30 มี.ค. 2566 - 14:34 น.
เปิดชีวิต ลุงบิลลี่ 83ยังเก๋า เดินเก็บขยะภาษาอังกฤษขั้นเทพ ฝรั่งเศษ เยอรมนี อิตาลี ก็พูดได้ พ่อค้าแม่ค้าปลื้ม ลุงบิลลี่ช่วยสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายกฤษฏา ทรัพย์กมล หรือตาเบิ้มหรือที่ชาวโซเชียลรู้จักในนาม ลุงบิลลี่ อายุ 83 ปี ชาวบ้าน ม.10 บ้านจอมพล ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น หลังจากโซเชียลมีเดียแชร์คลิปลุงบิลลี่ เก็บขวดขาย พูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่วโดยวันนี้พบลุงวิลลี่ กำลังเดินเข็นรถกลับจากเก็บขยะกลับมาที่บ้าน ตาวิลลี่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ทั้งยังสื่อสารกับผู้สื่อข่าวด้วยภาษาอังกฤษที่ชัดเจนเหมือนเจ้าของภาษากันเลยทีเดียว
ลุงบิลลี่ กล่าวว่า ตอนหนุ่มๆไปทำงานที่ต่างประเทศทั้งที่เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งแต่ละประเทศมีภาษาแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ที่ใช้สื่อสารคือภาษาอังกฤษ เมื่อไปมาหลายประเทศ ทำให้พูดภาษาอังกฤษได้ และพูดเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากพูดคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว ตาวิลลี่ ยังพูดภาษาอังกฤษเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมากินไก่ย่างที่เขาสวนกวางด้วย
สิ่งของที่เก็บมาไม่ใช่ของเก่า แต่เป็นขยะ การเก็บขยะก็พบเจอกับชาวต่างชาติ มีโอกาสคุยกับคนต่างชาติบ่อยครั้ง เพราะจะมีกรุ๊ปทัวร์มาท่องเที่ยวที่สวนสัตว์ มาแวะรับประทานอาหาร มากินไก่ย่าง แต่ไม่มีใครพูดไทยได้ และคนขับรถก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จึงเสนอตัวเข้าไปพูดช่วยบ่อยครั้ง
ลุงบิลลี่ กล่าวต่อว่า อย่างเมื่อ2วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากันหนึ่งคันรถ มาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าร้านขายไก่ย่าง จนแม่ค้าตะโกนถามว่าจะทำอะไรต้องการอะไร ตนเองก็ได้เข้าไปพูดช่วยด้วยภาษาอังกฤษ ทำให้คลี่คลายปัญหาการสื่อสารแม่ค้าคนไทยกับลูกค้าชาวต่างชาติได้
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ในเรื่องเก็บขยะขายนั้น เป็นความสุขและตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ ถือว่าได้ออกกำลังกายด้วย ส่วนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆห่างไกลโรงพยาบาลมานาน เพราะมียาดีและร่างกายแข็งแรงจากการเดินเข็นรถเข็นเก็บขยะ และขยะต่างๆตนเองก็จะเลือกเอาที่ปลอดภัยและเป็นขยะจากอาหารคือขวด กระป๋องต่างๆ รวมทั้งได้มาจะนำมาล้างให้สะอาดด้วย ถ้าขยะกลุ่มไหนมีกลิ่นก็จะไม่ไปยุ่งจะปล่อยให้รถเก็บ
ตนจะเก็บขยะที่ไม่มีกลิ่นเน่าเหม็น เก็บมาล้างใส่รถไว้ พร้อมทั้งเก็บกวาดพื้นให้สะอาดจนแม่ค้าบางคนอายไม่กล้าทิ้งขยะลงพื้นอีก ซึ่งตนเองก็มองว่าการเก็บขยะของตนนั้นนอกจากได้ออกกำลังกายแล้วยังช่วยให้ตลาดสะอาดน่ามาใช้บริการด้วย และแม่ค้าพ่อค้าแต่ละคนต่างมีน้ำใจกับตนเองมาก มีการต่อคิวเพื่อขอให้อาหารเครื่องดื่มในแต่ละมื้อด้วย
“ผมไม่ได้ต้องการอยากให้คนนำมาให้ แต่ก็ต้องรับเพื่อให้คนที่ให้ได้สำเร็จในสิ่งที่พวกเขาอยากแสดงน้ำใจกับเรา ในแต่ละวัน ขยะที่เก็บมานั้น ไม่ได้มีมูลค่ามากมาย เต็มรถอย่างมากก็ไม่เกิน 20 บาท แต่สิ่งที่ได้รับมันมีค่ามากกว่าเงินจากการขายขยะเหล่านี้” ลุงบิลลี่ กล่าว
ด้านนางหนู ทรัพย์กมล อายุ 78 ปี อดีตภรรยาลุงวิลลี่ กล่าวว่า ลุงวิลลี่เป็นชาวอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อยู่กินเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่ตนอายุ 17ปี ส่วนลุงวิลลี่ 21 ปี จากนั้นก็พากันมาอยู่ที่บ้านที่อ.เขาสวนกวาง ยึดอาชีพขายไก่ย่างไม้ละ 10 บาท มีลูกด้วยกัน 2 คน จากนั้นลุงก็ไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง จนมีเรื่องไม่เข้าใจกันก็หย่ากัน ห่างกันไปหลายปี ลุงวิลลี่ก็กลับมาอยู่ที่บ้านด้วยอีกครั้ง ซึ่งอยู่กันเหมือนเพื่อนพี่น้องมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนลูกก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว
ลุงวิลลี่ชอบพูดภาษาอังกฤษ และทักทายเพื่อนบ้านเป็นภาษาอังกฤษ แต่ทุกคนคุยด้วยไม่ได้ จึงบอกให้ลุงพูดภาษา แต่ถ้ามีชาวต่างชาติมากินไก่ย่างที่ร้านขายไก่ย่างเขาสวนกวางริมทาง แต่สื่อสารกับทางร้านไม่ได้ ลุงก็จะเข้าไปช่วยพูดสื่อสารให้สองฝ่ายเข้าใจและให้บริการกันได้ และลุงทำเช่นนี้มาร่วม 3 ปีแล้ว ส่วนการเก็บขยะหรือของเก่านั้น ลุงอยากทำเอง ไม่อยากอยู่เฉยๆ ครอบครัวจึงไม่ห้ามและทำติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
ด้านนายดอน นารีจันทร์ อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า ตาเบิ้ม หรือลุงวิลลี่นั้น เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น และในทุกๆวัน ลุงจะออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปเก็บขยะและของเก่ามาขาย จากนั้นก็จะกลับมาที่บ้านในช่วงเที่ยง เพื่อมาล้างและคัดแยกสิ่งของก่อนนำไปขาย เมื่อขายเสร็จลุงก็จะออกไปเก็บขยะช่วงบ่ายอีกครั้ง คนในพื้นที่จะชินกับการที่ลุงสื่อสารกับนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่าน เพราะลุงมักจะเป็นตัวแทนร้านค้าที่ขายไก่ย่าง สื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7587446
เปิดชีวิต ลุงบิลลี่ 83ยังเก๋า เดินเก็บขยะภาษาอังกฤษขั้นเทพ ฝรั่งเศษ เยอรมนี อิตาลี ก็พูดได้
30 มี.ค. 2566 - 14:34 น.
เปิดชีวิต ลุงบิลลี่ 83ยังเก๋า เดินเก็บขยะภาษาอังกฤษขั้นเทพ ฝรั่งเศษ เยอรมนี อิตาลี ก็พูดได้ พ่อค้าแม่ค้าปลื้ม ลุงบิลลี่ช่วยสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 30 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับนายกฤษฏา ทรัพย์กมล หรือตาเบิ้มหรือที่ชาวโซเชียลรู้จักในนาม ลุงบิลลี่ อายุ 83 ปี ชาวบ้าน ม.10 บ้านจอมพล ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น หลังจากโซเชียลมีเดียแชร์คลิปลุงบิลลี่ เก็บขวดขาย พูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่วโดยวันนี้พบลุงวิลลี่ กำลังเดินเข็นรถกลับจากเก็บขยะกลับมาที่บ้าน ตาวิลลี่หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา ทั้งยังสื่อสารกับผู้สื่อข่าวด้วยภาษาอังกฤษที่ชัดเจนเหมือนเจ้าของภาษากันเลยทีเดียว
ลุงบิลลี่ กล่าวว่า ตอนหนุ่มๆไปทำงานที่ต่างประเทศทั้งที่เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี ซึ่งแต่ละประเทศมีภาษาแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่ที่ใช้สื่อสารคือภาษาอังกฤษ เมื่อไปมาหลายประเทศ ทำให้พูดภาษาอังกฤษได้ และพูดเยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ได้ด้วยเช่นกัน นอกจากพูดคุยกับผู้สื่อข่าวแล้ว ตาวิลลี่ ยังพูดภาษาอังกฤษเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมากินไก่ย่างที่เขาสวนกวางด้วย
สิ่งของที่เก็บมาไม่ใช่ของเก่า แต่เป็นขยะ การเก็บขยะก็พบเจอกับชาวต่างชาติ มีโอกาสคุยกับคนต่างชาติบ่อยครั้ง เพราะจะมีกรุ๊ปทัวร์มาท่องเที่ยวที่สวนสัตว์ มาแวะรับประทานอาหาร มากินไก่ย่าง แต่ไม่มีใครพูดไทยได้ และคนขับรถก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จึงเสนอตัวเข้าไปพูดช่วยบ่อยครั้ง
ลุงบิลลี่ กล่าวต่อว่า อย่างเมื่อ2วันที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากันหนึ่งคันรถ มาเดินวนไปวนมาอยู่หน้าร้านขายไก่ย่าง จนแม่ค้าตะโกนถามว่าจะทำอะไรต้องการอะไร ตนเองก็ได้เข้าไปพูดช่วยด้วยภาษาอังกฤษ ทำให้คลี่คลายปัญหาการสื่อสารแม่ค้าคนไทยกับลูกค้าชาวต่างชาติได้
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ในเรื่องเก็บขยะขายนั้น เป็นความสุขและตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ ถือว่าได้ออกกำลังกายด้วย ส่วนเรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่างๆห่างไกลโรงพยาบาลมานาน เพราะมียาดีและร่างกายแข็งแรงจากการเดินเข็นรถเข็นเก็บขยะ และขยะต่างๆตนเองก็จะเลือกเอาที่ปลอดภัยและเป็นขยะจากอาหารคือขวด กระป๋องต่างๆ รวมทั้งได้มาจะนำมาล้างให้สะอาดด้วย ถ้าขยะกลุ่มไหนมีกลิ่นก็จะไม่ไปยุ่งจะปล่อยให้รถเก็บ
ตนจะเก็บขยะที่ไม่มีกลิ่นเน่าเหม็น เก็บมาล้างใส่รถไว้ พร้อมทั้งเก็บกวาดพื้นให้สะอาดจนแม่ค้าบางคนอายไม่กล้าทิ้งขยะลงพื้นอีก ซึ่งตนเองก็มองว่าการเก็บขยะของตนนั้นนอกจากได้ออกกำลังกายแล้วยังช่วยให้ตลาดสะอาดน่ามาใช้บริการด้วย และแม่ค้าพ่อค้าแต่ละคนต่างมีน้ำใจกับตนเองมาก มีการต่อคิวเพื่อขอให้อาหารเครื่องดื่มในแต่ละมื้อด้วย
“ผมไม่ได้ต้องการอยากให้คนนำมาให้ แต่ก็ต้องรับเพื่อให้คนที่ให้ได้สำเร็จในสิ่งที่พวกเขาอยากแสดงน้ำใจกับเรา ในแต่ละวัน ขยะที่เก็บมานั้น ไม่ได้มีมูลค่ามากมาย เต็มรถอย่างมากก็ไม่เกิน 20 บาท แต่สิ่งที่ได้รับมันมีค่ามากกว่าเงินจากการขายขยะเหล่านี้” ลุงบิลลี่ กล่าว
ด้านนางหนู ทรัพย์กมล อายุ 78 ปี อดีตภรรยาลุงวิลลี่ กล่าวว่า ลุงวิลลี่เป็นชาวอ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อยู่กินเป็นสามีภรรยากันตั้งแต่ตนอายุ 17ปี ส่วนลุงวิลลี่ 21 ปี จากนั้นก็พากันมาอยู่ที่บ้านที่อ.เขาสวนกวาง ยึดอาชีพขายไก่ย่างไม้ละ 10 บาท มีลูกด้วยกัน 2 คน จากนั้นลุงก็ไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยครั้ง จนมีเรื่องไม่เข้าใจกันก็หย่ากัน ห่างกันไปหลายปี ลุงวิลลี่ก็กลับมาอยู่ที่บ้านด้วยอีกครั้ง ซึ่งอยู่กันเหมือนเพื่อนพี่น้องมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนลูกก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว
ลุงวิลลี่ชอบพูดภาษาอังกฤษ และทักทายเพื่อนบ้านเป็นภาษาอังกฤษ แต่ทุกคนคุยด้วยไม่ได้ จึงบอกให้ลุงพูดภาษา แต่ถ้ามีชาวต่างชาติมากินไก่ย่างที่ร้านขายไก่ย่างเขาสวนกวางริมทาง แต่สื่อสารกับทางร้านไม่ได้ ลุงก็จะเข้าไปช่วยพูดสื่อสารให้สองฝ่ายเข้าใจและให้บริการกันได้ และลุงทำเช่นนี้มาร่วม 3 ปีแล้ว ส่วนการเก็บขยะหรือของเก่านั้น ลุงอยากทำเอง ไม่อยากอยู่เฉยๆ ครอบครัวจึงไม่ห้ามและทำติดต่อกันมาหลายปีแล้ว
ด้านนายดอน นารีจันทร์ อายุ 48 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า ตาเบิ้ม หรือลุงวิลลี่นั้น เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบช่วยเหลือคนอื่น และในทุกๆวัน ลุงจะออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดเพื่อไปเก็บขยะและของเก่ามาขาย จากนั้นก็จะกลับมาที่บ้านในช่วงเที่ยง เพื่อมาล้างและคัดแยกสิ่งของก่อนนำไปขาย เมื่อขายเสร็จลุงก็จะออกไปเก็บขยะช่วงบ่ายอีกครั้ง คนในพื้นที่จะชินกับการที่ลุงสื่อสารกับนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่าน เพราะลุงมักจะเป็นตัวแทนร้านค้าที่ขายไก่ย่าง สื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7587446