กระทู้เตือนภัยผู้ใช้รถบนท้องถนน ลูกหลานหรือวัยไหนๆต้องมีสติตลอดเวลาเมื่อเจอคนหัวร้อน

ประสบการณ์ตรงเราขับบนทางด่วนจากศรีรัชไปเฉลิมมหานครในช่วงเวลาเร่งด่วน มันจะมีทางแยกที่รถติดๆเพราะมันจะเป็นจุดที่ทางด่วนทั้งสองเส้นมาเจอกัน มีทั้งเลนเปลี่ยนไปดินแดงและเลนบางนาดาวคะนอง ต่างคนต่างเปลี่ยนมันเลยติด และสะสมมาจากทางข้างหน้าด้วย 

สืบเนื่องมาจากตอนเปลี่ยนเลนนั่นแหละค่ะ เราเปลี่ยนหน้ารถยนต์คันนึง (ดูรุ่นคือ Toyota Altis สีทอง รุ่นเก่า ประมาณช่วงปี 2002-2010) เพราะเห็นว่ามีช่องไปได้ก็ตบไฟเลี้ยวซ้าย ซึ่งจริงๆแล้วคันนั้นขับมาจากศรีรัชเหมือนกัน ตอนแรกเราเห็นรถคันนั้นอยู่เพราะมาจากด้านหลัง และมันมีจังหวะนึงที่คันนั้นเค้าเข้ามาที่จุดบอดของรถยนต์เรา ทำให้เรามองกระจกข้างซ้ายไม่เห็น ก็คือปราฏกว่าทางนั้นไม่ยอมจะพุ่งหน้าอย่างเดียวและบีบแตรหัวร้อนแบบสิบสูบ คงอาจรู้สึกถูกเอาเปรียบและไม่ยอมตัวเองต้องไปก่อน ใครก็ห้ามแทรก เราก็หยุดทันสิ ยังไม่ชนหรืออะไร

จากนั้นชายวัย 40-50++ ใส่แว่นท้วมๆซึ่งเป็นคนขับและมาคนเดียวก็เร่งเครื่องมาจอดข้างๆ และหันมามองหน้าตามประสาคนพร้อมจะมีเรื่องก็มองหน่อยใครขับรถ ยังไม่พอนะ จากนั้นจอดรถและเดินลงมาเหมือนจะเอาเรื่อง และตะโกนด่า ซึ่งเราจำไม่ได้แล้วว่าด่าว่าอะไรนะไม่ได้สนใจคิดแต่ว่าปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า คิดว่าหากมีมีดหรือไม้หรืออาวุธใดๆคนนั้นก็คงจะหยิบลงมาด้วย จริงๆตั้งแต่ขับรถมายังไม่เคยเห็นใครเปรี้ยวจอดรถเดินลงมาหาเรื่องบนทางด่วนเวลาเร่งด่วนแบบนี้

ซึ่งเราคิดว่าหากเราไม่ตบไฟฉุกเฉิน ถอย และเลี้ยวออก คนขับคนนั้นก็คงไม่ไปไหนแช่ไว้อย่างนั้นให้รถติดเล่นๆเพราะตั้งใจปาดหน้ามาจอดหน้าเราเพื่อลงจากรถมาโดยเฉพาะ สิริเวลารวมก็สัก 1 นาที เนื่องจากรถบนทางด่วนไม่ได้เร็ว จึงไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากคันอื่นๆที่ตามๆกันมา

เหตุการณ์กระทบกระทั่งบนท้องถนนแบบนี้เอาจริงๆไม่ควรลงไปแลกเพียงเพราะความโกรธแบบชั่ววูบ เพราะถ้าทำอะไรลงไปแล้วผลลัพธ์ที่ตามมาอาจเปลี่ยนชีวิตเราไปตลอด แน่นอนว่าเรายังมีอนาคตมีชีวิตอีกยาวไกลอย่างน้อยก็มากกว่าคู่กรณี และแน่นอนว่าถ้ามีอะไรผิดพลาดแล้วย่อมแก้ไขไม่ได้

เหตุการณ์ในอดีตที่คอยเตือนสติเราและยังจำได้เสมอคือข่าวที่มีวัยรุ่นถูกยิงที่สะพานปลาแถวๆสัตหีบ หลายปีมาแล้วตอนนั้นฟังข่าวหลายช่องก็มีเล่าเรื่องนี้ เราไม่อาจรู้ได้ว่าจริงๆแล้วใครผิดถูก และยังคงมีข่าวทำนองนี้ในสังคมไทยเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะเบาะแว้ง ตีกัน หรืออะไรก็ตาม ซึ่งก็เหมือนน้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆ เลยอยากเขียนบันทึกไว้ให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้อื่นว่าเมื่อเกิดอะไรขับขัน ต้องมีสติรู้ว่าอะไรควรไม่ควร วิเคราะห์ตามสถานการณ์เฉพาะหน้าและไม่เล่นด้วยเพราะไม่มีอะไรคุ้ม สุดท้ายคนที่น่าจะเดือดร้อนที่สุดก็คือคนที่ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้งนั่นแหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่