สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป รีวิวนี้ขอพาทุกคนไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง เป็น1ในสถานที่ไฮไลท์ของลำปางที่ต้องแวะเมื่อใครก็ตามที่ได้ไปเยือนเมืองรถม้าแห่งนี้ น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ซึ่งจะเป็นธารน้ำแร่จากธรรมชาติ ที่ถือว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย สภาพป่าเขียวขจี มีโขดหินน้อยใหญ่ เต็มพื้นที่บ่อน้ำพุ่ร้อน มีลานน้ำพุขนาดใหญ่ กว้างขวาง เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไปที่นี่นอกจากการไปชื่นชมธรรมชาติ ยังมีกิจกรรม อาบน้ำแร่ แช่สปาเท้า ต้มไข่ในน้ำแร่ และที่นี่ยังมีน้ำตกแจ้ซ้อนอยู่ด้านในอุทยานอีกด้วย
เวลาที่เหมาะสมที่จะไปชมบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน คือช่วงเวลา 06.00 น. ไม่เกิน 08.00 น. จะได้ชมไอน้ำพุร้อน กับแสงอาทิตย์สาดส่องสีส้มยามเช้า ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ
สำหรับอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อยู่ห่างจากอำเภอเมืองลำปาง ประมาณ 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ถ้าใครไม่อยากเดินทางไกล แถวๆแจ้ซ้อนมีที่พักหลายแห่งที่อยู่ใกล้ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน หรือใครจะไปกางเต็นท์ที่อุทยานหรือ
จองบ้านพักของอุทยานที่นี่ก็มีห้องพักให้บริการ สามารถจองได้ที่เว็บไซต์อุทยานแห่งชาติ
ทริปนี้เราเดินทางไปในช่วงต้นเดือนมกราคม เราเลือกไปเวลาเช้ามืดเลย โดยอุทยานจะเปิดให้เข้าประมาณ 05.00 น.
ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็กคนละ 20 บาท รถมอเตอร์ไซค์คันละ 20 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท
พอมาถึงยังจุดที่เป็นลานน้ำพุร้อน ต้องบอกเลยว่าว้าวมาก เป็นลานหินกว้างๆที่มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่หลายแอ่ง กับไอของน้ำพุร้อนที่โพยพุ่ง
อบอวนไปด้วยความอบอุ่น และความสวยงามของลานน้ำพุ
ให้ดูภาพกันหลายๆมุมเลยครับ ไปเช้าๆนอกจากจะได้รูปสวย อีกหนึ่งข้อดีก็คือคนน้อย ถ่ายรูปสบายเลยครับ
เดินถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อยครับ ระหว่างรอแสงอาทิตย์ยามเช้า
บอกเลยว่าถ่ายรูปมุมไหนก็สวยครับที่นี่ ว้าวจริง สุด Unseen
จุดนี้เป็นจุดที่เป็นแอ่งน้ำพุขนาดใหญ่ เราจะเห็นเงาสะท้อนของต้นไม้และโขดหิน สวยงามมากๆ
1 ในไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดในการมาเยือนบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนนั่นก็คือ การต้มไข่ในน้ำแร่ร้อนๆ วันที่เราไปเห็นคนหิ้วไข่มาเป็นตะกร้า
น่าจะเป็น 100 ฟอง เยอะมากๆ
ส่วนเราจะพลาดได้ไง เลยเดินไปที่จุดร้านค้าสวัสดิการของอุทยาน จัดไข่มาลองต้มกันสักหน่อย ที่ร้านค้าก็จะมีทั้งไข่ไก่ ไข่นกกระทา มีหลายขนาดให้เลือกซื้อกันเลยครับ ซอสก็มีขายนะ
เอาไข่ไปแช่ในน้ำแร่กันเลย ตรงบริเวณบ่อแช่ ก็จะมีป้ายเขียนไว้ ว่าแช่ไข่กี่นาที จะได้ไข่ออกมาแบบไหน สุกมากสุกน้อย หรืออยากได้แบบไข่ลวก
ก็จับเวลากันได้ตามสะดวกเลยครับ
ระหว่างที่รอไข่สุก แสงอาทิตย์ก็เริ่มสาดส่อง
เราว่าเป็นช่วงที่ลานน้ำพุร้อนสวยที่สุด ด้วยความที่ไอของน้ำพุร้อน กระทบกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ทำให้บ่อน้ำพุร้อนสวยงามยิ่งขึ้น และดูมีเสน่ห์
เดินถ่ายรูปกันเพลินมากครับ บอกเลยว่าสวยทุกมุม
นอกจากการไปชมธรรมชาติของน้ำพุร้อน การไปต้มไข่ในน้ำแร่ ที่นี่ก็ยังมีห้องสำหรับ อาบน้ำแร่ แช่น้ำแร่ ที่เป็นห้องส่วนตัวอีกด้วย ใครที่อยากจะลองแช่น้ำแร่อุ่นก็สามารถไปแช่ ผ่อนคลายกันได้
จบแล้วครับ สำหรับรีวิว ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง พูดได้เต็มปากเลยว่าเป็น 1 ในบ่อน้ำพุร้อนที่สวยเป็นลำดับต้นๆในประเทศไทย ประทับใจมากสำหรับการไปเที่ยวลำปางครั้งนี้ เป็นอีก1สถานที่ของจังหวัดลำปางที่บอกเลยว่าต้องห้ามพลาด สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวจังหวัดลำปาง หรือจังหวัดใกล้เคียง ก็ลองแวะไปชมธรรมชาติ แช่น้ำแร่ กินไข่ต้มในน้ำแร่ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
[CR] น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน Unseen ลำปาง
สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิป รีวิวนี้ขอพาทุกคนไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง เป็น1ในสถานที่ไฮไลท์ของลำปางที่ต้องแวะเมื่อใครก็ตามที่ได้ไปเยือนเมืองรถม้าแห่งนี้ น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ซึ่งจะเป็นธารน้ำแร่จากธรรมชาติ ที่ถือว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย สภาพป่าเขียวขจี มีโขดหินน้อยใหญ่ เต็มพื้นที่บ่อน้ำพุ่ร้อน มีลานน้ำพุขนาดใหญ่ กว้างขวาง เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไปที่นี่นอกจากการไปชื่นชมธรรมชาติ ยังมีกิจกรรม อาบน้ำแร่ แช่สปาเท้า ต้มไข่ในน้ำแร่ และที่นี่ยังมีน้ำตกแจ้ซ้อนอยู่ด้านในอุทยานอีกด้วย
เวลาที่เหมาะสมที่จะไปชมบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน คือช่วงเวลา 06.00 น. ไม่เกิน 08.00 น. จะได้ชมไอน้ำพุร้อน กับแสงอาทิตย์สาดส่องสีส้มยามเช้า ถ่ายรูปออกมาสวยมากๆ
สำหรับอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อยู่ห่างจากอำเภอเมืองลำปาง ประมาณ 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ถ้าใครไม่อยากเดินทางไกล แถวๆแจ้ซ้อนมีที่พักหลายแห่งที่อยู่ใกล้ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน หรือใครจะไปกางเต็นท์ที่อุทยานหรือ
จองบ้านพักของอุทยานที่นี่ก็มีห้องพักให้บริการ สามารถจองได้ที่เว็บไซต์อุทยานแห่งชาติ
ทริปนี้เราเดินทางไปในช่วงต้นเดือนมกราคม เราเลือกไปเวลาเช้ามืดเลย โดยอุทยานจะเปิดให้เข้าประมาณ 05.00 น.
ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่คนละ 40 บาท เด็กคนละ 20 บาท รถมอเตอร์ไซค์คันละ 20 บาท รถยนต์คันละ 30 บาท
พอมาถึงยังจุดที่เป็นลานน้ำพุร้อน ต้องบอกเลยว่าว้าวมาก เป็นลานหินกว้างๆที่มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่หลายแอ่ง กับไอของน้ำพุร้อนที่โพยพุ่ง
อบอวนไปด้วยความอบอุ่น และความสวยงามของลานน้ำพุ
ให้ดูภาพกันหลายๆมุมเลยครับ ไปเช้าๆนอกจากจะได้รูปสวย อีกหนึ่งข้อดีก็คือคนน้อย ถ่ายรูปสบายเลยครับ
เดินถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อยครับ ระหว่างรอแสงอาทิตย์ยามเช้า
บอกเลยว่าถ่ายรูปมุมไหนก็สวยครับที่นี่ ว้าวจริง สุด Unseen
จุดนี้เป็นจุดที่เป็นแอ่งน้ำพุขนาดใหญ่ เราจะเห็นเงาสะท้อนของต้นไม้และโขดหิน สวยงามมากๆ
1 ในไฮไลท์ที่ต้องห้ามพลาดในการมาเยือนบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อนนั่นก็คือ การต้มไข่ในน้ำแร่ร้อนๆ วันที่เราไปเห็นคนหิ้วไข่มาเป็นตะกร้า
น่าจะเป็น 100 ฟอง เยอะมากๆ
ส่วนเราจะพลาดได้ไง เลยเดินไปที่จุดร้านค้าสวัสดิการของอุทยาน จัดไข่มาลองต้มกันสักหน่อย ที่ร้านค้าก็จะมีทั้งไข่ไก่ ไข่นกกระทา มีหลายขนาดให้เลือกซื้อกันเลยครับ ซอสก็มีขายนะ
เอาไข่ไปแช่ในน้ำแร่กันเลย ตรงบริเวณบ่อแช่ ก็จะมีป้ายเขียนไว้ ว่าแช่ไข่กี่นาที จะได้ไข่ออกมาแบบไหน สุกมากสุกน้อย หรืออยากได้แบบไข่ลวก
ก็จับเวลากันได้ตามสะดวกเลยครับ
ระหว่างที่รอไข่สุก แสงอาทิตย์ก็เริ่มสาดส่อง
เราว่าเป็นช่วงที่ลานน้ำพุร้อนสวยที่สุด ด้วยความที่ไอของน้ำพุร้อน กระทบกับแสงสีส้มของพระอาทิตย์ ทำให้บ่อน้ำพุร้อนสวยงามยิ่งขึ้น และดูมีเสน่ห์
เดินถ่ายรูปกันเพลินมากครับ บอกเลยว่าสวยทุกมุม
นอกจากการไปชมธรรมชาติของน้ำพุร้อน การไปต้มไข่ในน้ำแร่ ที่นี่ก็ยังมีห้องสำหรับ อาบน้ำแร่ แช่น้ำแร่ ที่เป็นห้องส่วนตัวอีกด้วย ใครที่อยากจะลองแช่น้ำแร่อุ่นก็สามารถไปแช่ ผ่อนคลายกันได้
จบแล้วครับ สำหรับรีวิว ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง พูดได้เต็มปากเลยว่าเป็น 1 ในบ่อน้ำพุร้อนที่สวยเป็นลำดับต้นๆในประเทศไทย ประทับใจมากสำหรับการไปเที่ยวลำปางครั้งนี้ เป็นอีก1สถานที่ของจังหวัดลำปางที่บอกเลยว่าต้องห้ามพลาด สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวจังหวัดลำปาง หรือจังหวัดใกล้เคียง ก็ลองแวะไปชมธรรมชาติ แช่น้ำแร่ กินไข่ต้มในน้ำแร่ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้