ทำไมคนจนใช้เงินแล้วหมด แต่คนรวยใช้เงินฟุ่มเฟือย กลับรวยขึ้นเรื่อยๆ?

เคยสังเกตกันมั้ยคะ คนมีตังใช้เงินกันสุดเหวี่ยง กินหรูอยู่สบาย ซื้อของแพงๆ ขับรถป้ายแดง เสวยสุขกันเต็มที่
แต่แทนที่เงินจะหมด นับวันยิ่งมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่ายิ่งใช้ เงินยิ่งเพิ่มไม่รู้จบสิ้น
ในขณะที่ชนชั้นกลางและชนชั้นล่าง ยิ่งสะสะมแต้มยิ่งประหยัด เงินกลับยิ่งร่อยหรอ
คนรวยเค้ามีเคล็ดลับอะไรถึงมีเงินไม่จำกัด ใช้ชีวิตราวกับเสกเงินใช้เองได้ โลกเรามันเกิดวิปริตอะไรขึ้นคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
คุณ A หาเงินได้ 100000 บาทต่อเดือน แต่ใช้ 70000 บาท คนอื่นคงมองฟุ่มเฟือย แต่เขาเหลือเก็บตั้ง 30000 บาทตลอดชีวิต คนนี้เขาไม่ได้รวยนะ เขาแค่หาเงินให้ได้มากกว่ารายจ่ายที่เขาอยากจะใช้ เขาก็ยังถือว่าเป็นคนที่เก่ง และยังรู้จักเหลือเก็บอยู่ดี

คุณ B หาเงินได้ 25000 บาทต่อเดือน แต่ใช้ 30000 เราจะใช้คำพูดสวยหรูอะไรกับบุคคลนี้ดีนะ แต่เขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่กดดันตัวเองอยู่เฉยๆ ทำงานกินข้าวใช้ชีวิตปกติ แค่มันเกินไปบ้างจากภาระบางอย่าง

คุณ C หาเงินได้ 100000 แล้วใช้สัก 150000 อันเนี้ยเกินเบอร์ถึงจะดูฟุ่มเฟือยเหมือนกัน กับคุณ B เลยแต่ความสามารถในการหาเงินก็แตกต่างอยู่ดี
เพราะถ้าเขาแค่มีสติแล้วลดรายจ่ายลงให้พอดีตัว เขาก็จะสามารถเป็นคนที่ใช้เงินเหมือนคุณ A ได้

แต่คุณ B ถ้าประหยัดลงก็ทำได้เหมือนกัน แต่เขาก็ไม่สามารถเทียบกับคุณ A หรือ C เพราะตัวเลขความสามารถในการหาเงินและมุมมองความสามารถในการหาเงิน มันแตกต่างกันแบบสุดตัว และคุณ B ไม่ได้มีทัศนคติหาเงินเยอะๆขึ้นเพื่ออยากใช้เยอะ พอมีกินมีใช้แค่นี้ไม่พยายามเพิ่มก็จบ เขาเรียกว่าเข้าทะเย้อทะยานความอยากได้อยากมีอยากไปให้สูง มันต่างกัน

นี่คือความแตกต่างของความสามารถในการหาเงิน และ การใช้เงินครับ ทัศนคติในการหาเงิน การใช้ชีวิต และ มุมมองชีวิตจุดเป้าหมายในชีวิต
ของงี้ดูด้วยตา ฟังด้วยหู ก็เห็นแล้วว่าใครดูดีกว่ากัน

รู้จักคนรวยและชนชั้นกลางเยอะ ทุกคนคิดเหมือนกันหมดเลยคือ เขามีวินัยการเงินที่ดี เขาไม่เก่งลงทุนเขาก็เลือกที่จะออมแล้วสะสมเงินสะสมทรัพย์สินสำคัญๆ พอมีลูกเตรียมความพร้อมแล้วก็ส่งมรดกให้ลูก พอลูกไม่ต้องซื้อบ้าน ไม่ต้องซื้อรถใช้ ลูกก็มีกำลังทรัพย์หาเงินได้ 100 % ลูกก็เอาเงินที่เป็นใบบุญไปทำมาหากิน ทำอาชีพต่อยอดเรื่อยๆ เขาทำกันงี้ครับ

คนจนก็คือคนจน ไม่มีสิทธิพูดอะไรมากหลอกครับ คนจนชอบคิดว่า สังคมเหลื่อมล้ำ โอกาศไม่มีบ้างนั่นนี่ ทั้งๆที่ คนจนก็ทำวิธีการเดียวกันกับคนรวยได้แค่มันจะไปทีละช้าๆ ทีละน้อย ไม่ได้ว้าว

คุณก็แค่เก็บเงินออมเงินใช้แต่พอดี ค่อยๆเริ่มจากห้องเช่า เปลี่ยนเป็นบ้านน็อคดาวน์ เล็กๆบนที่ดินราคาถูก พอหาได้แค่นี้เลี้ยงลูกจบมาให้ลูกทำงานเรียนอะไรก็ได้ แล้วก็มอบมรดก ทำงานแถวบ้านจากบ้านน็อคดาว ซื้อที่ดินข้างๆบ้านต่อเป็นบ้านหลังใหญ่ คนจนที่ทำค้าขายสมัยก่อนเขาก็ทำกันแบบนี้ตอนนี้ลืมตาอ้าปากได้ก็ทำกันแบบนี้

มันมีหนทางหมดทุกแบบแหละครับ แค่คนจนชอบคิดอะไรที่ คนจนชอบคิด แล้วก็ไม่ทำ ใช้อารมณ์ ใช้ความรู้น้อยๆ ก็จะอยู่แบบนั้นอะตลอดไป

ผมโตมาจากโรงเรียนวัดในจังหวัดที่เกือบจะเรียกว่ากันดาน เห็นเลยว่าอยู่อย่างสังคมจนๆจะเป็นยังไง บ้านก็กัดฟันปากกัดตีนถีบเพื่อให้เรามีอนาคต ตามความสามารถ ปัจจุบันทำงานสายด้านเทคโนโลยี เงินเดือนเกือบจะ 100K แล้ว ผมทำได้ไง ผมทำแบบคนรวยครับ นั่นก็คือคุณ A ผมรู้ว่าผมมีโอกาศด้านไหนบ้าง ผมจะค่อยๆทำแบบที่ไม่ลำบาก ไม่ฝืนตัวเกิน ไม่ฝืนฐานะทางบ้านเกิน ต่อยอดจนสุดท้าย

ตอนนี้มีทั้งคอนโด มีทั้งรถมอไซร์ใช้ทำงาน มีทั้งเงินเก็บ แล้วก็เก็บเรื่อยๆ ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย เก็บเดือนนึง 3-4 หมื่นเสมอๆ แล้วก็พยายามดันสายอาชีพให้เงินเดือนสูงขึ้นอีก มองหาพวกอสังหาน่าจับลงทุนไว้เพื่อว่าขายพอมีเงินตอนที่เราไม่อยู่แล้วปล่อยเช่าไปก่อน รอลูกโตก็ยกให้เป็นมรดก แล้วค่อยซื้ออย่างอื่นเพิ่มตอนเงินพร้อม ไม่ได้แตกต่างจากคนรวยเลย แค่ค่อยๆทำทีละนิด แบบที่ถนัด แบบที่ไม่เสี่ยง ทำไม่ขาด ผมพิสูจน์ด้วยตัวผมเองมาแล้ว ใครมาเถียงผมก็ด่ากลับครับบอกเลย

ผมรู้หลักการลงทุนเกือบทุกแบบอะ ไปขอความรู้คนรวยๆคนเก่งมาแล้ว เขาใจดีไม่กั๊กข้อมูลกันเลย มีแต่คนจนแหละที่ไปโทษนั่นนู่นนี่ จริงๆคนรวยใจดีมากครับ น่ารักน่าคบหากว่าคนจนเยอะเลย เขาจะสอนทั้งแนวคิด แนวทาง การแก้ไขปัญหาต่างๆในชีวิต เหตุผลหลักๆที่คนรวยไม่ชอบให้ความรู้คนอื่น เพราะคนที่มาขอความรู้เอาทัศนคติแง่ลบมาถามครับ เขาไม่อยากคุยด้วยหลอก
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้ารู้จักจริงๆ จะมองเห็นว่า

คนรวย โดยเฉพาะที่รวยมากๆ เวลาซื้ออะไรเค้าจะคิดเยอะมาก หาข้อมูลหาแล้วหาอีก ว่าจะซื้ออย่างไรจะคุ้ม กระเป๋าซื้ออย่างไร จะใช้แล้วได้กำไรด้วย ต้องดูแลรักษาของอย่างไร รถซือ้อย่างไรถึงจะใช้คุ้มค่า นาฬิกาเรือนไหนมูลค่าในตลาดไม่ตก อยู่ทาวน์เฮ้าส์หน้าบ้านโทรมๆ เค้าก็ว่าอยู่ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นบ้านหรู บ้านใหญ่ (เปลืองเงิน เปลืองพลังงานในการดูแล)

คนจน (บางคนที่เคยเห็น).. อยากได้อะไรก็ซื้อเลย ยอมกู้ ยอมผ่อน ยอมเป็นหนี้ เพื่อให้ได้ของ (ฟุ้มเฟือย) หลายๆอย่าง กู้เงินเที่ยวยังมีเลย

นี่คือความแตกต่าง
ความคิดเห็นที่ 2
คุณเข้าใจผิดมากกว่า

คนที่คุณบอกใช้เงินสุดเหวี่ยง  เขาใช้เพียงเล็กน้อยจากเงินที่หาได้ เช่นเขาหาได้วันละล้าน  เขาใช้วันละแสน ก็แค่ 10%  เท่านั้น  ที่เหลือเก็บ...

คุณหาได้วันละพัน  คุณใช้วันละ ห้าร้อย  คุณเหลือ 50%  

คุณอย่ามองยอดเป็นเงิน  ให้มองเทียบร้อยละแล้วจะเข้าใจ

อยากรวย  ไม่ต้องคิดมาก  หาได้น้อยใช้ให้น้อยกว่า ที่เหลือเก็บ  หาได้มากใช้น้อยเหมือนเดิม  ที่เหลือเก็บ   ยังไงก็รวยครับ
ความคิดเห็นที่ 8
คนรวยจริง มักงก และเขี้ยว ใช้แค่เศษเงิน คริคริ...อิอิอิ...
เพี้ยนเขิน
ความคิดเห็นที่ 45
คนรวยที่รู้จัก ส่วนมากประหยัดมาก ใส่เสื้อผ้าเก่าๆ มีรู มีรอยด่างๆที่ซักไม่ออก ทำงานตลอด พวกที่เปิดร้านขายของ ไม่เคยเห็นปิดร้าน นึกภาพร้านโชห่วยแถวบ้านคุณดู ต้องมีแหละที่เป็นแบบนี้ มือถือเก่าๆ รถเก่าๆไม่มีติดอะไรเพิ่มเติม ถุงเท้าเป็นรู ไม่ซื้อของเงินผ่อน เอาจริงๆคือไม่ค่อยซื้ออะไรเลย นอกจากจำเป็นจริงๆ กินก็ประหยัด ปลาหมึกปิ้ง ลูกชิ้น ต้องซื้อมากินกับข้าวเท่านั้น ไม่ใช่กินเล่นๆ ถ้าไปกินข้าวนอกบ้าน ไม่สั่งน้ำ ยอมอด ออกจากร้านค่อยกิน(อันนี้เราว่าเกินไป แต่เห็นมีคนทำ ตราบที่เค้าไม่พกน้ำตัวเอง แล้วมากินในร้าน เราก็ถือว่าโอเค แล้วแต่เค้า) เวลาจัดงานบวช งานแต่ง ก็จะทำเล็กๆ เงียบๆ ไม่ได้ใหญ่โตจัดโต๊ะเป็นร้อยโต๊ะอะไรแบบนั้น ไม่เคยซื้อหวย ไม่เคยซื้อล๊อตเตอรี่ มีแต่จะเป็นคนขายเอง กินข้าวตามร้านดีๆ ปีนึงนับครั้งได้ ส่วนมากก็เวลารวมญาติ นั่นแหละ ถึงจะเห็นเค้ากินของแพงๆเต็มที่กัน

    คนกลุ่มใช้เงินเดือนชนเดือน เสื้อผ้า หน้า ผม ค่อนข้างดูดี ผมทำสี สลวยตลอด ทำงานบ้าง หยุดบ้าง เที่ยวบ้าง พักไม่ได้ กินเหล้าตลอด ผู้ชายก็จะมีสูบบุหรี่ มีเครื่องเสียงแพงๆในบ้าน ซื้อหวยทุกงวด บางคนจ่ายค่าหวยเกือบเท่าครึ่งนึงของเงินเดือน อยากได้อะไรซื้อ เงินไม่มีก็ผ่อน ไม่มีจริงๆก็ขายที่ จำนอง สารพัดวิธี ที่จะให้ได้มาซึ่งของที่อยากได้ กินตามร้านนอกบ้านบ่อยกว่าคนรวย ยิ่งพวกที่มีลูก เห็นซื้อของกิน ของใช้ ตามใจลูกมาก มือถือทั้งพ่อแม่ลูก แพงๆทั้งนั้น และเปลี่ยนบ่อยด้วย อ้อ มักจะมีไอแพดให้ลูกเล่นอีก ติดจอทั้งแม่ทั้งลูกนี่ เห็นบ่อยมาก อ้อ เวลาขายที่ได้ หรือถูกหวย หรือมีงานบวช งานแต่ง ต้องเลี้ยงใหญ่โต บางคนมีนักร้อง มีวงดนตรีด้วย ถ้ามีรถก็ชอบเอาไปแต่ง โหลดเตี้ย ลำโพงดัง สติ๊กเกอร์สารพัด ติดเต็มไปหมด ถ้าเป็นมอไซด์ก็จะเป็นคันใหญ่ๆ ราคาแพงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่