สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป วันนี้จะมารีวิวการไปเที่ยวเขาไข่นุ้ย การไปเที่ยวในครั้งนี้นอกจากจะไปเที่ยวเพื่อพักผ่อนหย่อนใจแล้ว พวกเรายังไปทำวิจัยชุมชน เพื่อนำแผนการวิจัยไปพัฒนาชุมชนอีกต่างหาก โดยที่ตั้งของเขาไข่นุ้ยนี้ตั้งอยู่ที่ ตำบลฝ่ายท่า จังหวัดพังงา
ทริปเที่ยว+วิจัยในครั้งนี้เป็นทริป 2 วัน 1 คืน เริ่มด้วยเช้าที่สดใส อาจารย์นัดรวมกันที่มหาลัย 7:30 น. ล้อหมุน 8:00 น.ถึงพังงาประมาณ9โมงกว่าๆได้ค่ะ แอบแวะซื้อกาแฟนิสนึงจะได้ไม่ง่วงกันนะคะ ถึงนู้นแล้วอาจารย์จะพาเราแวะที่จุดพักรถกันเพื่อพาเราไปแนะนำพี่ลี่กับบังไข่ พี่ทั้งสองคนเป็นพี่ที่คอยดูแลพวกเราตลอดทั้งทริปค่ะ พี่ทั้งสองคนน่ารักกันมากๆเลยค่ะ พอไปถึงกันเราพูดคุยเรื่องข้อมูลทำวิจัยกันเลยค่ะ สำหรับ “เขาไข่นุ้ย” แต่เดิมเป็นพื้นที่ทำสวนยางพารา ซึ่งชาวบ้านเห็นทะเลหมอกกันจนชินตา แต่ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ โดยชื่อที่มาของภูเขาตั้งตามชื่อคนค้นพบ คือ บังไข่ กับ บังนุ้ย แต่ก่อนเขาลูกนี้เป็นพื้นที่สวนยางของบังไข่ มีพื้นที่สวนยางอยู่ฝั่งตะวันตกหรือฝั่งทะเลอันดามัน ส่วนบังนุ้ยมีพื้นที่สวนยางอยู่ฝั่งตะวันออกหรือฝั่งภูตาจอ และมีนักศึกษามาทำกิจกรรมในพื้นที่ได้ขึ้นมาชมทะเลหมอกบนยอดเขา พบว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมาก นักศึกษาจึงตั้งชื่อเขาลูกนี้ว่า “ภูไข่นุ้ย” ตามชื่อเล่นของบังไข่และบังนุ้ย เมื่อภูเขาลูกนี้เปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เขาไข่นุ้ย” มาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถตู้เพื่อสืบข้อมูลกันต่อ ขึ้นลงกันเป็นว่าเล่นเลย แต่ชาวบ้านแถวนั้นน่ารักกันสุดๆเลยค่ะ ให้ความร่วมมือกันมาก ชาวบ้านแถวนั้นมีทั้งมุสลิมและพุทธ หนูได้ถามไปว่าอยู่ด้วยกันแบบนี้จะมีปัญหาอะไรไหม เขาบอกว่าพุทธกับมุสลิมอยู่ด้วยกันได้ค่ะ ไม่มีปัญหาเลย มีอะไรช่วยเหลือกันตลอด หลังจากที่เราหาข้อมูลกันอย่างหนักหน่วง ก็ได้เวลาเติมพลังด้วยการกินอาหารเที่ยง พี่ลี่กับป้าๆเตรียมอาหารไว้ให้น่ากินมากๆ แต่นั้นแหละด้วยความหิวของพวกเรา เลยลืมถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆกันเลยค่ะ พอได้อิ่มท้องกันแล้ว อาจารย์ก็ไม่ปล่อยให้ว่าง เก็บข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง รอบนี้เรามากันที่คาเฟ่ที่ถนนสายหลักนะคะ ร้านสวยมากๆเลย น้ำก้หวานอร่อยสุดๆไปเลย ชื่อว่าร้านเรื่อขุดแร่ ราคาถ้าเทียบกับบรรยากาศถือว่าไม่แพงเลยค่ะ หลังจากเราเสร็จจากตรงนี้เราก็แวะเซเว่นซื้อของไว้กินสำหรับคืนนี้กัน หลังจากที่เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่เราจะได้ขึ้นรถไปบนเขากันเล้ยยยยย
เราจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 25 – 30 นาที่ แล้วแต่คนขับรถ แต่! ในคลิปของเราพี่บังคนขับรถขับนิ่มมากกกก ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ในใจบอกพี่ซิ่งได้เลยค่ะ หนูไม่กลัว หนูชอบความท้าท้าย หลังจากที่เราเดินทางกันมาครึ่งทางแล้ว สภาพไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ ดูไม่ได้ 5555 ปล.ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่สนใจจะมาเที่ยวสามารถขับส่วนตัวแล้วเอารถมาจอดไว้ที่จุดพักเลยได้เลยค่ะ ทางขึ้นเขาค่อนข้างที่จะชัน เราไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ ทางที่ดีให้มืออาชีพหรือคนในพื้นที่ขับจะดีกว่าค่ะ
และแล้วตอนนี้ เราเดินทางกันมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ก่อนอื่นไปเก็บสัมภาระก่อนนะคะ คืนนี้เราเลือกที่จะนอนกันเป็นแบบเต็นท์ 1 เต็นท์ มี2 คนเพราะเรากลัวกุ๊กกู๋กันค่ะ5555 ในส่วนของเต็นท์สามารถเตรียมไปเองได้หรือจะไปใช้บริการของที่นี้ก็ได้เช่นกัน เต็นท์ที่เราเลือกนอนเขาจะมีบริการกางเต็นท์ให้ถึงที่เลยทีเดียว แถมฟรีหมอนและพร้อมผ้าปูที่นอนแบบนุ่มๆและสบายตัว เต็นท์ที่พักของเราจะอยู่ในราคาที่สามารถจับต้องได้ แต่ถ้าใครที่ชอบความสะดวกเขาก็มีเป็นโฮมสเตย์ให้ได้เลือกพักมีด้วยกัน 4 โฮมสเตย์
หลังจากนั้นจะเป็นเวลา free timeให้เรามีเวลาถ่ายวิวและรอชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ลืมบอกไปเลยว่าอากาศบนนี้หนาวมากกกก ลมแรงมากๆเลยยย ประมาณช่วง 6 โมงเย็นเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตก ทำให้บรรยากาศข้างบนสวยมาก หลังจากที่เราชมพระอาทิตย์ตกกันไปเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาอาบน้ำเตรียมรับประทานอาหารมื้อค่ำตอน 2 ทุ่ม ตอนอาบน้ำอาจจะนานหน่อยนะคะ เพราะน้ำที่นี่เย็นมากๆ กว่าจะทำใจได้สวดมนต์ไปแล้ว 3 รอบ แล้วที่สำคัญบนนี้ในช่วงเวลากลางวันจะไม่มีไฟฟ้า แต่จะมีเวลาในการปล่อยไฟคือช่วงเวลา 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้า หลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็ได้เวลารับประทานอาหารกันแล้วค่าาาา ในส่วนของอาหารจะจัดอยู่กับที่พักที่เราเลือกพัก ไปดูกันเลยว่ามีอะไรให้เรากินบ้าง หิวไม่ไหวแล้ววววว
อาหารน่ากินไหมคะ อาหารบางชนิดหาได้เฉพาะในหมู่บ้านเท่านั้น โดยเฉพาะปลาทอดที่เห็นอยู่นั้นมีเฉพาะที่หมู่บ้านเขาไข่นุ้ยเท่านั้นและเป็นปลาที่หากินยากมาก นานๆจะจับได้สักตัวแต่วันนี้เรา ถือว่าดวงดีมากที่ได้กิน หลังจากรับประทามอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ทุกคนว่าเราต้องไปนอนใช่ไหม โน ไม่ใช่ค่าา เราไปนั่งโม้กันพร้อมกับของกินเล่นที่เราซื้อตุนไว้ตั้งแต่ก่อนจะขึ้นเขา แนะนำเลยนะคะว่าข้างบนจะไม่มีขนมขาย หากจะซื้อต้องซื้อจากด้านล่างเท่านั้น เผลอๆแปปเดียวก็ตี 3 แล้วค่ะ พวกเรายังต้มมาม่ากันอยู่เลยค่ะ เหมาะกับอากาศหนาวแบบนี้มากๆ ตอนกลางคืนลมเย็นและหนาวมาก ได้มาม่าช่วยเยียวยา แต่อาจารย์บอกต้องตื่นมาดูพระอาทิตย์ตกตอนตี5 ก็เอาเรื่องอยู่นะคะ สุดท้ายเราได้แยกย้ายกันไปนอน นอนกันได้ไม่ถึงเท่าไหร่นาฬิกาก็ปลุกซะแล้ว ตี5 ฟ้ายังมืดอาจารย์เลยบอกนอนต่อได้เลย สุดท้ายได้ดูพระอาทิตย์ตกตอน6โมงเช้า วิวธรรมชาติสวยมาก แต่วันที่เราไปมีหมอกน้อยไปนิดนึงง แอบเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้เห็นตอนมีหมอกเยอะๆแต่ไม่เป็นไร โดยรวมแล้วดีมากๆเลยค้าบบบ
หลังจากที่เพลิดเพลินกับบรรยากาศช่วงเช้าแล้วนั้นเราก็ทยอยกันไปอาบน้ำเพราะอาหารเช้าเราจะมาแล้วววววว อาหารเช้าเราจะมีโรตี มัสมั่นไก่ ข้าวยำบูดู หมี่ผัด และขนมสดเยอะแยะมากมาย มีกาแฟและชาร้อนๆให้ดื่มด้วย ถ้าเพื่อนๆสนใจทำโรตีบอกพี่ลี่ได้เลยเพราะพี่ลี่จะสอนสกิลการฟัดโรตีสานฝันใครหลายๆคน อาหารทั้งอร่อยแถมยังได้ความรู้การทำโรตีเพิ่มอีกด้วยยย
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับแล้ว พวกเราจะต้องนั่งรถลงจากเขาเพื่อไปที่จุดเปลี่ยนรถเพื่อเดินทางกลับมหาวิทยาลัยแต่ระหว่างทางเราจะแวะซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆ ทั้งขนมไข่กรอบและเต้าซ้อ กรุบๆ ที่ชาวชุมชนเขาไข่นุ้ยทำมาขายเพื่อหารายได้เสริมค่ะ
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
TIKTOK: travel_632
E-BOOK:
https://anyflip.com/vgrzu/yfts/
[CR] รีวิว ไปเที่ยวเขาไข่นุ้ย ตำบลฝ่ายท่า จังหวัดพังงา (ทริป 2 วัน 1 คืน).
ทริปเที่ยว+วิจัยในครั้งนี้เป็นทริป 2 วัน 1 คืน เริ่มด้วยเช้าที่สดใส อาจารย์นัดรวมกันที่มหาลัย 7:30 น. ล้อหมุน 8:00 น.ถึงพังงาประมาณ9โมงกว่าๆได้ค่ะ แอบแวะซื้อกาแฟนิสนึงจะได้ไม่ง่วงกันนะคะ ถึงนู้นแล้วอาจารย์จะพาเราแวะที่จุดพักรถกันเพื่อพาเราไปแนะนำพี่ลี่กับบังไข่ พี่ทั้งสองคนเป็นพี่ที่คอยดูแลพวกเราตลอดทั้งทริปค่ะ พี่ทั้งสองคนน่ารักกันมากๆเลยค่ะ พอไปถึงกันเราพูดคุยเรื่องข้อมูลทำวิจัยกันเลยค่ะ สำหรับ “เขาไข่นุ้ย” แต่เดิมเป็นพื้นที่ทำสวนยางพารา ซึ่งชาวบ้านเห็นทะเลหมอกกันจนชินตา แต่ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ โดยชื่อที่มาของภูเขาตั้งตามชื่อคนค้นพบ คือ บังไข่ กับ บังนุ้ย แต่ก่อนเขาลูกนี้เป็นพื้นที่สวนยางของบังไข่ มีพื้นที่สวนยางอยู่ฝั่งตะวันตกหรือฝั่งทะเลอันดามัน ส่วนบังนุ้ยมีพื้นที่สวนยางอยู่ฝั่งตะวันออกหรือฝั่งภูตาจอ และมีนักศึกษามาทำกิจกรรมในพื้นที่ได้ขึ้นมาชมทะเลหมอกบนยอดเขา พบว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมาก นักศึกษาจึงตั้งชื่อเขาลูกนี้ว่า “ภูไข่นุ้ย” ตามชื่อเล่นของบังไข่และบังนุ้ย เมื่อภูเขาลูกนี้เปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น “เขาไข่นุ้ย” มาจนถึงทุกวันนี้ หลังจากนั้นเราก็ขึ้นรถตู้เพื่อสืบข้อมูลกันต่อ ขึ้นลงกันเป็นว่าเล่นเลย แต่ชาวบ้านแถวนั้นน่ารักกันสุดๆเลยค่ะ ให้ความร่วมมือกันมาก ชาวบ้านแถวนั้นมีทั้งมุสลิมและพุทธ หนูได้ถามไปว่าอยู่ด้วยกันแบบนี้จะมีปัญหาอะไรไหม เขาบอกว่าพุทธกับมุสลิมอยู่ด้วยกันได้ค่ะ ไม่มีปัญหาเลย มีอะไรช่วยเหลือกันตลอด หลังจากที่เราหาข้อมูลกันอย่างหนักหน่วง ก็ได้เวลาเติมพลังด้วยการกินอาหารเที่ยง พี่ลี่กับป้าๆเตรียมอาหารไว้ให้น่ากินมากๆ แต่นั้นแหละด้วยความหิวของพวกเรา เลยลืมถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆกันเลยค่ะ พอได้อิ่มท้องกันแล้ว อาจารย์ก็ไม่ปล่อยให้ว่าง เก็บข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง รอบนี้เรามากันที่คาเฟ่ที่ถนนสายหลักนะคะ ร้านสวยมากๆเลย น้ำก้หวานอร่อยสุดๆไปเลย ชื่อว่าร้านเรื่อขุดแร่ ราคาถ้าเทียบกับบรรยากาศถือว่าไม่แพงเลยค่ะ หลังจากเราเสร็จจากตรงนี้เราก็แวะเซเว่นซื้อของไว้กินสำหรับคืนนี้กัน หลังจากที่เตรียมพร้อมทุกอย่างแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่เราจะได้ขึ้นรถไปบนเขากันเล้ยยยยย
เราจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 25 – 30 นาที่ แล้วแต่คนขับรถ แต่! ในคลิปของเราพี่บังคนขับรถขับนิ่มมากกกก ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ในใจบอกพี่ซิ่งได้เลยค่ะ หนูไม่กลัว หนูชอบความท้าท้าย หลังจากที่เราเดินทางกันมาครึ่งทางแล้ว สภาพไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ ดูไม่ได้ 5555 ปล.ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่สนใจจะมาเที่ยวสามารถขับส่วนตัวแล้วเอารถมาจอดไว้ที่จุดพักเลยได้เลยค่ะ ทางขึ้นเขาค่อนข้างที่จะชัน เราไม่สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ ทางที่ดีให้มืออาชีพหรือคนในพื้นที่ขับจะดีกว่าค่ะ
และแล้วตอนนี้ เราเดินทางกันมาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ ก่อนอื่นไปเก็บสัมภาระก่อนนะคะ คืนนี้เราเลือกที่จะนอนกันเป็นแบบเต็นท์ 1 เต็นท์ มี2 คนเพราะเรากลัวกุ๊กกู๋กันค่ะ5555 ในส่วนของเต็นท์สามารถเตรียมไปเองได้หรือจะไปใช้บริการของที่นี้ก็ได้เช่นกัน เต็นท์ที่เราเลือกนอนเขาจะมีบริการกางเต็นท์ให้ถึงที่เลยทีเดียว แถมฟรีหมอนและพร้อมผ้าปูที่นอนแบบนุ่มๆและสบายตัว เต็นท์ที่พักของเราจะอยู่ในราคาที่สามารถจับต้องได้ แต่ถ้าใครที่ชอบความสะดวกเขาก็มีเป็นโฮมสเตย์ให้ได้เลือกพักมีด้วยกัน 4 โฮมสเตย์
หลังจากนั้นจะเป็นเวลา free timeให้เรามีเวลาถ่ายวิวและรอชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ลืมบอกไปเลยว่าอากาศบนนี้หนาวมากกกก ลมแรงมากๆเลยยย ประมาณช่วง 6 โมงเย็นเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตก ทำให้บรรยากาศข้างบนสวยมาก หลังจากที่เราชมพระอาทิตย์ตกกันไปเป็นที่เรียบร้อยก็ได้เวลาอาบน้ำเตรียมรับประทานอาหารมื้อค่ำตอน 2 ทุ่ม ตอนอาบน้ำอาจจะนานหน่อยนะคะ เพราะน้ำที่นี่เย็นมากๆ กว่าจะทำใจได้สวดมนต์ไปแล้ว 3 รอบ แล้วที่สำคัญบนนี้ในช่วงเวลากลางวันจะไม่มีไฟฟ้า แต่จะมีเวลาในการปล่อยไฟคือช่วงเวลา 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้า หลังจากที่อาบน้ำเสร็จก็ได้เวลารับประทานอาหารกันแล้วค่าาาา ในส่วนของอาหารจะจัดอยู่กับที่พักที่เราเลือกพัก ไปดูกันเลยว่ามีอะไรให้เรากินบ้าง หิวไม่ไหวแล้ววววว
อาหารน่ากินไหมคะ อาหารบางชนิดหาได้เฉพาะในหมู่บ้านเท่านั้น โดยเฉพาะปลาทอดที่เห็นอยู่นั้นมีเฉพาะที่หมู่บ้านเขาไข่นุ้ยเท่านั้นและเป็นปลาที่หากินยากมาก นานๆจะจับได้สักตัวแต่วันนี้เรา ถือว่าดวงดีมากที่ได้กิน หลังจากรับประทามอาหารกันเสร็จเรียบร้อย ทุกคนว่าเราต้องไปนอนใช่ไหม โน ไม่ใช่ค่าา เราไปนั่งโม้กันพร้อมกับของกินเล่นที่เราซื้อตุนไว้ตั้งแต่ก่อนจะขึ้นเขา แนะนำเลยนะคะว่าข้างบนจะไม่มีขนมขาย หากจะซื้อต้องซื้อจากด้านล่างเท่านั้น เผลอๆแปปเดียวก็ตี 3 แล้วค่ะ พวกเรายังต้มมาม่ากันอยู่เลยค่ะ เหมาะกับอากาศหนาวแบบนี้มากๆ ตอนกลางคืนลมเย็นและหนาวมาก ได้มาม่าช่วยเยียวยา แต่อาจารย์บอกต้องตื่นมาดูพระอาทิตย์ตกตอนตี5 ก็เอาเรื่องอยู่นะคะ สุดท้ายเราได้แยกย้ายกันไปนอน นอนกันได้ไม่ถึงเท่าไหร่นาฬิกาก็ปลุกซะแล้ว ตี5 ฟ้ายังมืดอาจารย์เลยบอกนอนต่อได้เลย สุดท้ายได้ดูพระอาทิตย์ตกตอน6โมงเช้า วิวธรรมชาติสวยมาก แต่วันที่เราไปมีหมอกน้อยไปนิดนึงง แอบเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้เห็นตอนมีหมอกเยอะๆแต่ไม่เป็นไร โดยรวมแล้วดีมากๆเลยค้าบบบ
หลังจากที่เพลิดเพลินกับบรรยากาศช่วงเช้าแล้วนั้นเราก็ทยอยกันไปอาบน้ำเพราะอาหารเช้าเราจะมาแล้วววววว อาหารเช้าเราจะมีโรตี มัสมั่นไก่ ข้าวยำบูดู หมี่ผัด และขนมสดเยอะแยะมากมาย มีกาแฟและชาร้อนๆให้ดื่มด้วย ถ้าเพื่อนๆสนใจทำโรตีบอกพี่ลี่ได้เลยเพราะพี่ลี่จะสอนสกิลการฟัดโรตีสานฝันใครหลายๆคน อาหารทั้งอร่อยแถมยังได้ความรู้การทำโรตีเพิ่มอีกด้วยยย
ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับแล้ว พวกเราจะต้องนั่งรถลงจากเขาเพื่อไปที่จุดเปลี่ยนรถเพื่อเดินทางกลับมหาวิทยาลัยแต่ระหว่างทางเราจะแวะซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆ ทั้งขนมไข่กรอบและเต้าซ้อ กรุบๆ ที่ชาวชุมชนเขาไข่นุ้ยทำมาขายเพื่อหารายได้เสริมค่ะ
สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่
TIKTOK: travel_632
E-BOOK: https://anyflip.com/vgrzu/yfts/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น