(เล่าเท่าที่สัมผัส) การบินไทยชั้นหนึ่ง และ ชั้นธุรกิจ TG676/677 กรุงเทพ-นาริตะ

กระทู้นี้จะเป็นการเล่าประสบการณ์การนั่งการบินไทย premium class เส้นทางกรุงเทพ - นาริตะ - กรุงเทพ เดินทางเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม 2566 นะครับ  โดยเจ้าของกระทู้เป็นสมาชิก Gold ROP และได้ใช้สิทธิ์บัตรทองในการซื้อตั๋ว รายละเอียดดังนี้

(1) เส้นทาง กรุงเทพ-นาริตะ TG676 เดินทางในชั้น Royal First Class 
เป็นตั๋ว Gold 50% แลกไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิดในอัตราก่อนจะปรับไมล์โดยสาร

(2) เส้นทาง นาริตะ-กรุงเทพ TG677 เดินทางในชั้น Royal Silk Class
เป็นตั๋วซื้อ + ใช้สิทธิ์ Gold Upgrade จากชั้นประหยัด เป็นชั้นธุรกิจ Class J

//////////////////////////////////////////////

เริ่มต้นsectorแรก TG676 Royal First Class ใช้เครื่องบิน Boeing777-300 ทะเบียน HS-TTA (อลงกรณ์) ทำการบิน



(1) เคาน์เตอร์เช็คอิน ROW A สนามบินสุวรรณภูมิเปิดรับเช็คอิน 05.00 เนื่องจากการบินไทยมีชั้น First Class บินเพียงสามเส้นทาง คือ ลอนดอน , โอซาก้า , โตเกียว 
ซึ่งสองไฟลต์แรกเป็นไฟลต์ดึก มีเพียงไฟลต์โตเกียวเป็นไฟลต์เช้า  การเช็คอินจึงสะดวก มีเจ้าหน้าที่ในชุดสีทองคอย accompany ตลอดกระบวนการจนไปถึงการนำเข้าห้องรับรองสำหรับผู้โดยสารชั้น 1 ซึ่งจะอยู่ทางปีกซ้ายของ Royal Orchid Prestige Lounge Concourse D 

(2) ห้องรับรองของผู้โดยสารชั้น First Class มีที่นั่งกว้างขวาง เมนูอาหารเป็นแบบ a la carte โดยผมเลือกสั่งเป็น Set American Breakfast ปริมาณกำลังพอเหมาะสำหรับ early breakfast เวลา 06.00

(3) ห้องน้ำสำหรับผู้โดยสารชั้น First Class จะแยกโซนต่างหากไม่เข้าไปปนกับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ  โดยใช้ผลิตภัณฑ์ของ Thann  ห้องน้ำสะอาดมาก แม่บ้านทำความสะอาดทันทีที่ผู้โดยสารใช้บริการเสร็จ อันนี้ขอชมเลยครับ

(4) ผมได้ใช้บริการ Private Room ในห้องรับรองชั้นFirst Class เนื่องจากแจ้งพนักงานว่า อาจจะขอไปเดินร่อนๆทีเลาจ์ EVA กับ SQ เสียหน่อย พนักงานเลยแนะนำให้ใช้ห้อง Private Room เป็นที่เก็บกระเป๋า โดย Private Room นี้จะมีอยู่สองห้องนะครับ ภายในห้องกว้างขวาง แม้จะทึบไปหน่อยก็ตามที

(5) ถึงเวลา Boarding มีเจ้าหน้าที่พาไปที่ Gate และได้ขึ้นเครื่องเป็นผู้โดยสารชุดแรก น่าเสียดายวันที่ผมเดินทาง ประตู้ขึ้นเครื่องสำหรับผู้โดยสารชั้น First Class ชำรุด จึงต้องใช้ประตูผู้โดยสารชั้นธุรกิจและชั้นประหยัดในการ Boarding
ข้อสังเกต อยากให้การบินไทยปรับปรุงเรื่อง Boarding Music คือ ไปลองดู Qatar Airways , Turkish , ANA หรือ SQ ก็ได้ มันเป็นจุดดึงความรู้สึกผู้โดยสารที่ดีเลยนะ ไอ้ Boarding music เนี่ย จะ grand หรือจะ low ก็เริ่มจากก้าวแรกที่ขึ้นเครื่องเลย ขอเหอะไอ้ "คุณลองมองไปบนฟ้าาาา อยากจะพาคุณบินไป..." "Fly high in the sky and leave it all behind..." พอเหอะ นะ แค่เสียงรอสาย Call center ก็จะอาเจียนแล้ว รู้จัก Instrumental music อะไรงี้มั้ย ต้นทุนมันไม่ได้แพงอะไร ทำมาดีๆครั้งเดียว อยู่ได้อีกหลายปีนะ  (พูดแล้วก็นึกถึง OST.เลือดข้นคนจาง อันนั้นก็น่าจะผลงานคนไทยเรานี่แหละ คลาสสิคและเพราะมาก)  

(6) Assigned Seat 1K เป็นที่นั่งแถวแรกด้านขวามือ ตามการจัดเรียงแบบ 1-2-1 เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลผมคือ คุณอร และ คุณเก่ง ทั้งสองท่านน่ารักมากครับ เอาใจใส่ดี สนใจรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ จดจำรายละอียดแม่นยำ ประทับใจมากครับ



(7) Amenities ได้รับการdowngrade จาก Rimowa (เมื่อครั้งเดินทางเส้นทาง HND-BKK ด้วย 747 ยุคก่อนโควิด) เป็น Porsche Design ส่วนตัวผมไม่ติดขัดอะไรนะครับ Better than Nothing 



(8) ผ้าห่มได้รับการห่อพลาสติกไว้อย่างดี แต่หมอนทั้งสองใบวางเปลือยอยู่บนเบาะ ไม่ได้รับการซีลแต่อย่างใด 

(9) สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง จะมีชุดนอนแจกให้นะครับ แม้ว่าจะเป็นการเดินทางในไฟลต์กลางวันก็ตามที ตอนแรกผมค่อนข้างสับสนเพราะหลายท่านแจ้งว่าไฟลต์ญี่ปุ่นจะไม่มีแจก สรุป มีชุดนอนแจกนะครับ แต่คุณภาพผมยังไม่ได้ลองใส่ เอาเก็บกลับมาบ้าน กะว่าจะใช้ตัวเก่าให้ยับเยินก่อนค่อยแกะตัวนี้ออกมาใช้ 



(10) Welcome Drink ผมรับเป็นชามะขาม ต่อด้วยเชมเปญ 
ข้อสังเกต 1. พนักงานจะไม่ชูเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นจุดขาย แต่จะเน้นไปที่ Soft drink มากกว่า น่าจะเป็นเรื่องของการควบคุมต้นทุน  แต่ถ้าผู้โดยสารต้องการก็รีเควสได้ครับ 
ข้อสังเกต 2. แชมเปญไม่ใช่ Dom Perignon แล้วนะครับ ส่วนจะเป็นของอะไรผมไม่ได้ขอให้พนักงานโชว์ลาเบลให้ดู ไม่อยากเซ็ง คาดว่าไม่น่าจะใช่ของดีมากอะไร (เพราะถ้าดีคงหยิบขวดมาโชว์ผู้โดยสารแล้ว เช่น SQเสริฟKRUG เป็นต้น) ตรงนี้เข้าใจการบินไทยว่าอยู่ในช่วงวิกฤต อะไรที่ประหยัดได้ก็ทำไปเถอะครับ 

(11) มีเมนูให้บริการสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ใส่แฟ้มผ้าไหมอย่างดีครับ



(12) ห้องน้ำสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่งจะมีสองห้อง (สำหรับผู้โดยสาร 8 ท่าน) เรียกได้ว่าไม่แออัดเลย และห้องน้ำอยู่ในสภาพสะอาดตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำแบรนด์ PAYOT ไม่ได้พิเศษอะไรแต่ก็ไม่ได้แย่ ผมไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้มากนัก

(13) กลับมาที่เรื่องเก้าอี้นั่งกันเสียหน่อย มีหลายรีวิว จากทั้ง bloggers และ youtubers ได้กล่าวติง "สภาพเบาะ" ว่าค่อนข้างทรุดโทรมและเริ่มเกิดอาการ "สีลอก" อันนี้ จริงนะครับ มันก็เริ่มมีลอกจริงๆ ส่วนเรื่องความทรุดโทรมของเบาะนั้นโดยส่วนตัวคิดว่าเป็นความไม่ฉลาดในการเลือก theme สีด้วยส่วนหนึ่ง สีเบจ+ทอง มันให้ความหรูหราก็จริง แต่มันดูแลยาก แล้วยิ่งสายการบินอยู่ในช่วงลดต้นทุนการดูแลแบบนี้ มันก็ยิ่งไปกันใหญ่
ข้อสังเกต ช่องเสียบกล้วยไม้ข้างๆหน้าจอ ไม่มีกล้วยไม้เสียแล้ว ปล่อยโล่งๆเลย กล้วยไม้สักช่อมันจะไปเพิ่มต้นทุนเท่าไหร่กันเชียว แลกกับความละเอียดอ่อนในฟีลลิ่งผู้โดยสาร ไม่น่าเลย
สมัยที่ Qatar Airways เริ่มใช้ที่นั่ง QSuite สำหรับชั้นธุรกิจ ผมจำได้ว่า เขาใช้สโลแกน  First in Business แต่สำหรับที่นั่งชั้นหนึ่ง การบินไทย ผมว่ามันกลับกลายเป็น Business in First ไปเสียได้ 

(14) ส่วนที่ผมคิดว่าน่าผิดหวังสำหรับผมนั้น ไม่ใช่เรื่องสภาพความเยินของเบาะ แต่เป็นเรื่องของ "ความสะอาด" ของที่นั่งมากกว่า
ขออธิบายขยายความว่า ความเก่า&ใหม่ เป็น "คนละเรื่อง" กับความสะอาด คุณอาจมีเครื่องบินที่เก่า แต่ขอให้มีความสะอาด ขอให้เริ่มทำความเข้าใจจากตรงนี้ก่อน
ที่นั่งของผมนั่น  Remote control มันแผล่บ รู้เลยว่าไม่ได้ผ่านการเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมใดๆเลย , บริเวณซอกข้างเก้าอี้มีเศษอาหารและคราบไม่พึงประสงค์ อันนี้คือแย่นะ 

(15) อาหารบนเครื่อง ผมลองใช้บริการ Pre-selected meal ผ่านหน้าเว็บไซต์การบินไทย ปรากฎว่าไม่สามารถเลือกได้ เว็บพัง ปวดใจจริงๆ
เลยใช้บริการผ่านทางคอลเซ็นเตอร์ 02-356-1188 แทน ปรับปรุงนะครับ ปรับปรุงนะ 
ข้อสังเกต รสชาติอาหาร (ผมเลือกเป็นไข่เจียวปลาแซลมอน) เอาตรงๆเลยคือเลี่ยนมาก ไม่อยากจะเชื่อว่าออกมาจากครัวการบินไทย นึกว่าปรุงมาจากครัวชาติตะวันตก แซลมอนในไข่เจียวนี่คงผ่านการเคี่ยวเค้นตีคนจน blend รวมไปกับเนื้อไข่ (นี่ประชดอยู่นะ) เพราะหาความเป็นแซลมอนไม่เจอเลย ปริมาณอาหารคือมันน้อยมาก น้อยอ่ะครับ  เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู  choices of patisseries ก็ไม่หลากหลาย คือไหนๆก็มี Puff&Pie อยู่ในเครือก็ช่วยประโคมโหมใส่มาหน่อยเถอะ มันอัตคัตจริงๆนะ ส่วนการจัดแต่งจานอ่ะ ผมว่าดีขึ้นแล้ว ดีแบบสัมผัสได้ ผลไม้ก็มีแคะมีแซะร่องสลักกระจุบกระจิบ เออ อันนี้ดีก็ชม



(16) เนื่องจากคิวตม.ที่สนามบินนาริตะนั้นยาวและนานมาก ใช้เวลากว่า 40 นาทีกว่าจะหลุดออกมารับกระเป๋า เมื่อไปถึงที่สายพาน กระเป๋าของผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจถูกลำเลียงออกมาจัดเป็นโซนไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สามารถหยิบกระเป๋าและผ่านขั้นตอนศุลกากรได้เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่