เมื่อวานไปพักค้างคืนที่โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา
ตัวโรงแรมต้องเดินทะลุชุมชนเข้าไป และไม่มีที่จอด
ต้องไปจอดที่วัดใกล้ ๆ นั้น ดูในเน็ตเห็นว่าคิดค่าจอดค้างคืน 50 บาท

เราไปถึงตอน 22 น. ตรงทางเข้าลานจอดมีไม้กั้น ซึ่งพอเราไปจอดรอซักพัก ไม้ยกก็เปิดให้เข้า
(เราไม่เห็นคนในบูธ แต่คิดว่าคงมีจนท.ที่ถือรีโมทแถวนั้น)
เราก็วนหาที่จอด จนเจอจุดนึงเข้าซองได้ มีเส้นแบ่งเรียบร้อย (เลนข้าง ๆ เต็มหมดแล้ว) 

จอดเสร็จก็เดินหาเจ้าหน้าที่เพื่อถามว่าต้องเอารถออกตอนไหน จ่ายเงินยังไง
แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ในลานจอด เลยเดินเข้าไปในวัด (ห่างไป 20-30 เมตร) ก็เจอผช.ซึ่งคาดว่าคงเป็นคนเฝ้าลานจอด 
และน่าจะเป็นคนกดเปิดไม้กั้นนั่นแหละ (เพราะไม่มีคนอื่นแล้ว)
ก็เลยถามเรื่องที่จอด เค้าก็บอกว่าจะจ่ายเลยก็ได้ หรือจ่ายตอนออกก็ได้
เลยคุยกับเพื่อนว่าจ่ายตอนออกแล้วกัน เพราะไม่มีใบเสร็จ เดี๋ยวเปลี่ยนคนก็ต้องจ่ายคนเวรเช้าอีก

เช้านี้ 8 โมงจะมาเอารถออก ก็เจอรถคันนึงจอดปิดท้ายคันเรา 
ทั้งแถบนั้นรถเราเป็นคันเดียวเลยที่โดนปิดท้าย ท้ายรถคันที่มาปิดมีป้าย Lala move

เราเดินไปถามจนท.คนนึง วัยคง 60++ (คนละคนกับเมื่อคืน)
เค้ากลับต่อว่าเราว่าไปจอดที่ที่มีเจ้าของประจำ เค้าก็โกรธนะสิ
แล้วอยู่ ๆ เข้ามาได้ยังไง ไม่ถามก่อน เพราะตัวเค้านั่นแหละเป็นคนเฝ้า 
เราบอกว่าเมื่อคืนไม่เห็นคุณลุง เจอแต่อีกคน แล้วก็มีคนเปิดไม้กั้นให้ด้วย ไม่ได้บุกรุกเข้ามา
แล้วที่จอดก็ไม่มีป้ายใด ๆ ให้เห็นว่าเป็นที่จอดของใคร 

สรุปว่า พวกที่เฝ้าลานจอดบอกว่า ไม่มีเบอร์โทรคนนั้น ไม่รู้จะตามได้มั้ย ต้องรอจนเค้าจะออกมาเอง
เราต้องรีบไปธุระ (ติดตรวจคนไข้) เลยนั่ง taxi ออกมา 
ตอนสาย ๆ เพื่อนเรา (ซึ่งพักโรงแรมเดียวกัน จอดที่ลานวัดเหมือนกัน แต่ออกมาทีหลัง) โทรมาว่า
รถคันที่มาปิดท้ายไม่อยู่แล้ว แต่เราก็ไม่สามารถไปเอารถได้ตอนนี้ ต้องรอถึง 5 โมงเย็น 

อยากทราบว่าถ้าเย็นนี้เราไปเอารถ แล้วเจอรถเค้ากลับมาแปะอยู่แบบเดิม จะจัดการยังไงได้บ้าง
สามารถจ้างรถมายกรถเค้าได้มั้ย จะผิดกฏหมายมั้ยคะ เพราะดูท่าทางจนท.วัดที่ดูแลลานจอดคงพึ่งไม่ได้