แบ๊ดดดดดดดดดดบอยยยยยยยยยยยยยยย....
อ๊ะ ไม่ใช่ครับ เห็นชื่อหนังตรงกับชื่อวงดนตรีที่กำลังฮิตกัน ก็อดใจไม่อยู่ ขอว๊ากสักนิด..
เข้าเรื่องของเรากันเลยครับกับ Paper Planes เธอดั่งเครื่องบินกระดาษ.. บางๆ ก็ขาด พ้ออออออ (เล่นเองตบเอง)
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อครูในโรงเรียนประถมสอนให้เด็กๆ พับเครื่องบินกระดาษ
โดยบอกว่า หากใครทำได้ระยะเกิน 25 เมตร จะได้สิทธิไปแข่งคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศออสเตรเลีย ไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป ซึ่งนั่นถือเป็นการจุดประกาย ดีแลน เวบเบอร์ (เอ็ด โอเซ็นบูลด์) เด็กชายวัย 12 ปี ให้ทำความฝันนี้ให้จงได้
ดีแลน อาศัยอยู่กับ แจ๊ค (แซม เวิร์ธธิงตัน) ผู้เป็นพ่อที่ยังยึดติดอยู่กับโลกของอดีต ..
แจ็คไม่ได้ไปทำงานมาสักพักแล้วหลังจากที่เสียภรรยาไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
เขายังคงจมอยู่ในห้วงความทุกข์ และนั่นก็ทำให้ลูกชาย เป็นห่วงพ่ออย่างมาก
การแข่งขันคัดเลือกตัวแทนไปแข่งชิงแชมป์โลกนั้น ดีแลน ต้องพบกับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง เจสัน (นิโคลาส บาโคโปลอส-คุ๊ก)
รวมทั้ง คิมิ มูโระยามะ สาวน้อยที่เป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกคนล่าสุดจากญี่ปุ่นที่ได้รับเชิญมาในงานนี้
ผลการคัดตัวปรากฏว่า ดีแลน ได้ไปญี่ปุ่นสมความตั้งใจ แต่ทว่า ด้วยความไม่พร้อมในหลายๆด้าน
ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญว่า ดีแลน จะได้ไปแข่ง เครื่องบินกระดาษ ชิงแชมป์โลกที่กรุงโตเกียว หรือไม่....
ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีนักแสดงระดับแม่เหล็ก ร่วมแสดงด้วยอย่าง แซม เวิร์ธธิงตัน (จาก Avatar) ในบท แจ๊ค พ่อของดีแลน
ผู้หวังพึ่งพาอะไรไม่ค่อยจะได้ เพราะปมในใจ ที่ต้องสูญเสียภรรยาไปอย่างไม่มีวันกลับ
รวมทั้ง เดวิด เวนแฮม (จาก The Lord of the Rings, Van Helsing, และล่าสุดกับ Elvis)
ในบทพ่อของเจสัน คู่แข่งดีแลน ที่สอนอะไรลูกชายก็ไม่ค่อยจะยอมฟัง .. เรื่องนี้บทคนเป็นพ่อน่าเหนื่อยแทนทั้งนั้น
Paper Planes เป็นหนังฟีลกู๊ด เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีครับ เพราะในเรื่องนั้นมีแง่คิดที่ดีทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก
มิตรภาพระหว่างเพื่อน การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้แพ้และผู้ชนะ เรื่องนี้ขาวสะอาด สดใส ดูได้สบายใจทั้งครอบครัวครับ
ในยุคสมัยนี้ที่เด็กๆทุกคนเล่นแต่เกมมือถือ ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับว่า ปัจจุบันนี้ เด็กๆ ยังมีใครพับเครื่องบินกระดาษ เหมือนตอนผมยังเป็นเด็กอีกบ้างไหม (พูดมากไปเดี๋ยวรู้หมดว่าแก่ 555)
ถึงจะนานมาแล้ว แต่ผมก็จำความรู้สึกที่เครื่องบินกระดาษตอนลอยขึ้นไปบนฟ้าได้..
มันทำให้เรายิ้ม ภูมิใจ มีความสุข แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้เราลืมทุกอย่างได้จริง ..
ขอทิ้งท้ายด้วยบทสัมภาษณ์ของ ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ หรือ ฮาย นักร้องนำวง Paper Planes เลยล่ะกันนะครับ
ชื่อวงตรงกับชื่อหนัง และสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ ก็ตรงกับบทสรุปทั้งหมดของหนังเรื่องนี้พอดี ..
“สำหรับเด็กๆ ที่มีฝัน ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ตั้งใจทำให้เต็มที่ สิ่งสำคัญคือเราต้องสนุก และมีความสุขในสิ่งที่เราทำก็พอ”
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Paper Planes (2014) เครื่องบินกระดาษ ทรงอย่างแบดดด!!! ==
แบ๊ดดดดดดดดดดบอยยยยยยยยยยยยยยย....
อ๊ะ ไม่ใช่ครับ เห็นชื่อหนังตรงกับชื่อวงดนตรีที่กำลังฮิตกัน ก็อดใจไม่อยู่ ขอว๊ากสักนิด..
เข้าเรื่องของเรากันเลยครับกับ Paper Planes เธอดั่งเครื่องบินกระดาษ.. บางๆ ก็ขาด พ้ออออออ (เล่นเองตบเอง)
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อครูในโรงเรียนประถมสอนให้เด็กๆ พับเครื่องบินกระดาษ
โดยบอกว่า หากใครทำได้ระยะเกิน 25 เมตร จะได้สิทธิไปแข่งคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของประเทศออสเตรเลีย ไปแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศญี่ปุ่นต่อไป ซึ่งนั่นถือเป็นการจุดประกาย ดีแลน เวบเบอร์ (เอ็ด โอเซ็นบูลด์) เด็กชายวัย 12 ปี ให้ทำความฝันนี้ให้จงได้
ดีแลน อาศัยอยู่กับ แจ๊ค (แซม เวิร์ธธิงตัน) ผู้เป็นพ่อที่ยังยึดติดอยู่กับโลกของอดีต ..
แจ็คไม่ได้ไปทำงานมาสักพักแล้วหลังจากที่เสียภรรยาไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
เขายังคงจมอยู่ในห้วงความทุกข์ และนั่นก็ทำให้ลูกชาย เป็นห่วงพ่ออย่างมาก
การแข่งขันคัดเลือกตัวแทนไปแข่งชิงแชมป์โลกนั้น ดีแลน ต้องพบกับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง เจสัน (นิโคลาส บาโคโปลอส-คุ๊ก)
รวมทั้ง คิมิ มูโระยามะ สาวน้อยที่เป็นเจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกคนล่าสุดจากญี่ปุ่นที่ได้รับเชิญมาในงานนี้
ผลการคัดตัวปรากฏว่า ดีแลน ได้ไปญี่ปุ่นสมความตั้งใจ แต่ทว่า ด้วยความไม่พร้อมในหลายๆด้าน
ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญว่า ดีแลน จะได้ไปแข่ง เครื่องบินกระดาษ ชิงแชมป์โลกที่กรุงโตเกียว หรือไม่....
ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีนักแสดงระดับแม่เหล็ก ร่วมแสดงด้วยอย่าง แซม เวิร์ธธิงตัน (จาก Avatar) ในบท แจ๊ค พ่อของดีแลน
ผู้หวังพึ่งพาอะไรไม่ค่อยจะได้ เพราะปมในใจ ที่ต้องสูญเสียภรรยาไปอย่างไม่มีวันกลับ
รวมทั้ง เดวิด เวนแฮม (จาก The Lord of the Rings, Van Helsing, และล่าสุดกับ Elvis)
ในบทพ่อของเจสัน คู่แข่งดีแลน ที่สอนอะไรลูกชายก็ไม่ค่อยจะยอมฟัง .. เรื่องนี้บทคนเป็นพ่อน่าเหนื่อยแทนทั้งนั้น
Paper Planes เป็นหนังฟีลกู๊ด เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีครับ เพราะในเรื่องนั้นมีแง่คิดที่ดีทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูก
มิตรภาพระหว่างเพื่อน การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้แพ้และผู้ชนะ เรื่องนี้ขาวสะอาด สดใส ดูได้สบายใจทั้งครอบครัวครับ
ในยุคสมัยนี้ที่เด็กๆทุกคนเล่นแต่เกมมือถือ ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับว่า ปัจจุบันนี้ เด็กๆ ยังมีใครพับเครื่องบินกระดาษ เหมือนตอนผมยังเป็นเด็กอีกบ้างไหม (พูดมากไปเดี๋ยวรู้หมดว่าแก่ 555)
ถึงจะนานมาแล้ว แต่ผมก็จำความรู้สึกที่เครื่องบินกระดาษตอนลอยขึ้นไปบนฟ้าได้..
มันทำให้เรายิ้ม ภูมิใจ มีความสุข แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่มันก็ทำให้เราลืมทุกอย่างได้จริง ..
ขอทิ้งท้ายด้วยบทสัมภาษณ์ของ ฮาย-ธันวา เกตุสุวรรณ หรือ ฮาย นักร้องนำวง Paper Planes เลยล่ะกันนะครับ
ชื่อวงตรงกับชื่อหนัง และสิ่งที่เขาเคยพูดไว้ ก็ตรงกับบทสรุปทั้งหมดของหนังเรื่องนี้พอดี ..
“สำหรับเด็กๆ ที่มีฝัน ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ตั้งใจทำให้เต็มที่ สิ่งสำคัญคือเราต้องสนุก และมีความสุขในสิ่งที่เราทำก็พอ”
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===