เรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวเรามีปัญหาด้านการเงินที่เกิดขึ้นจากตัวเราเอง ที่แก้ไขปัญหาแบบผิดๆทำให้เกิดเป็นหนี้นอกระบบ ไม่กล้าบอกสามีจนบานปลาย พอสามีรับรู้ก็ยอมให้อภัย แต่ผิดที่เราอีกที่บอกเขาไม่หมด เพราะกลัวเขารับไม่ได้ สุดท้ายเขาก็รับไม่ได้จริงๆ และเขาขอเลิก คงเหลือแค่สถานะพ่อแม่ แต่เรายังยื้อเพราะเราคิดว่าเราแก้ไขปัญหาทุกอย่างจบเคลียร์หนี้หมด มันจะสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่สามีเราเขาบอกว่าเขาไม่อยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาไม่อยากให้กลับมาเป็นครอบครัวเหมือนเดิม เขาหมดใจกับเราแล้ว ความรู้สึกมันยังมีแต่เหลือน้อยมากอะไรแบบนี้
ย้อนกลับไปตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ เราก็ได้เข้าไปขอโทษกับทางบ้านเขาแล้วที่เราทำให้เขาผิดหวังในตัวเรา ก็เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นมันมีหนี้บางส่วนที่เราไม่ได้บอกเขา เราเลยคิดว่าจะไปหางานทำที่ กทม เพื่อจะเคลียร์หนี้ส่วนนั้นให้จบ จะได้ไม่เกิดปัญหาอีก เราก็คุยกับสามีว่าจะฝากลูกให้ลูกพี่ลูกน้องเขาเลี้ยง (ที่เป็นเพื่อนเราและสนิทกันมีศักดิ์เป็นอาลูกเรา) ก็คุยกับทั้งสามีและน้องสาวเขา เขาก็โอเคจะดูและให้ในช่วงที่เราไปทำงาน เพราะเราจะขอไปทำเพื่อเคลียร์หนี้บางส่วนแล้วจะกลับมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกเหมือนเดิม แต่พอถึงเวลาที่เราไปอยู่ กทม แล้ว เราเริ่มรู้สึกถึงอะไรบ้างอย่างจากทางฝั่งสามีเรา โดยปกติโทรคุยกับลูก เขาก็ไม่ค่อยคุยอยู่แล้วเพราะพึ่ง4 ขวบ เราก็ทักถามเขาเอาว่าลูกเราเป็นไงบ้าง ทำไรอยู่อะไรแบบนี้ มันกลายเป็นว่าเราถามคำ ตอบ เวลาส่งรูปลูกก็ส่งให้แต่ทางสามีเราซึ่งเรากับสามีไม่ได้อยู่ด้วยกัน(สามีทำงานเรือสินค้า9เดือนถึงได้กลับบ้าน) หรือลูกเราไม่ได้ไปเรียนไม่สบายก็ไม่เคยบอกเรา เราโทรหาถึงรู้ความเป็นไปของลูก ซึ่งเขาจะรายงานทางสามีตลอด เราเลยคุยกับสามีว่า เรารู้สึกว่ากับน้องเขามีอะไรหรือป่าวเรารู้สึกได้ ในมุมเราเรารู้ว่าเราผิดถ้าโกธรหรือไม่พอใจเราเรื่องที่เราทำผิดพลาดไป เราพร้อมจะขอโทษและปรับปรุงทุกอย่างอยู่แล้ว แต่น้องสาวเขาก็บอกไม่มีอะไร ไม่ได้เป็นอะไร เราก็โอเครอกลับบ้านเดี๋ยวคุยต่อหน้าดีกว่า สรุปพอคุยต่อหน้าเขาเรื่องที่จะไม่คุย เขาบอกให้ต่าคนต่างอยู่ เรารู้ล่ะว่ามันต้องมีอะไรเราก็จบไม่คุยต่อ พอถึงวันที่สามีเราได้กลับมาพักที่บ้านเราก็คิดว่าจะดีขึ้นล่ะเพราะเราไม่ต้องติดต่อหาน้องเขา สามีเรากลับมาแรกๆเป็นปกติทุกอย่าง พออยู่สักพักเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจ ไม่แคร์ ไม่อะไรเลย จนเรารู้สึกได้และได้ถามเขา เขาถึงบอกว่าเขาก็เริ่มไม่หมือนเดิมแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ขอเลิกนะคะ จนเป็นมากๆเข้าจนเราคิดว่าเรากลับบ้านไปหางานที่บ้านทำดีกว่าได้ดูลูกเองโดยที่ไม่ต้องติดต่ออะไรกลับบ้านเขาและได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเผื่ออะไรจะดีขึ้น พอเราบอกเขาว่าเราจะกลับมาอยู่บ้านนะ เขากลับบอกเราว่าไม่ต้องกลับมา จะมาทำไม อยู่นั้นแหละ ถ้ากลับมาจะเลิก ซึ่งเราขอคุยกับเขาอีกครั้งถึงเหตุผลที่ไม่อยากให้กลับไปอยู่บ้าน เขาก็บอกให้ใช้หนี้ให้หมด ค่อยกลับแค่นี้ แต่ถ้ากลับมาต่างคนต่างอยู่และจะไม่ให้ลูกมาอยู่ด้วย จะไม่ให้รถใช้ เราก็บอกเรื่องลูกยังไงก็ต้องอยู่กับเราเพราะเราเป็นแม่ เรื่องรถ รถเก๋งเราไม่เอา เอาแต่มอไซต์เพราะมอไซต์ดฃเป็นของเรา เรื่องเลี้ยงลูกเราไม่เคยเลี้ยงไม่ดีนะคะ เลี้ยงเองมาตั้งแต่เกิด เลี้ยงคนเดียว 24 ชม มั่นใจมากว่าเรื่องลูกทำหน้าที่แม่ไม่เคยบกพร่อง สรุปเราตัดสินใจที่จะกลับบ้าน และเขาก็บอกเลิกเราจริงๆคะ โดยก่อนที่จะเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตถึงผู้ใหญ่ คือน้องสาวเราโทรหาสามีเราว่าทำไมถึงจะไม่ให้หลานมาอยู่กับแม่และทำไมจะไม่ให้รถ และน้องเราก็ใช้คำพูดปกติเหมือนคุยกันทั่วไป ทำไมถึงจะให้หลานไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่แม่(หมายถึงน้องสาวสามี) สามีเราเลยบอกว่าเพราะเป็นน้องสาวเขา เขาให้สิทธิ์ น้องสาวเราเลยทักไปหาน้องสาวสามีว่ามีสิทธิ์อะไร และหลังจากนั้นแม่สามีเราก็ทักไปด่าน้องเราใหญ่โตกูบลาๆๆๆ แต่ทั้งหมดที่น้องเราโทรหาสามีและทักหาน้องสาวเขา เราไม่รับรู้อะไร มารู้ตอนที่เป็นเรื่องราวแล้ว พอตอนเย็นแม่และยายเขาก็มาที่บ้านเรา มาด่ามาว่า ซึ่งบ้านเราไม่มีตอบโต้อะไรกับทางเขา พอเขาพูดเสร็จเขาก็กลับไป หลังจากนั้นกลับที่บ้านเขา เราก็เข้าหน้ากันไม่ติดเลย แต่ตัวเราไม่ได้โต้ตอบอะไรเขาเลยนะคะ เราก็อยู่เฉยๆของเรา แต่ในขณะเดียวกันเราก็พยายามพูดคุยกับสามีให้เขาเปลี่ยนใจหรือก็พยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย แยกกันอยู่แต่ยังคุยกันเจอกันทุกวันเพราะลูกส่วนใหญ่วันไปเรียนจะนอนกับเรา เขาก็รับไปเล่นแล้วมาส่งทุกวัน แต่เรายังไม่ได้หย่ากันนะคะ เป็นแบบนี้อยู่เกือบเดือนจนสามีเราถึงเวลาที่จะต้องไปทำงาน ความรู้สึกมันห่างๆกันไปเรื่อยๆ ทั้งที่เรายังอยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เราพร้อมจะแก้ไขปัญหาทุกอย่าง เราพร้อมทำทุกอย่างเรารู้สึกผิดและเสียใจจริงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น เราอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆว่าเราจะพยายามต่อไปทั้งที่เขาก็ไม่ได้สนใจ ไม่แคร์ ไม่ใส่ใจเราเหมือนเดิมแล้ว หรือเราควรพอแล้วเดินหน้าต่อไปแค่เรากับลูกดีคะ เรารู้ว่าเราผิด เราไม่ได้จะไม่แก้ไขอะไรเลย เราพร้อมทำทุกอย่างเลย อยากขอความเห็นเพื่อนๆหน่อยคะ ด่าได้นะคะเรื่องที่เราพลาด แต่ด่าว่าแค่พองามนะคะ 55555555
สามีขอแยกทางเพราะเรามีปัญหาทางการเงิน
ย้อนกลับไปตอนที่เกิดเรื่องใหม่ๆ เราก็ได้เข้าไปขอโทษกับทางบ้านเขาแล้วที่เราทำให้เขาผิดหวังในตัวเรา ก็เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นมันมีหนี้บางส่วนที่เราไม่ได้บอกเขา เราเลยคิดว่าจะไปหางานทำที่ กทม เพื่อจะเคลียร์หนี้ส่วนนั้นให้จบ จะได้ไม่เกิดปัญหาอีก เราก็คุยกับสามีว่าจะฝากลูกให้ลูกพี่ลูกน้องเขาเลี้ยง (ที่เป็นเพื่อนเราและสนิทกันมีศักดิ์เป็นอาลูกเรา) ก็คุยกับทั้งสามีและน้องสาวเขา เขาก็โอเคจะดูและให้ในช่วงที่เราไปทำงาน เพราะเราจะขอไปทำเพื่อเคลียร์หนี้บางส่วนแล้วจะกลับมาอยู่บ้านเลี้ยงลูกเหมือนเดิม แต่พอถึงเวลาที่เราไปอยู่ กทม แล้ว เราเริ่มรู้สึกถึงอะไรบ้างอย่างจากทางฝั่งสามีเรา โดยปกติโทรคุยกับลูก เขาก็ไม่ค่อยคุยอยู่แล้วเพราะพึ่ง4 ขวบ เราก็ทักถามเขาเอาว่าลูกเราเป็นไงบ้าง ทำไรอยู่อะไรแบบนี้ มันกลายเป็นว่าเราถามคำ ตอบ เวลาส่งรูปลูกก็ส่งให้แต่ทางสามีเราซึ่งเรากับสามีไม่ได้อยู่ด้วยกัน(สามีทำงานเรือสินค้า9เดือนถึงได้กลับบ้าน) หรือลูกเราไม่ได้ไปเรียนไม่สบายก็ไม่เคยบอกเรา เราโทรหาถึงรู้ความเป็นไปของลูก ซึ่งเขาจะรายงานทางสามีตลอด เราเลยคุยกับสามีว่า เรารู้สึกว่ากับน้องเขามีอะไรหรือป่าวเรารู้สึกได้ ในมุมเราเรารู้ว่าเราผิดถ้าโกธรหรือไม่พอใจเราเรื่องที่เราทำผิดพลาดไป เราพร้อมจะขอโทษและปรับปรุงทุกอย่างอยู่แล้ว แต่น้องสาวเขาก็บอกไม่มีอะไร ไม่ได้เป็นอะไร เราก็โอเครอกลับบ้านเดี๋ยวคุยต่อหน้าดีกว่า สรุปพอคุยต่อหน้าเขาเรื่องที่จะไม่คุย เขาบอกให้ต่าคนต่างอยู่ เรารู้ล่ะว่ามันต้องมีอะไรเราก็จบไม่คุยต่อ พอถึงวันที่สามีเราได้กลับมาพักที่บ้านเราก็คิดว่าจะดีขึ้นล่ะเพราะเราไม่ต้องติดต่อหาน้องเขา สามีเรากลับมาแรกๆเป็นปกติทุกอย่าง พออยู่สักพักเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่สนใจ ไม่แคร์ ไม่อะไรเลย จนเรารู้สึกได้และได้ถามเขา เขาถึงบอกว่าเขาก็เริ่มไม่หมือนเดิมแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ขอเลิกนะคะ จนเป็นมากๆเข้าจนเราคิดว่าเรากลับบ้านไปหางานที่บ้านทำดีกว่าได้ดูลูกเองโดยที่ไม่ต้องติดต่ออะไรกลับบ้านเขาและได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเผื่ออะไรจะดีขึ้น พอเราบอกเขาว่าเราจะกลับมาอยู่บ้านนะ เขากลับบอกเราว่าไม่ต้องกลับมา จะมาทำไม อยู่นั้นแหละ ถ้ากลับมาจะเลิก ซึ่งเราขอคุยกับเขาอีกครั้งถึงเหตุผลที่ไม่อยากให้กลับไปอยู่บ้าน เขาก็บอกให้ใช้หนี้ให้หมด ค่อยกลับแค่นี้ แต่ถ้ากลับมาต่างคนต่างอยู่และจะไม่ให้ลูกมาอยู่ด้วย จะไม่ให้รถใช้ เราก็บอกเรื่องลูกยังไงก็ต้องอยู่กับเราเพราะเราเป็นแม่ เรื่องรถ รถเก๋งเราไม่เอา เอาแต่มอไซต์เพราะมอไซต์ดฃเป็นของเรา เรื่องเลี้ยงลูกเราไม่เคยเลี้ยงไม่ดีนะคะ เลี้ยงเองมาตั้งแต่เกิด เลี้ยงคนเดียว 24 ชม มั่นใจมากว่าเรื่องลูกทำหน้าที่แม่ไม่เคยบกพร่อง สรุปเราตัดสินใจที่จะกลับบ้าน และเขาก็บอกเลิกเราจริงๆคะ โดยก่อนที่จะเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตถึงผู้ใหญ่ คือน้องสาวเราโทรหาสามีเราว่าทำไมถึงจะไม่ให้หลานมาอยู่กับแม่และทำไมจะไม่ให้รถ และน้องเราก็ใช้คำพูดปกติเหมือนคุยกันทั่วไป ทำไมถึงจะให้หลานไปอยู่กับคนอื่นที่ไม่ใช่แม่(หมายถึงน้องสาวสามี) สามีเราเลยบอกว่าเพราะเป็นน้องสาวเขา เขาให้สิทธิ์ น้องสาวเราเลยทักไปหาน้องสาวสามีว่ามีสิทธิ์อะไร และหลังจากนั้นแม่สามีเราก็ทักไปด่าน้องเราใหญ่โตกูบลาๆๆๆ แต่ทั้งหมดที่น้องเราโทรหาสามีและทักหาน้องสาวเขา เราไม่รับรู้อะไร มารู้ตอนที่เป็นเรื่องราวแล้ว พอตอนเย็นแม่และยายเขาก็มาที่บ้านเรา มาด่ามาว่า ซึ่งบ้านเราไม่มีตอบโต้อะไรกับทางเขา พอเขาพูดเสร็จเขาก็กลับไป หลังจากนั้นกลับที่บ้านเขา เราก็เข้าหน้ากันไม่ติดเลย แต่ตัวเราไม่ได้โต้ตอบอะไรเขาเลยนะคะ เราก็อยู่เฉยๆของเรา แต่ในขณะเดียวกันเราก็พยายามพูดคุยกับสามีให้เขาเปลี่ยนใจหรือก็พยายามแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย แยกกันอยู่แต่ยังคุยกันเจอกันทุกวันเพราะลูกส่วนใหญ่วันไปเรียนจะนอนกับเรา เขาก็รับไปเล่นแล้วมาส่งทุกวัน แต่เรายังไม่ได้หย่ากันนะคะ เป็นแบบนี้อยู่เกือบเดือนจนสามีเราถึงเวลาที่จะต้องไปทำงาน ความรู้สึกมันห่างๆกันไปเรื่อยๆ ทั้งที่เรายังอยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เราพร้อมจะแก้ไขปัญหาทุกอย่าง เราพร้อมทำทุกอย่างเรารู้สึกผิดและเสียใจจริงๆกับเรื่องที่เกิดขึ้น เราอยากขอคำปรึกษาจากเพื่อนๆว่าเราจะพยายามต่อไปทั้งที่เขาก็ไม่ได้สนใจ ไม่แคร์ ไม่ใส่ใจเราเหมือนเดิมแล้ว หรือเราควรพอแล้วเดินหน้าต่อไปแค่เรากับลูกดีคะ เรารู้ว่าเราผิด เราไม่ได้จะไม่แก้ไขอะไรเลย เราพร้อมทำทุกอย่างเลย อยากขอความเห็นเพื่อนๆหน่อยคะ ด่าได้นะคะเรื่องที่เราพลาด แต่ด่าว่าแค่พองามนะคะ 55555555