันหนึ่งเราทนไม่ไหวเมื่อกลางเดือนมีนาคม เราได้พูดคุยกับพี่สาว เรื่องครอบครัวของแกและก็ใกล้ถึงเวลาลาคลอดครบกำหนดแล้ว
เราบอกให้พี่สาวไม่ต้องไปทำงานให้ลาออกจากงานและเลี้ยงลูกอยู่บ้าน ถ้าอยากทำงานก็ให้หางานทำแถวบ้าน ช่วยแม่เลี้ยงดูลูกเพราะตัวเองมีลูกตั้งสองคนแล้ว ถ้าจะให้แม่เลี้ยงแม่ก็อายุเยอะมาก และแม่ก็มีสวนมีไร่ที่ต้องทำถ้าแม่ไม่ทำจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงดูครอบครัวรวมถึงครอบครัวพี่ด้วย ถ้าพี่ยังฝืนไปทำงานต่อเราว่าพี่เห็นแก่ตัวนะ
เราบอกสามีพี่สาวด้วยแต่เขาปฏิเสธ เขาบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของแม่ที่ต้องเลี้ยงดูลูกให้กับลูก คือเราได้ยินคำนี้เราตกใจคนอายุ 40+ เป็นถึงหัวหน้าทำไมคิดแบบนี้ ทำไมต้องผลักภาระลูกของตัวเองให้กับพ่อแม่ด้วย เราก็บอกไปว่าถ้าไม่มีปัญญาเลี้ยงจะเอาทำไมลูก ถ้าจะมีลูกแล้วให้พ่อแม่เลี้ยงแบบนี้ใครๆก็มีได้นะ นี่แหละเลยเป็นสาเหตุทำให้พี่สาวเราโกรธเราหาว่าเราเป็นคนใจแคบเห็นแก่ตัว เขาบอกว่าเขามีภาระหน้าที่มีงานทำ เขาต้องไปทำงานเขาจะเลี้ยงลูได้อย่างไรก็ต้องให้แม่เลี้ยงสิ ตัวเองยังไม่มีลูกจะไปรู้อะไร และพี่น้อง 2 คนของเราต่างปกป้องพี่สาวและมากล่าวหาและว่าเรา โดยเฉพาะน้องคนเล็กอายุ 20 เพิ่งแต่งงานไปเมื่อต้นเดือนมีนาคมไปโพสต์ว่าเราผ่าน facebook บอกว่าเราเรียนจบสูงเป็นถึงครูไม่มีปัญญาแต่งงานแต่กลับมาสอนคนอื่นไปเอาชีวิตตัวเองให้มันรอดก่อน ไม่งั้นก็ไปลาออกจากครูซะ
เราในฐานะของพี่ทั้งเสียใจและเสียความรู้สึกทั้งที่ก่อนหน้านี้ก่อนที่น้องจะแต่งงานน้องมาทำงานพักอยู่กับเรา เราดูแลทุกอย่างเรื่องอาหารการกินความสะดวกสบายทุกอย่างในบ้าน แต่พอแต่งงานไปอยู่กับครอบครัวของแฟนทำงานใหม่ที่กทม.ทำไมมาพูดกับพี่สาวแบบนี้ เราเลยตัดสินใจบล็อก facebook น้องไปไม่ติดต่อและคุยกันอีก
และตอนนี้มันเป็นความอึดอัดใจเราไม่รู้เราจะทำยังไงต่อเพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเรากลับบ้านไปหาแม่ พี่สาวและน้องสาวเราทำหน้าดึง ไม่คุยกับเราท่าทางจะโกรธ เราก็ไม่รู้ว่าเราผิดอะไรนะแต่เราแค่อยากพูดในฐานะคนที่เป็นห่วงและเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ ไม่มีแม่คนไหนหรอกที่จะปฏิเสธไม่เลี้ยงดูลูกให้ แม่ก็คือแม่แหละแต่จะมีลูกสักกี่คนที่สงสารแม่บ้าง กว่าจะเลี้ยงคนหนึ่งคนให้เติบโตมันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ มีคนที่ 1ที่ 2 ก็จะมีคนที่ 3 ที่ 4 ไปเรื่อยๆ เราจะต้องทำยังไงดีเพื่อปรับทัศนคติของพี่น้องเราใหม่หรือว่าเราเป็นคนที่ทัศนคติไม่ดีเองหรือเปล่าที่คิดแบบนี้?
เราเข้าใจความคับข้องใจของ จขกท.นะ ส่วนเนื้อหาก็คือการระบายความอัดอั้นนั่นแหละ คุณไม่ได้ผิด ไม่ใช่คนที่มีทัศนคติไม่ดี แต่มันต่างกันที่มุมมอง
สามีพี่สาวเขาอาจจะเงินเดือนสูง แต่เขาเองก็อาจจะมีภาระค่าใช้จ่าย ส่วนที่มาบ้านแม่คุณทุกอาทิตย์ก็คงเพราะอยากมาหาลูก ควรบอกแม่ จขกท.ว่า ไม่ต้องทำอะไรให้ลูกเขย อาหารการกินต่างๆก็ให้เขาจัดหาเอาเอง หรือไม่ก็ให้เมียเขานั่นแหละ เป็นคนหาให้กิน
ส่วนแนวคิดเรื่องให้แม่เลี้ยงลูกของลูกให้ ไม่ออกความเห็น อาจจะเป็นเรื่องที่เขาได้รับการอบรมสั่งสอนมาแบบนั้นเอง
เอาจริงๆ สงสารแม่ จขกท.นะ แบกรับทุกอย่างเอาไว้หมดแบบนี้ จะด้วยความเป็นแม่หรืออะไรก็ตาม ถ้าเราเป็น จขกท. เราจะเลือกที่ไม่กลับบ้าน ไม่รับรู้เรื่องต่างๆ หรือไม่ ถ้ากลับไป เราก็จะเมินเฉยกับทุกเรื่อง เพราะคนที่ต้องพูดออกมาคือแม่ จขกท. เราอยากยุให้แม่หมดความอดทน แล้วก็หยุดทำทุกอย่างให้ลูกๆที่เห็นแก่ตัวซักที
แสดงความคิดเห็น
จะทำอย่างไรดีพี่สาวชอบเอาลูกมาให้แม่เลี้ยง และเราจะกลายเป็นคนใจแคบหรือเห็นแก่ตัวไหมที่คิดแบบนี้?