สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เห็นว่าใกล้เปิดสอบแล้วเพจติวแต่ละเพจเริ่มคึกคัก ส่วนตัวเราสอบติดในปีที่ผ่านมาค่ะเลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ วิธีการณ์ต่างๆที่ใช้เพราะคิดว่าน่าจะมีหลายๆคนที่อยากสอบติดแต่เป็นคนไม่ชอบอ่านหนังสือมากขนาดนั้น ต้องบอกก่อนว่าช่วงเราจบใหม่ก็เป็นช่วงโควิดค่ะ รอสอบอยู่พักใหญ่ระหว่างนั้นมีทำงานซึ่งไม่ได้หนักและเป็นงานชั่วคราวเลยค่อนข้างมีเวลาอ่านหนังสือ
1.เริ่มแรกเลยเราจะลนๆ เริ่มไม่ถูกเพราะไม่มีประสบการณ์สอบมาก่อนเราก็จะไปดูเนื้อหาวิชาที่ต้องใช้สอบว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นเราเลือกหาซื้อหนังสือสำนักที่เราชอบ ซึ่งเราชอบหนังสือหรือสรุปที่ตกแต่งน่ารัก สีสวย (สำหรับเรามีผลต่อการอ่าน ช่วยไม่ให้น่าเบื่อ) เราเองก็เลือกซื้อตามกำลังที่มีแต่เน้นให้มีหนังสือครบทุกวิชาที่สอบ
2.พอได้หนังสือมาแล้วเราจะมาเปิดดูเนื้อหาคร่าวๆและดูจำนวนหน้า จากนั้นเอาจำนวนหน้ามาคำนวณต่อเวลาที่เหลืออยู่ก่อนสอบแล้วล็อกวันอ่านไว้เลย เช่น เหลือเวลาอีก 3 เดือน หนังสือวิชานี้มี 200 หน้า เราจะเอาไปหารต่อวันให้เหลือจำนวนหน้าที่เราอ่านไหวต่อวัน สมมติวันละ 10 หน้า 20 วัน จบวิชานี้ก็จะต่อวิชาต่อไป ส่วนที่สำคัญของขั้นนี้คือเราจะต้องทำตามนั้นโดยไม่อิดออดและจะต้องไม่อ่านเกินวันทีกำหนด เพราะอาจเราขี้เกียจและผัดวันไปเรื่อยๆจะส่งผลต่อเวลาที่จะเหลือในการอ่านวิชาอื่น วิธีนี้จะทำให้การอ่านต่อวันหรือต่อวิชาดูไม่เยอะมาก พอให้เราบังคับตัวเองได้
3.เราเลือกจะอ่านวิชาที่เราชอบก่อนเพื่อเพิ่มความอยากอ่านในการเริ่มต้นและวิชาเอกไว้ท้ายสุดเพราะคือสิ่งที่เราชินกับเนื้อหามากที่สุด
4.เลือกวิธีการอ่านที่เหมาะกับตัวเอง เราเคยทำตารางตามคนอื่นที่แชร์มาคือตื่นเช้า เวลานี้อ่านวิชานี้เป๊ะๆ แต่เราทำไม่ได้ แค่คื่นเช้าก็ยากแล้ว (แต่พอเป็นครู ตื่นเช้าทุกวันจ้า) พอเรารู้ตัวว่าทำแบบคนอื่นไม่ได้ก็ใช้วิธีตัวเองเลย คือ ตื่นตอนไหนอ่านตอนนั้น ถ้าง่วงก็นอนไม่ต้องฝืนอ่านเพราะอ่านไปมันจะไม่เข้าสมอง แต่แนะนำยิ่งมีเวลาก่อนสอบเยอะยิ่งดีเราจะได้มีเวลาอ่านชิวๆแบบไม่เครียด
5.เราเลือกใช้วิธีอ่านครั้งแรกแบบเข้าใจแต่ยังไม่ต้องจำแล้วจดสรุปใส่สมุดเป็นของตัวเอง (วิธีนี้ง่ายต่อการทบทวนและพกพามาก ไม่ต้องแบกหนังสือไป) โดยเราจะชอบสรุปเป็นข้อๆไล่ลงมาเรารู้สึกว่ามันง่ายต่อการจำของเราและนึกภาพตามได้ง่าย อ่านรอบสองเราจะเริ่มอ่านแล้วจำ เมื่อจบเรื่องนั้นแล้วเราจะทวนทุกครั้งก่อนขึ้นเรื่องใหม่และจะทวนทุกครั้งก่อนนอนและตอนเริ่มอ่านของทุกวัน
6.พยายามผ่อนคลายให้มากที่สุด พยายามไม่เครียดและพาตัวเองไปพักผ่อนบ้าง อย่าเฟล อย่านอย เราเองก็เป็นบางทีเห็นเพื่อนไล่ตอบคำถามตามเพจเขาตอบได้ เราตอบไม่ได้ก็มีแอบนอย แต่เอาจริงนะ ข้อสอบตามเพจที่เขาโพสแล้วมีคนไปเม้นตอบเราจะจำดีการอ่านซะอีก ซึ่งบ้างข้อออกจริงแล้วเราได้คำตอบจากการจำคำตอบพวกนั้นด้วย ไม่ต้องสนใจคนอื่น พอเราไปสอบเรารู้สึกส่ามันคือการแข่งกับตัวเองล้วนๆเลย
7.เรื่องการเลือกสนามสอบ เราว่าสำคัญมาก เราเองไม่เคยได้รับคำแนะนำจากใคร เพิ่งมารู้ตอนตัวเองจะสมัครเอง เลยอยากแชร์เพราะคิดว่าส่วนนี้ก็สำคัญ ในตอนแรกเราเข้าใจผิดว่าที่ กศจ.ประกาศมารับว่ารับกี่อัตราแล้วถ้าเราหลุดจากตรงนั้นคือไม่ได้ จริงๆแล้วไม่ใช่เลย สมมติว่า ทาง กศจ. ประกาศว่าเอก .... รับ 10 อัตรา หมายความว่า เมื่อสอบครบทุกภาคแล้ว คะแนนไล่ตามลำดับ 10 คนแรกบรรจุรอบแรกเลย ส่วนคนที่ 11 เป็นต้นไปขึ้นบัญชีไว้ 2 ปีรอเรียกซึ่งระยะเวลาไม่สามารถบอกได้แล้วแต่จังหวัด บางที่ไม่กี่เดือนก็เรียกหมดก็มี เลยอยากแชร์ตรงนี้ไว้เผื่อเป็นประโยชน์ต่อการเลือกสนามสอบ ตอนแรกที่เราเข้าใจผิดก็เกือบจะไปเลือกลงจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง โชคดีที่เลือกเจอโพสในเฟสบุ๊กที่มีคนแชร์ไว้เลยเลือกลงจังหวัดตัวเองเหมือนเดิม
8.เมื่อบรรจุได้แล้วถึงเวลาเลือก รร แนะนำให้ลงไปดู รร จริงและถามด้วยนะคะว่าหากเราเลือกลงที่นี่เราจะได้สอนระดับชั้นใด ซึ่งเราเจอมาแล้วค่ะกับการที่ไม่ลงดู รร แล้ววันรายงานตัวรู้ว่าต้องสอนระดับชั้นไหนก็ช็อกไปเลย ขอบเขตงานก็สำคัญมากบางคนเลือก รร ที่เล็กครูน้อยงานจะเยอะแต่หากปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ รร เล็กจะอยู่ง่ายรักกันแบบพี่น้อง(กาสะลองซ้องปีบ 555 อันนี้แล้วแต่ที่ค่ะ) ส่วน รร ใหญ่ก็คนเยอะ ความเหนื่อยก็ขึ้นอยู่กับภาระงานที่ได้รับมอบหมาย ส่วนตัวเราทุกวันนี้เราได้อยู่ รร เล็กค่ะ นร ไม่ถึง 100 และเป็นเจ้าแม่อบรมไปเรียบร้อย ได้ทำหลายอย่างมาก แรกๆเราไม่โอเคเพราะโดนส่งไปทำโน้นนี่เยอะแต่หลังๆเรากับโอเคมากเพราะทำให้เราได้รู้จักคนเยอะ แชร์ประสบการณ์กันสนุกสนาน ตอนนี้บรรจุได้จะครบปีแล้วค่ะ มีเครียดบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่ชินงานบ้าง กังวลใจบ้าง ทุกวันนี้ชินค่ะค่อยๆเรียนรู้ไป เราเองเพิ่งทำงานยังไม่เก่งไม่มีประสบการณ์ใดๆ ที่มาแชร์วันนี้แค่อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผิดบ้างถูกบ้าง อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนแต่ลงปรับเปลี่ยนดูนะคะ ขอให้ทุกคนสู้ๆนะคะ เราเข้าใจความรู้สึกของคนรอสอบ เตรียมสอบดี ขอให้ทุกคนสอบติดสมดั่งใจค่ะ
แชร์ประสบการณ์สอบครูผู้ช่วย ฉบับคนไม่ชอบอ่านหนังสือ
1.เริ่มแรกเลยเราจะลนๆ เริ่มไม่ถูกเพราะไม่มีประสบการณ์สอบมาก่อนเราก็จะไปดูเนื้อหาวิชาที่ต้องใช้สอบว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นเราเลือกหาซื้อหนังสือสำนักที่เราชอบ ซึ่งเราชอบหนังสือหรือสรุปที่ตกแต่งน่ารัก สีสวย (สำหรับเรามีผลต่อการอ่าน ช่วยไม่ให้น่าเบื่อ) เราเองก็เลือกซื้อตามกำลังที่มีแต่เน้นให้มีหนังสือครบทุกวิชาที่สอบ
2.พอได้หนังสือมาแล้วเราจะมาเปิดดูเนื้อหาคร่าวๆและดูจำนวนหน้า จากนั้นเอาจำนวนหน้ามาคำนวณต่อเวลาที่เหลืออยู่ก่อนสอบแล้วล็อกวันอ่านไว้เลย เช่น เหลือเวลาอีก 3 เดือน หนังสือวิชานี้มี 200 หน้า เราจะเอาไปหารต่อวันให้เหลือจำนวนหน้าที่เราอ่านไหวต่อวัน สมมติวันละ 10 หน้า 20 วัน จบวิชานี้ก็จะต่อวิชาต่อไป ส่วนที่สำคัญของขั้นนี้คือเราจะต้องทำตามนั้นโดยไม่อิดออดและจะต้องไม่อ่านเกินวันทีกำหนด เพราะอาจเราขี้เกียจและผัดวันไปเรื่อยๆจะส่งผลต่อเวลาที่จะเหลือในการอ่านวิชาอื่น วิธีนี้จะทำให้การอ่านต่อวันหรือต่อวิชาดูไม่เยอะมาก พอให้เราบังคับตัวเองได้
3.เราเลือกจะอ่านวิชาที่เราชอบก่อนเพื่อเพิ่มความอยากอ่านในการเริ่มต้นและวิชาเอกไว้ท้ายสุดเพราะคือสิ่งที่เราชินกับเนื้อหามากที่สุด
4.เลือกวิธีการอ่านที่เหมาะกับตัวเอง เราเคยทำตารางตามคนอื่นที่แชร์มาคือตื่นเช้า เวลานี้อ่านวิชานี้เป๊ะๆ แต่เราทำไม่ได้ แค่คื่นเช้าก็ยากแล้ว (แต่พอเป็นครู ตื่นเช้าทุกวันจ้า) พอเรารู้ตัวว่าทำแบบคนอื่นไม่ได้ก็ใช้วิธีตัวเองเลย คือ ตื่นตอนไหนอ่านตอนนั้น ถ้าง่วงก็นอนไม่ต้องฝืนอ่านเพราะอ่านไปมันจะไม่เข้าสมอง แต่แนะนำยิ่งมีเวลาก่อนสอบเยอะยิ่งดีเราจะได้มีเวลาอ่านชิวๆแบบไม่เครียด
5.เราเลือกใช้วิธีอ่านครั้งแรกแบบเข้าใจแต่ยังไม่ต้องจำแล้วจดสรุปใส่สมุดเป็นของตัวเอง (วิธีนี้ง่ายต่อการทบทวนและพกพามาก ไม่ต้องแบกหนังสือไป) โดยเราจะชอบสรุปเป็นข้อๆไล่ลงมาเรารู้สึกว่ามันง่ายต่อการจำของเราและนึกภาพตามได้ง่าย อ่านรอบสองเราจะเริ่มอ่านแล้วจำ เมื่อจบเรื่องนั้นแล้วเราจะทวนทุกครั้งก่อนขึ้นเรื่องใหม่และจะทวนทุกครั้งก่อนนอนและตอนเริ่มอ่านของทุกวัน
6.พยายามผ่อนคลายให้มากที่สุด พยายามไม่เครียดและพาตัวเองไปพักผ่อนบ้าง อย่าเฟล อย่านอย เราเองก็เป็นบางทีเห็นเพื่อนไล่ตอบคำถามตามเพจเขาตอบได้ เราตอบไม่ได้ก็มีแอบนอย แต่เอาจริงนะ ข้อสอบตามเพจที่เขาโพสแล้วมีคนไปเม้นตอบเราจะจำดีการอ่านซะอีก ซึ่งบ้างข้อออกจริงแล้วเราได้คำตอบจากการจำคำตอบพวกนั้นด้วย ไม่ต้องสนใจคนอื่น พอเราไปสอบเรารู้สึกส่ามันคือการแข่งกับตัวเองล้วนๆเลย
7.เรื่องการเลือกสนามสอบ เราว่าสำคัญมาก เราเองไม่เคยได้รับคำแนะนำจากใคร เพิ่งมารู้ตอนตัวเองจะสมัครเอง เลยอยากแชร์เพราะคิดว่าส่วนนี้ก็สำคัญ ในตอนแรกเราเข้าใจผิดว่าที่ กศจ.ประกาศมารับว่ารับกี่อัตราแล้วถ้าเราหลุดจากตรงนั้นคือไม่ได้ จริงๆแล้วไม่ใช่เลย สมมติว่า ทาง กศจ. ประกาศว่าเอก .... รับ 10 อัตรา หมายความว่า เมื่อสอบครบทุกภาคแล้ว คะแนนไล่ตามลำดับ 10 คนแรกบรรจุรอบแรกเลย ส่วนคนที่ 11 เป็นต้นไปขึ้นบัญชีไว้ 2 ปีรอเรียกซึ่งระยะเวลาไม่สามารถบอกได้แล้วแต่จังหวัด บางที่ไม่กี่เดือนก็เรียกหมดก็มี เลยอยากแชร์ตรงนี้ไว้เผื่อเป็นประโยชน์ต่อการเลือกสนามสอบ ตอนแรกที่เราเข้าใจผิดก็เกือบจะไปเลือกลงจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่บ้านตัวเอง โชคดีที่เลือกเจอโพสในเฟสบุ๊กที่มีคนแชร์ไว้เลยเลือกลงจังหวัดตัวเองเหมือนเดิม
8.เมื่อบรรจุได้แล้วถึงเวลาเลือก รร แนะนำให้ลงไปดู รร จริงและถามด้วยนะคะว่าหากเราเลือกลงที่นี่เราจะได้สอนระดับชั้นใด ซึ่งเราเจอมาแล้วค่ะกับการที่ไม่ลงดู รร แล้ววันรายงานตัวรู้ว่าต้องสอนระดับชั้นไหนก็ช็อกไปเลย ขอบเขตงานก็สำคัญมากบางคนเลือก รร ที่เล็กครูน้อยงานจะเยอะแต่หากปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานได้ รร เล็กจะอยู่ง่ายรักกันแบบพี่น้อง(กาสะลองซ้องปีบ 555 อันนี้แล้วแต่ที่ค่ะ) ส่วน รร ใหญ่ก็คนเยอะ ความเหนื่อยก็ขึ้นอยู่กับภาระงานที่ได้รับมอบหมาย ส่วนตัวเราทุกวันนี้เราได้อยู่ รร เล็กค่ะ นร ไม่ถึง 100 และเป็นเจ้าแม่อบรมไปเรียบร้อย ได้ทำหลายอย่างมาก แรกๆเราไม่โอเคเพราะโดนส่งไปทำโน้นนี่เยอะแต่หลังๆเรากับโอเคมากเพราะทำให้เราได้รู้จักคนเยอะ แชร์ประสบการณ์กันสนุกสนาน ตอนนี้บรรจุได้จะครบปีแล้วค่ะ มีเครียดบ้าง ทุกข์บ้าง ไม่ชินงานบ้าง กังวลใจบ้าง ทุกวันนี้ชินค่ะค่อยๆเรียนรู้ไป เราเองเพิ่งทำงานยังไม่เก่งไม่มีประสบการณ์ใดๆ ที่มาแชร์วันนี้แค่อยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผิดบ้างถูกบ้าง อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนแต่ลงปรับเปลี่ยนดูนะคะ ขอให้ทุกคนสู้ๆนะคะ เราเข้าใจความรู้สึกของคนรอสอบ เตรียมสอบดี ขอให้ทุกคนสอบติดสมดั่งใจค่ะ