สวัสดีค่ะ วันนี้อยากระบายเรื่องการพาสัตว์เลี้ยงที่เรารักไปรักษาที่คลินิคค่ะ เรื่องมีอยู่ว่ามีแมวจรมาออกลูกที่บ้านแม่ ปกติที่บ้านแม่เลี้ยงแมวอยู่แล้ว แต่แมวที่เลี้ยงไว้แก่ตายค่ะ ส่วนบ้านเรา แมว3 หมา 4ค่ะ เจ้าตัวนี้ก็เลยมาอาศัยและออกลูกที่บ้านแม่ นางก็ยอมให้เราอุ้มบ้างแต่ก็มีกลัวๆอยู่ พอลูกได้ประมาณเดือนครึ่ง แม่แมวก็ไม่กินข้าวอยู่ 2วัน แล้วมีเลือดออกปาก จมูก เรารีบพาไปหาหมอวันที่เห็นทันทีเลยค่ะ หมอตรวจเลือดและแจ้งว่าเป็นหวัดแมว ไม่ใช่หัดแมวนะคะ แอดมิทอยู่ 2วันอาการดีขึ้น หมอบอกให้เอากลับบ้านได้ แต่เรากลัวว่าจะไปติดลูกๆ ก็เลยฝากหมอไว้ก่อน อยู่ๆอีก2วันต่อมานางก็อาการแย่ลง หมอบอกเลือดจางมาก และติดเชื้อในกระแสเลือดถ้าให้เลือดอาจจะดีขึ้น เราก็โอเค หมอให้เลือด และให้น้ำเกลือ ให้ยาฆ่าเชื้อ นางก็ดูดีขึ้นแต่จะมี หอบ เหนื่อย เราไปเยี่ยมทุกวันตอนเย็น ผ่านไปประมาณ5วันก็ดีขึ้นอยู่แต่ไม่มากค่ะ หมอแจ้งว่าน่าจะรอดเพราะถ้าน็อคน่าจะน็อคไปแล้ว ไม่อยู่นานขนาดนี้
แต่ประเด็นคือผู้ช่วยหมอ เวลาป้อนอาหารแมว ทำความสะอาด ทำแรงมาก หมอก็บอกแค่ว่าเบาๆน้องอาจจะช็อคได้
แต่ผู้ช่วยเหมือนประชด ลาากแมวออกมาจากกรงแบบหงายท้อง เอาทิชชูอุดจมูก บอกว่าจะเช็ดน้ำมูก เราเห็นแล้วตกใจค่ะ ก็เลยอุทานออกไปว่าแมวป่วยอยู่ทำไมทำแบบนั้น เราก็รีบเข้าไปอุ้มแมว แมวเราร้องดังมากและอ๊วกออกมา แล้วนอนทรุดเลยค่ะ เราเห็นแล้วรู้เลยว่าไม่รอดแน่(น่าจะช็อคไปแล้ว แต่หมอไม่เดินมาดูเลย ทำหน้าเหมือนรำคาญด้วย) เราก็นั้งลูบนางอยู่นานคุยกับนางว่าถ้าทรมาณก็ไปนะ ถ้าไหวก็หายไวๆ จะได้กลับบ้านไปหาลูกๆ
ตกดึก 2ทุ่ม หมอกโทรมาบอกว่าแมวตายแล้ว เราก็บอกหมอเลยว่าหมอน่าจะหาผู้ช่วยใหม่นะ ที่เค้ามาทำงานด้วยความรักสัตว์บ้าง คนพาไปรักษาก็ต้องการให้แมวหายเจ็บ ป่วย แล้วแมวเราไหนว่าจะหาย แล้วมันมาตาย เพราะหมอไม่รู้จักอบรมผู้ช่วย และผู้ช่วยก็ไม่มีท่าที่ว่าจะรักสัตว์เลย ไม่น่าจะรับมาทำงาน เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะเข้าไปรับศพ แล้วก็เคลียร์กับหมอและผู้ช่วยเรื่องทำรุนแรงกับแมวด้วย
สรุปพอเราไปคลีนิค คลีนิคปิด เราโทรตามหมอ หมอบอกอยู่โรงบาล ปวดหัว ให้แม่มาเปิดร้านแล้วเอาศพแมวให้เรา เราถามว่าผู้ช่วยไม่มาหรอ แม่บอกไม่มา วันนี้ปิด
คือทุเรศมากกก ไม่กล้าสู้หน้าเราเลย ไม่กล้ายอมรับผิด
ที่พิมพ์มาซะยืดยาวก็แค่อยากจะบอก สัตวแพทย์ และผู้ช่วยที่ทำงานตามคลีนิคสัตว์ ให้มีความรักสัตว์บ้างนะคะ คนที่เค้าพาไปรักษาคือเค้าสงสาร ถึงจะเป็นแมวจรก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน เค้ารัก เค้าต้องการให้สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ให้มีชึวิตรอด มีชีวิตที่ดี เราไม่ได้ว่าทุกคนนะคะ เราแค่อยากระบายสิ่งที่เราเจอมา และเราคงไม่กลับไปใช้บริการคลีนิคสัตว์ที่เห็นแก่เงินแบบนี้อีกค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบ
พาแมวไปหาหมอแล้วแมวตาย
แต่ประเด็นคือผู้ช่วยหมอ เวลาป้อนอาหารแมว ทำความสะอาด ทำแรงมาก หมอก็บอกแค่ว่าเบาๆน้องอาจจะช็อคได้
แต่ผู้ช่วยเหมือนประชด ลาากแมวออกมาจากกรงแบบหงายท้อง เอาทิชชูอุดจมูก บอกว่าจะเช็ดน้ำมูก เราเห็นแล้วตกใจค่ะ ก็เลยอุทานออกไปว่าแมวป่วยอยู่ทำไมทำแบบนั้น เราก็รีบเข้าไปอุ้มแมว แมวเราร้องดังมากและอ๊วกออกมา แล้วนอนทรุดเลยค่ะ เราเห็นแล้วรู้เลยว่าไม่รอดแน่(น่าจะช็อคไปแล้ว แต่หมอไม่เดินมาดูเลย ทำหน้าเหมือนรำคาญด้วย) เราก็นั้งลูบนางอยู่นานคุยกับนางว่าถ้าทรมาณก็ไปนะ ถ้าไหวก็หายไวๆ จะได้กลับบ้านไปหาลูกๆ
ตกดึก 2ทุ่ม หมอกโทรมาบอกว่าแมวตายแล้ว เราก็บอกหมอเลยว่าหมอน่าจะหาผู้ช่วยใหม่นะ ที่เค้ามาทำงานด้วยความรักสัตว์บ้าง คนพาไปรักษาก็ต้องการให้แมวหายเจ็บ ป่วย แล้วแมวเราไหนว่าจะหาย แล้วมันมาตาย เพราะหมอไม่รู้จักอบรมผู้ช่วย และผู้ช่วยก็ไม่มีท่าที่ว่าจะรักสัตว์เลย ไม่น่าจะรับมาทำงาน เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะเข้าไปรับศพ แล้วก็เคลียร์กับหมอและผู้ช่วยเรื่องทำรุนแรงกับแมวด้วย
สรุปพอเราไปคลีนิค คลีนิคปิด เราโทรตามหมอ หมอบอกอยู่โรงบาล ปวดหัว ให้แม่มาเปิดร้านแล้วเอาศพแมวให้เรา เราถามว่าผู้ช่วยไม่มาหรอ แม่บอกไม่มา วันนี้ปิด
คือทุเรศมากกก ไม่กล้าสู้หน้าเราเลย ไม่กล้ายอมรับผิด
ที่พิมพ์มาซะยืดยาวก็แค่อยากจะบอก สัตวแพทย์ และผู้ช่วยที่ทำงานตามคลีนิคสัตว์ ให้มีความรักสัตว์บ้างนะคะ คนที่เค้าพาไปรักษาคือเค้าสงสาร ถึงจะเป็นแมวจรก็มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน เค้ารัก เค้าต้องการให้สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ให้มีชึวิตรอด มีชีวิตที่ดี เราไม่ได้ว่าทุกคนนะคะ เราแค่อยากระบายสิ่งที่เราเจอมา และเราคงไม่กลับไปใช้บริการคลีนิคสัตว์ที่เห็นแก่เงินแบบนี้อีกค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบ