พ่อผมที่เสียชีวิตไปแล้ว มีปืนในครอบครอง 3 กระบอก
1. โคลท์ คอมมานเดอร์ ขนาด 11มม.  ปืนอยู่ที่หาดใหญ่
2. บาเรตต้า 92 เอฟเอส ขนาด 9มม.   ปืนอยู่ที่หาดใหญ่
3. ปืนลูกซองเดี่ยว เบอร์ 12                ปืนอยู่ที่ระนอง



ทะเบียนบ้านพ่อ อยู่ที่จังหวัดระนอง
ทะเบียนปืน จังหวัดระนองทั้งหมด
ตัวผม ทะเบียนบ้านอยู่ที่หาดใหญ่
ผมเป็นลูกคนเดียว โสดไม่มีลูกเมีย
แม่ยังมีชีวิตอยู่

ปืนยังไงก็ต้องขายไปในอนาคต (ก็จะเก็บไว้เพื่ออะไรล่ะ)
อาจจะเก็บไว้ยิงเล่นซักพักก่อน ซี่งปกติผมไปยิงที่สนาม
ทหารเรือสงขลา (ทะเบียนชื่อพ่อ ผมเอาปืนไปสนาม โดย
ไม่มีกระสุน ไปซื้อเอาที่สนาม)

อ่านในเนตแล้วปวดหัว* สรุปว่าช่วยบอกผมทีว่าเอาไงดี
คือ คุยกับทนายที่ระนอง (ทะเบียนปืนอยู่ที่ระนอง)
ทนายเค้าคิดค่าจัดการเรื่องแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
หมื่นห้า รวมจัดการเรื่องปืนให้ ราคานี้เป็นไงครับ

* เค้าว่า (ในเนต)

ที่ผมพบมาแล้วคือการปฏิบัติในแต่ละท้องที่ต่างกันครับ

ท้องที่ๆผมอยู่ ถ้าจะดำเนินการปืนมรดก ต้องทำเรื่องผู้จัดการมรดกต่อศาลและมีคำสั่งจัดการมรดกจากศาลเท่านั้น 
และผู้จัดการมรดกตามคำสั่งศาลสามารถดำเนินการโอนโดยมิต้องทำใบ ป.๔ เป็นชื่อเขาก่อน

ส่วนไปอีก ณ ท้องที่หนึ่ง (จังหวัดอื่น) ผู้ได้รับคำสั่งศาลเป็นผู้จัดการมรดก ต้องทำใบ ป.๔ เป็นชื่อตนก่อน ถึงจะดำเนินการโอนได้


อย่างนี้เรียกหลายมาตรฐานไหมหนอ...   

มีการปฏิบัติอีกอย่างของนายทะเบียนฯวังไชยา ซึ่งผมเห็นว่าน่านิยม และน่าที่นายทะเบียนฯส่วนภูมิภาคควรทำตาม
คือการอนุญาตโอนปืนให้ทายาทโดยไม่ต้องขอเป็นผู้จัดการมรดกต่อศาล
เพียงสอบหลักฐานว่าทายาทอื่นประสงค์สละสิทธิ แล้วก็ติดประกาศให้คัดค้านได้ พอครบเวลาถ้าไม่มีผู้ค้านก็ดำเนินการโอนให้
จะลดภาระของชาวบ้าน และลดการแปรสภาพปืนกำพร้าเจ้าของตาย ไม่ให้กลายเป็นปืนเถื่อนได้อีกแยะครับ