[Spoil+Review] The Mandalorian S3 Ep.3 >>การเริ่มต้นใหม่

[ความเดิม] ศาสนานักสู้แห่งแมนดาลอร์ มีแบ่งสาขาย่อย ออกเป็นหลายลัทธิ, เคร่งมากบ้างน้อยบ้าง 
บางพวกหัวโบราณจัด ดึงดันจะอนุรักษ์จารีตอันคร่ำครึไว้ อย่างไม่สนโลก, เช่นลัทธิของนายดิน จาร์ริน พระเอกประจำซีรีส์
'โบ-คาทาน ครีซ' อดีตเจ้าหญิงหัวก้าวหน้าของ ราชวงศ์ผู้ปกครองดาวหลัก, แห่งสำนักแมนดาลอร์ทั้งหลาย
เคยขึ้นครองราชย์ และพยายามนำบรรดาไพร่ฟ้า ฟันฝ่าการคุกคามของอำนาจจักรวรรดิ
แต่สุดท้ายศาสนาที่อยู่ในสภาพ แตกแยกอย่างมาก (ณ เวลาดังกล่าว) ก็แตกพ่าย

โกรกู/ลูกเลี้ยงของดิน จาร์ริน คือตัวอย่างอันมีค่ายิ่ง สำหรับงานวิจัยโคลนนิ่งจักรพรรดิผู้ดับดิ้น
แต่นักวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโครงการ อย่าง 'ด็อคเตอร์เพนน์ เพอร์ชิ่ง' 
เหลือคุณธรรมประจำใจมากเกินกว่า จะคิดฆ่าเด็กเพื่อบรรลุ เป้าหมายสูงสุดของอิมพีเรียล
จึงทรยศ มอฟฟ์ กีเดี้ยน ผู้นำกลุ่มซากทัพจักรวรรดิ, ที่เจ้าตัวสังกัด ณ ขณะนั้น

หลังโกรกู กลับสู่อ้อมอกคุณพ่อ (เพราะเพอร์ชิ่งส่วนนึง) 
จารินผู้เคยทำผิดกฎ ห้ามถอดหมวกโชว์หน้าสดใส่ คนนอกลัทธิ
ถามหาลู่ทางมุ่งหน้าสู่ เหมืองแร่เบสคาร์เก่า ที่ดาวหลักแมนดาลอร์, จากโบคาทาน
ทว่าสิ่งมีชีวิตอันตรายในซากนคร ทำให้เขาเกือบต้อง ไปเฝ้าพระอินทร์ถาวร, ตอนหาเหมืองเอง
เคราะห์ดีที่โบคาทาน อยู่แค่คาเลอวาล่า (ดาวเคราะห์ใกล้เคียง) จึงบึ่งยานอวกาศ ดิ่งมาช่วยทัน

แม้ร่างกายยังอ่อนแรง แต่ผู้ศรัทธาอย่างดิน จาริน, ไม่ยอมผ่อนศรัทธา
เขายังยืนกรานขอเดินหน้าสู่เหมือง เพื่ออาบน้ำแห่งชีวิต ล้างความผิดบาปให้ได้
โบคาทาน แลกเปลี่ยนบทสนทนา กับนายดิน
แล้วผู้หญิงหัวก้าวหน้า ที่มองว่าศรัทธาหรือพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ ของวัฒนธรรมตัวเอง, เป็นเรื่องไม่สำคัญมาตลอด
ก็เริ่มตระหนักว่า ที่จริงแนวคิดพวกนั้น, มันคือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจผู้คน
คุณโบจึงอาสาช่วยนำทางให้, แล้วเมื่อดินลงอาบน้ำในบ่อยักษ์ จู่ๆ ก็ดูเหมือนมีบางสิ่ง ฉุดเขาจมดิ่ง
โบรีบร้อนดำลงไป ช่วยกู้ชีพพระเอก, และมองเห็นมิธโธซอร์ (Mythosaur) สัตว์ร้ายในตำนานของแมนดาลอร์
ทั้งที่เรื่องการคงอยู่ของมัน น่าจะเป็นเพียงนิทานหลอกเด็ก ของศาสนาหล่อน
-
-
-
[สปอยล์เนื้อหา] ดินไม่เห็นมิธโธซอร์ ฉะนั้นโบอาจตาฝาด (หรือไม่ก็เจอนิมิต บ่งชี้ลิขิตเบื้องหน้า)
โบเลยงำความเรื่องอสูรในตำนาน แล้วพาพระเอกผู้ฟื้นสภาพแล้ว, ขึ้นยานกลับคาเลอวาล่า
จังหวะพอดี๊พอดีที่กองยานไท (TIE) ของอิมพีเรียล บุกมาโจมตีชำระคดี, ที่โบเคยขโมยสินทรัพย์จากจักรวรรดิ
พวกมันทำลายปราสาท อันเป็นมรดกประจำตระกูลของโบ, แถมจำนวนเหนือกว่าจมหู
หล่อนจึงไม่มีทางเลือกนอกจาก ยอมหนีตามดิน, มุ่งสู่แหล่งกบดานที่คุณผู้ชาย แนะนำ
-
-
เหตุการณ์ตัดฉับ วกไปหาฟากดร.เพอร์ชิ่ง, ผู้แถลงขอบคุณสาธารณรัฐใหม่ ต่อหน้าผู้คนมากมายในหอประชุมใหญ่ ณ โครัสซอง
เนื่องในวาระที่รัฐ มอบโอกาสเริ่มต้นใหม่ แก่เขา
แม้ได้อวดอ้าง สรรพคุณของตัวเองยกใหญ่ ว่าเชี่ยวชาญในศาสตร์โคลนนิ่ง
และเทคโนโลยีดังกล่าว สร้างประโยชน์ด้านการแพทย์ ได้เพียงไร (เช่นใช้ผลิตอวัยวะทดแทน)
แต่เอาเข้าจริงรัฐบาล แค่ให้เพอร์ชิ่งแถลงชื่นชมโครงการฟื้นฟู, ขององค์กรแอมเนสตี้
ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อฟอกสี อดีตกำลังพลของจักรวรรดิ, ให้กลายเป็นพลเมืองดีของ สาธารณรัฐใหม่
การอวยรัฐของเพอร์ชิ่ง ก็แค่ละครลิงที่จัดขึ้น เพื่อสร้างภาพและเรียกเงินบริจาค
เพราะจริงๆ พวกนั้นดันส่ง นักวิทย์คนเก่ง, ไปนั่งโต๊ะทำงานรายวัน บันทึกจดหมายเหตุเรื่อยเปื่อย

เพอร์ชิ่งเก็บงำ ความไม่พอใจในรัฐบาลปัจจุบันไว้ โดยมิดชิด
แต่ผู้หญิงที่เคยเป็นตัวประกอบ บนยานของกีเดี้ยน
และเป็นรุ่นพี่แห่งแอมเนสตี้ ที่ผลประเมินดีเด่น, อย่างอีเลีย เคน (Elia Kane) ดูจะสัมผัสได้
เธอเริ่มตีสนิทเพอร์ชิ่ง แล้วหว่านล้อมว่า
คุณควรสานงานวิจัย (ด้านโคลน) ต่อ เพื่อประโยชน์ของรัฐ
ให้สาสมกับบุญคุณขององค์กร, และความสามารถของคุณ ยิ่งกว่าที่เป็นอยู่นี่
เพียงแต่ถ้าจะทำ ต้องยอมฉีกกฎนิดหน่อย
คือออกไปหาเครื่องมืออุปกรณ์ นอกอาณาเขตที่ถูกกำหนดไว้ ด้วยกัน

เพอร์ชิ่งทำตาม ยอมเสี่ยงมุ่งหน้าสู่ ลานทิ้งขยะใหญ่ 
อันเป็นสถานที่จอดยาน อิมพีเรียลสตาร์เดสทรอยเยอร์ สภาพยังดี
ที่คนในรัฐใหม่ ไม่คิดใช้ประโยชน์, เพราะนโยบายบริหารจัดการ อันไร้ประสิทธิภาพ
ก่อนจะถูกหมาต๋าของรัฐ ล้อมจับเพียงผู้เดียว

ปรากฏว่าอีเลียเรียกตำรวจ มาจับเพอร์ชิ่งเอง, เธอจัดฉากวางกับดักเขา
เพราะอยากให้ด็อคเตอร์เข้ารับ "การปรับทัศนคติ" ด้วยเครื่องมายด์เฟลเยอร์
ซึ่งถึงคนของรัฐ พยายามเลี่ยงบาลี, พูดถึงมันให้ดูดีแค่ไหน 
แต่จริงๆ ก็เป็นอุปกรณ์สุดโหดสำหรับ ใช้ล้างสมองนั่นแหละ
-
-
ฝั่งดินกะโบ เยือนถิ่นของพวกวอช (เผ่าแมนดาลอร์ของพระเอก) โดยสวัสดิภาพ
เพราะดินเก็บตัวอย่างน้ำแห่งชีวิต มาเป็นเครื่องพิสูจน์, ว่าล้างบาปเรียบร้อยจ้า
คุณโบเองสุดท้ายก็ถูก ต้อนรับเข้าปาร์ตี้ อย่างมีความราบรื่นเหนือคาด
เนื่องจากเหตุการณ์พาไป จนหลังได้อาบน้ำพร้อมจาริน และผ่านมาถึงจุดนี้, เธอก็ยังมิได้ถอดหมวกสักรอบ
-
-
-
[วิจารณ์] สะกิดใจตั้งกะช่วงเปิดตอน จู่ๆ กองยานรบอิมพีเรียลดันโผล่ แบบไร้วี่แว่วล่วงหน้าละ
และพอจบศึกแล้ว The Mandalorian ก็หันไป เดินเรื่องช้าไร้ความรีบร้อนบ้าง, ตามคาด
ฉากขับยานบินบู๊ที่งานดี ระดับเดียวกับภาพยนตร์, ถูกใส่มาเพื่อเร้าอารมณ์คนดู ดึงดูดความสนใจก่อน
เพราะกลัวว่าผู้ชมสาย ต้องการแรงกระทบทางอารมณ์ ผ่านทางเนตรเป็นหลัก, จะไม่ยอมอดทน เสพสื่อจนจบ

การที่ละครเรื่องนี้ แวะไปเล่าเรื่องผ่านสายตาตัวละคร ผู้ไม่ใช่นักสู้ระดับนี้, ไม่เคยมีมาก่อน
เพราะเพอร์ชิ่งเขาคือนักวิทย์, แม้ในช่วงของเค้ามีแทรกฉาก ผจญภัยประมาณนึง (เมื่อแอบขึ้นรถไฟออกนอกเมือง)
ทว่าโดยรวม การเล่าเรื่องส่วนของด็อคเตอร์, ค่อนข้างสโลไลฟ์จัด
อารมณ์โดดจาก โทนปกติของซีรีส์, แง่ดีคือเปลี่ยนบรรยากาศ (แต่คงมีคนไม่ชอบ พอสมควรแหละมั้ง)

ระหว่างรับชม ผมมองว่าเนื้อหาฟากเพอร์ชิ่ง ควรเล่ากระชับกว่านี้
แต่พอดูจนจบพาร์ท เจอจุดหักมุมเข้า
ก็เข้าใจว่าทำไมซีรีส์ ต้องอุทิศเวลาแก่ด็อคเตอร์, จนทั้งตอนยาวตั้ง 50 กว่านาที

เหตุผลคือจริงๆ นี่มันเป็นการ "ตีแผ่สาธารณรัฐใหม่" ไม่ใช่เล่นประเด็นโคลนจักรพรรดิเพิ่ม
มุมมืด (โครงการฟื้นฟู, วิธีปรับทัศนคติ) ของรัฐบาล ในยุคนั้นของจักรวาลสตาร์วอร์ส
ไม่เคยถูกถ่ายทอดสู่ สายตาประชาชน (คนดู) ชัดเจนอะไรเบอร์นี้มาก่อน
ผู้สร้างจึงต้องทำให้แน่ใจ, ว่าผู้รับสารจะรับรู้และเข้าใจมัน ได้อย่างถูกต้องระดับหนึ่ง
(ตอนนี้ถึงใส่สารแฝงมาหลายอย่าง เช่น ฉากสัมภาษณ์ตรวจเช็คสภาพจิต, บิสกิตเหลือง หรือยอดภูที่ห้ามแตะ)
-
-
The Mandalorian ซีซั่น 3 ยังค่อนข้างเดินเรื่องไว 
เปิดตอนใหม่มีความคืบหน้า ด้านเนื้อหาตลอด เหมือนเก่า
เผลอแป๊บเดียว การเดินทางเพื่อไถ่บาปของดิน ก็ยุติ 
และการปั้นคุณโบให้หวนคืน ตำแหน่งผู้นำของ ผองชนแมนดาลอร์อย่างสวยงาม, ก็เริ่มต้น (น่าจะใช่นะ)

การเจียดเวลาออกอากาศ ไปแฉสาธารณรัฐใหม่, คิดว่าเพื่อปูทาง บางสิ่งเพิ่มเติม
แสดงให้เห็นว่าผู้แต่ง (จอน ฟาฟโร) คงมองอนาคตของซีรีส์ ไว้ไกลกว่าเมื่อก่อนจริง (ช่วงแรกนี่เดิมที คงตั้งใจให้จบซีซั่น 2)
สอดคล้องกับที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ซีซั่น 4 จะเป็น "บทกลางของเรื่องราว ซึ่งใหญ่กว่ามาก"

การขยายสเกล จะถือเป็นเรื่องดี, จนเหมาะควรแก่การที่ ผู้สร้างยอม
สละเวลาของละครเรือธง (ประจำจักรวาลสตาร์วอร์สปัจจุบัน) 
ไปเล่าชีวิตของตัวละครสมทบอีก, เป็นระยะหรือเปล่านั้น (เพราะคิดว่าไม่หมดแค่นี้แน่)
น่าจะต้องให้ระยะทาง (หรือระยะเวลา) ช่วยพิสูจน์
[ปล.1] ต้องขอแซวว่า ฉากมืดๆ ของตอนนี้คือมื๊ดมืด, ยิ่งกว่าตอนที่แล้ว
เอาเงินไปเทใส่ ช่วงขับยานรบไล่กวดกัน กลางวันแสกๆ ซะหมดสิท่า
-
-
[ปล.2] สภาพสาธารณรัฐใหม่แย่กว่า ที่เคยจินตนาการ, ชักไม่ตงิดใจละว่า 
ทำไมเลอาต้องทำถึงขั้น จัดตั้งกองทัพเอง เพื่อรับมือปฐมภาคี, ในหนัง Episode VII-IX
-
-
[ปล.3] ไหนๆ เล่นเรื่องรัฐใหม่ทั้งที น่าจะขยับเวที ไปที่ฮอสเนียนไพรม์ (Hosnian Prime)
ซึ่งโดนปฐมภาคี บึ้มทิ้งทั้งดาว (ใน Force Awakens) ได้แล้วนะ
หรือว่าการวนเวียนอยู่แถวโครัสซอง ที่เป็นโลเกชั่นประจำของแฟรนไชส์
มันประหยัดงบทำซีรีส์ดี เลยไม่ยอมหนีไปไหน ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่