มีโอกาสไปเข้าคอร์ส Voice Training มาค่ะ 
คิดว่า น่าสนใจดี และไหน ๆ ก็รีวิวทุกสิ่งอย่างที่(คิดว่า)ดีในพันทิปแล้ว
รีวิวคอร์สเรียนอีกสักอย่างจะเป็นไรไป ? 


FB : Krufonvoicetrainer Sharpen Mind Creation

พบคอร์สนี้ทางหน้าฟีดของเฟสน่ะค่ะ
ดู ๆ รายละเอียด ก็คิดว่าน่าสนใจดี
มันคือการสอนการใช้เสียง ซึ่งไม่ใช่การสอนร้องเพลงนะคะ
แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คนที่รู้จักเทคนิคการใช้เสียง ก็มักจะร้องเพลงดีไปด้วย

ก่อนเรียน ครูก็ถามเหมือนกันว่า ทำไมถึงคิดจะมาเรียน มีปัญหาอะไรเกี่ยวกับการใช้เสียงบ้างไหม ?
ซึ่งจริง ๆ หลายคนที่มาเรียน ก็ใช้เสียงเป็นอาชีพอยู่แล้วนะคะ
เช่น บางคนเป็นพิธีกรมืออาชีพตามงาน event  บางคนเป็นเจ้าหน้าที่ด้านการพัฒนาทรัพยากรบุคคล
บางคนเป็น coach หรือให้คำปรึกษา

ส่วนตัว ดิฉันไม่ได้ใช้เสียงเป็นอาชีพ
แต่เป็นอาสาสมัครอ่านหนังสือเสียงให้คนตาบอด
ใจคิดว่า อยากจะเรียนรู้ว่า มีวิธีไหนที่จะทำให้อ่านได้ดีขึ้น น่าฟังขึ้น และอ่านได้ทนขึ้นบ้างไหม ?
ก็เลยไปลงเรียน

ปรากฎว่า น่าสนใจกว่าที่คิดมาก
และการใช้เสียงก็มีรายละเอียด  มีเทคนิค มีอะไรหลายอย่างที่มีนัยยะ และส่งผลต่อการสื่อสารได้อย่างน่าอัศจรรย์
คอร์สนี้ มีการทำ workshop จริง ๆ จัง ๆ 

การพูด การอ่านออกเสียง ที่เราเคยคิดว่า มันจะมีอะไรนักหนา ? 
มันกลับมีอะไรมากกว่าที่คิด
การใช้โทนเสียงที่ถูกต้อง เหมาะสม 
การเปล่งเสียงออกมาจากท้อง
เทคนิคการพูดให้ชัดถ้อยชัดคำ (ไม่อมเสียง ไม่หนีบเสียง จนเสียงแบน ๆ ไม่น่าสนใจ หรือกระทั่งอาจจะฟังแล้วดูน่าเบื่อด้วยซ้ำ)

หลาย ๆ คนที่ร่วมคลาสเรียน
ลักษณะการพูด การเปล่งเสียง เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
จากบางคนที่พูดเสียงหนีบ ๆ กลายเป็นเสียงที่เปล่งออกมาแล้วชวนฟัง

มันเป็นคอร์สที่กินเวลาค่ะ ตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ ๆ เลย
แต่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปมาก
ครูเก่งจริง รู้จริง และครูเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ลองฝึกออกเสียงอย่างจริงจัง และสอนเทคนิคว่า จะทำอย่างไรจึงจะพูดได้ชัด ด้วยโทนเสียงที่น่าฟังเหมาะกับเนื้อหา ด้วยเทคนิคการออกเสียงที่ทำให้พูดได้ทน พูดได้ยาว โดยไม่แหบแห้งหลังจากที่ต้องพูดติดกันไปยาว ๆ 

น่าสนใจมาก ๆ ด้วยว่า บางครั้ง ถ้าเราตั้งใจออกเสียงอย่างจริงจัง 
นอกจากเราจะใช้เสียงได้ดีขึ้นแล้ว เรายังสามารถจับ "นัยยะ" บางอย่างในน้ำเสียงของผู้พูดได้ด้วย
คนเราไม่พูดสิ่งที่คิดออกมาในทุกครั้งหรอกนะคะ
แต่การจับเอา "เนื้อหา" ที่ไม่ได้พูดแต่แฝงอยู่ในน้ำเสียงได้นี่ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

คนที่ใช้เสียงได้ดี ไม่จำเป็นต้องมีเสียงที่ไพเราะเสมอไป
ต้นทุนเรื่องนี้ คนเรามาไม่เท่ากันค่ะ
แต่ถ้ารู้วิธีแล้ว ไม่ว่าจะเสียงใหญ่ เสียงเล็ก เสียงแหบ หากเราใช้เสียงได้อย่างเหมาะสม
มันจะทำให้การสนทนา บทสนทนา การพูดคุย ลื่นไหล รื่นรมย์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ทำให้สารที่จะสื่อออกไปได้ผล ลดความขัดแย้ง และมีส่วนในการช่วยให้การติดต่อคุยงานมีบรรยากาศที่ดีและเอื้อต่อเป้าหมายที่วางไว้

บางที ตัวเราเองจะไม่มีความตระหนักรู้ว่า เสียงที่เราใช้มันเป็นยังไง ?
น่าสนใจ ? น่าเบื่อ ? ไม่เหมาะกับบทบาท ?
การที่มีคนมาชี้ให้เห็น มาแนะวิธีให้ มันมีประโยชน์มาก

ทักษะการใช้เสียงนี้เหมาะกับคนทุกวัย
สำหรับเด็ก ก็จะทำให้เด็กมีความมั่นใจ กล้าสื่อสาร เล่าเรื่องได้สนุก present งานได้ดี
ส่วนสำหรับผู้ใหญ่ ดิฉันว่ามีส่วนอย่างมากที่จะทำให้ผึ่งผายเวลาที่ต้องนำเสนองาน หรือพูดต่อหน้ากลุ่มคน

ดิฉันอายุอีกนิดก็จะ 50 แล้วนะคะ
พยายามลงเรียนอะไรใหม่ ๆ ที่อยู่นอก comfort zone ของตัวเองอยู่เสมอ 
และพบว่า บางที การเรียนการหาความรู้อะไรใหม่ ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่เลยนี่
มันมีอะไรดีหลายอย่าง  คล้าย ๆ กับที่ Steve JOBS เคยบอกไว้ว่า เราไม่รู้หรอกว่า สิ่งที่เราเรียนในวันนี้ (ซึ่งอาจดูไม่น่าเกี่ยวกับงานที่ทำเลย) วันหนึ่ง มันจะนำประโยชน์ใหญ่หลวงมาสู่เราได้
ชีวิตคนเรามันบางทีก็คล้าย ๆ กับการต่อจุดที่ดูไม่ได้เกี่ยวกันเลย แต่พอจุดเหล่านี้เชื่อมเข้าหากัน มันก็กลายเป็นภาพใหญ่ที่มีความหมายกับชีวิตเราได้นะคะ