เราอายุ21ปี ค่ะ ขึ้นมาทำงานที่กรุงเทพได้ประมาณ1ปีแล้วหลังจากเรียนจบ เราก็ทำงานปกติส่งทางบ้านปกติเท่าที่คนคนนึงจะส่งไหว มีมากส่งมากมีน้อยส่งน้อย เป็นปีๆจะได้กลับบ้านทีนึง พอกลับบ้านไปตามเทศกาลเหมือนคนอื่นๆที่กลับกัน เราจะต้องวางแผนก่อนเลยจะซื้ออะไรให้ครอบครัวกิน ครอบครัวเรามีเเค่เรา แล้วก็พ่อกับแม่นะคะ เราก็คิดตลอดว่าจะเอาอะไรไปฝากนะ เขาอยากกินอะไรกันพอถามแม่แม่ก็บอกว่า จะซื้อทำไม เอาเงินมาไว้ให้ใช้นี่ดีที่สุด คือเรารู้สึกไม่ดีเลยที่เเม่พูดแบบนี้ นานๆเราจะกลับบ้านทีเราก็อยากให้เขาได้กินอะไรที่เขาอยากกิน พอเราซื้ออะไรให้กินก็ต้องซื้อเลี้ยงทั้งบ้านญาติพี่น้องหมดเลยค่ะ คือทางครอบครัวเราไม่มีใครที่ทำงานเลย มีเเต่คนแก่กันหมดอล้วมีเราทำงานอยู่คนเดียว กลับบ้านทีนึงมี10,000หมด10,000ค่ะ พึ่งกลับไปตอนปีใหม่ไปวันเดียวจากเงินหมื่นกว่าเหลือมาใช้ที่กรุงเทพเเค่2000 คือซื้อเลี้ยงคนหมดเลยทั้งลุงป้าน้าอา ไหนจะลูกติดเมียพี่ชายเราอีก7คนที่เป็นเด็กๆคือไม่พอกันกินเลยค่ะ(เมียพี่ชายเรามีลูกติด ซึ่งลูกติดเขาก็เป็นสาวแล้วและมีลูก7คนทิ้งไว้ให้เมียพี่ชายกับพี่ชายเราเลี้ยง) พอเรากลับไปทีซื้อเท่าไหร่ก็ไม่พอกิน ถ้าจะไม่ให้กินเลยบอกเงินไม่พอแม่เราก็จะเรียกคนนั่นคนนี้มากินตลอด บอกแบ่งกันไม่เป็นไรหรอก คือเราก็ไม่โอเคเท่าไหร่หรอกค่ะที่จะมานั่งเลี้ยงคนเป็นสิบ เวลามาทำงานส่งของกินไปให้ที่บ้าน โทรไปถามว่าของถึงรึยังเขาก็บอกถึงแล้วทำกินเเจกชาวบ้านกินหมดแล้ว คือเราไม่เข้าใจว่าเขาจะเเจกคนอื่นทำไม ทั้งที่ตัวเองก็ไม่มีจะกินอยู่แล้ว บางทีเราโทรไปถามว่าแม่กินข้าวกับอะไร เขาก็บอกเห้อ ไม่มีอะไรกินเลย เรานี่หมดคำจะพูดเลยค่ะแล้วก็หมดแรงที่จะหาเงินแล้วด้วย ส่งไปเท่าไหร่ไม่เคยพอเลย
ทุกคนคิดยังไงกับการเป็นเสาหลักของครอบครัวคะ?