สารานุกรมปืนตอนที่ 1933 MG 81 Machine Gun

กระทู้สนทนา

อาวุธยุทโธปกรณ์ ประวัติศาสตร์ อาวุธปืน ประเทศเยอรมนี

ขอขอบคุณเพจ ป.ปืน อย่างสูงครับ

https://www.facebook.com/Porpeunbybaster

สำหรับปืนกลขนาด 7.92×57mm Mauserในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองของเยอรมันที่เรารู้จักกันดีก็คือ MG34 และ MG42 ซึ่งมีการใช้งานตลอดช่วงสงครามนั้น ก็ยังมีปืนกลอีกแบบที่ไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงกันเท่าไหร่คือ MG81

MG81 เป็นผลงานการออกแบบของ Mauser Werke AG ซึ่งมีการพัฒนาเพื่อใช้ในอากาศยานของ Luftwaffe ซึ่งต้องการทดแทนปืนกลแบบ MG51 แบบเก่า โดยการออกแบบเป็นการนระบบของ MG34 มาพัฒนาให้มีต้นทุนการผลิตลดลงและนำหนักเบาขึ้น โดยออกแบบในปี 1938
ระบบบริหารกลไกใช้ระบบแรงสะท้อนถอยหลังหรือ Recoil-operated ซึ่งจะใช้แรรงสะท้อนจากพลังงานจากการเผาไหม้ดินปืน เดิมทีระบบขัดกลอนของ MG34 จะใช้ลูกกลิ้งซึ่งอยู่บริเวณหลังปีกขัดกลอนบังคับการหมุนและมีเดือย/ร่องลูกเบี้ยวบังคับการหมุนของหน้าลูกเลื่อนเพื่อช่วยในการหมุนตัวขัดกลอนอยู่กลางโครงลูกเลื่อน โดยลำกล้องจะถอยหลังมาเมื่อมีแรงสะท้อนจากการยิงโดยมีลาดลูกเบี้ยวทั้งที่โรงปืนและท้ายลำกล้องเป็นตัวบังคับขั้นต้นสำหรับการหมุนปลด/ขัดกลอน

MG81ได้อาศัยหลักการทำงานเดียวกัน แต่ตัด เดือย/ลูกเบี้ยวกลางโครงลูกเลื่อนออกและใช้ปืนขัดกลอน2ปีก มีลูกกลิ้งอยู่ด้านหลังปีกขัดกลอน โดยที่การหมุนปลด/ขัดกลอนจะมาจากลาดลูกเบี้ยวทั้งที่โรงปืนและท้ายลำกล้องเป็นตัวบังคับ ระบบเข็มแทงชนวนบังคับด้วยโครงลูกเลื่อนตั้งจังหวะลั่นไก ณ.จุดที่ระบบขัดกลอนสนิดการดึงเพื่อเปิดลูกเลื่อน/แขวนลูกเลื่อนขึ้นนกปืนจะมีห่วงดึงอยู่ด้านท้ายโรงปืนแทนคันรั้ง แหนบสปริงหลักจะอยู่ใต้โครงลูกเลื่อนซึ่งทำให้ปืนเป็นแบบไร้พานท้ายได้ซึ่งจะทำให้ปืนมีความกระทัดรัดมากขึ้น ตัวปืนเปล่าหนักราวๆ 6.5 Kg.ประกอบขาทราย และมีพานท้ายแบบพับ/ถอด ได้ ความยาวรวม 965 mm ลำกล้องยาว 475 mm ป้อนกระสุนด้วยระบบสายกระสุน อัตราการยิงของปืนอยู่ที่ 1,400–1,600 นัดต่อนาที MG81 มีการผลิตในปี1940 ถึง 1945

มีรุ่น MG 81Z คือระบบแท่นคู่ Z มาจาก Zwilling, หรือ "twin" แท่นคู่ ) ซึ่งทำให้อำนาจการยิงสูงขึ้นเนื่องจากปืนจะยิงสลับกระบอกทำให้อตราการยิงสูงถึง 3,200 นัดต่อนาที ซึ่งเป็นการผลิตสำหรับติดตั้งบนอากาศยานหลายแบบ มีการใช้งานแบบแท่น4กระบอกบน Dornier Do 217. และแท่นแบบ 6กระบอกใช้งานบน Junkers Ju 87 หรือ Ju 88 ซึ่งมีอัตราการยิงอยู่ที่ 9,000 นัดต่อนาที
แต่ด้วยต้นทุนการผลิตและเวลาที่ใช้ในการผลิตต่ำ ช่วงท้ายๆของสงครามมีการติดตั้งระบบขาหยั่งเพื่อใช้งานภาคพื้น
ซึ่งยังมีการนำมาประกอบเป็นปืนต่อสู้อากาศยานแบบ 8 ลำกล้อง(8กระบอก) อีกด้วย