โอววว… ผ่านมาเจอ เริ่มมีคนไทยรู้จักมากขึ้นแล้ว ดีจัง เราศึกษา Human Design มา 2-3 ปี แล้วค่ะ เผยแพรข้อมูลลง Youtube เมื่อกลางปีที่แล้ว เพราะเราหาข้อมูลภาษาไทยไม่เจอ เลยทำเองเลย แต่ตั้งแต่เมื่อต้นปี เราเริ่มเห็นมีคนทำบ้างแล้วเหมือนกัน(อันนี้รู้จากเพื่อนอีกที เพราะเราไม่ค่อยได้ติดตาม social มากนัก)

ขออนุญาตอ่านแบบ Mini Reading ให้นะคะ เพราะถ้าอ่านละเอียด ใช้เวลา เพราะว่าเราเขียนเป็นคู่มือให้ 20-40 หน้าค่ะ

ส่วนแรกเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นต้องรู้ และสำคัญมากที่สุดเลยก็ว่าได้ นะคะ

1. คุณเป็น Manifesting Generator(MG) :
⟶ Manifesting Generators ค่อนข้างทำอะไรรวดเร็ว ชอบมองหาทางลัด
⟶ เลือกตอบสนองในสิ่งที่รักหรือมี passion เท่านั้น เพราะเป็นทางเดียวที่จะได้ปลดปล่อยศักยภาพที่แท้จริงออกมาและเป็นประโยชน์ต่อผู้คน
⟶ It's OK ที่จะมีความสนใจหลากหลาย และทดลองทำในสิ่งต่างๆ ไม่จะเป็นต้องทนทำสิ่งเดียวเดิมๆ จนจบ ถ้ารู้สึกว่าไปต่อแล้วไม่โอเค สามารถปรับเปลี่ยน (Pivot) ได้เสมอ

Keynote : Superpower อย่างหนึ่งของ MG คือการแสดงออกความคิดเห็น แชร์มุมมองในและสถานการณ์ นี่คือการตอบสนอง หรือ Respond ต่อเหตุการณ์หรือสภานการณ์บางอย่างออกไป  

2. Strategy : หมายถึง การปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอก ใช้ควบคู่กับ Authority ในการตัดสินใจ = Wait be Respond & Initiate รอเพื่อที่จะตอบสนอง แล้วค่อยเริ่มลงมือทำ

ลำดับขั้นตอนจะประมาณนี้ค่ะ

1. รอก่อนที่จะเริ่มทำอะไร(+เชื่อมั้น) ความหมายก็คือ ไม่กดดัน หรือ force เพื่อที่เลือกหรือตัดสินใจจะทำอะไรสักอย่าง แต่ให้รอจนกว่าจะรู้สึกว่า “ใช่” จริงๆ
2.    รู้สึกถึงการตอบสนองที่ Sacral +สังเกตปฏิริกิยาที่เกิดขึ้น/visualize ให้รู้สึกว่าชัดเจนว่า ใช่
3.    บอกให้คนที่เกี่ยวข้องหรือคนที่คิดว่าจะมีส่วนกับการตัดสินใจนี้ของเราใหรับทราบ แล้วค่อยเริ่มลงมือทำสิ่งนั้น

Trick : การเพิ่ม Visualization จินตนาการนึกภาพว่าสิ่งที่เรากำลังจะตอบสนองผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหนเข้าไปด้วยหลังจากที่เริ่มรู้สึกว่ามีปฏิกิริยาตอบสนองจาก Sacral เป็นการช่วย confirm ก่อนที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง เพราะโดยธรรมชาติแล้ว MG มักจะทำอะไรค่อนข้างรวดเร็ว บางทีก็ข้ามขั้นตอนไปมา ไม่ค่อยชอบทำอะไรตามขั้นตอน แล้วสุดท้ายก็กลับมาเริ่มใหม่อีกที อะไรประมาณนี้ค่ะ การ visualize เห็นภาพให้ชัดจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานซ้ำซ้อนได้ ลดอาการหงุดหงิดหัวเสีย ที่เป็น Not-Self Theme ของ MG ได้

จากนั้นก็สื่อสารสิ่งที่แพลนเอาไว้ออกมาให้คนที่เกี่ยวข้องกับเรารับรู้ด้วยว่ากำลังจะทำอะไรบ้าง เพราะด้วยความที่อาจจะคิดเร็ว และทำอะไรเร็ว คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจและตามไม่ทัน การบอกแจ้งล่วงหน้า จะช่วยลดแรงเสียดทานได้

สิ่งสำคัญสำหรับ MG คือ การหยุดที่จะเริ่มต้น (Initiate) สิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง แต่ให้ผ่อนคลายและ “รอจังหวะ” หรือสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเผยออกมา แล้วตอบสนองต่อสิ่งนั้น อาจจะยากสักหน่อยในช่วงเริ่มแรกของการฝึกที่จะใช้ชีวิตด้วยการรับรู้สัญญาณเพื่อตอบสนองจาก Sacral/Gut feeling เพราะธรรมชาติของความเป็น MG คือ ไม่ค่อยหยุดนิ่ง ชีวิตชอบมี Dynamic “การรอคอย” จึงจะดูเป็นเรื่องยาก แต่ลองฝึกดูนะคะ เพราะพลัง aura ของ MG เป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดสิ่งต่างๆ ให้ตอบสนองอยู่แล้ว ลองหยุดสังเกตดู แล้วจะเริ่มเห็น แล้วจะรู้ว่า การมีชีวิตที่รอการตอบสนองจากสิ่งภายนอก มันทำให้ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นจริงๆ ลดแรงเสียดทาน ไม่ต้องเหนื่อยกายและใจกับอะไรที่ไม่จำเป็น เมื่อไรที่รู้สึกว่าร่างกายตอบสนองในเชิงบวกกับสิ่งนั้น ค่อยเลือกลงมือทำสิ่งนั้นค่ะ  

3. Authority เป็นเหมือน GPS นำทางในการตัดสินใจ ของคุณ คือ Sacral หรือ Gut Feeling ส่วนนี้อาจจะต้องฝึกค่ะ เพราะโดยมากเรามักใช้สมอง ความคิดตรรกะในการตัอสินใจ ที่มันมักี bias

ทำไมจำเป็นต้องรู้จัก Authority?

ก็เพื่อที่เราจะได้กลับมาเชื่อมต่อกับพลังงานที่อยู่ภายในตัวเรา ที่เขาคอยนำทางและให้คำตอบที่ “ใช่” สำหรับเราเสมอ เป็นการกลับมาที่ตัวเอง ฟังตัวเองมากกว่าการฟังเสียงจากภายนอกหรือที่ใครๆ บอกว่า “ควรอย่างนั้น อย่างนี้”

เนื่องจากมนุษย์เราเคยชินกับการตัดสินใจโดยใช้ตรรกะความคิด(Mind) มี Pros & Cons ตลอดเวลา (ซึ่งสิ่งนี้คือมุมมองมากกว่าข้อเท็จริง และคำตอบก็จำกัดอยู่แค่สิ่งที่เราเคยรับรู้มาเท่านั้น โดยมากมักเป็นข้อมูลชุดเดิมจากอดีต) เรียกว่าพวกเราถูก Program ตลอดเวลาทางความคิด ทำให้เราตัดขาดจาก Inner Wisdom ในตัวเรา Human Design จึงเป็นเหมือนคู่มือให้เรากลับมาทำความรู้จักกับตัวเอง และเชื่อมต่อกับตัวตนของตัวเองจริงๆ

สรุป ก็เพื่อที่จะกลับมา connect กับตัวเอง เพราะร่างกายเรารู้ดีว่าอะไรที่ใช่สำหรับเรา ร่างกายตอบสนองอยู่เสมอ แต่เราไม่ค่อยรับรู้ เพราะไม่ได้เอาสติ (Consciousness) ไปรับรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นที่ Authority ของเรา แต่จะใช้ความคิด(การปรุงแต่ง) จนชิน

Authority ใช้ในเรืองการตัดสินใจ และจริงๆ มันคือแก่นลึกๆ ของศาสตร์นี้ เพราะทุกอย่างเริ่มต้นที่การตัดสินใจที่ใช่ค่ะ
..........................................................................................................


ส่วนนี้เป็นการอ่านจาก HD Chart ของคุณ บอกข้อมูลดัดงนี้ เราไฮท์ไลต์ส่วนที่มันเด้งออกมาชัดๆ นะคะ

1. คุณเป็นคนที่มีโฟกัสสูง ซึ่งเป็นทั้งจุดเด่นและจุดบอดให้กับคุณ อยู่ที่คุณจำใช้มันยังไง หรือ อยู่ในคลื่นความถี่ไหนของพลังงานนี้ เพราะลึกๆ แล้ว พลังงานนี้สร้างความกดดันและความเครียดให้กับคุณค่อนข้างมาก อยู่เฉยๆ นิ่งๆ ไม่ค่อยได้ ยากที่จะโฟกัสหรือมีสมาธิจดจ่อ เป็นประมาณนี้ไหมคะ?

2. พลังงานที่ว่านี้ คือ Gate 9 ค่ะ ที่อยู่ในส่วน Conscious SUN ที่เป็นตัวตนคุณกว่า 70% เป็นสิ่งที่โลกต้องการให้คุณเผยตัวตนด้านนี้ออกมา คือ ความสามารถในการโฟกัส จดจ่อ มีสมาธิ + Design MARS คือ Core Wound ที่ทำงานกับคุณตั้งแต่ตอนที่อยู่ในท้องแม่ 9 เดือน ในขณะเดียวกันมันก็คือ Greatest Gift ของคุณ ถ้าอธิบายลงลึกไปอีก ปมที่ทำงานกับคุณอยู่ คือ ปมเกี่ยวกับ “การปฏิเสธ” บางเหตุกาณ์ที่คุณต้องเผชิญและไม่พอใจกับมันนัก ปฏิกิริยาโต้ตอบของคุณจะออกมาในรูปแบบ ของความก้าวร้าว โมโหรุนแรง แต่ลึกๆ แล้ว คุณเก็บซ่อนความเปราะบางเอาไว้  และสิ่งที่มักกระตุ้นให้คุณเกิดอาการแบบนี้ คือ เรื่องของ Self-Worth, ความรับผิดชอบ ประเด็นมักจะเกี่ยวในเรื่องงานที่คุณทำเป็นหลัก เพราะคุณค่อนข้างให้คุณค่ากับงานที่คุณทำ เข้าข่ายแนวๆ นี้ไหมคะ?

ถ้ามีส่วน อย่างน้อยตอนนี้คุณก็ได้ Aware ในจุดนี้แล้ว เป็นจุดเริ่มต้นของการเยียวยาตัวเองแล้วค่ะ สิ่งที่เราจะแนะนำ คือ การที่คุณต้องให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย ให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย ทำอะไรง่ายๆ เข้าไว้ ไม่ต้องซับซ้อนมากก็ได้ มันอาจจะยากหน่อย เพราะยังไม่ชิน แต่ไม่ต้องบีบคั้น เฆี่ยนตีตัวเองนะคะ ค่อยๆ สังเกตตัวเอง และค่อยๆ aware ค่อยๆ ปรับค่ะ เพราะคนที่มีพลังงานแบบที่คุณมี (Gate 9) มีแนนวโน้มสูงที่จะเป็นโรค ADHD ค่ะ  

3. ความสามารถในการโฟกัสของคุณ จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณฝึกฝนค่ะ เพราะพลังงานที่ Grounding ของคุณ คือ Gate 16 ใน Conscious Earth  และถ้าคุณทำได้ มันก็ support ชีวิตคุณได้ดีมากๆ เพราะคุณมี Channel 50-27 & Channel 48-16 ที่จะเสริมให้คุณสามารถฝึกฝนทักษะเฉพาะตัวที่คุณมีได้ตลอดรอดฝั่งจนกลายเป็น Master/Expert ในสิ่งที่คุณมี passion ได้ไม่ยาก (แต่ลึกๆ แล้ว คุณก็อาจจะกำลังสับสนกับ passion ของตัวเอง ว่ามันคืออะไรกันแน่ อยู่หรือเปล่าคะ? หรือบางทีคุณก็ไม่แน่ใจ เพราะมันทำงานกับคุณแบบ Unconscious)  

4. สิ่งที่ทำให้คุณเครียดหลักๆ มี 2 อย่าง คือ การที่คุณขาดโฟกัส ที่อธิบายไปแล้ว และอีกอย่าง คือ คำถามต่างๆ ในหัวของคุณเองความคิดที่คุณสร้างขึ้นมา มันอาจจะมีเยอะจนคุณไม่รู้จะโฟกัสอะไรก่อนหลัง เป็นไหมคะ? แสดงหาความ perfect?

5. การแสดงออกหรือสื่อสารกับภายนอกของคุณ เน้นที่นำเสนอความเชี่ยวชาญส่วนตัวเป็นหลัก หรือเปล่าคะ? จริงๆ คุณค่อนข้างมีทักษะในการขาย หรือการโน้มน้าวอยู่แล้ว และถ้าเพิ่มด้วยการเล่าเรื่องให้ด้วยการกระตุ้นให้คนมีอารมณ์คล้อยตามผ่านไอเดียเริ่มต้นที่คุณนำมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน มันจะ work มากๆ เลยค่ะ พูดในลักษณะจุดประเด็น ในคนสนใจ มากกว่าให้ข้อมูลแบบที่เป็น fact ค่ะ

6. รักตัวเองมากๆ นะคะ เห็นคุณค่าในตัวเองเสมอ กากรมองโลกของคุณสำคัญกับคุณมาก ความงามมีอยู่ในทุกสิ่ง แม้แต่ความเศร้าโศก เพราะศิลปินส่วนมากใช้อารมณ์นี้ในการสร้างสรรค์ผลงานอันเลื่องชื่อ จนกลายเป็นความโศกเศร้าที่งดงาม พลังงานนี้เป็น Rule และวินัยสำหรับคุณค่ะ รวมถึงการยอมรับในข้อจำกัดต่างๆ โดยเฉพาะในการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ มันย่อมขลุกขลักในตอนเริ่ม แต่อย่าเพิ่งถอดใจ ตราบใดที่คุณรู้สึกดีและใช้

ึ7. Follow your Strategy & Authority ค่ะ แล้วทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง และเป็นในแบบที่มันจะเป็น Trust the process....

คร่าวๆ ประมาณนี้นะคะ หวังว่าจะได้ประโยชน์นะคะ ^^