อาทิตย์ที่ผ่านมา ส่งลูกตอนเช้า
ก่อนแยกกัน ลูกบอกว่า เดี๋ยววันนี้จะไปงานสัปดาห์หนังสือตอนบ่าย
ก็เลยบอกลูกว่า เดี๋ยวหม่ามี้ไปรับที่งานเลยแล้วกัน
จากที่ไม่ได้คิดว่าจะไป (โถ... น้องกองดองที่บ้านยังท่วมหัว ท่วมตู้อยู่เลยค่า เดี๋ยวนี้ไม่ได้ดองแค่หนังสือแล้ว ดองคอร์สเรียนออนไลน์ด้วย)
แต่พอต้องไปรับลูกเลยคิดว่า อะ...จังหวะมันให้ เราต้องไปแล้วละ
ไม่ได้ไปงานสัปดาห์หนังสือมาหลายปีแล้ว เลยอดตื่นเต้นนิดหน่อยไม่ได้
ใคร ๆ ก็บอกว่าศูนย์ประชุมปรับปรุงใหม่แล้วดีมาก สะดวกสบาย ที่จอดรถเยอะ
ไม่ต้องลำบากลำบนจอดกลางแดด ตากแดดหัวแดงเดินจากโรงงานยาสูบมาที่จัดงานอีกแล้ว
ทีแรกคิดว่า จะสอยหนังสือสักเล่มสองเล่ม คือ เทวัญบันดาล ของแก้วเก้า กับอะไรสักสองสามเล่มของสำนักพิมพ์วีเลิร์น
แล้วก็หนังสือของคุณวินทร์ เลียววาริณค่ะ
ด้วยความที่อยากจะกลับมาอ่านหนังสือยาว ๆ สร้างนิสัยใหม่ หรือจะพูดให้ถูกคือ กลับไปหานิสัยเก่า
สมัยก่อน ดิฉันกับสามี เราสองคน จะอ่านหนังสือหรือนิตยสารก่อนนอนกันทุกคืน
สามีจะอ่านรอบเช้าตอนเข้าห้องน้ำด้วย ห้องน้ำเราแต่ก่อน เลยต้องมีชั้นหนังสือเล็ก ๆ
เฮ้อ ถอนใจดังพรืด
สองสามเล่มไม่มีจริงค่ะ
เดินไปครึ่งงาน ได้หนังสือมาชนิดที่ว่า หิ้วไม่ไหวแล้ว ต้องไปส่งไปรษณีย์แบบเหมากล่องขนาดใหญ่สุดคือ 170 บาท ส่งไปที่ทำงาน
รวม ๆ ทั้งหมดประมาณสิบห้าสิบหกเล่ม ของคุณวินทร์ก็ทั้งยกชุดและซื้อแยก
ชอบที่คุณวินทร์เป็นนักเขียนที่ทำการบ้านดีมาก ข้อมูลแน่น และถ่ายทอดดี
รอบนี้
คิดว่า เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำ โทร.หาลูก ก็จะกลับแล้ว
เดินต่อไปอีกครึ่งงาน ได้มาอีกสิบกว่าเล่ม แบกจนเต็มถุงผ้าขนาดยักษ์ที่ซื้อมาจากอิเกีย
เจอตัวน้อย (แม่นางนกต่อที่ล่อแม่มางานหนังสือ) เธอได้แค่เล่มเดียว
อ้าววววว...
รอบสองที่เดิน จะเน้นนิยายกับพวก how to
ไปเจอสำนักพิมพ์ดวงตะวันเป็นบู๊ทสุดท้าย ก่อนเดินออกไปเจอลูก
ก็เลยลองหยิบมาสองเล่ม เป็นนิยาย
แต่เล่มที่เห็นชื่อแล้วสะดุดใจกระตุกนิดหน่อย
คือ เรื่องรักตั้งแต่นั้น Since 1988
มันชวนให้คิดขึ้นมาเลยว่า ทำไม 1988
แล้วใจก็กระหวัดคิดไปว่า ปีนั้น ชั้นทำอะไรอยู่
อ้อ...ปีนั้น ชั้นอายุ 14 ขึ้น ม. 4 ศิลป์ฝรั่งเศส
สนุกกับการเรียนภาษาใหม่มาก
ปกขวานิยายเขียนว่า Aging Society
มันอะไรหว่า ...
พอกลับบ้าน ก็เลยหยิบเล่มนี้มาอ่านก่อนเป็นเล่มแรก
OMG นางเอกอายุ 45 ค่ะคู้ณณณณณณณณณ...
ตัวเอกสองหนุ่มมีอายุ 68 กับ อายุ 35
ใช่แล้วค่ะ 1988 เป็นปีเกิดพระเอกค่าาาาาาา
คือ ด้วยความที่ห่างหายจากการอ่านนิยายไปนานมาก
เพิ่งรู้ว่า ตอนนี้ มันมีนิยายประเภทหนึ่ง จะเรียกว่า ฌอง (genre) นึง ก็น่าจะได้นะคะ
ที่พูดถึงความรักของวัยผู้ใหญ่
ปกติ เรามักจะคุ้นกับนิยายที่ตัวเอกอายุน้อย ประมาณสิบปลาย ๆ ยี่สิบกว่า ๆ หรือ อะ...แก่สุดก็น่าจะสักสามสิบต้น ๆ
หรือหากตัวเอกจะเป็นผู้สูงวัย ก็มักจะใช้เทคนิคเล่าย้อนไปตอนประมาณช่วงวัยเด็ก
นี่มาเจอความรักของวัยผู้ใหญ่เลย มันเปิดโลกสำหรับดิฉันมาก ๆ
ครั้งหนึ่ง (จะว่าไปตอนนี้ความคิดนี้ก็ยังอยู่)
ดิฉันมีความคิดที่จะเขียนนิยายที่นางเอกอายุ 60 กว่า ๆ และพระเอกเฉียด 70
แน่นอนค่ะว่า ต้องเป็นนิยายรักแต่เป็นอีกมิติหรือแง่มุมของชีวิต
ตอนนั้น ยังคิดว่า ตัวเองคิดอะไรประหลาดไปรึเปล่าหว่า ?
โอ...มาเจอ นิยายที่แปะมุมขวาบนว่า Aging Society นี่ ถึงเพิ่งรู้ว่า มันปกติมากเลยนะคะ
ดิฉันไม่ค่อยได้อ่านอะไรของคุณดวงตะวันค่ะ สำหรับนักเขียนสำนักพิมพ์นี้ ดิฉันเคยอ่านแต่เรื่อง "สายสวาท" ของคุณอยุทธ์
พอได้มาอ่านของคุณดวงตะวันก็ติดใจค่ะ (คิดว่าเรียกว่าติดใจได้นะคะ เพราะวันนี้ กดสั่งซื้อรวดเดียวอีก 15 เล่ม อ่านให้มันสาแก่ใจไปเลย)
คือ พล็อตเรื่องนี้ อาจไม่ได้โดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ
มีช่องว่างในบทสนทนาบ้าง (เช่น การใช้สรรพนามที่บางครั้งโดดไปมาเล็กน้อย)
หรือขาดการปูพื้นฐานที่แน่นหนาพอสำหรับนิสัยของตัวละครบางตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวรอง ๆ
แต่เอาละ ถ้าจะเอาสัญชาตญาณการจับผิดมาใช้กับนิยายทั้งหมด มันคงทอนความสนุกลงไปมาก
นี่ก็เลยโฟกัสเอาแต่จุดเด่นของนักเขียน
คือ สำนวนที่ละมุนละไม ไม่สวิงสวาย แต่กินใจและบรรยายความรู้สึกตัวละครได้ดี
นึกภาพออกเลยถึง บุคลิกภาพที่สง่างาม อบอุ่น ความใจกว้างและความเป็นผู้ผ่านร้อนหนาวในชีวิตของคนอายุหกสิบกว่าว่ามันเป็นยังไง ?
มันมีประเด็นให้คิดตามหลายอย่างอยู่เหมือนกัน
เล่าไปก็ spoil แน่ ๆ
แต่อยากมาแชร์ว่า เพิ่งเคยเห็นหนังสือ genre นี้
แล้วพอลองอ่านก็ติดใจสำนวนละมุนละไมของดวงตะวันค่ะ
ดิฉันมีนิสัยแปลก ๆ อยู่อย่าง กับหนังสือบางเล่ม คำพูดบางคำ ภาพวาดบางภาพ เฉดสีบางสี
คือ บางที จะชอบอะไรบางอย่างที่อยู่ในนั้น เพียงเพราะสะดุดกับอะไรบางอย่างในชื่อเรื่อง ในชื่อตัวละคร หรือบางมุมในภาพนั้น ๆ
อย่างเล่มนี้ อยู่ ๆ เห็นชื่อ "รักตั้งแต่นั้น Since 1988" มันก็เกิดกระตุกขึ้นมาเฉย ๆ
นิยายที่ชอบบางเล่ม ก็ plot ธรรมดามาก มาหัวทิ่มหัวตำ เพราะพระเอกชื่อ "สินธุ์"
คือนี่ เห็นคนชื่อสินธุ์ สินธู ไม่ได้เลย หันขวับไปมองตลอด
ตลกดี
[CR] "รักตั้งแต่นั้น Since 1988" ไม่เคยอ่านนิยายฌอง (genre) นี้เลย นางเอกสี่สิบกลาง ๆ ^^ สนุกค่ะ
ก่อนแยกกัน ลูกบอกว่า เดี๋ยววันนี้จะไปงานสัปดาห์หนังสือตอนบ่าย
ก็เลยบอกลูกว่า เดี๋ยวหม่ามี้ไปรับที่งานเลยแล้วกัน
จากที่ไม่ได้คิดว่าจะไป (โถ... น้องกองดองที่บ้านยังท่วมหัว ท่วมตู้อยู่เลยค่า เดี๋ยวนี้ไม่ได้ดองแค่หนังสือแล้ว ดองคอร์สเรียนออนไลน์ด้วย)
แต่พอต้องไปรับลูกเลยคิดว่า อะ...จังหวะมันให้ เราต้องไปแล้วละ
ไม่ได้ไปงานสัปดาห์หนังสือมาหลายปีแล้ว เลยอดตื่นเต้นนิดหน่อยไม่ได้
ใคร ๆ ก็บอกว่าศูนย์ประชุมปรับปรุงใหม่แล้วดีมาก สะดวกสบาย ที่จอดรถเยอะ
ไม่ต้องลำบากลำบนจอดกลางแดด ตากแดดหัวแดงเดินจากโรงงานยาสูบมาที่จัดงานอีกแล้ว
ทีแรกคิดว่า จะสอยหนังสือสักเล่มสองเล่ม คือ เทวัญบันดาล ของแก้วเก้า กับอะไรสักสองสามเล่มของสำนักพิมพ์วีเลิร์น
แล้วก็หนังสือของคุณวินทร์ เลียววาริณค่ะ
ด้วยความที่อยากจะกลับมาอ่านหนังสือยาว ๆ สร้างนิสัยใหม่ หรือจะพูดให้ถูกคือ กลับไปหานิสัยเก่า
สมัยก่อน ดิฉันกับสามี เราสองคน จะอ่านหนังสือหรือนิตยสารก่อนนอนกันทุกคืน
สามีจะอ่านรอบเช้าตอนเข้าห้องน้ำด้วย ห้องน้ำเราแต่ก่อน เลยต้องมีชั้นหนังสือเล็ก ๆ
เฮ้อ ถอนใจดังพรืด
สองสามเล่มไม่มีจริงค่ะ
เดินไปครึ่งงาน ได้หนังสือมาชนิดที่ว่า หิ้วไม่ไหวแล้ว ต้องไปส่งไปรษณีย์แบบเหมากล่องขนาดใหญ่สุดคือ 170 บาท ส่งไปที่ทำงาน
รวม ๆ ทั้งหมดประมาณสิบห้าสิบหกเล่ม ของคุณวินทร์ก็ทั้งยกชุดและซื้อแยก
ชอบที่คุณวินทร์เป็นนักเขียนที่ทำการบ้านดีมาก ข้อมูลแน่น และถ่ายทอดดี
รอบนี้
คิดว่า เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำ โทร.หาลูก ก็จะกลับแล้ว
เดินต่อไปอีกครึ่งงาน ได้มาอีกสิบกว่าเล่ม แบกจนเต็มถุงผ้าขนาดยักษ์ที่ซื้อมาจากอิเกีย
เจอตัวน้อย (แม่นางนกต่อที่ล่อแม่มางานหนังสือ) เธอได้แค่เล่มเดียว
อ้าววววว...
รอบสองที่เดิน จะเน้นนิยายกับพวก how to
ไปเจอสำนักพิมพ์ดวงตะวันเป็นบู๊ทสุดท้าย ก่อนเดินออกไปเจอลูก
ก็เลยลองหยิบมาสองเล่ม เป็นนิยาย
แต่เล่มที่เห็นชื่อแล้วสะดุดใจกระตุกนิดหน่อย
คือ เรื่องรักตั้งแต่นั้น Since 1988
มันชวนให้คิดขึ้นมาเลยว่า ทำไม 1988
แล้วใจก็กระหวัดคิดไปว่า ปีนั้น ชั้นทำอะไรอยู่
อ้อ...ปีนั้น ชั้นอายุ 14 ขึ้น ม. 4 ศิลป์ฝรั่งเศส
สนุกกับการเรียนภาษาใหม่มาก
ปกขวานิยายเขียนว่า Aging Society
มันอะไรหว่า ...
พอกลับบ้าน ก็เลยหยิบเล่มนี้มาอ่านก่อนเป็นเล่มแรก
OMG นางเอกอายุ 45 ค่ะคู้ณณณณณณณณณ...
ตัวเอกสองหนุ่มมีอายุ 68 กับ อายุ 35
ใช่แล้วค่ะ 1988 เป็นปีเกิดพระเอกค่าาาาาาา
คือ ด้วยความที่ห่างหายจากการอ่านนิยายไปนานมาก
เพิ่งรู้ว่า ตอนนี้ มันมีนิยายประเภทหนึ่ง จะเรียกว่า ฌอง (genre) นึง ก็น่าจะได้นะคะ
ที่พูดถึงความรักของวัยผู้ใหญ่
ปกติ เรามักจะคุ้นกับนิยายที่ตัวเอกอายุน้อย ประมาณสิบปลาย ๆ ยี่สิบกว่า ๆ หรือ อะ...แก่สุดก็น่าจะสักสามสิบต้น ๆ
หรือหากตัวเอกจะเป็นผู้สูงวัย ก็มักจะใช้เทคนิคเล่าย้อนไปตอนประมาณช่วงวัยเด็ก
นี่มาเจอความรักของวัยผู้ใหญ่เลย มันเปิดโลกสำหรับดิฉันมาก ๆ
ครั้งหนึ่ง (จะว่าไปตอนนี้ความคิดนี้ก็ยังอยู่)
ดิฉันมีความคิดที่จะเขียนนิยายที่นางเอกอายุ 60 กว่า ๆ และพระเอกเฉียด 70
แน่นอนค่ะว่า ต้องเป็นนิยายรักแต่เป็นอีกมิติหรือแง่มุมของชีวิต
ตอนนั้น ยังคิดว่า ตัวเองคิดอะไรประหลาดไปรึเปล่าหว่า ?
โอ...มาเจอ นิยายที่แปะมุมขวาบนว่า Aging Society นี่ ถึงเพิ่งรู้ว่า มันปกติมากเลยนะคะ
ดิฉันไม่ค่อยได้อ่านอะไรของคุณดวงตะวันค่ะ สำหรับนักเขียนสำนักพิมพ์นี้ ดิฉันเคยอ่านแต่เรื่อง "สายสวาท" ของคุณอยุทธ์
พอได้มาอ่านของคุณดวงตะวันก็ติดใจค่ะ (คิดว่าเรียกว่าติดใจได้นะคะ เพราะวันนี้ กดสั่งซื้อรวดเดียวอีก 15 เล่ม อ่านให้มันสาแก่ใจไปเลย)
คือ พล็อตเรื่องนี้ อาจไม่ได้โดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ
มีช่องว่างในบทสนทนาบ้าง (เช่น การใช้สรรพนามที่บางครั้งโดดไปมาเล็กน้อย)
หรือขาดการปูพื้นฐานที่แน่นหนาพอสำหรับนิสัยของตัวละครบางตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวรอง ๆ
แต่เอาละ ถ้าจะเอาสัญชาตญาณการจับผิดมาใช้กับนิยายทั้งหมด มันคงทอนความสนุกลงไปมาก
นี่ก็เลยโฟกัสเอาแต่จุดเด่นของนักเขียน
คือ สำนวนที่ละมุนละไม ไม่สวิงสวาย แต่กินใจและบรรยายความรู้สึกตัวละครได้ดี
นึกภาพออกเลยถึง บุคลิกภาพที่สง่างาม อบอุ่น ความใจกว้างและความเป็นผู้ผ่านร้อนหนาวในชีวิตของคนอายุหกสิบกว่าว่ามันเป็นยังไง ?
มันมีประเด็นให้คิดตามหลายอย่างอยู่เหมือนกัน
เล่าไปก็ spoil แน่ ๆ
แต่อยากมาแชร์ว่า เพิ่งเคยเห็นหนังสือ genre นี้
แล้วพอลองอ่านก็ติดใจสำนวนละมุนละไมของดวงตะวันค่ะ
ดิฉันมีนิสัยแปลก ๆ อยู่อย่าง กับหนังสือบางเล่ม คำพูดบางคำ ภาพวาดบางภาพ เฉดสีบางสี
คือ บางที จะชอบอะไรบางอย่างที่อยู่ในนั้น เพียงเพราะสะดุดกับอะไรบางอย่างในชื่อเรื่อง ในชื่อตัวละคร หรือบางมุมในภาพนั้น ๆ
อย่างเล่มนี้ อยู่ ๆ เห็นชื่อ "รักตั้งแต่นั้น Since 1988" มันก็เกิดกระตุกขึ้นมาเฉย ๆ
นิยายที่ชอบบางเล่ม ก็ plot ธรรมดามาก มาหัวทิ่มหัวตำ เพราะพระเอกชื่อ "สินธุ์"
คือนี่ เห็นคนชื่อสินธุ์ สินธู ไม่ได้เลย หันขวับไปมองตลอด
ตลกดี
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้